|
แนวคิดเรื่องอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต
ห่างหายไปนาน ขออภัยไม่ว่างที่จะมาอัพบล๊อกเลยครับ วันนี้มีโอกาสอันดีจึงขอพล่ามนิดนึง
คราวนี้ขอเป็นเรื่องนามธรรมครับ เรื่องเวลา-อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต
ในความคิดของผม...
อดีต-ปัจจุบัน-อนาคตนั้น เป็นช่วงเวลาที่ต่อเนื่องกัน
เพียงแต่ว่าแต่ละคนจะขีดเส้นแบ่งอย่างไร และใช้อะไรขีดแบ่ง
บางแห่งแบ่งเวลาเป็น 60 วินาที บางคนแบ่งโดยใช้ของใกล้ตัว เช่น ชั่วน้ำเดือด
แท้จริง เวลาเป็นของสากล เป็นของทุกคน ขึ้นกับการที่เราจะฉลาดจัดการมันหรือไม่ มันไม่เคยมีสเกล จนกระทั่งคนแบ่งให้มัน
และเมื่อมีสเกล เรายึดติดกับตัวเลขที่กำกับเวลาไปเสียหมด ทำให้เราหลงลืมคอนเซ็ปต์ใหญ่ของการเวลา
จริงๆเวลาแบ่งออกได้โดยใช้ตัวที่เรียกว่าปัจจุบัน ก่อนหน้าปัจจุบันทั้งหมดคืออดีต เช่นเดียวกับหลังปัจจุบันคืออนาคต
หากแต่ว่าขนาดของปัจจุบันของคนช่างต่างกัน ขึ้นกับการรับรู้และการอ้างอิงจากสิ่งแวดล้อม
พูดไปก็ตลก เวลาของเราบนโลกตามอายุเฉลี่ย 60 ปีนั้น ถือว่าเป็นเศษเสี้ยวของเวลา เมื่อเทียบกับสเกลของการถือกำเนิดจักรวาลหรือแม้แต่โลกที่อยู่ในหน่วยหมื่นล้านถึงล้านล้านปี
แต่เรามักเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง คิดว่าเวลาที่มีที่เราใช้นั้นช่างเนิ่นนานพอที่จะทำให้เราเกิดความประมาทในการใช้ชีวิต
ทั้งๆที่เวลาที่อยู่กับเราเองนั้น เป็นแค่เศษๆเท่านั้น และ...
ไม่มีใครรู้ว่าเราจะตายเมื่อไหร่ อาจจะวันนี้ พรุ่งนี้ หรืออีก 30 40 ปีก็เป็นได้
แต่เรามักจะกั๊ก มักจะไม่ใช้ชีวิตอย่างฉลาดและอย่างสมดุลระหว่างความสุขกับเป้าหมายในชีวิต
พูดง่าย เราใช้ชีวิตในคอนเซ็ปต์เวลาที่อาจจะผิด...
สำหรับผมนั้น
อดีต คือความรู้ คือประสบการณ์ที่เอาไว้ใช้เพื่อเรียนรู้ว่าควรทำตัวอย่างไร ควรปฏิบัติอย่างไร
1 วินาทีที่แล้วก็เป็นอดีตได้ เหมือนๆกับ 30 หรือ 2500 ปีที่แล้วที่เป็นอดีตเช่นกัน
อดีต ถ้าเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง สกัดเฉพาะแก่นของข้อดีข้อเสียของอดีตโดยสลัดเอาอารมณ์ทิ้งไปเสีย ...ทั้งอดีตของตัวเองและอดีตของคนอื่นแล้ว จะมีประโยชน์ในการดำเนินชีวิต ณ ปัจจุบันมาก
อดีตของคนอื่นซึ่งรวมถึงประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ในพงศาวดารหรือนิทานบอกเล่านั้น ก็มีประโยชน์เช่นเดียวกับอดีตของเราเอง หากเราใช้เป็นและคัดมาเฉพาะแก่นของมัน โดยไม่มีอารมณ์พึงพอใจหรือขัดใจมาเป็นเครื่องฉุดรั้ง
ส่วนอนาคต คือความคาดหวัง คือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่สมองเราคาดหวังไว้ หรือเรียนรู้จากอดีตนั่นแหละว่า ทำสิ่งหนึ่งจะได้อีกสิ่งหนึ่ง
อนาคตจะดีหรือไม่ดีคาดเดาได้ แต่จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ก็บอกไม่ได้ อนาคตจะดีหรือไม่ ขึ้นกับผล ณ ปัจจุบัน
อนาคตที่ดีขึ้นกับปัจจุบันและคาดเดาได้บางส่วน เหมือนกับการที่เราหุงข้าวแล้วเราคาดเดาได้ว่าเราต้องมีข้าวสวยสุกหอมไว้กิน
อนาคตอันไกลก็อาจคาดเดาได้ หากเรามีสติ มีปัญญาเพียงพอ และที่สำคัญ คือมีจิตใจที่สงบพอและกอปรด้วยความเที่ยงธรรมไม่เข้าข้างตัวเอง
ฉะนั้น เวลา ณ ปัจจุบันสำคัญที่สุด
จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด โดยเอาอดีตมาเป็นเครื่องมือเรียนรู้สิ่งที่ควรทำ ณ ปัจจุบัน เพื่อที่ว่าจะได้ไม่เสียใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ณ อนาคต
เรามาพยายามกันนะครับ...
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2552 15:39:13 น. |
|
9 comments
|
Counter : 4257 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: i am_giddy วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:17:44 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:40:04 น. |
|
|
|
โดย: buddhi วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:30:02 น. |
|
|
|
โดย: zardamonoxication (zardamon ) วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:9:33:52 น. |
|
|
|
โดย: ดาว IP: 124.120.71.175 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:40:02 น. |
|
|
|
โดย: คนมีอดีต IP: 118.173.128.113 วันที่: 17 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:38:50 น. |
|
|
|
โดย: น้องรุ่ง IP: 210.86.169.120 วันที่: 12 มกราคม 2560 เวลา:13:33:31 น. |
|
|
|
โดย: ปัจจุบัน IP: 49.237.38.79 วันที่: 25 มกราคม 2567 เวลา:10:54:38 น. |
|
|
|
| |
|
|
มันเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ ว่า อดีต ปัจจุบัน อนาคต คืออะไร
แต่มันยากที่จะควบคุมสติให้อยู่กับปัจจุบัน
เรามักจะเผลอ ทุกข์ และเจ็บปวดกับอดีต
ปัจจุบันธรรม จึงเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด
ที่จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดี
แต่มันยากจริงๆ
ยกมือ...จะพยายมเช่นกันค่ะ