ครั้งหนึ่งเกิดไฟใหม้ป่าเล็กที่ๆหลังร้าน ฉันเรียกมันว่าป่าร้อยเอเคอร์ ของ "วินนี่เดอะพูห์" ที่ๆมีสัตว์พูดได้และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
นานมาแล้ว...เพื่อนๆของมันค่อยๆล้มหายตายจาก เหลือแค่หมอกจางอยู่เพียงตัวเดียว สาเหตุที่มันยังไม่หายไปไหนก็เพราะ มันเป็นแมวรักสันโดษ ไม่ชอบรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ จนวันหนึ่ง วันสิ้นปี หมอกจางคาบลูกของมันมาให้ ก็อย่างที่เขียนไว้ในบล็อกที่แล้ว >>
"คืนข้ามปีกับลูกแมว" << ตอนนี้ลูกแมวอายุเกือบสามเดือนแล้ว มันชื่อว่าเจ้า
"คะนิ้ง" วันก่อนฉันเห็นแมวตายอยู่ข้างถนน ใกล้ๆกันมีหมาจรตัวหนึ่งนอนเฝ้าอยู่ ดูจากสภาพศพแล้วมันน่าจะโดนเจ้าหมานั่นขย้ำ เจ้าหมานอนหมอบแล้วส่งสายตาน่าสงสารมองมาที่ฉัน ราวกับว่ามันกำลังสำนึกผิด ฉันนึกถึงหมอกจางและเจ้าคะนิ้ง รีบกลับไปปิดทางเข้าออกบริเวณหลังร้านอย่างดี เพราะกลัวพวกมันหนีออกมาเจอเจ้าหมาตัวนั้น
บางที...สักวันหนึ่งฉันจะพาเธอไปเที่ยวป่าร้อยเอเคอร์
ที่นั่นเปรียบเป็นดินแดนสวรรค์ของพวกสัตว์ ที่ที่มีมีสัตว์พูดได้...มีหมีตัวสีเหลืองชื่อว่า"หมีพูห์" เค้าชอบแต่งกลอนและฮัมเพลง ในวันที่อากาศดี หมีพูห์จะอ่านกลอนของเค้าให้หมูสีชมพูที่ชื่อว่า "พิกเลต" ฟัง แล้วยังมี "แรบบิต" กระต่ายจอมเจ้าเล่ห์ แล้วก็เสือใจดีที่ชื่อ "ทิกเกอร์" มีเจ้า "อียอร์" ลาขี้น้อยใจ มีนกฮูกหัวใสชื่อว่า "อาวล์" มี "แคงกา" แม่จิงโจ้ และลูกรักของเธอที่ชื่อว่า "รู" อีกด้วย
ที่ป่าร้อยเอเคอร์ไม่เหมือนกับที่นี่ ที่นี่มีบางสิ่งทึ่เราเรียกกันว่าความชั่วร้าย ความหมายของมันก็เหมือนกับแววตาของหมาจรตัวนั้น บางครั้งดูใสซื่อคล้ายคืนเดือนเพ็ญพิสุทธิ์
บางทีเธออาจจะยังเด็กเกินกว่าจะรู้จักเจ้าความชั่วร้ายนี่ก็ได้นะ เอาไว้ให้เธอโตกว่านี้อีกนิดนะ แล้วฉันจะพาเธอไปที่นั่น ที่ที่แม่ของเธอจากมา บางทีแม่เธออาจรู้ความลับอะไรบางอย่างที่ฉันเองก็ไม่รู้ อาจมีประตูลับอยู่ที่ไหนสักแห่ง ที่พวกแมวพากันหนีออกมาและพากันกลับเข้าใป ฉันก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าแม่ของเธอเค้าบอกความลับกับเธอบ้างรึเปล่า
ฉันมองดูเจ้าคะนิ้ง...เอามือลูบหัวมันเบาๆ
เจ้าคะนิ้งหรี่ตาลงกึ่งหลับกึ่งตื่น...ขยิบตาเจ้าเล่ห์หนึ่งครั้ง
แล้วเอนตัวลงบนฟูกสีชมพูที่มีกลิ่นฉี่แมวคละคลุ้ง
ถ้าย้อนวัยไป 30 กว่าปีที่แล้ว หนังสือแบบนี้ ได้ตังค์ป้าอิ๋วนะคะเนี่ย