กุญแจสำคัญในการปลูกฝังเด็กให้ฉลาด
บางคนชอบคิดว่าความฉลาดเป็นพรสวรรค์ เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ในความเห็นของผมแล้ว เราปลูกฝังความฉลาดให้เด็กได้
หลายปีก่อน หลังจากจดทะเบียนหย่ากับสามี คุณแม่คนหนึ่งต้องเลี้ยงลูกสาวคนเดียวและทำงานไปด้วย จนเธอไม่มีเวลาพูดคุยกับลูก ปล่อยให้ลูกดูทีวีเพียงคนเดียวทั้งวัน จนกระทั่งวันหนึ่งคุณแม่มารู้ตัวว่าลูกสาวตัวเองนั้น แม้จะยังวิ่งเล่นเหมือนเด็กทั่วไป แต่เสียงที่ออกจากปากกลับเป็นเสียงที่ฟังไม่รู้เรื่อง และในเวลาปกติลูกสาวก็จะเงียบ ไม่พูดคุยกับใครเลย
ตอนนั้นพวกเราเป็นห่วงกันมากว่าเด็กคนนี้จะเป็นเด็กเอ๋อ เรียนรู้อะไรได้ช้ากว่าเด็กทั่วไป แต่ก็ไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรเหมือนกัน จนกระทั่งวันหนึ่งที่คุณแม่คนนั้นแต่งงานใหม่กับผู้ชายคนหนึ่ง
นับเป็นโชคดีของเด็กน้อยที่ได้พ่อเลี้ยงใจดีคนนี้ครับ เพราะว่าทุกวันหลังจากกลับมาจากการทำงาน พ่อเลี้ยงก็จะนำหนังสือมาอ่านให้เด็กคนนี้ฟังอย่างช้าๆ เขาทำอย่างนี้อย่างสม่ำเสมอโดยไม่เคยท้อถอย ทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง เด็กคนนี้ก็เริ่มพูดจาสื่อสารกับแม่และพ่อเลี้ยงได้
ปัจจุบันเด็กคนนี้กำลังเรียนอยู่ในชั้นมัธยม เธอเป็นเด็กเรียนเก่ง ฉลาด ช่างพูดช่างคุย และก็รักการอ่านมาก
จากเรื่องจริงที่ผมเล่ามานี้ เห็นได้ชัดว่า ช่วงที่เด็กคนนี้มีปัญหาในการสื่อสาร ก็เกิดจากสิ่งแวดล้อม แล้วการที่เด็กคนนี้เริ่มพูดจาสื่อสารและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ ก็เกิดจากสิ่งแวดล้อมอีกเช่นกัน ดังนั้นผมจึงเชื่อว่า พ่อแม่ทุกคนสามารถปลูกฝังให้ลูกเป็นคนฉลาดได้ เพียงแค่ให้เวลากับพวกเขา สั่งสอนเขาในทางที่ดี ที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องทำทุกวันอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
สำหรับผมแล้ว ทักษะ ความสามารถ รวมทั้งทัศนคติของคนเราในปัจจุบันก็คือผลของอดีตที่ถูกสั่งสมมาทีละเล็กละน้อยเป็นเวลานาน (คงไม่มีใครอ่านหนังสือวันเดียวแล้วเก่งเลย จริงไหมครับ)
ถ้าคุณไปพาลูกไปซื้อของในห้างแล้วแซงคิวจ่ายเงิน ก็จงอย่าแปลกใจที่ลูกคุณจะโตขึ้นมาเป็นเด็กขาดมารยาทในสังคม
ถ้าคุณเห็นลูกทำผิดแล้วไม่ยอมตักเตือนเพราะคิดว่าเขายังเด็กอยู่ เห็นลูกโกหกแล้วไม่ตักเตือนเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เห็นลูกพูดจาไม่ดีแล้วไม่ยอมสั่งสอน หรือยอมให้ลูกพูดจาไร้สัมมาคารวะกับตัวเองกับผู้หลักผู้ใหญ่ ก็จงอย่าแปลกใจถ้าเขาจะโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่แบบที่คุณยอมให้เขาเป็นมาตั้งแต่เด็ก
ในการเรียนก็เหมือนกัน ถ้าเด็กคนหนึ่งเอาแต่ลอกการบ้านตั้งแต่ชั้น ป.1 ยัน ป.6 หรือไม่ก็ให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยทำการบ้านให้ตลอดเวลา เราก็ไม่ควรแปลกใจที่เขาจะโตขึ้นมาเป็นเด็กที่ไม่ฉลาด ขาดความรับผิดชอบในการทำงาน แถมจะยังมีทัศนคติผิดเพี้ยนกับการลอกผลงานคนอื่น (ลองไปอ่านในพันทิปนะครับ พวกชอบมาแสดงความเห็นว่า แหม ของแค่นี้แบ่งปันกันหน่อยก็ได้ พวกนั้นแหละครับ)
ในทางกลับกัน ถ้าเด็กคนหนึ่งอาจเกิดมาเป็นคนคิดช้าทำช้ามาตั้งแต่เกิด แต่เขากลับตั้งใจทำการบ้านด้วยตัวเองมาตลอด ตั้งแต่ชั้นประถมยันชั้นมัธยม คงไม่ต้องบอกกระมังว่าอนาคตของเด็กคนนี้จะเป็นอย่างไร
ขอยืนยันอีกครั้งว่า ความฉลาด ทักษะ ความรู้ และความชำนาญ เป็นสิ่งที่ปลูกฝังกันได้ ขอแค่เพียงมีความพยายาม ความอดทน และความสม่ำเสมอในการฝึกฝนเท่านั้นเอง
------ หมายเหตุหลังบทความ -------
ส่วนบทความเรื่อง E-Commerce เรื่องภาษาอังกฤษ และเรื่องอื่นๆ ที่ผมอยากพูดคุย จะถูกใส่ไว้ใน fan page ก่อนแล้วก็อปมาวางไว้ที่บล็อกครับ ดังนั้นถ้าใครสนใจ ก็สามารถตามไปที่ แฟนเพจของผม ได้เลย
หรือแวะไปดูเรื่อง สัมมนาเจาะลึกการตลาดสถานพยาบาล ครั้งที่ 8 "เทคนิคการสร้างฐานลูกค้าใหม่ให้กับองค์กร" (Innovative Strategies in Healthcare Marketing: Hi-speed Pursuit of the Blue Oceans) ที่ผมทำกับบริษัทไอเดียไลน์ในวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ 2556 ได้ที่ //goo.gl/b0Inm
Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2556 14:48:43 น. |
Counter : 6721 Pageviews. |
|
 |
|