มีอยู่บ่อยๆ ที่ผู้ใหญ่ไปตีความหมาย คำพูดของเด็กอย่างผิดๆ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องเพศแล้วไปลงโทษเด็กว่าเด็กนั้นแก่แดด ทะลึ่ง พ่อแม่จะรู้สึกเดือดร้อน อับอายขายหน้ามาก ที่เด็กพูดคำเหล่านั้นต่อหน้าคนอื่น ความจริงแล้ว เราควรจะถามซ้ำเมื่อได้ยินคำหยาบเหล่านั้นในครั้งแรกๆ เพื่อทราบถึงจินตนาการของเขาว่า คำพูดนั้นเด็กหมายถึงอะไร เขาเรียนจดจำมาจากไหน ซึ่งท่านจะประหลาดใจ ถ้าผมจะบอกว่าส่วนใหญ่เด็กจดจำเลียนแบบมาจากผู้ใหญ่รอบข้างที่ใกล้ชิด โดยเฉพาะพ่อหรือแม่ ที่เป็นเพศเดียวกันกับเด็กนั้นเหมือนกับแม่ปูกับลูกปูในนิทานอีสปนั่นแหละ มีบางส่วนที่เด็กเรียนรู้จำจากเด็กๆ ในบ้าน เด็กข้างบ้าน เด็กที่โรงเรียน ญาติผู้ใหญ่ จากโทรทัศน์ วิทยุ เป็นต้น
หลังจากที่เรารู้ที่มา และความหมายของคำเหล่านั้น เช่น พ่อแม่เผลอพูดหรือแสดงออกให้เด็กเห็น เราก็พึงระมัดระวังมากขึ้น โดยไม่พูดหรือกระทำซ้ำอีก
เมื่อเด็กพูดคำหยาบ เราจะบอกเด็กด้วยสีหน้า ท่าทางและน้ำเสียงที่สงบว่า คำ...นั้น แม่ว่าไม่เพราะ เราไม่พูดกันหรอกลูก แล้วเราเบี่ยงเบนความสนใจของเด็กไม่ให้หมกมุ่นเรื่องเพศ โดยให้เขาสนใจสิ่งแวดล้อมข้างนอก ชวนเขาวิ่งเล่นออกกำลังกาย, เล่นการละเล่นอื่นๆ ทำการบ้าน ช่วยเลี้ยงน้อง เด็กผู้หญิงอาจช่วยแม่ซักผ้า ทำอาหาร เด็กมีหน้าที่ช่วยงานง่ายๆ ตามความสามารถของเขา เด็กผู้ชายพ่ออาจชวนมารดน้ำ พรวนดิน ปลูกต้นไม้ เหล่านี้เป็นต้น
กรณีที่เด็กพูดคำหยาบออกมาแล้ว เราไปแสดงสีหน้าตกใจหรือไปจ้ำจี้จ้ำไชดุด่าเด็ก หรือไปลงโทษตีเด็กรุนแรง จะทำให้เด็กตกใจ เสียความเชื่อมั่นตนเอง กังวลใจ ย้ำคิดแต่คำนั้น เด็กอาจไม่เข้าใจว่า เขาผิดเรื่องอะไร เด็กบางคนอาจจะคิดว่าเมื่อเขาพูดแล้วถูกตอบสนองมีคนสนใจเขา เขาจะพูดอีก ในส่วนลึกๆ ของจิตใจ เขาพูดเพื่อให้ตัวเขาถูกลงโทษ
บางครั้ง เด็กพูดคำหยาบออกมา เราไปหัวเราะชอบใจ ก็ไปเสริมพฤติกรรมให้เด็กพูดอีกโดยรู้ตัว หรือพูดโดยไม่รู้ตัวก็ได้
ประการต่อมา ถ้าเราไปเฝ้าคอยสังเกต คอยกังวลถามย้ำ กลัวลูกเราจะพูดคำนั้น เป็นการไปเพิ่มความเครียดความสนใจในคำนั้นแก่ลูกของเรามากขึ้น เขาก็อาจจะพูดคำนั้นอยู่เรื่อยๆ โดยไม่หายไป เราก็จะเกิดความเครียดขึ้นไปอย่างไม่สิ้นสุด ว่าทำไมลูกถึงยังพูดคำหยาบไม่ยอมเลิกเสียที
อย่าลืมว่าเด็กจะค่อยๆ พัฒนาเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เริ่มจากรอบตัวเด็ก ในครอบครัว ไปสู่สังคมรอบนอก เราไม่ควรไปปิดกั้นการพัฒนานั้นไว้ ดังนั้นการประคับประคองดูแล สั่งสอนอย่างเหมาะสมตามวัย จะช่วยให้เขาเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ
************************************************************
เอกสารอ้างอิง: ไพรัตน์ พฤกษชาติคุณากร. บรรณาธิการ. จิตเวชศาสตร์สำหรับประชาชน. เชียงใหม่: โรงพิมพ์นันทพันธ์, 2542.
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมสุขภาพจิต
หากสนใจหาพี่เลี้ยงเด็ก สามารถติดต่อสอบถามปรึกษาเรื่อง พี่เลี้ยงเด็ก, พี่เลี้ยงฟิลิปปินส์ ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.kidnario.com
Facebook : https://www.facebook.com/KiDNARIO