ซีไรต์ปีนี้เป็นปีเรื่องสั้น สำหรับเล่มที่ได้รางวัลไม่หนาเลย อ่านจบได้เร็วมาก แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จบแล้ว ประมาณสองสามเรื่องที่จำได้ว่าเคยอ่านมาก่อน โดยรวมๆก็ไม่มีอะไรมาก ภาษาการบรรยายอ่านเข้าใจได้ง่าย ส่วนตัวยกให้อยู่ในระดับเดียวกับไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต แต่มันยังติดปัญหาอยู่บ้างน่ะนะ
อย่างแรกประเด็นที่เล่นค่อนข้างจะคับแคบ
ทั้งเล่มคุมโทนได้ดี สื่อคืออำนาจเบ็ดเสร็จ การกดขี่อย่างไม่เป็นธรรม การแบ่งแยกเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ การใช้ความเชื่ออย่างงมงายเพื่อปกครอง โลกในด้านลบ หุ่นยนต์ปกครองมนุษย์ คนตาดำรังแกคนตาขาว สิงโตกับลูกแกะ มันค่อนข้างที่จะซ้ำซากจำเจเกินไป เลยพลอยทำให้เข้าไม่ถึงอารมณ์ของคนที่โดนรังแก หรือคนที่มีอำนาจก็เลว เล๊ว เลว เป็นส่วนใหญ่กลายเป็นตัวร้ายดาษดื่นไปหน่อย คนดีที่มีอำนาจก็ไม่อาจเปลี่ยนมติของคนส่วนใหญ่ที่ไม่ดีได้ อืม แต่อ่านไปก็ไม่ได้รู้สึกคับแค้นใจอะไร
เข้าใจว่าสารที่สื่อคือต้องการให้คนลุกขึ้นสู้ หลุดจากกรอบที่ขังไว้ แต่ผลลัพธ์คือ ตายไปสองสามเรื่อง จบแบบไม่มีทางออกไปสองสามเรื่อง ที่เหลือปลายเปิดหรือวนเข้าอีหรอบเดิม อีกส่วนที่สำคัญตรงนี้คือเราอ่านแล้วไม่มีอารมณ์ร่วม เสียใจ เสียดายหรือสมน้ำหน้าการตายของตัวละครเลย ส่วนปลายเปิดหรือไม่มีทางไปต่อก็ไม่ได้มีความคับข้องใจ เศร้า สิ้นหวัง เลยสักนิด
ในทางสร้างสรรค์ผู้เขียนก็คงอยากให้ความมีมนุษยธรรมมันช่วยลดช่องว่างระหว่างกัน ลดการแบ่งแยกไปบ้าง ทำให้มีตัวละครแบบสิงโตนอกคอกที่หันมาเป็นเพื่อนกับแกะ แต่เราว่าเล่มนี้มันขาดตัวแกะที่ขายเพื่อนไปให้สิงโตกิน หรือคนไพ่ดำที่ขายคนไพ่ดำด้วยกัน ทำให้มันดูแบ่งขาวดำโจ่งแจ้งไปหน่อย แล้วหลายส่วนที่น่าจะเรียกได้ว่าหักมุมพออ่านไปมันกลับไม่ว้าวแฮะ อย่างเรื่องหุ่นยนต์ กุหลาบเปลี่ยนสี เฉลยแล้วกลายเป็นว่า อ๋อ เหรอ แล้วไง
ประเด็นที่น่าสนใจอย่างไพ่มาจากไหน รถไฟเที่ยงคืนคืออะไร ไปไหนแน่ เทพเจ้าของท่านวัลเป็นไงกัน ทำไมคนเชื่ออย่างงมงาย กลับแตะแค่ผิวๆทั้งๆที่ลงลึกจะทำให้เกิดความสมจริง สมเหตุสมผลได้มากขึ้น ตัวละครมัวแต่ไปคุยกันเรื่องปรัชญา สิทธิ ความสมควรในการฆ่า อย่าง ในโลกที่ทุกคนอยากเป็นคนดี ก็แอบมีน้ำเสียงประชดประชันกลายๆ คล้ายๆได้ยินเสียงคำ ผกา ในนั้น
อย่างที่สองคือในฐานะที่เป็นซีไรต์ของไทยในอาเซียน
ตัวเรื่องกับบรรยากาศมันไม่ได้มีความเป็นไทยเลย ก็ไม่ได้ต้องการความเป็นไทยที่ดูเป็นไปได้ยากอย่างความสุขของกะทินะ ต่อให้ใช้ชื่อตัวละครฝรั่งทั้งหมดแต่มันก็สามารถทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์อยู่ในการเล่าเรื่องได้ เปิดเรื่องแรกมา คำแรกที่โผล่ขึ้นมาคือ Winter is coming. White Walker อยู่ไหนเนี่ย อารมณ์เหมือนอ่านนิยายแฟนตาซี เลยไม่ค่อยรู้สึกถึงความสัมพันธ์กับเราเท่าไหร่
จะว่าขาดสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ต้องการตั้งคำถามกับสังคม ขบถเล็กๆมันก็ทำได้ แต่มันก็ไม่ได้ย่ำแย่ขนาดที่เอาไปขยายความในเรื่องสั้น มันสะท้อนสังคมในบางส่วน แต่ก็ยังไม่ไกลพอจะไปถึงวิธีแก้ปัญหาที่แท้จริง ยั่งยืนได้ อย่างในสิงโตนอกคอก เมื่อโดนกดขี่ สู้กลับ บาดเจ็บล้มตาย มันคุ้มไหมที่จะสู้ จะถูกฆ่า จะพาพี่น้องไปตายอย่างในเรื่องอื่นหรือเปล่า หรือจะอยู่แบบขี้ขลาดอย่างท่านวัล ถ้าคนตาขาวได้ขึ้นมาเป็นใหญ่บ้างจะล้างแค้นคนตาดำไหม หรือพอคนตาขาวกับตาดำรบกันจะมีคนตาเขียวมาฉวยผลประโยชน์หรือเปล่า