Bloggang.com : weblog for you and your gang
นอร์เวย์ทริป 2011 Day 3 Östersund
Day 3 Östersund
งัวเงียตื่นมาเข้าห้องน้ำ สว่างแล้วคิดว่าเจ็ดโมง ที่ไหนได้เป็นตีสี่ ทะเลสาบด้านหน้ามีหมอกขึ้นเป็นไอ อยากคว้ากล้องมาถ่ายรูป แต่ความหนาวทำให้รีบกลับเข้าไปนอนต่อ เสียดายเนอะ แต่คิดว่ายังอีกหลายวัน วันนี้ขอนอนก่อน อิอิ ตื่นอีกทีหกโมงกว่าๆ แต่เหมือนเก้าโมง นอนไม่หลับแล้วล่ะ รีบไปอาบน้ำ ช่วงนี้คนยังไม่เยอะ เสร็จแล้วมากินอาหารเช้า ต่อด้วยผัดข้าว เตรียมไว้กินกลางวันด้วย พร้อมไข่เค็มทำเองก่อนมาเที่ยว อร่อยมากเลย ดองไว้สองอาทิตย์ยังไม่ได้ชิมก็เอามาด้วยเลย
ก่อนออกจากบ้านต้องเก็บกวาดทำความสะอาดที่พักตามธรรมเนียมของการพักบังกาโลที่สแกนดิเนเวียด้วย จะไม่ทำเองก็ได้แต่ต้องจ่ายค่าทำความสะอาดเพิ่ม (แฮ่ๆ ทำเองดีกว่าประหยัดตัง) กว่าจะเก็บกวาดก็สรุปออกจากบ้านเก้าโมงกว่า เริ่มต้นมืดครึ้ม แล้วฝนตกในที่สุด ตกๆหยุดๆมาตลอดทาง เราหยุดพักกินข้าวกันริมทะเลสาปเล็ก กินมันหนาวๆแบบนี้แหละ ข้าวผัดไข่ใส่น้ำปลาง่ายๆกับน้ำพริกไข่เค็ม หมูแดดเดียวยังกินได้อยู่ แค่นี้เราก็อร่อยแล้ว สองพ่อลูกกินขนมปังกัน กินเสร็จเดินเล่นซักพักก็ออกเดินทางต่อ
หลังจากอิ่ม เราก็เลยหลับๆตื่นๆมาตลอดทาง เพราะวิวเป็นต้นสนซะส่วนใหญ่ ถึงแม้จะมีทะเลสาปเป็นระยะ แต่เราก็ง่วงเกินกว่าจะชมวิว จนอีกชั่วโมงจะถึงเราจึงได้วิวสวยงาม สองข้างทางเป็นต้นลูปินัสสีม่วงสลับสีชมพู วิวเริ่มเป็นทะเลสาบ ริมน้ำมีบ้านเรียงราย เลี้ยงวัว ปลูกหญ้า จนมาถึงทะเลสาบใหญ่ เริ่มเห็นเมืองหนาแน่น มาจนถึงที่พัก เป็นแคมปิ้งบนเนินลาดลงไปทะเลสาบ เราได้ทำเลดีมองเห็นทะเลสาบด้วย
วิวหน้าบ้านพัก
ภายในบ้านพัก
สองพ่อลูกไปเล่น เราจัดแจงทำอาหารง่ายๆ สปาเกตตี้ ส่วนเรากินข้าวผัดมื้อกลางวันกับน้ำพริก สลัดผัก และผลไม้ อิ่มแล้วเอาชามไปล้าง แล้วไปเดินเล่นรอบแคมปิ้งกับมชล แต่ลมแรง หนาวมาก ก็เลยเดินได้รอบเดียว ทีจริงเราไหวนะ แต่ มชล คงไม่อยากเดิน สรุปจบลงไปอีก 1 วัน พรุ่งนี้เดินทางขึ้นเหนือต่อจุดที่ 3 จะได้พักกันสองคืน
วันนี้หมดค่าอาหารไปอีก ๒๒๖ โครน(อันนี้บันทีกไว้ดูงบประมาณ :))
Create Date : 03 ธันวาคม 2555
Last Update : 3 ธันวาคม 2555 16:12:13 น.
Counter : 1677 Pageviews.
1 comment
Share
Tweet
นอร์เวย์ทริป 2011 Day 1-2
Day 1-2 ( 10 July)
การเดินทางท่องเที่ยวของเราเริ่มอีกครั้ง ปีนี้(2011)เราหวนกลับไปนอร์เวย์กันอีกเป็นรอบที่สามแล้ว สองครั้งแรกเราเที่ยวไกลสุดแค่กลางประทศ แต่หนนี้ เราวางแผนขึ้นไปทางเหนือของนอร์เวย์ ครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางที่นานที่สุดของเราอีกทริปหนึ่งเลยทีเดียว เราออกเดินทางวันที่ 10 กรกภาคม กลับถึงบ้านวันที่ 11 สิงหาคม 1 เดือนพอดี
วันแรกเราออกเดินทาง 10 โมงเช้า อากาศดี ไม่มีฝน อุณหภูมิประมาณ ๒๐ องศากำลังสบายเลย ขับรถจากเนเธอร์แลนด์มาเรื่อยๆ ใช้เวลา 6 ชั่วโมง ประมาณสี่โมงเย็นเราก็มาถึงท่าเรือเมือง Kiel ที่เยอรมันนี มาถึงเราไม่ต้องต่อคิวแล้ว ขึ้นเรือได้เลย (เดิมต้องมาเอารถมาต่อคิวรอขึ้นเรือ) เราได้ห้องพักชั้น 9 มีหน้าต่างด้วย ห้องเล็ก แต่ก็สะดวก เก็บของเสร็จก็ออกไปสำรวจเรือกัน บนเรือก็จะมีร้านค้าให้ได้ช๊อป มีจุดให้เด็กได้เล่นรวมถึงกิจกรรมต่างๆ ก่อนที่จะออกไปเดินเล่นชมบรรยากาศด้านนอกเรือ เราต้องไปรบจองอาหารเย็นที่หมายมั่นไว้ว่าจะต้องกินให้ได้ นั่นคือบุฟเฟ่ต์ที่จะมีอาหารมากมายโดยเฉพาะซีฟู้ดที่เราหมายตาไว้ว่าจะต้องกินให้ได้ แม้จะแพงแต่ถือว่าคุ้ม เที่ยวบ้าง กินบ้าง ประหยัดบ้างตามโอกาส (ราคาคนละ 84 ยูโร )จุดอาหารไม่ใหญ่ แต่อาหารดี มีแซลมอลรมควัน ทั้งแบบมีเครื่องเทศและไม่มีเครื่องเทศ อร่อยมาก มีแฮริงด้วย นอกจากนั้นก็มีโซนกุ้ง กั้ง และก้ามปู หอยแมลงภู่ ชอบที่สุด มีอุปกรณ์ให้กินด้วย เรากินซะเต็มที่ให้สมกับจ่ายแพง ต่อด้วยของหวาน ทีรามิสุ ไอติม เค๊กอิ่มแล้วออกไปเดินสำรวจด้านนอก สามทุ่มกว่าเราก็เข้านอนเพราะปวดหัวนิดๆ
ตื่นมาเจ็ดโมง หลังจากตื่นและจัดการธุระและแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว มองออกไปนอกหน้าต่างเรือเริ่มเห็นแผ่นดิน และเกาะแก่ง แสดงว่าเรือเริ่มเข้าใกล้ฝั่งแล้ว อีกทั้งยังได้ยินเสียงประกาศเวลาอาหารเช้า นั่นหมายถึงอีกสองชั่วโมงเราก็จะถึงจุดหมายที่เมือง Gothenburg สวีเดน บาร์ทตื่นแล้วแต่ยังไม่ได้แต่งตัว ส่วน มชล แต่งตัวเสร็จแล้ว เราจึงนอนเล่นคุยกันไปพลาง เพราะกะว่าจะไปกินอาหารเช้ากันเมือลงจากเรือ
ฉันรำพึงกับบาร์ทว่า งวดนี้ดีนะไม่มีคลื่นเลย(ปกติเป็นคนกลัวความเวิ้งว้างของทะเลมาก) พูดไม่ทันขาดคำ ฉันก็รู้สึกเตียงมันสั่นๆ แบบอืดๆ อยู่สองครั้ง แต่ก็ไม่คิดอะไร จากนั้นก็รู้สึกว่าเรือมันเหมือนกำลังกลับลำ ฉันบอกกับบาร์ทว่า สงสัยใกล้จะถึงแล้วมั้ง เรือคงเริ่มกลับลำเช่นตอนขาออกจากท่าเรือ แล้วในที่สุดเรือก็หยุดกึก
อีกอึดใจต่อมา ก็ได้ยินเสียงกัปตันประกาศเป็นภาษาสวีเดน แน่นอนเราไม่เข้าใจ ต่อด้วยภาษาเยอรมันซึ่งบาร์ทเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เราเริ่มเอะใจเช่นกัน เพราะรู้เป็นบางคำ และในที่สุดเราก็เข้าใจเมื่อกัปตันเอ่ยเป็นภาษาอังกฤษ ใจความว่า ขณะนี้เรือได้ครูดกับพื้น โปรดรอฟังต่อไปว่าจำเป็นต้องลงเรือฉุกเฉินหรือไม่ ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านอย่าเพิ่งตกใจ ให้อยู่ในความสงบ เราจะประกาศความคืบหน้าต่อไป
ณ วินาทีที่เข้าใจเสียงประกาศของกัปตัน ใจฉันหายวูบ แล้วเราต่างก็พูดกันว่า ถึงว่าทำไมเตียงมันสั่นๆ ฉันคิดแค่ว่าอาจเป็นคลื่น แต่บาร์ทบอกว่า เค้ารู้สึกแปลกๆ แต่ก็แค่แวบเดียว ไม่ได้คิดว่าจะมีเหตุการณ์อะไร ต่อจากนั้นภาพเหตุการณ์โศกนาฏกกรรมจากภาพยนต์ไททานิค รวมทั้งเหตุการณ์เรือจมในข่าวต่างๆ ก็กลับเข้าสู่สมองฉันอย่างรวดเร็ว ไม่คิดว่าจะได้เจอเหตุการณ์เช่นนี้เข้ากับตัวเอง ฉันคิดว่าภาพเหล่านั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆคน รวมทั้งฉันด้วยเช่นกัน ความรู้สึกตื่นเต้น สงสารจนถึงเอาใจช่วยให้ผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย แต่คงไม่อาจเข้าใจถึงความรู้สึกของคนเหล่านั้นได้อย่างจริงจัง จนกระทั่งเมื่อเกือบได้เจอกับเหตุการณ์เช่นนั้นเข้ากับตัวเอง
แม้ว่าจะไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น แต่ ณ วินาทีที่ได้ยินเสียงกัปตันประกาศว่าเกิดเหตการณ์นี้ขึ้น อาการใจวูบก็เกิดขึ้นโดยฉับพลัน แต่ก็เป็นช่วงเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นที่รู้สึก และพบว่าตัวเองไม่ได้ตกใจจนเสียขวัญ อาจเป็นเพราะเราระลึกอยู่เสมอว่า ไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้อยู่ พรุ่งนี้อาจไปโดยไม่ทันรู้ตัว แต่สิ่งที่ห่วงคือลูก เห็นเค้าเริ่มหน้าเสีย และกลัวว่าเรือจะจม เราจึงต้องคอยปลอบลูกว่า อย่าตกใจจนลนลาน คอยฟังว่ากัปตันจะให้ทำอะไรต่อไป แล้วจะปลอดภัย ที่ตลกคือ ฉันมีอาการห่วงกล้อง ห่วงรถ ด้วยนะ ฮ่าๆ กล้องนั่นฉันเพิ่งถอยตัวใหม่ออกมาเมื่อต้นปีนี้ ส่วนรถก็เพิ่งจะเปลี่ยนอีแก่ที่ใช้มาเป็นสิบปีเป็นคันใหม่ต้นปีอีกเช่นกันก็อดที่จะเสียดายไม่ได้นี่นา เฮ้อ ยังมีกิเลสได้อีกเนาะคนเรา
จากนั้นเราก็ออกจากห้องเพื่อไปดูเหตุการณ์และเตรียมพร้อมหากต้องลงเรือฉุกเฉิน ฉันถามบาร์ทว่า ถ้าเรือมันติดแบบนี้ แล้วเค้าจะทำอย่างไรต่อไป บาร์ทบอกว่า ถ้ามันไม่ร้ายแรง ก็คงจะรอเรือมาลากไป ส่วนเราจะต้องลงเรือฉุกเฉินหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรือเสียหายมากหรือเปล่า ซักพักเริ่มรู้สึกว่าเรือเริ่มเคลื่อนที่ได้และวิ่งต่อไป รวมทั้งเห็นเรือลำเล็กสีส้มวิ่งเลียบตีคู่มากับเรือของเรา บาร์ทบอกว่าเป็นเรือตรวจเช็คความตื้นลึกของน้ำทะเล รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์บินวนเวียนอยู่ด้านบน (อาจเป็นเพราะแบบนี้มั้ง ฉันจึงยังไม่ขวัญเสียในฉับพลัน)จากนั้นก็เห็นเรือลำเล็กสีเหลืองขนาดใหญ่กว่าสีส้มนิดหน่อยแล่นอยู่ใกล้ๆเรือเรา บาร์ทบอกว่านั่นคือเรือที่จะมาลากเรือใหญ่ บาร์ทคงรู้ว่าเราจะถามว่าเรือลำแค่นี้นะ ก็เลยตอบก่อนที่เราจะถาม เห็นลำเล็กแต่มันมีกำลังมากนะ
จากนั้นก็ได้ยินเสียงกัปตันประกาศอีกครั้งว่า ได้ตรวจสอบแล้วไม่พบรอยรั่วแต่อย่างใด และเราจะพาท่านผู้โดยสารแล่นเข้าสู่จุดหมายต่อไป ขออภัยในความล่าช้า แน่นอนความโล่งใจของเรารวมทั้งผู้โดยสารอื่นหายไปทันที แต่แน่นอนสำหรับกัปตันรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง คงไม่จบแค่นี้ คงต้องมีการสืบหาสาเหตุกันต่อไป ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นความผิดพลาดของใคร และใครควรเป็นผู้รับผิดชอบและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก คราวนี้โชคดีที่ไม่เกิดเรื่องร้ายแรง ไม่เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
นั่นเป็นเรื่องตื่นเต้นที่พูดกันมาตลอดการเดินทางในวันนั้นของเรา และฉันกลับพบว่าตัวเองควบคุมอารมณ์ได้ดีว่าที่คิด ไม่ตกใจจนขวัญเสีย จนไม่สามารถทำอะไรได้เลย อาจเป็นเพราะฉันไม่ได้วิตกว่าจะต้องมีชีวิตยืนยาว อาจเป็นเพราะฉันปลง หรืออาจเป็นเพราะฉันคิดว่า ใช้ชีวิตแบบพอเพียง อย่ายึดติด ยึดมั่น เท่านั้นก็คงพอแล้วหากต้องจากไปในวันหนึ่งวันใด
ปล.ไม่ได้อ่านดวงมานานมาก แต่จู่ๆก่อนวันเดินทาง ก็แวะเข้าไปอ่านดวงในคู่สร้างคู่สม บอกว่าจะได้เดินทางท่องเที่ยวมีความสุข จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ตื่นเต้นตกใจ แต่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรง เออ เที่ยวนี้แม่นแฮะ กำลังจะเดินทางพอดี แต่ไอ้ตื่นเต้นนี่ไม่คิดว่าจะได้เจอตั้งแต่วันแรก แต่เมื่อมันผ่านไปแล้ว ก็ดีใจจะได้เที่ยวแบบสบายใจ อิอิ
เมื่อเรือเริ่มใกล้เทียบท่า ผู้คนก้ทะยอยลงไปขึ้นรถของตัวเอง เตรียมตัวเที่ยวกันต่อไป ออกจากเรื่อแล้ว เราแวะแม๊คโดนัลกินอาหารเช้า ที่สำคัญหาทีกดตังกันด้วยเพราะที่นี่ไม่ได้ใช้เงินยูโร เรียบร้อยแล้วเราก็มุ่งหน้าไปยังที่พักจุดแรกที่เมือง Malung เป็นแคมป์ปิงติดทะเลสาบเล็กๆ ระหว่างทางก็ผ่านทะเลสาบเป็นระยะๆ สวยดี แต่ไม่มีที่จอดพักเท่าไหร่ เลยไม่มีรูปมากมาย ถนนที่นี่ดี แต่จำกัดความเร็วถึง 90 กม/ชม.มีกล้องทุกๆ 5 กม.
วิวระหว่างทาง
แวะดื่มกาแฟข้างทาง
เรามาถึงประมาณห้าโมงเย็น แวะซุปเปอร์ก่อนเข้าที่พัก ที่นี่เค้าเปิดถึง ๓ ทุ่มดีจังมีของเยอะดี เราเห็นมีร้านอาหารไทยด้วย แต่ไม่ได้ใช้บริการ ที่ซุปเปอร์มีหมูอบสำเร็จรูปขายด้วยดีจัง ซื้อหมูอบและผักสลัดสำหรับมื้อเย็น
ที่พักเป็นแบบบังกาโลเล็ก มีครัว มีห้องนอนสองห้อง เตียงสองชั้น ห้องเราหันหน้าออกทะเลสาบ สบายมาก แต่ห้องน้ำต้องไปอาบรวม แต่ก็สะอาดดี สำหรับบังกาโลที่สแกนดิเนเวียนี้ จะมีทั้งแบบมีห้องน้ำส่วนตัว(ราคาจะแพงกว่า)หรือจะเลือกแบบประหยัดคือไม่มีห้องน้ำ ต้องไปใช้ส่วนรวม ในทริปนี้เราเลือกทั้งสองแบบสลับกันไป วันนี้เราพักที่นี่แค่คืนเดียวก็เลือกแบบประหยัด ที่ไหนที่พักหลายวันหน่อยก็ขอแบบมีห้องน้ำสบายบ้างไรบ้างแล้วกัน
เก็บของเข้าที่พัก พร้อมหุงข้าว เสร็จแล้วก็มานั่งกินกันริมทะเลสาบหน้าบ้าน อิ่มแล้วก็เดินถ่ายรูปเล่น ทีนี่สงบมากๆอยากอยู่หลายวันเลย แต่ของจริงคือพรุ่งนี้ต้องเดินทางต่อไปยังจุดที่สอง
รถบ้านคันใหญ่มาก
บรรยากาศที่พัก
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 3 ธันวาคม 2555 16:08:39 น.
Counter : 1561 Pageviews.
3 comment
Share
Tweet
jeab&michelle
Location :
ตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์ Netherlands
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
บล๊อคของคนชอบเที่ยวค่ะ พาลูกตระเวนเที่ยวไปทั่ว จนเดี๋ยวนี้ลูกก็ติดเที่ยวด้วยแล้วเหมือนกัน
หนังสือเราเองค่ะ
เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ
Promoot jouw pagina ook
Friends' bloggang
หนุ่มเฮสเซ่น
มพถ
ปลาทอง9
คุณนิด
จันทร์สวย
แม่โลมา
พี่ตา
หมอแม๊กซ์
พี่แพท
แม่เจ้าเม
mommy45
narellan
แอมอร
ปณาลี
คุณปุ๋มปิ๋ม
New Comments
Group Blog
เรื่องของ Michelle
ท่องเที่ยว
ชีวิตในต่างแดน
คุยเรื่องคนดัชต์
จิปาถะ
เที่ยวฟินแลนด์
เที่ยวเยอรมัน
เที่ยวเมืองไทย
ดอกไม้ ต้นไม้
เที่ยวเนเธอร์แลนด์
เที่ยวนอร์เวย์
All Blogs
นอร์เวย์ทริป 2011 Day 3 Östersund
นอร์เวย์ทริป 2011 Day 1-2
Friends' blogs
luckyladies
คนชุมแสง
พี่รี่+ต๊อก
C&C_BamBoo
บ้านดินริมสวน
เที่ยวไปสองไพเบี้ย
Webmaster - BlogGang
[Add jeab&michelle's blog to your web]
Links
เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.