Group Blog
 
 
ธันวาคม 2567
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 ธันวาคม 2567
 
All Blogs
 
หนังสือและเครื่องมือในการอ่านที่เปลี่ยนแปลงไป

ณ ปัจจุบัน  เราเปลี่ยนจากอ่านหนังสือเล่ม
มาเป็นอ่าน E-Book เกือบจะ 100% แล้ว 

หลายปีก่อน มีแอปพลิเคชั่นที่ใช้อ่านหนังสือในมือถือเกิดขึ้น แต่มือถือของเราจอไม่ใหญ่ - เราไม่ใช้เพราะถือไม่ถนัด  ณ เวลานั้นเรารู้จักเครื่อง Kindle แต่ไม่ได้อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ จึงไม่คิดซื้อมาลอง  แต่ก็หาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องอ่านที่มีขายในไทยมาระยะหนึ่ง จนไปเดินเที่ยวงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เจอบูธขายเครื่องอ่าน ยี่ห้อ ฺBOOX ตัดสินใจซื้อมาใช้งาน ดาวน์โหลดหนังสือฟรี มาทดลองอ่าน ที่แอป Ookbee และ MEB ได้เป็นไฟล์ E-PUB ชอบตรงที่ปรับขยายขนาดตัวหนังสือได้ ...จากนั้นจึงอ่านหนังสือเล่ม สลับกับไฟล์หนังสือในแอป รวมถึงเริ่มซื้อ E-book มาอ่าน ...ช่วงนั้น ยังเน้นไปดาวน์โหลดหนังสือฟรีมาเก็บขึ้นชั้นหนังสือไว้ - เป็นกองดองแบบออนไลน์ 

เวลาล่วงเลยผ่านไป ....เครื่องก็เก่า พลาสติกเริ่มเหนียว และรู้สึกว่าขนาดจอ 6 นิ้ว ไม่สามารถอ่านไฟล์ PDF แบบสบายตาได้  - ช่วงนั้นหน่วยงานรัฐ ทำหนังสือพิเศษ ก็จะมีไฟล์ PDF ให้ดาวน์โหลดด้วย ซึ่งเราก็ดาวน์โหลดมาเก็บไว้ ถือคติว่า "มีไว้ก่อน อ่านเมื่อไหร่ก็ได้"  เป็นคติประจำตัวที่ใช้เวลาซื้อหนังสือเล่มเช่นกัน - เราจึงหาข้อมูลเพิ่มเติม จนไปเข้ากลุ่ม "ชุมชนคนอ่าน E-Book" @ Facebook  ปรากฎว่า มีเครื่องอ่านอีบุ๊คหลากหลายยี่ห้อ มีเพื่อนสมาชิกแนะนำและรีวิวไว้น่าสนใจมากมาย   

เมื่อศึกษาข้อมูลได้เพียงพอแล้ว ก็ตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ ยี่ห้อใหม่ มีตัวแทนจำหน่ายในไทย คือ
Meebook รุ่น P 7.8 Pro - จอขาวดำ ขนาด 7.8 นิ้ว อ่านไฟล์ E-Pub ได้อยู่แล้ว และอ่านไฟล์ PDF ได้ โดยบางไฟล์เรากลับจออ่านแนวนอน ...เออ เข้าท่า ได้อยู่นะ 



เครื่องอ่านเครื่องเดียวก็น่าจะเพียงพอ สำหรับแอปพลิเคชั่นสำหรับอ่านหนังสือนะ  แต่กิเลสชักนำ ทำให้เรามีความรู้สึกว่า  หนังสือภาษาอังกฤษที่ Amazon Kiddle เป็นแนวคลาสิกก็เยอะ บางครั้งเพื่อนก็มาโพสต์แนะนำ หนังสือฟรีด้วย  ถึงเราจะลงแอป Kiddle ไว้ในเครื่อง สะสมหนังสือไว้ในชั้นไว้มากมาย หลายคนที่ใช้เครื่องก็จะมีความเห็นว่า ...อ่านหนังสือจาก Amazon Kiddle ควรใช้เครื่อง Kiddle  จะเหมาะสมกว่า ....เราจึงซื้อเครื่อง Kiddle ...แต่ทว่า ไม่ได้อ่านบ่อย ยังไม่เคยอ่านจบเล่มเลย เราจึงประกาศขายเครื่อง Kiddle เครื่องแรกนั้นไป   แต่ความรู้สึกลึก ๆ เราก็ยังอยากมีเครื่อง Kiddle  เพราะกิเลสล้วน ๆ เลย  เมื่อแอดมินกลุ่มประกาศขายเครื่อง Kiddle รุ่น 2019 10th Generation  สีขาวพร้อมเคสสีแดง ...ราคาจับต้องได้  จึงตัดสินใจคว้าไว้มาเป็นสมบัติส่วนตัวอีกเครื่อง 


ทุกวันนี้ เครื่อง Kiddle (ขวา) ยังคงอ่านค้างที่เล่มนี้ .... สิ่งที่ชอบเมื่ออ่านบนเครื่องคือ การเรียกใช้ Dictionary ง่ายกว่าเมื่ออ่านบนแอป  และใช้ภาพหนังสือเล่มที่อ่านเป็นภาพพักหน้าจอได้เลย  

เราใช้งานเครื่องอ่านขนาด 7.8 นิ้ว พกพาไปไหนต่อไหนมา แล้วเทคโนโลยี "จอสี" ก็เข้ามาในวงการเครื่องอ่าน  และแล้วกิเลสก็ชักจูงให้เราตัดสินใจซื้อเครื่องที่ 3 (ซ้าย) คือ Meebook M6C จอสีขนาด 6 นิ้ว - สีขาว  ....เครื่องสีขาว ที่ทำให้เราสนุกกับการตกแต่งเครื่อง แล้วเครื่องนี้ก็กลายเป็นเครื่องพกพาระหว่างวัน ใช้อ่านหนังสือที่เป็นไฟล์ E-Pub  เป็นหลัก  อ่านไฟล์ PDF ได้บ้าง 

อันที่จริง มันควรจะต้องจบที่ 3 เครื่อง  แต่ทว่าเกิดเรื่อง กองหนังสือในบ้านโดนปลวกช่วยอ่าน 2 รอบ โดนน้ำท่วมเข้าบ้านไป 1 ครั้ง  มันยังจำฝังใจ ประกอบกับจำเป็นต้องรีโนเวทบ้าน พื้นที่ในบ้านลดลง ....จึงจำเป็นต้อง "กำจัด" หนังสือที่กองอยู่ในมุนนั้นมุมนี้ กระจัดกระจายตามห้องต่าง ๆ  คัดเลือกส่งบริจาคไปแล้ว บางเรื่องคิดว่าจะ "ขายได้" ก็เอามาประกาศขาย ...ซึ่งก็ขายได้นั่นแหละ ...แต่ขายได้ช้า แล้วกฎในการโพสต์ขายตามกลุ่มในเฟซจุกจิก กระบวนการเตรียมข้อมูลเพื่อขายทาง Shopee ก็เยอะ  ....แต่สิ่งสำคัญที่เหนี่ยวรั้งก็คือ "ความทรงจำเกี่ยวกับหนังสือเล่มนั้น ๆ "  ทำให้เรา คิดกลับไปกลับมา ..ขายหรือไม่ขาย  และความต้องการ "เก็บ" มีมากกว่า เราจึงเลือกเก็บหนังสือบางเล่ม ด้วยวิธีการใหม่ เพื่อให้เราได้อ่านหนังสือเล่มนั้นได้ง่ายขึ้น นั่นคือ scan ทำเป็นหนังสือ PDF อ่านด้วยเครื่องอ่าน  

คิดตกแล้วก็ต้องลงทุน  ซื้อเครื่องสแกนเนอร์มือสอง แล้วทำใจ เริ่มจัดการจากหนังสือและการ์ตูนเก่า กระดาษเหลือง เริ่มกรอบ ...แม้จะมีหลายขั้นตอน ...แต่พอได้ไฟล์หนังสือออกมา แล้วได้พื้นที่ว่างในบ้านเพิ่มขึ้น ก็เริ่มปล่อยวางได้มากขึ้น  

ตอนนี้ เราจัดการเปลี่ยนหนังสือเล่มเป็นหนังสือ PDF ไปมากมาย  ยังเก็บความทรงจำ ไม่ว่าจะเป็นลายเซ็นในหนังสือของแม่ ของพ่อ ลายเซ็นนักเขียน สายเซ็นคนที่ให้หนังสือ และที่สำคัญ คือ ได้อ่านหนังสือเก่า "อีกครั้ง"  มันดีมาก ๆ เลยล่ะ 

แต่อุปสรรค์ยังคงมีเมื่อใช้เครื่องจอ 7.8  อ่านการ์ตูน  นั่นคือเหตุผล ที่ทำให้ต้องซื้อเครื่องที่ 4 คือ  Boox Go 10.3  จอขาวดำ ขนาด 10.3 นิ้ว ซึ่งเน้นไว้ใช้งานในบ้าน สำหรับอ่านหนังสือ PDF เป็นหลัก

 
ที่จริงเรามีเครื่องที่ 5 คือ Lenovo M10 เป็นแทปเลตไว้ใช้ดูซีรี่ส์เป็นหลัก ดูภาพปกสีของหนังสือที่สแกนมา แล้วใช้อ่านบ้าง บางครั้ง   (เคยเป็นเครื่องที่ใช้อ่านไฟล์ PDF ก่อนจะซื้อเครื่องข้างบน) 


และเครื่องสุดท้าย คือ มือถือที่พกพานั่นเอง ...ลงแอปอ่านหนังสือไว้ด้วย เผื่อลืมหยิบ E-Book reader เข้ากระเป๋า หรือเครื่องแบตหมด ก็ยังอ่านหนังสือที่ค้างอยู่ได้  

ทั้งหลายทั้งปวงที่พิมพ์บันทีกมานี้ ก็เพื่อจะบอกว่า  เรายังคงมี "หนังสือ" ติดมืออยู่ตลอดเวลา เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบเท่านั้นเอง ...เรายัง "อ่าน" หนังสืออยู่เหมือนเดิม แต่มีซีรีส์และโซเซียลมีเดียมาแบ่งเวลาอ่านออกไปบ้าง - เท่านั้นแหละ 

และเราก็ยัง "ซื้อหนังสือ" เช่นเดิม เพียงแต่เปลี่ยนมาซื้อบนเวปไซค์และอ่านบนแอปพลิเคชั่น 



ซื้อที่เวปไซค์  MEB เป็นร้านหนังสือหลัก แล้วอ่านที่ MEB - E-reader กับ The 1 Book
ส่วนร้านนายอินทร์ เดิมเราก็ซื้อที่เวปไซค์แล้วอ่านที่ Naiin Pann ซึ่งประกาศว่าจะไม่พัฒนาต่อ แต่มี Naiin Reader มาทดแทน รองรับการใช้งานบนเครื่อง E-Reader อยู่ระหว่างพัฒนา ถ้าเสถียรแล้ว เราอ่านเปลี่ยนมาซื้อหนังสือเครืออัมรินทร์ที่ร้านนายอินทร์ 

บางครั้งก็อ่านหนังสือฟรี แบบออนไลน์ เป็นรายตอน บนแอป 



และก็ยังมีบริการ "เช่าอ่าน" และ "ยืมอ่าน" อีก 2 แอปที่เราลงไว้ใช้งานในเครื่องด้วย 



สรุปได้ว่า เทคโนโลยีก้าวหน้า พัฒนาไป เราก็ปรับเปลี่ยนตัวเองไปตามเทคโนโลยีนั้น
โดยไม่ทิ้งความเป็น "หนอนหนังสือ" และ "นักสะสมหนังสือ" แต่อย่างใด 

และนี่คือ เรื่องราวสุดท้ายของกลุ่มนี้ ....
บันทึกการซื้อจะไม่มี
แต่บันทึกการอ่านยังคงอยู่ในกลุ่มอื่นๆ ต่อไป


Create Date : 07 ธันวาคม 2567
Last Update : 7 ธันวาคม 2567 21:06:06 น. 0 comments
Counter : 351 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณ**mp5**


ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นัทธ์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
Friends' blogs
[Add นัทธ์'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.