|
แชร์ประสบการณ์คลอด เจ็บ 2 ต่อ
ในที่สุดก็หาเวลาว่างมาเขียนแชร์ประสบการณ์คลอดได้เสียที ผ่านมาแล้ว 1 เดือน เหนื่อยมาก เหนื่อยจริงๆ ชีวิตที่นอนยาวได้แค่ 2 ชม. ไม่นึกว่าจะผ่านมาจนครบเดือนได้ ก่อนอื่นย้อนเวลาไปเมื่อเดือนที่แล้วก่อน ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
26 เม.ย.57
วันนี้มีนัดตรวจครรภ์ตามปกติ ครบ 40w ก่อนไปเราก็เตรียมใจเต็มที่ว่าคราวนี้ต้องนัดผ่าแล้วล่ะ เพราะมัน 40w 3d แล้ว แต่ปรากฏว่าหมอยังไม่นัดผ่าให้ หมอบอกให้รออีก 1 อาทิตย์ ตอนนั้นบอกเลยเศร้ามาก เราก็อึดอัดท้องเต็มที่ อยากเจอหน้าลูกแล้วด้วย แม่ๆในคลับก็คลอดกันจะหมดแล้ว และด้วยความกังวลว่ากลัวรกจะเสื่อม กลัวน้องจะมีอันตราย หมอเลยส่งไปทำ NST ที่ตีกพระศรีฯ ชั้น 6 ผลการตรวจก็คือน้องยังแข็งแรง ปกติดี เราจึงต้องกลับบ้านอย่างเซ็งๆ ตอนนั้นในหัวคิดแล้วล่ะว่า ไปผ่าเอกชนซะเลยดีมั๊ย กำลังหาข้อมูลเลยว่าท้องแก่ขนาดนี้เค้าจะรับผ่ามั๊ย

27 เม.ย. 57
กำลังเตรียมตัวเข้านอน สามีนวดฝ่าเท้าให้เหมือนทุกวัน แต่วันนี้เราบอกว่าขอนวดแรงๆหน่อย บีบๆเค้นๆไปเลย เพราะเราเริ่มรู้สึกว่ากำลังเครียด ถ้าได้นวดฝ่าเท้าจะรู้สึกสบาย นอนหลับสนิท ปกติเราจะไม่ให้สามีนวดแรงเพราะกลัวเรื่องคลอดก่อนกำหนด แต่ครั้งนี้คงไม่ต้องกลัวแล้วล่ะ พอนวดเสร็จก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่าเจอมูกเลือดติดทิชชู่มานิดหน่อย เป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ จะบอกว่าทันทีที่เห็นมูกเลือด หัวใจพองโตเลย รีบวิ่งไปบอกสามีว่าให้เตรียมเก็บของไป รพ. มีมูกเลือดออกแล้ว สามีก็ตื่นเต้น ทำอะไรไม่ถูก ทั้งๆที่ของก็เตรียมไว้หมดแล้วตั้งแต่ 36w แต่คุณเธอก็ถามอยู่นั่นเอาอะไรไปมั่ง หยิบอันไหนมั่ง ทำยังไงมั่ง
พอเตรียมของเสร็จ เราก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ใช่น้ำเดิน ยังไม่ต้องรีบไปก็ได้มั้ง ไปตอนนี้สามีก็อยู่เฝ้าไม่ได้ แล้วเราก็ต้องไปนอนห้องรอคลอดคนเดียว เกืดว้าเหว่ขึ้นมาซะงั้น สรุปคือตัดสินใจไปตอนเช้ากัน คืนนี้นอนดูอาการไปก่อนว่าจะมีน้ำเดินมั๊ย เราก็เตรียมนอนเอาแรงเต็มที่ แต่ปรากฏว่าไม่ได้นอนเลยเพราะเริ่มปวดท้องถี่ๆ และมีอาการท้องเสียด้วย ถ่ายจนหมดใส้หมดพุง กว่าจะได้นอนก็ตีสาม พอตีสี่ก็ตื่นเตรียมอาบน้ำ แต่งตัว กะว่าให้ไปถึง รพ. สัก 6 โมงเช้า ไม่อยากเจอรถติดช่วงเช้าวันจันทร์
28 เม.ย. 57
มาถึง รพ. 6 โมงกว่าๆ ติดต่อที่แผนกฉุกเฉิน แล้วเค้าก็เข็นไปห้องคลอดพิเศษที่ตึกพระศรี ฯ ชั้น 8 (ที่นี่มีแยกห้องคลอดพิเศษกับห้องคลอดสามัญ) พยาบาลหน้าห้องรอคลอดซักถามอาการ แล้วก็รับเข้าไปห้องรอคลอด ก่อนจะเข้าห้องรอคลอด พยาบาลถามเราว่า คุณหมอที่ฝากครรภ์จะมาทำคลอดให้มั๊ย เราก็สตั้นไป 5 วิ แล้วตอบไปว่าไม่ทราบเหมือนกันค่ะ พยาบาลเลยถามว่าได้คุยกับคุณหมอมั๊ยว่าจะให้คุณหมอมาทำคลอด เราก็ดันตอบไปว่าไม่ได้คุย (ก็ไม่ได้คุยจริงๆ) เค้าเลยบอกว่างั้นเป็นแพทย์เวรทำคลอดนะ เราก็มึนๆอึนๆเลยตอบไปว่าค่ะ (ตรงนี้เพิ่งมารู้ทีหลังตอนพักฟื้นที่ห้องพิเศษ พยาบาลบอกว่า ส่วนใหญ่คนที่ท้องแรกจะไม่รู้กันว่าต้องคุยกับคุณหมอไว้ว่าให้คุณหมอมาทำคลอดให้ พอจะมาคลอดก็ให้ห้องคลอดโทรแจ้งคุณหมอได้เลย) ครั้งแรกที่เราฝากครรภ์เราก็แจ้งไปแล้วว่าเราจะฝากพิเศษ แต่เราไม่เห็นคุณหมอทำเครื่องหมายอะไรไว้ แล้วเราก็ไม่ได้ถามด้วย ตอนแรกนึกว่าห้องคลอดจะโทรแจ้งคุณหมอให้เอง ถ้าคุณหมอมาได้ก็ให้คุณหมอทำคลอด ถ้ามาไม่ได้ก็ให้แพทย์เวรทำคลอด อะไรแบบนี้
ประมาณ 8 โมง แพทย์เวรเข้ามาตรวจปากมดลูก ตอนแรกเราก็นึกว่าตรวจเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เตรียมใจเจ็บไว้ระดับนึง แต่พระเจ้าช่วย หมอไม่ได้แค่ตรวจปากมดลูก หมอกระตุ้นปากมดลูกด้วย เจ็บมาก เจ็บที่สุด เจ็บแบบไม่รู้จะบรรยายยังไง เราร้องยังกะหมูถูกเชือดอะ เกร็งไปทั้งตัว พยาบาลก็ดุว่าอย่าเกร็ง อย่ายกก้นหนี อย่าหุบขา คือจะบอกว่าเราพยายามทำตามที่พยาบาลบอกแล้ว แต่เวลาคนเราเจ็บร่างกายมันก็มี reflect กลับไปแบบนั้นเอง กว่าจะเสร็จเราแทบอยากนอนตายตรงนั้นเลย สรุปว่าที่มีมูกเมื่อคืนจนถึงเวลานี้ปากมดลูกเปิด 1 เซนต์ และมดลูกเริ่มบาง หมอเลยสั่งแอดมิทเพราะเห็นว่าอายุครรภ์ต้องคลอดได้แล้ว (คาดว่าถ้าอายุครรภ์แค่ 37-38 สัปดาห์ ต้องโดนไล่กลับบ้านแน่นอน) ระหว่างนี้ก็ทำเรื่องจองห้องพักและเซนต์เอกสารต่างๆ เสร็จแล้วก็ออกมาเจอสามีหน้าห้องรอคลอด นั่งคุยกันสักพักก็กลับเข้าไปนอนในห้อง ตอนเดินกลับห้องเรารู้สึกมีอะไรอุ่นๆไหลออกมาที่ขา พอไปเข้าห้องน้ำ โห!!! เลือดเยอะมาก กำลังไหลลงขาเลย มีเป็นก้อนเลือดด้วย รีบไปคว้าผ้าอนามัยมาใส่อย่างไว (เลือดออกเพราะโดนกระตุ้นปากมดลูก)
วันนี้ทั้งวันก็นอนรอปากมดลูกเปิดเพิ่ม ดูทีวีมั่ง หลับมั่ง ท้องแข็งเป็นระยะแต่ยังเจ็บไม่มาก ประมาณบ่ายสองโมง หมอเข้ามากระตุ้นปากมดลูกรอบสอง ขนาดเตรียมใจเจ็บแล้วนะ ก็ยังไม่วายร้องเป็นหมูถูกเชือด รอบนี้น้ำตาไหลเป็นทางเลย คิดในใจว่าไม่ไหวแล้ว อยากผ่าอะ ทำไมต้องมาทนเจ็บอะไรแบบนี้ด้วย กระตุ้นเสร็จหมอบอกเปิดแล้ว 2 เซนต์ เรานึกในใจ ห่ะ รอมา 6 ชม. เปิดเพิ่มแค่ 1 เซนต์ สงสัยได้ผ่าแน่นอน
พอกระตุ้นเสร็จ สักพักพยาบาลมาแจ้งว่าให้ไปนอนรอที่ห้องพักจะได้อยู่กับญาติ วันนี้คงยังไม่คลอด เราโคตรดีใจเลย นอนเหงาอยู่คนเดียวตั้งครึ่งวัน เจ็บก็เจ็บ มือถือก็ไม่มีให้ใช้ มันว้าเหว่จริงๆ หมอบอกว่า ถ้าเช้าแล้วยังไม่คลอด พรุ่งนี้จะให้ยาเร่งคลอดทางสายน้ำเกลือ ถ้าเร่งแล้วยังไม่คลอดก็ต้องผ่า
29 เม.ย. 57
ประมาณ 7 โมงเช้า พยาบาลมาแจ้งว่า ให้เตรียมตัวไปห้องรอคลอด ประมาณ 8 โมง พยาบาลห้องรอคลอดจะมารับ เราก็อาบน้ำเตรียมตัว หิวข้าวมากๆ กินขนมปังไป 5 คำกับน้ำเปล่าแก้วนึง (หมอยังไม่ได้สั่งงดน้ำ งดอาหาร) แต่เราก็กินไปไม่เยอะ กินแค่พอให้หายหิว เตรียมใจเรื่องผ่าคลอดอยู่เหมือนกัน
ประมาณ 9 โมง มีอาจารย์หมอมาคุยด้วย คลำท้องสองสามทีแล้วก็บอกว่าคลอดวันนี้แหละ เราถามกลับไปว่า ถ้าคลอดเองไม่ได้ จะผ่าวันนี้เลยมั๊ยคะ หมอก็ไม่ตอบ ตอบแค่ว่า ยังไงก็คลอดวันนี้ เราก็เลยไม่เซ้าซี้ วันนี้ก็วันนี้ สักพักนึงแพทย์เวรคนเดิมมากระตุ้นปากมดลูก เฮ้อ เจ็บอีกแล้ว และยังไม่ชินเสียด้วย แต่ก็เกร็งน้อยกว่าเมื่อวาน สรุปว่าตอนนี้ปากมดลูกเปิดแล้ว 3 เซนต์ (เศร้านะ รอมาทั้งคืน ได้เพิ่มอีกแค่เซนต์เดียว แล้วตอนนี้ก็เริ่มเจ็บมากขึ้นแล้วด้วย)
สรุปก็โดนยาเร่งคลอดทางสายน้ำเกลือไปตามระเบียบ โดนสั่งงดน้ำ งดอาหาร สรุปก็ไม่ได้กินข้าวเช้า พยาบาลจากห้องพักอุตสาห์หิ้วเอามาให้ พอเริ่มให้ยาเร่งคลอดเราก็นอนคิดแล้วว่าถ้าเปิดเพิ่ม ชั่วโมงละ 1 เซนต์ ก็ต้องรออีก 7 ชม ประมาณบ่ายสาม บ่ายสี่ น่าจะได้เห็นหน้าลูก
ประมาณ 10 โมง หมอมาเจาะถุงน้ำคร่ำ เพื่อช่วยเร่งอีกทาง ตอนเจาะก็เจ็บนะ แต่เจ็บน้อยกว่ากระตุ้นปากมดลูก หมอคว้านๆสักพักก็มีน้ำอุ่นๆไหลออกมา ปากมดลูกยังเปิด 3เซนต์เหมือนเดิม
ประมาณเที่ยง หมอมาตรวจปากมดลูก ตอนนี้ก็ยังเปิดแค่ 3 เซนต์เหมือนเดิม แต่มันเจ็บกว่า 3 เซนต์เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว ความทรมานเริ่มคืบเข้ามาใกล้ ตอนนี้ใช้วิธีหายใจยาวๆ ลึกๆ พอช่วยบรรเทาได้ ช่วงเที่ยงครึ่งหมอมาฉีดยาระงับปวดให้ พอตัวยาวิ่งเข้าเส้นเลือด จู่ๆมันก็รู้สึกสบาย ตัวเบาหวิวขึ้นมาเลย ที่นอนทรมานกับอาการมดลูกบีบตัวก็หายเป็นปลิดทิ้ง นอนหลับสบายไปเลย
ตื่นมาประมาณบ่ายครึ่งเพราะเริ่มรู้สึกปวดที่มดลูกบีบตัวอีกแล้ว สรุปคือยาระงับปวดหมดฤทธิ์ แต่คราวนี้เหมือนจะปวดรวดร้าวมากกว่าตอนก่อนหลับ ประมาณบ่ายสองหมอเข้ามาตรวจปากมดลูกอีกครั้ง พอได้ยินหมอบอกว่า 3 เซนต์ เราอยากจะเป็นลมอยู่ตรงนั้น มันปวดมากกว่าเดิม ทำไมมันยัง 3 เซนต์ฟระ!! ก็พยายามอดทนอดกลั้น หายใจยาวๆ ลึกๆเอา รอบนี้มีร้องโอดโอย จนพยาบาลบอกว่าให้เก็บแรงไว้เบ่งลูกมั่งคุณแม่ คือเราก็ไม่ได้อยากร้องหรอกนะ แต่บางทีมันก็ไม่ไหวจริงๆ
ประมาณ 4 โมงเย็น หมอเข้ามาตรวจปากมดลูกอีกรอบ คราวนี้เปิดได้ 5 เซนต์แล้ว ช่วงนี้ทรมานที่สุดล่ะ มดลูกบีบตัวทุก 2-3 นาที นาน 30-40 วินาที แล้วยิ่งรอนานความเจ็บปวดก็ยิ่งเพิ่มขึ้น มันเจ็บตั้งแต่หัวหน่าว ร้าวไปถึงเอว หลัง ต้นขา ความรู้สึกเหมือนมีคนเอาฆ้อนมาทุบกระดูกเราทุกๆ 3 นาที จากที่คิดว่าน่าจะได้เห็นหน้าลูกประมาณเวลานี้ ตอนนี้หมดหวังและอยากผ่าถึงที่สุด ไม่อยากทนแล้ว นอนร้องไห้แล้วอะ ตอนนี้ในห้องเราเต็มไปด้วยอุปกรณ์พร้อมคลอด มีตู้ใส่เด็กมาด้วย ตอนเห็นข้าวของพวกนั้นก็แอบดีใจ มีกำลังใจอดทน แต่กำลังใจไม่มากพอให้ทนความเจ็บปวด ร้องครวญครางอีกเหมือนเดิม พยาบาลเอือมกันหมดแล้ว
ประมาณ 6 โมงเย็น แพทย์เวรคนใหม่มาตรวจปากมดลูก ปรากฏว่ายัง 5 เซนต์เหมือนเดิม พอรู้ว่าปากมดลูกไม่เปิดเพิ่ม เราท้อเลย หมดกำลังใจ คือความเจ็บมันเพิ่มมากขึ้นทุกชั่วโมง แต่ทุกอย่างมันเหมือนเดิมไม่มีอะไรคืบหน้า นอนคิดแต่ว่าผ่าเถอะ บอกหมอว่าอยากผ่าแล้ว ทนไม่ไหวแล้ว หมอก็บอกว่าคลอดลูกมันก็เจ็บอย่างนี้แหละ ถ้าไม่มีข้อบ่งชี้ให้ต้องผ่า หมอก็ผ่าให้ไม่ได้ เราก็ได้แต่โวยวายว่าหมอจะให้รอถึงเมื่อไหร่ ถ้าไม่เปิดถึง 10 เซนต์ ก็ไม่ต้องคลอดใช่มั๊ย ตอนนั้นพูดไปก็ร้องไห้ไป เหมือนคนบ้าเลยล่ะ กดออกเรียกพยาบาลตลอด ขอเจอญาติ พยาบาลไม่อนุญาติก็ขอคนอยู่เป็นเพื่อน ตรงนี้เราต้องขอบคุณพยาบาลทุกท่านที่เดินเข้ามาคุย เข้ามาปลอบเรา เข้ามาอยู่เป็นเพื่อน เรารู้ว่าเราวุ่นวายมาก แต่เราไม่ไหวจริงๆ
จังหวะไหนหมอแว้บมาคุย เราก็ระบายเต็มที่ เราอยากผ่า เราไม่อยากรอ รอไปก็ไม่มีความหวัง ฉีดยาพิษให้เราตายเถอะ เราอยากกลับบ้าน เราไม่อยากคลอดแล้ว หมอก็ได้แต่บอกให้เราอดทน จนเราพล่ามมากๆว่าอยากตาย อยากกลับบ้าน ไม่คลอดแล้ว พูดไปก็ร้องไห้ไป เราบอกหมอว่าเราไม่มีกำลังใจแล้ว สภาพจิตใจเราแย่มาก หมอก็ได้แต่บอกว่าให้ใจเย็นๆ นึกถึงหน้าลูกไว้ เดี๋ยวหมอขอปรึกษาอาจารย์หมอก่อน
พอหมอกลับเข้ามาอีกรอบ เราก็โวยวายเหมือนเดิม หมอก็แจ้งว่า ถ้าไม่มีข้อบ่งชี้ให้ผ่า ก็ผ่าไม่ได้ เราเลยบอกหมอว่า หมอไม่เห็นหรอว่าปากมดลูกมันไม่เปิดเพิ่มแล้ว คนไข้ต้องรอจนกว่าจะขาดใจตายหรอ หมอถึงจะผ่าให้ จนสุดท้ายหมอบอกว่าถ้าสองทุ่มครึ่ง ยัง 5 เซนต์เหมือนเดิม หมอจะส่งผ่าให้ ตอนนี้ได้แต่นอนมองนาฬิกา ทำไมเวลามันเดินช้าจัง
ประมาณ 20.30 หมอมาตรวจปากมดลูกอีกครั้ง ก็เป็นไปตามคาด ยัง 5 เซนต์เหมือนเดิม หมอบอกจะส่งผ่าให้ แต่คนไข้ต้องรอตามคิว เพราะวันนี้คนผ่าเยอะ แต่หมอมีคนเดียว บางคนมาตั้งแต่เที่ยงป่านนี้ยังไม่ได้ผ่าเลย เราก็เลยบอกว่าเรารอได้ ขอให้ได้ผ่าเถอะ พูดไปก็ร้องไห้ไป ตอนนี้เราใจเย็นลงมาแล้ว รู้สึกว่าไม่ต้องอดทนกับสิ่งที่มันดูสิ้นหวังต่อไป พอหมอออกจากห้องยังแอบคิดอีกนะว่าหมอหลอกเราป่าวหว่า
ประมาณ 21.00 พยาบาลมาใส่ชุดผ่าตัดให้ แล้วก็ใส่สายฉี่ ตอนนี้ถึงจะปวดแค่ไหนก็ใจชื้นขึ้นมาแล้วว่าไม่โดนหลอก ได้ผ่าวันนี้แน่ ต้องเซนต์เอกสารยินยอมผ่าตัดด้วย เขียนชื่อตัวเองไม่เป็นตัวเลยล่ะ มือไม้สั่น อุปกรณ์เตรียมคลอดตอนนี้โดนเข็นออกไปหมดแล้ว ระหว่างนี้ก็ได้แต่สวดมนต์ภาวนาขอให้ถึงคิวผ่าเร็วๆ ถึงตอนนี้บอกเลยว่าทุกวินาทีเดินช้ามากๆ นอนคิดแต่ว่าตัวเองจะขาดใจตาย สงสารลูก สงสารตัวเอง ตำหนิตัวเองว่าทำไมไม่ตัดสินใจผ่าแต่แรก พาตัวเองกับลูกมาทรมานทำไม
ประมาณ 23.00 เจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดเอาเปลนอนมารับ ดีใจที่สุดในชีวิต ไม่คิดว่าตัวเองจะนอนหายใจมาจนถึงตอนนี้ได้ คิดถึงแต่ยาบล๊อคหลัง สามีมายืนรอหน้าห้องรอคลอด ได้แต่สบตากัน เพราะเราพูดไม่ไหวแล้ว ถึงห้องผ่าตัดอย่างไว เข็นเข้าห้องผ่าตัดแล้วทุกอย่างวุ่นวายมาก เราเองก็ไม่ค่อยมีสติจะสนใจสิ่งรอบข้างแล้ว คิดแต่ว่าเมื่อไหร่จะชาๆ สักพักได้ยินหมอวิสัญญีบอกว่า งอเข่า กอดอก ตอนที่หมอจะจิ้มเข็มที่หลัง มดลูกบีบตัวพอดี เราก็ร้องครางซะลั่นเลย ทีมวิสัญญีก็คงตกใจว่าเจ็บอะไรขนาดนั้น ทุกคนบอกเราว่าคุณแม่นิดนึง ไม่เป็นไรนะ พอมดลูกคลายตัวเราเลยต้องรีบบอกว่าเจ็บท้อง ไม่ได้เจ็บเข็มบล๊อคหลัง พอฉีดเสร็จหมอก็เริ่มเช็คอาการชาตามจุดต่างๆ จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการผ่าตัด ตอนนี้ขาเราชามาก ในที่สุดก็ไม่ต้องเจ็บปวดกับอาการมดลูกบีบตัวอีกแล้ว
ตอนหมอเริ่มลงมือผ่า (รู้สึกเหมือนมีคนเขย่าท้อง) จู่ๆเราก็รู้สึกสั่นไปทั้งตัว ฟันกระทบกันรัวๆทั้งๆที่ไม่ได้รู้สึกหนาว (คงเพราะชา) เรารีบบอกเจ้าหน้าที่ว่า ทำไมสั่นไม่รู้ หายใจไม่ออกด้วย (นาทีนี้บอกเลยกลัวตาย กลัวไม่ได้เห็นหน้าลูก) เจ้าหน้าที่บอกว่า คุณแม่หายใจไปตามปกติค่ะ เราก็พยายามสูดหายใจแต่เราไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังหายใจ พยายามตั้งสติหายใจไปทั้งๆที่ไม่รู้สึก ไม่กี่นาทีถัดมาก็รู้สึกว่าหายใจได้ตามปกติแล้ว ส่วนอาการสั่นตอนนี้ดีขึ้นแล้วเพราะมีผ้าห่มกับพัดลมร้อนตัวเล็กๆซุกไว้ในผ้าห่ม คาดว่าเราคงเสียเลือดเยอะจนหนาว ผ่านไปสัก 15 นาทีได้ ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่บอกว่า คุณแม่จุกหน่อยนะคับ แล้วก็รู้สึกเหมือนมีคนกดท้อง พอเค้าเลิกกดท้อง ทุกอย่างก็ดูนิ่งไปพักนึง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเด็กร้อง เราถามเจ้าหน้าที่ว่า น้องออกมาแล้วหรอคะ เจ้าหน้าที่บอก ใช่ค่ะ กำลังทำความสะอาด เดี๋ยวจะพาน้องมาให้คุณแม่ดูค่ะ เรานี่ต่อมน้ำตาแตกเลย ที่ทนมาสองวันก็เพื่อนาทีนี้เท่านั้น คิดถึงแม่มากๆ
พอทำความสะอาดเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็เอาน้องมาให้เราดูหน้า ถึงจะมึนๆเบลอๆ แต่เราก็เห็นหน้าเค้าชัดเจน จำหน้าเค้าได้ทันที ได้หอมแก้มไป 3 ฟอด ชื่นใจจริงๆ น้ำตาเอ่ออีกรอบ แล้วเค้าก็เอาน้องใส่ตู้อบออกไปให้สามีที่รออยู่หน้าห้องผ่าตัดได้ยลโฉม สามีก็กลับห้องพัก ส่วนน้องไปอยู่ห้องเนิสก่อน กลับมาทางเราก็นอนให้คุณหมอเย็บแผลต่อ เย็บแผลเสร็จเราต้องไปนอนรอดูอาการอีกห้องหนึ่ง ออกมาข้างนอกเราก็หนาวสั่นอีกแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องเอาผ้าห่มมาซ้อนให้พร้อมกับสอดพัดลมร้อนตัวเล็กๆเหมือนเดิม เราหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกที ร่างกายอบอุ่น มองซ้ายขวา ทั้งห้องมีชั้นนอนอยู่บนเตียงคนเดียว และเจ้าหน้าที่อีกสองคน พอเจ้าหน้าที่สอบถามว่าเราโอเคแล้ว ก็เรียกคนเข็นมาเข็นเรากลับห้องพัก สรุปว่าวันนี้เราเป็นคนไข้คนสุดท้ายของห้องผ่าตัด
พอมาถึงห้องพัก หมดแรงมาก สิ่งเดียวที่ต้องการคือ อ้วก นอนกอดกระโถนเลยล่ะ อยากอ้วกทั้งๆที่ในท้องไม่มีอะไรให้ออกเลย มีแต่ลม (ผลข้างเคียงของยาบล๊อคหลัง) ทรมานอยู่เหมือนกัน แต่ก็ดีใจที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี นอนคิดถึงหน้าลูก หลับไปตอนไหนไม่รู้
จบซะทีมหากาพย์คลอดลูกเจ็บ 2 ต่อ
ปล. วันแรกยังไม่ค่อยเจ็บแผลผ่า พอวันที่ 2 ที่ได้ถอดสายฉี่ แล้วพยาบาลบอกให้ตะแคงตัว ลุกเดินบ่อยๆ โอ้ย เจ็บสาหัส แต่จะว่าไปก็ยังเจ็บน้อยกว่าตอนปากมดลูกเปิด 5 เซนต์นะ สักประมาณ 7 วัน ถึงจะเริ่มโอเคกับแผลผ่า ลุก นั่ง ได้สะดวกขึ้น คลอดเองกับผ่า มันเจ็บคนละแบบก็จริง ถ้าถามเราตอนนี้เราเบอกเลยว่า รู้งี้ผ่าตั้งแต่ทีแรกซะก็สิ้นเรื่อง
โฉมหน้าสุดหล่อของแม่

ตอนแรกเกิด ถ่ายภาพมาจะดูน่าชังซะมากกว่าน่ารัก แต่ตัวจริงยังมีความน่ารักบ้าง น้องหนักแค่ 3040g ตอนแรกนึกว่าจะตัวใหญ่กว่านี้เพราะอยู่ในท้องเกือบ 41w ออกมาแขน ขา ยาว ตัวเหี่ยวๆ ผิวก็ลอก

1 เดือนผ่านไป พองขึ้นมาเยอะเลย จาก 3040g เพิ่มมาเป็น 4270g สองอาทิตย์แรกเสริมนมผงบ้างเพราะนมแม่ยังมาไม่เยอะ สองอาทิตย์หลัง นมแม่ล้วน เดี๋ยวถ้าว่างจะมาเขียนเรื่องการเลี้ยงด้วยนมแม่ เพราะเจออุปสรรคและปัญหาอยู่เหมือนกัน กว่าจะฝ่ามาถึงวันนี้ได้ นอนร้องไห้ก็หลายครั้ง
เพิ่มเติม ค่าคลอด 37049 บาท รวมทุกอย่างทั้งของแม่และของลูก (เราพักห้องพิเศษเดี่ยว คืนละ 2000 ถ้าพักห้องรวม 2 เตียง หรือ 4 เตียงจะจ่ายน้อยกว่านี้ค่ะ) อยู่ รพ. 7 วัน เพราะน้องต้องส่องไฟ เนื่องจากตัวเหลือง 3 วัน (ของน้อง พยาบาลแนะนำให้ไปทำสิทธิ์ 30 บาท เลยไม่ต้องเสียค่าส่องไฟ ค่านม ค่าดูแล ถ้าแม่จำไม่ผิดรู้สึกว่าของน้องนี่ออกบิลมาแค่ 46 บาท นี่เป็นข้อดีอีก 1 อย่างของการคลอดศิริราช สิทธิ์ 30 บาทของที่นี่ ได้รับการบริการปกติเทียบเท่าสิทธิ์อื่นๆ เรียกว่า ถูกและดี มีที่นี่ที่เดียว เด็กที่คลอดที่นี่จะได้สิทธิ์ 30 บาทอัตโนมัติ แต่ใช้สิทธิ์ได้แค่ตอนพักฟื้นอยู่ใน รพ.เท่านั้น ถ้าออกจาก รพ. สิทธิ์หมดทันที)
Create Date : 01 มิถุนายน 2557 |
| |
|
Last Update : 22 มิถุนายน 2557 10:59:08 น. |
| |
Counter : 10163 Pageviews. |
| |
 |
|
|
นัดตรวจครรภ์ 39w
19 เม.ย. 57
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวันนี้ยังต้องอัพบล๊อคเพื่อมาตรวจครรภ์ตามปกติ นึกว่าจะได้มาเขียนแชร์ประสบการณ์การคลอด เราเจ็บท้องเตือนตั้งแต่ 37w ท้องแข็งทุกคืน บางคืนปวดจนนึกว่าน่าจะคลอดแล้ว แต่พอเผลอหลับไปสักพัก รู้สึกตัวอีกทีก็หายปวด เลยไม่ได้คว้ากระเป๋าไป รพ สักที เป็นอย่างนี้แทบทุกคืน ตอนแรกนึกว่าช่วงสงกรานต์น่าจะได้คลอดเพราะ 38wแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่คลอด วันนี้เลยต้องไปตามนัดหมอ อายุครรภ์เป๊ะๆก็ 39w 3d เหลืออีกแค่ 4 วันครบ 40w ไม่คิดว่าน้องจะอยู่จนครบเทอมขนาดนี้ T_T
ตอนนี้แม่รอจนเบื่อแล้วอะ บางวันเหมือนมีอาการซึมเศร้าด้วย พยายามดูหนัง ดูละคร ฟังเพลง ฆ่าเวลาไปวันๆ ก็เหมือนจะไม่ช่วยอะไร ชีวิตเหมือนรออะไรสักอย่างที่ไม่มีจุดหมาย ตอนกลางคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ เพราะลุกเข้าห้องน้ำทุกครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง ยิ่งได้เห็นแม่ๆในคลับทยอยคลอดกันจนจะหมดคลับแล้วแม่ยิ่งนอยด์ อยากเห็นหน้าลูกตัวเองบ้าง แต่ไม่มีวี่แววเลย
คุยกับลุงหมอแล้วว่าจะขอผ่า แต่ลุงหมอยังไม่ผ่าให้ ลุงหมอบอกให้เวลาอีก 1 อาทิตย์ ถ้าอาทิตย์หน้ายังไม่ออก ลุงหมอจะนัดผ่าให้ กว่าจะได้คิวผ่าคง 41w กว่าๆแน่ ตอนนี้เรากังวลหลายอย่าง กลัวรกเสื่อม กลัวน้องตัวโตเกินไป ต้องงอแขนงอขา ไม่สบายตัว ต้องคอยระแวงว่าน้องยังดิ้นอยู่หรือเปล่า วันไหนไม่ดิ้น หรือดิ้นน้อยก็ใจแป้ว ต้องคอยเขย่าท้องเทสเรื่อยๆ ถ้าวันไหนน้องดิ้นแรงก็ระแวงอีกว่าสายสะดือจะพันคอมั๊ย
วันนี้ได้ตรวจปากมดลูกครั้งแรกด้วย น้องสะใภ้ก็เคยพูดอยู่ว่าตรวจปากมดลูกเจ็บนะ แต่คนไม่เคยโดนก็จินตนาการไม่ออกไงว่ามันเจ็บแค่ไหน พอลุงหมอแหย่นิ้วลงไป แทบร้องลั่นห้องตรวจเลย แต่ก็ต้องกลั้นเสียงไว้ น้ำตาเล็ดเลย ลุงหมอกับพยาบาลหัวเราะหึๆกันเลย พยาบาลยังบอกอีกว่า กว่าจะคลอดต้องโดนอีกหลายที จะไหวมั๊ยเนี่ย ไม่ไหวก็ผ่าเหอะ ลุงหมอบอกว่าปากมดลูกยังไม่เปิดเลย ปิดสนิท ตอนซาวด์ถามลุงหมอว่าหัวลงเชิงกรานหรือยัง ลุงหมอตอบแค่ว่า ลงมาต่ำแล้ว ก็คาดว่าแค่ลงมาต่ำแต่ยังไม่ถึงเชิงกรานแน่ๆ
คาดว่าเราคงไม่สามารถคลอดเองได้แล้วล่ะ ตอนนี้ทำใจเรื่องผ่าอย่างเดียว เสียใจอยู่เหมือนกันเพราะตั้งใจมากๆที่จะคลอดเอง T_T ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร จะผ่า หรือ คลอดเอง ยังไงก็เจ็บเหมือนกัน แค่เจ็บคนละแบบ หวังว่าอาทิตย์หน้าลุงหมอจะนัดผ่าให้จริงๆนะ ไม่อยากรอจนถึง 42w มันหวาดเสียวเกินไป
ค่าใช้จ่ายวันนี้ ค่าหมอ ค่าตรวจปากมดลูก 770 บาท
Create Date : 20 เมษายน 2557 |
| |
|
Last Update : 20 เมษายน 2557 11:09:30 น. |
| |
Counter : 2051 Pageviews. |
| |
|
|
|
นัดตรวจครรภ์ 37w
5 เม.ย. 57
วันนี้มีนัดตรวจครรภ์เหมือนเดิม อายุครรภ์ตามที่หมอนับคือ 37w3d แล้ว ซึ่งก็ถือว่าท้องครบเทอมแล้ว ถ้ามีอาการน้ำเดิน หรือมูกเลือดก็ไปคลอดได้เลย
ช่วงเช้าคนเยอะมาก เพราะเสาร์หน้า รพ หยุดสงกรานต์ตั้งแต่ 12-16 เม.ย วันนี้เลยเหมือนคนไข้อัดกันเข้ามาวันเดียว หมอซาวด์ไวมาก ซึ่งปกติก็ซาวด์แป๊บเดียวอยู่แล้ว เจอวันนี้คุยกันสองสามคำ หมอหมุนหัวซาวด์สองสามที เป็นอันเสร็จ โชคดีที่ช่วงบ่ายมีซาวด์ละเอียดอีกรอบที่ตึกพระศรีฯ ก็เลยตามเลย ไว้เจอช่วงบ่ายดีกว่า
ตอนแรกนึกว่าจะได้ตรวจปากมดลูกด้วย แต่หมอบอกว่า นัดครั้งหน้า (อีก 2อาทิตย์) ถ้ายังไม่คลอดค่อยตรวจ จริงๆ หมอต้องนัดอาทิตย์หน้าแหละ แต่มันเป็นวันหยุด เราก็เลยต้องรอ 2 อาทิตย์ คาดว่าถ้าน้องยังอยู่ในท้องอีก 2 อาทิตย์ หมอคงให้นัดผ่าแล้วล่ะ เพราะจะครบ 40 สัปดาห์
ผลซาวด์ที่ตึกพระศรีฯ น้องยังคงกลับหัวอยู่ แต่เราลืมถามว่าเอาหัวลงเชิงกรานหรือยัง เพราะเรากลัวมากกับคำว่าหัวลอย น้องสะใภ้ต้องผ่าคลอดทั้งๆที่ตั้งใจจะคลอดเองก็เพราะคำว่าหัวลอยนี่ล่ะ ถ้าหัวลอยจะทำให้คลอดยาก ไปจนถึงคลอดไม่ได้ แต่เคยได้อ่านมาเหมือนกันว่า บางคนน้องหัวลอยก็จริง แต่ก็คลอดออกมาได้ อาจจะต้องใช้เครื่องดูดช่วยนิดหน่อย สำหรับคนที่ไม่อยากเสี่ยงให้น้องโดนเครื่องดูดก็เลือกจะผ่ากันซะส่วนใหญ่
ครั้งนี้หมอวัดน้ำหนักให้ด้วย น้องหนัก 2.9 โลแล้ว ตั้งแต่ท้องเพิ่งได้รู้น้ำหนักน้องจริงๆก็วันนี้ล่ะ ปกติหมอจะกะคร่าวๆให้ตลอด ด้วยความที่ตั้งใจคลอดเองเราก็ไม่อยากให้น้องตัวใหญ่มาก กลัวเบ่งไม่ออก ถ้าน้องตัวเล็กไปก็กลัวไม่แข็งแรง แต่ถามหมอทีไรหมอก็กะๆเอาตลอด เราเลยไม่รู้สักทีว่าน้องตัวโตเกินหรือเล็กเกินไป ก็ถือว่าน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับคนจะคลอดเอง กว่าจะออกมาจริงๆ อาจจะเพิ่มจากนี้อีกนิดหน่อย เราหวังไว้ว่าไม่ให้เกิน 3.2 ออกมาโตข้างนอกดีกว่า
สำหรับเราตอนนี้ก็ถือว่าพร้อมแล้วที่จะคลอด กระเป๋าไป รพ จัดเสร็จตั้งแต่ 36w นั่งลุ้น นอนลุ้นทุกวัน โดยเฉพาะตอนที่ท้องแข็ง มดลูกบีบ แล้วปวดหัวหน่าว แต่ก็ยังเป็นอาการเจ็บหลอกอยู่ ยังไม่เจ็บจริงๆสักที บางทีก็แอบนึกเหมือนกันว่านัดวันผ่าเลยดีมั๊ยเนี่ย ไม่อยากลุ้นแล้ว อยากเห็นหน้าลูกแล้ว


ตอนซาวด์น้องหลับอยู่ เอามือก่ายหน้าไว้อีกต่างหก ลุงหมอต้องค่อยๆเอียงหัวซาวด์หาจุดที่พอจะมองเห็นหน้าได้ ถึงจะเห็นแค่ครึ่งหน้าก็ยังดีกว่าไม่ได้เห็น เฮ้อ กลางวันน่ะหลับได้หลับดี กลางคืนนี่ยังกะอยู่ในผับ แดนซ์จนแม่ไม่ได้นอน
แม่หวังว่าหนูจะออกมาก่อนนัดหมอครั้งหน้านะ แม่ไม่อยากขึ้นเขียงผ่า
ค่าใช้จ่ายวันนี้
ค่าหมอ ค่ายาช่วงเช้า 668 บาท ค่าหมอ ค่าซาวด์ละเอียด ช่วงบ่าย 1150 บาท
Create Date : 06 เมษายน 2557 |
| |
|
Last Update : 6 เมษายน 2557 15:00:22 น. |
| |
Counter : 1712 Pageviews. |
| |
|
|
|
นัดตรวจครรภ์ 35w
22 มีค. 57
วันนี้มีนัดตรวจครรภ์ตามปกติเหมือนเดิม หมอนัดประมาณ 11 โมง แต่เราเลือกไปตอนเช้าๆ เพราะไปเร็วก็ได้ตรวจเร็ว เสร็จเร็ว ไม่อยากนั่งอยู่ รพ. นาน
วันนี้ตอนเดินเข้าไป ultrasound พยาบาลทักว่าท้องใหญ่มาก เหมือนท้องแฝดเลย (รอบท้องเราวัดได้ประมาณ 42นิ้ว) ตอนซาวด์ก็ไม่มีอะไรมาก หมอบอกว่าน้องยังอยู่ท่ากลับหัว แล้วหมอก็ชี้ให้ดูเส้นผมที่สยายอยู่ในน้ำ หมอคอนเฟิร์มว่าหัวไม่ล้าน ผมเยอะอยู่ หัวก็โต ตัวค่อนข้างใหญ่ แต่หมอยังไม่กะน้ำหนักให้ เอาไว้นัดคราวหน้า หมอจะซาวด์ละเอียดที่ตีกพระศรีฯ ให้อีกที
นัดครั้งหน้าอีกตั้ง 2 อาทิตย์แน่ะ ตอนนั้นก็ 37w กว่าแล้ว ไม่รู้ว่าจะคลอดก่อนได้เจอหมอหรือเปล่า แต่หมอก็แจ้งแล้วล่ะว่า ระหว่างนี้ถ้าเจ็บท้องคลอด หมอจะให้คลอดเลย ไม่ต้องอั้นไว้เพราะน้องตัวโตแล้ว ก็หวังว่าน้องจะอยู่ถึงวันนัดนะ ถึงจะอึดอัดทรมานสุดๆแต่ก็อยากให้เค้าอยู่ในท้องสัก 38w เพื่อให้สมองพัฒนาได้เต็มที่
จริงๆช่วงนี้เราก็ยังไม่มีอาการเจ็บท้องเตือน หรือสัญญาณอะไรบอกเลยว่าใกล้คลอด มีแค่รู้สึกหน่วงๆเวลาเดินเท่านั้น
ตอนนี้สิ่งทรมานที่สุดคือตอนนอน ต้องนั่งหลับเอา ตะแคงไม่ได้เลยทั้งซ้ายและขวา นอกจากจะปวดหลังน้องยังดิ้นตลอดด้วย ถ้านอนหงายน้องจะโก่งตัวเป็นระยะเลย แถมยังต้องลุกเข้าห้องน้ำทุกๆ 1 ชม. เรียกได้ว่ากลางคืนแทบไม่ได้นอน ตอนกลางวันอยากนอนชดเชยก็ไม่ง่วง ทำยังไงก็ไม่หลับ ตั้งแต่เริ่มท้องมา ช่วงเดือนสุดท้ายนี่ล่ะที่ทรมานที่สุด ยิ่งนับวันรอ เหมือนเวลายิ่งเดินช้า
วันนี้มีภาพหนุ่มน้อย นอนดูดนิ้ว โชว์ผมสยายในน้ำมาให้ดูด้วยค่ะ

ค่าใช้จ่ายวันนี้
ค่าหมอและบริการคลินิคพิเศษ 570 บาท
Create Date : 26 มีนาคม 2557 |
| |
|
Last Update : 26 มีนาคม 2557 11:19:21 น. |
| |
Counter : 1453 Pageviews. |
| |
|
|
|
นัดตรวจครรภ์ 32w
1 มีค. 57
วันนี้มีนัดตามปกติ แต่ต้องไปเจาะเลือดที่ห้องเจาะเลือดก่อนขึ้นไปพบคุณหมอ เลยตัดสินใจไปแต่เช้าตรู่ กลัวรอคิวเจาะเลือดนาน
ไม่แน่ใจนะคะว่าห้องเจาะเลือดเค้าเปิดกี่โมง แต่ตอนที่เราไปถึงหน้าห้องประมาณ 8 โมง คนเยอะมาก ยืนออกันอยู่ตรงทางเข้าเพื่อรอเจ้าหน้าที่เรียกคิว เห็นคิวแล้วคนท้องจะเป็นลม
เมื่อไปถึงหน้าห้องเจาะเลือด อันดับแรกให้ไปลงทะเบียนที่ห้อง 100 ก่อน โดยการยื่นใบเจาะเลือดที่ได้จากพยาบาลคราวที่แล้วให้เจ้าหน้าที่ เค้าจะคีย์ข้อมูลลงในคอม แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะบอกให้เราไปรับบัตรคิวที่ห้อง 100/2 ซึ่งเดินไปสุดทางอีกฝั่ง สำหรับคนท้องแก่อย่างเราก็รู้สึกว่ามันไกลนะ กว่าจะเดินถึงเล่นเอาหอบอยู่เหมือนกัน แต่ที่น่าเจ็บใจคือ พอไปถึงยื่นใบให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บอกว่า ของน้องไปที่หน้าห้องเจาะเลือดได้เลย ไม่ต้องมารับบัตรคิวตรงนี้ เราก็ อ้าว!! เดินมาไกลนะเนี่ย (คิดในใจ)
พอมาถึงหน้าห้องเจาะเลือด ก็ยื่นใบเจาะเลือดให้เจ้าหน้าที่ได้เลย จากนั้นก็ยืนรอหน้าห้อง ระหว่างรอเบบี๋ก็ทั้งดิ้น ทั้งถีบ เราก็ได้แต่ยืนลูบท้องป้อยๆ จนพี่เจ้าหน้าที่เค้าเรียกให้เราไปนั่งข้างใน เพราะมีเก้าอี้ว่าง 1 ตัว รอสักพัก ช่องการเงินก็จะเรียกให้ไปจ่ายเงิน แต่พอจ่ายเงินเสร็จเจ้าหน้าที่ไม่บอกว่าทำยังไงต่อ เราก็เข้าใจว่าต้องรอเค้าเรียกคิว นั่งรอไปสักพักถึงได้สังเกตเห็นว่าเลขคิวเราไม่เหมือนคนอื่น คนอื่นขึ้นด้วย 02 ของเราขึ้นด้วย 20 เลยต้องเดินไปถามเจ้าหน้าที่เสื้อเขียวว่า จ่ายเงินเสร็จแล้วต้องรอเรียกคิวมั๊ย เค้าก็บอกว่าอันนี้คิวคนท้อง พี่เดินเข้าไปได้เลย ไม่ต้องรอคิว
พอเดินเข้าไปตรงจุดเจาะเลือด เจ้าหน้าที่จะขอดูคิว แล้วก็ไปหยิบหลอดเจาะเลือดของเรามาให้ จากนั้นคิวไหนลุกก็ให้เราเข้าไปนั่งได้เลย
สรุปว่าอภิสิทธิ์คนท้องค่ะ ลัดทุกคิว ไม่จำเป็นต้องไปตอนเช้าเลย
เจาะเลือดเสร็จก็ขึ้นไปชั้นสูติตามปกติ ขึ้นมาแทบไม่มีคนเลยเพราะยังเช้าอยู่ ทำทุกขั้นตอนเสร็จก็ไปนั่งรอหมอที่หน้าห้อง ประมาณ 10 นาทีหมอมา เราเป็นคิวที่ 2 ก็สบายไป ไม่ต้องรอนาน ได้ตรวจเร็ว วันนี้ไม่มีอาการอะไรผิดปกติ หมอก็ซาวด์ดูปกติ เบบี๋เริ่มตัวใหญ่แล้ว ดูในจอไม่ค่อยรู้เรื่อง หัว ขา แขน แทบจะมัดเป็นชิ้นเดียวกัน เข้าใจว่าพื้นที่เริ่มคับแคบ พักนี้ถึงดิ้นเก่ง โก่งตัวก็บ่อย
หมอนัดอีก 3 สัปดาห์ ตอนแรกคิดว่าหมอจะนัดถึ่ขึ้นหน่อยเป็น 2 สัปดาห์ เพราะเห็นแม่ๆในคลับหลายคนหมอเริ่มนัดถี่แล้ว ได้แต่คิดว่าเพราะเราไม่มีอาการผิดปกติอะไร หมอเลยไม่จำเป็นต้องนัดถี่มั้ง
ปล. วันนี้ดีใจ น้ำหนักขึ้นมาแค่โลเดียว 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้งดมื้อดึกไปแล้ว แล้วอาทิตย์ที่แล้วก็มีอาการปากขม ทำให้กินข้าวไม่ค่อยลง รู้สึกว่ากินไม่อร่อย ไม่อยากกิน กินได้แค่ 4-5 คำก็ไม่เอาแล้ว แต่ก็มีขนม ผลไม้หวานๆทุกมื้อ กลัวเรื่องน้ำตาลเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะทำยังไงเพราะกินข้าวไม่ลงจริงๆ
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเท้าบวมมากๆ นั่งห้อยขานานๆไม่ได้เลย บวมเป่ง แล้วเจ็บหลังเท้าด้วย ตอนแรกก็กลัวจะเป็นโรคไต เพราะคราวที่แล้วผลปัสสาวะที่ตรวจเรื่องโปรตีนไข่ขาวออกมา +1 วันนี้ถามหมอแล้ว หมอบอกว่า ถ้าความดันปกติ ยังไม่น่าเป็นห่วง เราก็โล่งใจไป แต่ช่วงนี้ก็งดของเค็มๆหมดแล้วล่ะ ไม่กล้าเสี่ยง
ค่าใช้จ่ายวันนี้
ค่าเจาะเลือด 220 บาท ค่ายา ค่าหมอ 713 บาท
รวมค่าใช้จ่ายวันนี้ 933 บาท
Create Date : 05 มีนาคม 2557 |
| |
|
Last Update : 5 มีนาคม 2557 11:10:54 น. |
| |
Counter : 1580 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |
|
 |
คุณป้าเบอร์ห้าบ้าเห่อ |
|
 |
|
|