|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
7 วันอันตราย(หรือเปล่า): ตอนที่1 นพบุรีศรีนครพิงค์.....
เคยฟังเพลง อย่าอยู่อย่างอยาก... ของ สากกระเบือยันเรือรบ(P2Warship) กันไหม
เพลงนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในอีกหลาย ๆ ส่วนที่สำคัญ อันประกอบกันขึ้นมาเป็นการตัดสินใจมาทริปนี้ของผม
เนื้อเพลงประมาณว่า หากไม่ตัดสินใจทำเมื่อไหร่สิ่งที่คิดไว้จะเป็นความจริง
ทริปนี้ก็เลยมีแรงบันดาลใจให้ข้าพเจ้าขยันขันแข็งทำให้มันเป็นจริง โดยความช่วยเหลืออย่างใหญ่หลวง จากน้องชายต่างพ่อต่างแม่คนหนึ่งซึ่งหาข้อมูล และช่วย support อย่างเต็มที่
เนื่องจากเราตั้งใจจะไปหลายที่ในเวลาเจ็ดวัน ทั้ง เชียงใหม่ เชียงราย ปาย ห้วยน้ำดัง ปางอุ๋ง...การวางแผนทริปการหาข้อมูลจึงเกิดขึ้นและกินเวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ โดยสถานที่อ้างอิงของเราก้อคือห้อง Blue Planet ในพันทิพ, หนังสือ Trips แมกกาซีน และอีกแห่งที่ขาดไม่ได้ ก้อคือ //www.trekkingthai.com ก้อขอขอบคุณแหล่งข้อมูลทั้งหมดมา ณ ที่นี้
แถมผมก้อซื้อเต้นท์ใหม่ และกระเป๋าใหม่เพื่อการ์ณนี้โดยเฉพาะ เห่อซะ
เริ่มเรื่องเลยดีกว่า เราได้ตัดสินใจกันว่า จะไปกลับโดยรถไฟ เพราะกิดมาข้าพเจ้า ไม่เคยได้นั่งรถไฟตู้นอนสักกะที ประกอบกับ อยากเห็นอุโมงค์ขุนตาลอันลือลั่น ดังนั้น การจองตั๋ว ด่วนนครพิงค์ไปกลับจึงเกิดขึ้น
เสาร์ที่ 7 มกราคม ถึงหัวลำโพงประมาณ ห้าโมงห้าสิบ ก่อนรถออกสิบนาที เลยมานั่งเล่น เอาบรรยากาศชาวต่างจังหวัด นั่งรอรถไฟ

เกือบหกโมง ผมก้อต้องทั้งลากทั้งเข็นเจ้าน้องชายให้รีบไปขึ้นรถไฟโดยด่วน เพราะไอ่เจ้านี่ เอาแต่จะจะกระโดดขึ้นรถท่าเดียว แล้วด้วยสภาพกระเป๋าใบยักษ์ของผมนี่ แม้แต่จะเดินยังแทบจะไม่ไหวเลย เรื่องวิ่งไม่ต้องพูดถึง

ขึ้นรถไฟไปได้สักห้านาที ผมก้อต้องร้องขอยาแก้เมารถจากหมอหลวงประจำตัวเพราะข้าพเจ้าเป็นคนเมายานพาหนะเกือบทุกชนิด.... จริง ๆ มันก้อคือยานอนหลับดี ๆ นี่เอง วันนี้เราจึงเข้านอนไวเป็นพิเศษ ตู้นอนของด่วนนครพิงค์นี่แจ่มจริง ๆ หลับสบายมาก เพราะผมได้นอนเตียงล่างจากการเสียสละของเพื่อนร่วมทริป จึงขอขอบพระคุณมาณ โอกาสนี้นะคร้าบบบบ
อาทิตย์ที่ 8 มกราคม
ตื่นมาประมาณตีห้ากว่า ๆ เพราะอยากเห็นขุนตาล แต่ก้อได้รับทราบว่า ผ่านมาแล้ว ไม่ได้เห็นหรอกเพราะฟ้ามืด หน้าหนาวจะสว่างช้า ผิดหวัง
. เลยแก้ผิดหวังด้วยอาหารเช้าบนรถไฟ จากนั้นเราก้อมาถึงท่าอากาศยาน เอ้ยย ไม่ใช่ซิ สถานีรถไฟเชียงใหม่ ตอนเจ็ดโมงเช้าพอดิบพอดี ไม่มีเลท (ก่อนเวลาประมาณสิบนาทีด้วยซ้ำ)
ยามเช้า ณ สถานีรถไฟ

รถแดงพาหนะหลักของนักท่องเที่ยวที่นี่

แต่วันนี้ เพื่อนตัวดีจะมาดูแลครับ เอ๊ะ แต่ทำไมมันยังไม่มา โทรไปมือถือก้อปิด
เราเลยไปเปลี่ยนตั๋วกันดีกว่า อ่อ... ลืมบอกไป หลังจากนั่งคุยกันไปมา ได้ความว่า จริง ๆ แล้วเจ้าน้องตัวดี ก้ออยากชวนไปกลับเครื่องบิน แต่ไม่กล้าชวน ไอ่ผมก้อไม่กล้าชวนเหมือนกัน กลัวโดนหาว่าไฮโซ แต่หลังจากตัดสินใจแล้ว เราเลยไปคืนตั๋วรถไฟเพื่อบินกลับดีกว่า (หวานเย็นเกินไป กลับไม่ไหวแหะแหะ ) เสียค่าเปลี่ยนตั๋วไปประมาณสามสิบปุเซงของราคาตั๋ว (ลางร้าบ.... เพราะนี่เป็นแค่การเปลี่ยนแปลงการเดินทางครั้งแรก ในอีกหลาย ๆ ครั้งที่จะตามมา)
อีกหนึ่งชั่วโมงถัดมา พวกเราก้อได้นั่งรถคันงามมากินโจ๊กที่นี่ เขาว่าเป็นร้านดังครับ ร้านโจ๊กสมเพชร มีทั้งโจ๊ก และติ่มซำไว้บริการ สังเกตุจากคนเต็มร้านแล้ว น่าจะเป็นร้านขายดียามเช้าของเมืองนี้

จากนั้น เราก้อไปเที่ยวเล่นที่นี่ครับ อ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บรรยากาศดีเกินบรรยายมาก ๆ

อ่างแก้ว น้ำใสนิ่ง เหมือนกระจกสมชื่อจริง ๆ
รูปนี้ชอบเป็นการส่วนตัว บนถนนรอบอ่างแก้ว กับสองเท้าที่พาเราเดินทาง เพียงเราให้หัวใจนำทางมันออกไป

เสร็จจากอ่างแก้ว เราก้อไปแวะกินกาแฟที่ร้านกาแฟน่ารัก ๆ ครับ วังวาวี

ทั้ง ๆ ที่ผมเป็นคนกินกาแฟไม่ได้ ก้อทนกลิ่นไม่ไหว สั่งมาลองสักหนึ่งแก้ว... ไม่ปวดหัวแหะ ใช้ได้ ๆ

จากนั้น ก้อแวะสักการะ ครูบาศรีวิชัยที่เชิงดอยสุเทพ

จากนั้นก้อไปต่อที่ไฮไลท์ยามเช้าวันนี้ สวนสัตว์เชียงใหม่ครับ ค่าเข้าสามสิบบาท

เพราะผมอยากมาดูเจ้าสองตัวนี้มาก ๆ เลย อันนี้เสียค่าดูอีกห้าสิบบาท

 
น่ารักอย่างแรง เสียเวลาในนั้นไป ชั่วโมงกว่า ดูตั้งแต่มันนอน จนตื่น จนมันกิน จนมันถ่ายนั่นหล่ะครับ ถึงกลับ
จากนั้น ก้อมาแวะกินไอติมกระทิเจ้าอร่อย แล้วก้อเจอเพื่อนผมที่นี่ เพราะมันจะพาไปโรงแรมที่จองไว้ให้ แต่ก่อนไป ก้อแวะกินข้าวซอยเสมอใจก่อน เป็นเจ้าดังอีกเจ้านึงของที่นี่

อร่อยดีแต่ออกเผ็ด ๆ ไปหน่อย จากนั้นก้อเข้าโรงแรมครับ Raming Lodge ถนนลอยเคราะห์ ก้อแถว ๆ ไนท์บาซ่าร์แบบเดินถึง แล้วก้อใกล้ถนนคนเดินมาก ๆ ด้วย ค่าโรงแรม คืนละ 1,100 ลดจาก 1,800 รวมอาหารเช้า โดยส่วนตัวผมถือว่าโอเคมากเลย เพราะห้องสวย ห้องน้ำดีมาก และโรงแรมใหม่มาก ๆ ด้วย อ่อ อาหารเช้าอร่อยด้วยนะ เป็น Buffet ไม่ได้เป็นแค่มื้ออาหารแบบที่เดี๋ยวนี้หลายโรงแรมนิยมทำ อันนี้ต้องขอบคุณเพื่อนที่เป็นธุระในการนี้ด้วยเน้อ
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเราก้อไปเดินปลดปล่อยอารมณ์ที่ถนนนิมมาณเหมินทร์ครับ ถนนที่ขายของแต่งบ้าน แล้วก้อมีร้านสวย ๆ เต็มไปหมด

รูปคูเมืองที่นี่ครับ
ไปคราวนี้เราไปด้วยรถแดง ไอ่เจ้าน้องชายผมนี่ ต่อราคารถแดงตลอดเวลา หยั่งกะชาวเชียงใหม่เลยนะเนี่ย
มาถึงก้อมาเจอเจ้าตัวนี้ มันชื่อว่า สิบล้อ ครับ ที่ร้านนี้ผมได้เสื้อมาตัวนึง 195 บาท เขียนว่า ชีวิตต้อง ซู่

แล้วก้อเดินดูร้านสวย ๆ ไปเรื่อย



ไปปิดท้ายด้วยไฮไลท์ยามค่ำของวันนี้ ถนนคนเดิน

เป็นครั้งที่สองที่ได้มาเดินถนนคนเดิน ต่างกันที่ ครั้งนี้ได้ไปนั่งขายของด้วยนะ เพราะเพื่อนมันขายของอยู่ที่นี่
คนที่นี่น่ารักมาก ๆ เที่ยวทางเหนือ จะไม่ค่อยรู้สึกกลัวโดนหลอก เหมือนเที่ยวที่อื่นนะ ผมรู้สึกว่า เขาขายของราคายุติธรรม และความมีน้ำใจก้อเยอะมาก ๆ อย่างน้อยก้อสัมผัสได้จากรอยยิ้ม

เครื่องดื่มอร่อย ๆ ใส่ภาชนะชวนดูด(ดื่ม)

ภาพการเล่นดนตรีของเด็กและคนสูงอายุเต็มไปหมด เต็มไปด้วยเสียงดนตรี เดินเล่น ๆ ลมเย็น ๆ ความสุขเกินบรรยาย


แล้วก้อมาแวะถ่ายรูปที่ Landscape ของเมืองเชียงใหม่ซะหน่อย อนุเสาวรีย์เจ้าสามพระยาครับ

ปิดท้ายวันนี้ด้วยการไปกินข้าวที่ผาลาดตะวันรอน เป็นร้านอาหารบนเขา อากาศดี บรรยากาศสวยมาก ๆ เสียแต่ว่า หนาวไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวไป และพวกผมเริ่มหมดแรงกันแล้ว อีกทั้งพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปเชียงราย พวกเรา เลยเริ่มหมดแรงไปตาม ๆ กัน
ยังไงติดตามตอนสองต่อหล่ะกันเน้อ     
Create Date : 15 มกราคม 2549 |
Last Update : 20 มกราคม 2549 9:31:53 น. |
|
10 comments
|
Counter : 1525 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ประมาณว่า (ประมาณว่า ) วันที่: 15 มกราคม 2549 เวลา:21:56:50 น. |
|
|
|
โดย: OneSide IP: 203.146.156.183 วันที่: 16 มกราคม 2549 เวลา:10:25:35 น. |
|
|
|
โดย: kannasan วันที่: 16 มกราคม 2549 เวลา:12:21:51 น. |
|
|
|
โดย: NaNongPloy วันที่: 16 มกราคม 2549 เวลา:13:17:02 น. |
|
|
|
โดย: hrmguy IP: 210.246.160.2 วันที่: 16 มกราคม 2549 เวลา:19:57:51 น. |
|
|
|
โดย: Mikank วันที่: 16 มกราคม 2549 เวลา:20:02:28 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าใส IP: 124.121.3.225 วันที่: 16 มกราคม 2551 เวลา:21:42:26 น. |
|
|
|
| |
|
|