Bloggang.com : ถปรร : โขน รามเกียรติ์ ลักษมีสีดา

โขน รามเกียรติ์ ลักษมีสีดา

โขน รามเกียรติ์ ลักษมีสีดา

เชิญชมฟรี ตามนโยบายของรัฐบาล จัดของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน

การแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ลักษมีสีดา
เนื่องในงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จังหวัดเชียงใหม่
วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2564
ณ ลานพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา จังหวัดเชียงใหม่
โดยวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่
สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม
(ภายใต้โครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมทั่วทิศแผ่นดินไทย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม)

เรื่องของนางสีดา เริ่มต้นขึ้นเมื่อพระนารายณ์ได้อวตารลงมาเกิดเป็นพระราม
พระลักษมีพระชายาแห่งพระนารายณ์จึงทรงอวตารลงไปเกิดเป็นคู่ครองของพระราม

ณ กรุงอโยธยาในครานั้น ท้าวทศรถผู้ครองนครมีอายุมากแล้ว ทั้งที่มีมเหสีถึงสามนางคือ พระนางเกาสุริยา พระนางไกยเกษี และพระนางสมุทรเทวี แต่พระองค์ก็หาได้มีพระโอรสธิดาไว้สืบราชวงศ์ไม่ ท้าวทศรถได้นำความนี้ปรึกษากับเหล่าฤๅษี ซึ่งพระฤๅษีกไลโกฎได้ทูลว่า ควรจะทำพิธีบวงสรวงขอพระโอรสธิดาจากเทพเจ้า ด้วยวิธีการกวนข้าวทิพย์ ท้าวทศรถจึงจัดพิธีการกวนข้าวทิพย์อย่างยิ่งใหญ่ภายในกรุงอโยธยาเพื่อวอนขอสิ่งที่พระองค์ปรารถนา

พระอิศวรจึงมีพระบัญชาให้พระรามลงอวตารเป็นพระโอรสแห่งท้าวทศรถ ซึ่งพระยาอนันตนาคราชผู้เป็นพระแท่นบรรทมของพระนารายณ์ก็ขอติดตามไปด้วย เมื่อพิธีเสร็จสิ้น ท้าวทศรถจึงแบ่งก้อนข้าวทิพย์ให้แก่มเหสีทั้งสามของพระองค์ แต่เหลือข้าวก้อนสุดท้ายอยู่ ข้าวทิพย์เหล่านี้มีกลิ่นหอมหวลอย่างมากจนฟุ้งไกลไปถึงกรุงลงกา

นางมณโฑ มเหสีของทศกัณฐ์ได้กลิ่นเข้าก็ร่ำร้องอยากกินให้ได้ มิฉะนั้นตนต้องขาดใจตายเป็นแน่ ทศกัณฐ์จึงมีบัญชาให้นางกากนาสูรสมุนของตนไปโฉบเอาก้อนข้าวทิพย์มาให้
นางมณโฑ

เมื่อมเหสีแห่งท้าวทศรถรวมทั้งนางมณโฑได้กินข้าวทิพย์เข้าไปทำให้ต่างนางต่างตั้งครรภ์ ยังความดีใจให้กับท้าวทศรถและทศกัณฐ์อย่างมาก พระนางเกาสุริยาได้ประสูติพระโอรสองค์โตคือ พระราม (พระนารายณ์อวตาร) พระนางไกยเกษีประสูติพระโอรสองค์รองคือ พระพรต (จักรแห่งพระนารายณ์มาเกิด) พระนางสมุทรเทวีประสูติโอรสแฝดคือ พระลักษมณ์ (พระยาอนันตนาคราไช) และพระสัตรุด (คฑาพระนารายณ์)

สุดท้าย นางมณโฑก็ประสูติพระธิดาทรงโฉมงดงามยิ่ง คือพระลักษมีอวตาร นางสีดานั่นเอง

ทว่าชีวิตวัยทารกของนางสีดาพระราชธิดาแห่งกรุงลงกามิได้อยู่สุขสบาย เพราะเมื่อนางประสูติออกมา นางก็ร้องว่า ผลาญราพณ์ถึง 3 ครั้ง พิเภกกราบทูลว่า นางสีดาจะนำภัยพิบัติใหญ่หลวงมาสู่วงศ์ยักษ์ ทศกัณฐ์จึงสั่งให้ใส่นางสีดาในผอบลอยน้ำไปเพราะยังไม่อาจหักใจประหารธิดาในไส้ของตน

นางสีดาในผอบทองลอยน้ำไปถึงอาศรมของฤๅษีชนกผู้ครองกรุงมิถิลา
ฤาษีชนกเปิดผอบดูพบเด็กทารกหญิงหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ทว่าฤๅษีชนกนั้นในขณะนั้นครองเพศฤๅษีอยู่ ไม่สะดวกจะเลี้ยงนางสีดา จึงได้นำผอบทองฝังดิน พร้อมขอให้พระแม่ธรณีช่วยดูแลรักษานางด้วย

16 ปีต่อมา ฤๅษีชนกตั้งใจนิวัตินครเพื่อครองกรุงมิถิลาตามเดิม จึงได้ทำพิธีไถคราดดินหาผอบทองที่พระองค์ฝังดินไว้ คันไถไปติดผอบเข้า เหล่าทหารจึงได้ขุดขึ้นมา เมื่อเปิดออกก็พบหญิงสาวรูปร่างหน้าตาสะสวยสะคราญโฉมอย่างที่หาที่เปรียบเปรยมิได้ สวยงามที่สุดและงดงามยิ่งกว่านางใดในโลกนี้ ทั้งจริตกิริยาก็เรียบร้อยน่าชม ฤๅษีชนกจึงได้รับนางเป็นพระธิดาแห่งกรุงมิถิลา พร้อมประทานนามให้นางว่า สีดา ที่แปลว่า "รอยไถ"

การแสดงโขน รามเกียรติ์ ลักษมีสีดา เริ่มต้นแสดงในช่วงของนางสีดาถูกลอยในผอบ
จากการที่พิเภกกราบทูลทศกัณฐ์ว่า นางสีดาจะนำภัยพิบัติใหญ่หลวงมาสู่วงศ์ยักษ์
ทศกัณฐ์จำใจที่จะทำตามที่พิเภกกราบทูลให้ใส่นางสีดาในผอบลอยน้ำไปเพราะยังไม่อาจหักใจประหารธิดาในไส้ของตน
ซึ่งทำให้นางมณโฑเสียใจโทมนัสเป็นอย่างมาก

ทศกัณฐ์กับมเหสีนางมณโฑ

จบการแสดงในตอนลักษมีสีดา ที่เล่าที่มาที่ไปของนางสีดา จนมาถึงตอนนางสีดาลอยในผอบ

ส่วนชุดการแสดงโขน ลักษมีสีดา ได้นำเสนอให้ชมกันไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 ชุดการแสดง คือ
นางสีดาเลือกคู่
นางสีดาลุยไฟ

คุยกันท้าย blog
มีเรื่องประทับใจเกี่ยวกับการแสดงโขน มาเล่าสู่กันฟังนิดหน่อยครับ
ด้วยที่ติดตามใน FB อยู่เป็นประจำ มีภาพการแสดงโขนที่กรุงปารีส หน้าหอไอเฟล
แล้วก็ได้ชมเก็บความประทับใจไว้อย่างเต็มภาคภูมิ ที่วัฒนธรรมไทย การแสดงโขน ได้ไปแสดงต่อหน้าผู้ชมชาวต่างประเทศ

แล้วในช่วงที่พิธีกรกล่าวเปิดการแสดง ก็มาเล่าสู่กันฟังเรื่องการแสดงโขนที่กรุงปารีส ด้วย
เลยกลับไปตามหาภาพถ่ายใน FB มาให้ชมกันเป็นตัวอย่างด้วยครับ (ถ้าจำไม่ผิด ชุดการแสดงโขน รามเกียรติ์ ตอนพระรามตามกวาง

(ภาพจากเฟสบุ๊ก)

(ภาพจากเฟสบุ๊ก)
ชม 3 ภาพนี้ด้วยความประทับไจไปด้วยกันครับ
และอยากบอกว่า ปารีส หอไอเฟลก็ไปแล้ว ถ่ายภาพโขน ก็เคยถ่ายภาพหลายครั้งแล้ว
แต่ครั้งหนึ่งในชีวิต หากได้ไปถ่ายภาพการแสดงโขน ณ หอไอเฟลแบบใน 3 ภาพนี้ คงได้จดจำกันไปอีกนาน ๆ เลยครับ

Create Date : 07 มกราคม 2565

Last Update : 7 มกราคม 2565 6:34:34 น.

4 comments

Counter : 2096 Pageviews.