ชีวิตนี้สั้นนัก..... แต่ก็อยากจะเดินทางไปทุกแห่งหน...ตามเหตุเเละปัจจัยที่พึงมี
Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องเล่าของนักเดินทางตัวน้อย+++++กว่าจะถึงพันไมล์+++++


สวัสดีค่ะ คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา ที่รักทุกท่านก่ะ หนูคิดถึงคุณอาทุกท่านมากๆ เยยย...หม่ำๆ ตั้งแต่หนูกลับจากนิวซีแลนด์ มาพักนึงแล้ว หนูยังไม่ได้ไปไหนไกลๆ แล้วถ่ายรูปมาฝากเลยค่ะ เห็นคุณพ่อกะคุณแม่บ่นว่า กระเป๋าฉีก รู้สึกว่าคุณแม่จะกระเป๋าฉีกมากกว่าหรือไงเนี่ย......... หนูม่ายเข้าจายย หนูได้แต่ไปเที่ยวไกล้ๆ บ้าน ที่ ตลาดน้ำตลิ่งชัน, ตลาดน้ำวัดดอนหวาย กับ ตลาดนัดวัดไร่ขิง เพราะว่าไกล้บ้านของหนูค่ะ


และตอนนี้หนูก็อายุครบ 1 ขวบแย้ว นะก๊ะ หนูรบเร้าคุณพ่อให้เล่าเรื่องการเดินทางของหนูตั้งแต่ก่อนหนูลืมตามาดูโลก จนถึงทุกวันนี้ ว่าหนูไปไหนมาบ้าง บางทีหนูก็ลืมไปแล้วบ้าง แต่ยังดีนะคะ ที่คุณพ่อเก็บภาพไว้ให้หนูดูตอนโตด้วยล่ะค่ะ






มาย้อนอดีตกะหนูกันนะคะ

คุณพ่อเล่าว่า คุณพ่อกะคุณแม่รู้จักกันจากการไปดำน้ำที่ สุรินทร์ ริเชริว ตาชัย กับมนุษย์กบไทย เมื่อต้นปี 2539 ค่ะ เนื่องจากเป็นคนรักธรรมชาติ รักการท่องเที่ยว เหมือนๆ กัน ทั้งคู่เลยตกลงแต่งงานกันปลายปี 2539 นั่นเอง และด้วยความที่ยังไม่พร้อมและยังรักการท่องเที่ยวอยู่ หนูเลยยังไม่ได้มา ระหว่างนั้นคุณพ่อ+และคุณแม่ ก็ท่องเที่ยวที่ต่างๆ มากมายหลายที่ จนเมื่อชีวิตเริ่มพร้อมขึ้น ก็อยากที่จะมีน้องสักคน คุณแม่ของหนูตั้งท้อง 3 ครั้ง แต่พี่ของหนูทั้ง 3 คน ไม่พร้อม เลยไม่ได้มา คุณหมอบอกว่าหาสาเหตุไม่เจอ...........................ทั้งที่ตรวจสุขภาพและทำตามคำแนะนำของคุณหมอหลายท่าน หลายโรงพยาบาล





เมื่อต้นปี 2546 ชีวิตคู่ของคุณพ่อ คุณแม่ ถึงช่วงเปราะบางของชีวิต ต่างคนต่างเดินคนละทาง เพื่อค้นหาทางเดินของตัวเอง ที่คิดว่าเหมาะสม คุณพ่อใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัดกับงานประจำ มีแค่เดือนละครั้ง สองครั้ง ที่เข้ามาเยี่ยมคุณย่าของหนูที่กรุงเทพฯ ส่วนคุณแม่ก็ไปกลับกรุงเทพฯ – ภูเก็ต บ่อยครั้ง ทำงานเป็น Dive Leader บนเรือดำน้ำแบบ Live aboard คุณแม่หนูเป็น Instructor ดำน้ำด้วยค่ะ ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยเป็นเวลาเกือบปี แต่ก็มีสาเหตุให้คุณพ่อและคุณแม่กลับมาเจอกัน เป็นสาเหตุบังเอิญ จริงๆ ค่ะ ก็คืออย่างที่หนูเล่าไว้ว่าคุณพ่อและคุณแม่แกเป็นนักท่องเที่ยวตัวยง แกไปเที่ยวเมืองหลวงพระบางหลายครั้ง รู้จักคุณป้าคนนึงที่นั่น ชื่อ ป้าจุง (หนูยังไม่รู้จักเลย ถ้าหนูไปเยี่ยมป้าจุงเมื่อไหร่ หนูจะกลับมาเล่านะคะ) ก็เคารพนับถือกันมากไปครั้งใดก็เอาของไปฝากกัน ถึงขนาดที่คุณพ่อไม่ต้องนอนเกสต์เฮาทส์ นอนฟรีที่บ้านป้าจุงได้เลย ช่วงที่คุณพ่อกะคุณแม่แยกทางกัน ป้าจุงโทรศัพท์มาหาคุณพ่อที่เมืองไทย ว่าจะมาเปลี่ยนเครื่องฯ ที่เมืองไทย เพื่อไปเยี่ยมลูกสาวที่ฝรั่งเศส มีเวลาว่างพักนึง อยากเจอจะได้ทานข้าว, คุยกัน ฯลฯ แต่พอดีว่าโทรศัพท์เป็นเบอร์ของคุณแม่ คุณแม่ก็เลยจำเป็นจะต้องโทรมาบอกคุณพ่อ และก็ได้ไปเจอป้าจุงที่สนามบินดอนเมือง งานนี้คุณแม่ก็ไปด้วย คิ คิ หนูว่าคุณแม่ต้องคิดถึงคุณพ่อมากๆ แน่เลย คิก คิก คืนวันนั้นมีเพื่อนๆ คุณพ่อ+คุณแม่ หลายคนที่รู้จักป้าจุงไปด้วยค่ะ หลังจากส่งป้าจุงขึ้นเครื่องบินเสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับ ก่อนจากกันคืนนั้นคุณพ่อจับมือคุณแม่และก็โอบไหล่..............


หลังจากนั้นคุณพ่อและคุณแม่ คงจะลดฑิฐิ ลงมากันทั้งคู่ กลับไปทบทวนวันเวลาดีๆ ที่ผ่านมา.....................................บรรยากาศดีๆ ก็เริ่มกลับเข้ามา คุณพ่อเล่าไป นิ่งก้มหน้า บางครั้งกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น บางอย่างที่คุณพ่อเล่า หนูไม่เข้าใจทั้งหมดหรอกค่ะ เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แต่หนูก็ดีใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกของคุณพ่อ+คุณแม่ ค่ะ

ภาพนี้หนูไม่เคยเห็นเลยนะคะ คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าเป็นภาพก่อนที่หนูเกิด ช่วงเดือนสิงหาคม 46 ที่คุณพ่อและคุณแม่กลับมาเดินไปพร้อมๆ กันอีกครั้ง ไปฮันนีมูนรอบสองที่เมือง Perth Australia ค่ะ




หลังจากกลับมาจากฮันนีมูนรอบสอง คุณแม่รู้สึกไม่ปกติกับร่างกาย ไปพบคุณหมอ คุณหมอบอกข่าวดีให้ทราบว่าคุณแม่กำลังตั้งท้อง คราวนี้คุณแม่ต้องหยุดกิจกรรมทุกอย่าง โดยเฉพาะการออกกำลังกาย, การขับรถรวมถึงการทำงานด้วย ช่วง 3 เดือนแรก ยังไปทำงานบ้าง แต่หลังจาก 3 เดือนไปแล้ว คุณแม่เล่าว่าเกิดอาการแพ้ท้องอย่างมาก ไปไหนไม่ได้เลย ไม่ค่อยมีแรง รวมถึงกลัวว่าหนูจะไม่ยอมมาอีก ต้องเคลื่อนไหวตัวช้าๆ, ห้ามออกแรง, ไม่เอื้อมไปยกของ, ต้องไปพบหมอตามกำหนด และก็ต้องฉีดยากันแท้ง บ่อยมากจนสะโพกพรุนไปหมด อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการพบคุณหมอเพื่อดูแลครรภ์แต่ละครั้งสูงมาก ถ้าใครมีบุตรยาก น่าจะทราบนะคะ (คุณแม่บอก)

ภาพนี้เป็นคุณพ่อบอกว่าเป็นภาพอัลตร้าซาวน์ ภาพแรกของหนูที่ทุกคนได้เห็น คุณพ่อขอคุณหมอเก็บไว้ แต่หนูดูแล้วยังไงก็ม่ายเหมือนหนู........หนูน่ารักกว่าตั้งเยอะ จริง ไหมคะ



ระยะเวลาจากช่วง 3 เดือนจนถึง 9 เดือน คุณแม่เหมือนคนป่วย ไม่มีแรง นอนอยู่กับบ้านทั้งวันทั้งคืน น่าสงสารมากค่ะ คุณพ่อบอกว่า หลายครั้งที่คุณแม่นอนร้องไห้ เพราะไม่สบายตัว ปวดหลัง จะออกจากบ้านก็แต่ตอนที่คุณหมอนัด กับออกไปฉีดยากันแท้งที่คลีนิคใกล้บ้าน แต่ก็โชคดีที่เพื่อนสนิทก็มาเยี่ยมกันที่บ้านบ่อยๆ มาคุย มาทานข้าวกันที่บ้านน่ะค่ะ ในภาพก็น้านุ้ย, น้าภิง, น้าไก่, น้ากุ๊ก ยังมีอีกหลายๆ น้านะคะที่มาเยี่ยมที่บ้าน


คุณแม่ฝากท้องที่รพ. ... ........ คุณหมอบุญลอ ใจดีมากๆ ช่วยให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ ทำให้คลายกังวลได้มาก พอถึงช่วงใกล้คลอดหนู คุณแม่ต่อรองคุณหมอให้นัดทำคลอดเร็วๆ เพราะทรมานจากการแพ้ท้องจนสุขภาพจิตแย่ไป คุณหมอก็บอก น่านะ ทนอีกหน่อยนึง ก็ต่อลองกันจนได้วันลงตัว วันที่ 20 เมษายน 2547 เวลาตามที่เราดูฤกษ์กันมา ว่าดีที่สุด จริงๆ จะเอาวันสงกรานต์แล้ว แต่คุณหมอไม่ยอม คิกๆๆ

เช้าวันคลอดหนู คุณพ่อพาคุณแม่เข้าไปเช็คอินแต่เช้า คิกๆ เล่าเหมือนว่าไปเที่ยวแถมจัดกระเป๋าเหมือนไปเที่ยวเลย แต่เปลี่ยนจากสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ มาเป็นโรงพยาบาลแทน คุณพี่พยาบาล เข้ามาดูแลทั้งหนูและคุณแม่อย่างดี ก็หนูได้ยินนี่คะ

พอใกล้กำหนดเวลา คุณพ่อได้รับอนุญาตให้เข้าไปถ่ายรูปได้ด้วย คุณพ่อเตรียมกล้องวิดีโอเข้าไป พร้อมกับยาดม กันเป็นลม เพราะว่าตอนเจาะน้ำคร่ำตรวจตอน 6-7 เดือน ก็เข้าไปถ่ายด้วย แต่ดันเป็นลมวูบลงไปนั่ง เสียฟอร์มหมดเยยย คุณพ่อหนู
คุณพ่อต้องใส่เสื้อคลุมทั้งตัว คลุมผม คาดผ้าปิดปาก พอได้ฤกษ์ของเรา เก๊งงงง คุณหมอ ซึ่งเตรียมจะลงมีดมานานแล้ว ก็จัดการกะพุงคุณแม่ ส่วนคุณพ่อก็ถ่ายวิดีโอไปเรื่อย แค่ 4 นาทีหลังจากลงมีดครั้งแรกเท่านั้นเองหนูก็โผล่ ออกมาดูโลก ด้วยท่าเหมือนกบ ใครไม่เชื่อมาขอดูวิดีโอที่บ้านได้นะคะ ท่ากบจิงๆ อ่ะค่ะ คราวนี้คุณพ่อไม่เป็นลม เดินถ่ายหนูตั้งแต่ห้องคลอดยันห้องเด็กแรกเกิด กันผิดตัว คุณพ่อว่า ..................... จนคุณพี่พยาบาลเอาป้ายชื่อน้องพันไมล์มาผูกข้อมือหนู คุณพ่อถึงยอมออกจากห้อง ไปถ่ายต่อนอกห้องและก็ร่วมดีใจกะญาติๆ ที่มาเยี่ยม วันนี้หนูมีเพื่อนที่เกิดวันเดียวกะหนู 8 คน หนูเป็นคนที่ 6 ของวันนั้น และหนูก็มีชื่อจริงอยู่คนเดียวค่ะ ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ มีแต่ชื่อนามสกุลผูกแขนไว้


ภาพนี้เป็นภาพนิ่งภาพแรกของหนู ที่หนูเดินทางมาถึง พี่พยาบาลใจดีถ่ายให้เป็นที่ระลึกค่ะ



คุณพ่อบอกว่าตอนหนูออกมาหนูหน้าตาเหี่ยวจัง แถมมีไขขาวๆ ติดที่หน้าด้วย กว่าคุณพ่อจะได้อุ้มหนูครั้งแรกในชีวิตก็ต้องรอให้หนูพักปรับตัวอยู่ในห้องแรกเกิด อีก 6 ชั่วโมง ถ้าใครพอจะหลับตานึกภาพช่วงเวลา 6 ชม.แรกได้นั้น จะเห็นภาพคุณพ่อหนูขึ้นลงระหว่างห้องพักกะห้องเด็กแรกเกิด เป็น 10 ครั้ง เพื่อมายืนเกาะกระจกมองเฝ้ามองหนูค่ะ


และคุณแม่ก็กลับขึ้นห้องมาในสภาพยังสลึมสลือ หลังผ่าตัดคุณพ่อเปิดวิดีโอเทปตอนคลอดหนู ให้คนที่ไปเยี่ยมได้ชมกันหลายรอบ จนคุณหมอมาพอดี คุณหมอเลยบอกว่าอ้าวนึกว่าถ่ายกล้องธรรมดา เป็นวิดิโอหรอกหรือ โรงพยาบาลเขาอนุญาตแค่ภาพนิ่งเท่านั้นนะ แต่คุณหมอก็ใจดีบอกว่าเก็บไว้ก็แล้วกัน คิกๆ พอดีกล้องวิดีโอของคุณพ่อ หน้าตาคล้ายกับกล้องภาพนิ่งมั๊งคะ ถึงไม่มีใครในห้องคลอดได้ห้าม คุณอาอย่าไปบอกใครนะคะ เดี๋ยวคุณพ่อโดนดุ


และการเดินทางของหนูก็เริ่มขึ้นค่ะ พี่พยาบาลเข็นตะกร้าใส่หนูมาที่ห้องพัก พี่เขาอุ้มหนูส่งให้คุณพ่อก่อนคนแรก คุณพ่อปลื้มมากกกกกกกกกกก ท่าทางเก้ เก้ กัง กัง แต่หนูก็รู้ถึงความอบอุ่นที่ได้รับ ทุกๆ คนร่วมชื่นชมหนู หนูครึ่งหลับครึ่งตื่น ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่หรอกค่ะ



หนูอยู่โรงพยาบาล 3 คืน รุ่งขึ้นถึงกลับบ้านได้ หนูได้เข้าห้างครั้งแรกด้วยความจำเป็นก็วันนี้ละค่ะ ไม่งั้นคงไม่มีกับข้าวกินที่บ้าน แต่ก็รีบซื้อ รีบกลับค่ะ

ช่วง 2 เดือนแรกหนูกะคุณแม่ได้แต่อยู่บ้าน นอกจากไปพบคุณหมอและซื้อกับข้าวเท่านั้นละค่ะที่ได้ออกจากบ้าน คุณแม่หาพี่เลี้ยงมาให้ช่วยเลี้ยงหนูคนนึง แต่พี่เขาไม่สะอาดเท่าไหร่ คุณแม่ต้องให้ออก แล้วหนูถึงได้พี่เลี้ยงคนใหม่มาแบ่งเบาภาระคุณแม่ ส่วนคุณพ่อแกก็เลี้ยงหนูไม่เก่ง (แม่บอก) ได้แต่อุ้มหนูเล่นกับช่วยให้กำลังใจแม่ คุณพ่อบอกว่า ยากนะลูก ให้กำลังใจน่ะ คิกๆ ระหว่างนั้นตำรง ตำราเลี้ยงลูกหลายเล่ม คุณแม่อ่านหมด


ภาพนี้หนูกำลังถูกขลิบผมจากพระคุณเจ้า คุณพ่อ+คุณแม่ ไม่ยอมให้หนูโกนผมไฟหรอกค่ะ แค่ขลิบผมเอาฤกษ์เอาชัยให้หนูโชคดี จากพระสงค์ กับคุณตา ก็เพียงพอแล้ว


To be continue//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E3507253/E3507253.html


Create Date : 14 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 14 มีนาคม 2551 21:58:41 น. 14 comments
Counter : 951 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ ....
เคยอ่านและเห็นรูปของน้องพันไมล์ตั้งแต่ห้อง BP
ยังขออนุญาตเซฟรูปน้องไว้หลายรูปเลยค่ะ
ดีใจที่มีบล๊อคของน้องพันไมล์ค่ะ
จะได้เห็นรูปน่ารักๆของน้องอีก


โดย: Petit Patty วันที่: 14 พฤศจิกายน 2548 เวลา:9:44:49 น.  

 
ยินดีเจ้าค่า.........คุณอา Petit Patty


โดย: Art999. IP: 202.44.210.42 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:27:42 น.  

 
เพิ่งได้เข้ามา blog ของน้องพันไมล์
อ่านแล้วซึ้งมากๆเลย
สมกับชื่อ "พันไมล์" จริงๆ
แล้วพี่จะคอยติดตามเรื่องของน้องต่อไปเรื่อยๆนะคะ


โดย: KaLaMunG IP: 210.4.151.126 วันที่: 8 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:24:22 น.  

 
เรื่องสนุกมากๆเลยค่ะ อ่านไปซึ้งไปยิ้มไป.. ชอบจัง...

: )


โดย: kimmiez (k i m m i e z ) วันที่: 16 สิงหาคม 2549 เวลา:15:52:46 น.  

 
เห็นรูปแรก ตกใจเลยค่ะ น้องลงไปได้ไง เก่งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: อาณี IP: 203.144.200.126 วันที่: 23 สิงหาคม 2549 เวลา:11:32:06 น.  

 
ต้องขอบคุณหลายๆ ท่านที่เข้ามาถามถึงน้องฯ แล้วก็เอ็นดูลูกสาวนะครับ






จะเริ่มอย่างไรดีล่ะ คือตั้งแต่มีข่าวเรื่องนางงามเด็กของอเมริกา วัย 8 ขวบ ถูกข่มขืนแล้วฆ่าเสียชีวิต ที่มีข่าวใหญ่ๆ ในบ้านเราเมื่อไม่นานมานี้และข่าวอื่นๆ ที่ ไม่ดี ไม่ดีเกี่ยวกับเด็กนั้น

คนที่บ้านเริ่มไม่เห็นด้วยอย่างมากที่จะลงกระทู้ที่มีรูปน้องฯ อย่างชัดเจน ประกอบการพาไปเที่ยว ที่ผมได้มาเล่าอยู่บ่อยๆ



@#$%^&*UG>L:O(&()1=฿฿๕๔๒๘๗๘ตตึยรร้ค_**&^%_ ที่พิมพ์ให้อ่านไม่ออก ก็หมายถึงคุยกันเยอะครับ ไม่ได้คุยกับเบาๆ ด้วย..................




ก็เห็นด้วยกะเค้า......ผลดี ผลเสีย ถ้ามาเทียบกัน หมายถึงว่าถ้าเกิดปัญหาขึ้น คงไม่คุ้มกันอย่างยิ่ง

เพราะเหตุผลตัวผมแค่รักลูก เห่อลูกอย่างมาก ยิ่งใครๆ ชื่นชม เราก็ภูมิใจ คงไม่เพียงพอที่จะมาหักล้างความคิดเห็นของแม่เค้าได้

ผมยอมรับ...................................ขอให้เข้าใจนะครับ



ก็คงขอยุติการโพสต์รูปลูก ไว้แค่นี้











ท่านใดที่เก็บรูปน้องไว้ไม่มีปัญหานะครับ ขอเพียงท่านเก็บไว้ดูเท่านั้นก็แล้วกัน ขอร้องว่าอย่าโพสต์นะครับ ขอร้อง

ไม่อยากที่จะตั้งกระทู้บอกเล่าอย่างโจ่งแจ้ง........ขอเงียบๆ และกระทู้ก็จะตกไปเอง
















ผมยังไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ ยังอยู่ใน BP เหมือนเดิม เพราะทั้งรักและหลงไหลการท่องเที่ยวอยู่ ไม่เปลี่ยนแปลง



ขอบคุณทุกท่านครับ.....


Art999.


โดย: Art999 IP: 58.9.82.143 วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:21:51:51 น.  

 
เป็นครอบครัวที่น่ารักจริงๆครับ
น่าอิจฉาจริงๆ


โดย: Dr.Manta วันที่: 25 เมษายน 2550 เวลา:15:03:42 น.  

 


โดย: Art999. วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:15:06:49 น.  

 

Hello from Japan.......


โดย: Art999. วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:19:40:44 น.  

 
เรื่องยาวแต่เล่าได้น่ารักมาก นั่งอ่านจนจบ


โดย: ระแนงไม้ (ระแนงไม้ ) วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:0:30:18 น.  

 
น่ารักมากเลยครับพี่

อยากมีลูกกะเค้ามั่งจัง

ห้าๆๆ


โดย: i will ok วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:19:51:37 น.  

 
แค่เล่าตอนตั้งท้อง marzoก็ปอดที่จะมีน้องเองแล้วคะ อุ่มลูกคนอื่นดีกว่า


โดย: marzo วันที่: 24 มกราคม 2553 เวลา:14:26:01 น.  

 
อ่านไปก็ยิ้มไป..อ่านไปก็นึกถึงเหตุการณืเรื่องราวของตัวเองตอนที่ตั้งท้อง และตอนที่กำลังจะคลอด..จนทำให้เข้าใจว่าคุณ Art999 คิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร..การได้เห็นหน้าลูกครั้งแรก ไม่ต่างกับ รักแรกพบเลย..รักตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า...แต่เราจะรู้สึกมหัศจรรย์กว่าคุณ art ตรงที่เราโชคดีที่ได้ทำหน้าที่แม่...ความรู้สึกตอนที่ลูกผ่านตัวเราออกมามันยิ่งกว่าสิ่งมหัศจรรย์..ลูกคือของขวัญจากสวรรค์..แม้ว่าเราจะประคองชีวิตครอบครัวมาได้เต็มที่ตอนลูกอายุแค่ สามขวบ..แต่เราก็ภูมิใจกับการได้ดูแลลูกมาคนเดียวจนวันนี้เธอโตเป็นสาวอายุ 15 แล้ว..ด้วยใจที่เป็รสุข...ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ..ยาวแต่ไม่เบื่อคะ..


โดย: TUNTRA IP: 124.122.192.2 วันที่: 19 มิถุนายน 2555 เวลา:0:04:05 น.  

 


โดย: Smileangle1982 วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:0:51:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Art999.
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชีวิตนี้สั้นนัก..... แต่ก็อยากจะเดินทางไปทุกแห่งหน...ตามเหตุเเละปัจจัยที่พึงมี
Friends' blogs
[Add Art999.'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.