bloggang.com mainmenu search
เรื่องเล่าจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

ระเบิดที่ร้านไก่นาคาราโอเกะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส





โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ป้ายแดง ที่ถูกระเบิดจนพังยับไปทั้งคัน เรื่องราวต่างๆ ถูกเล่าผ่านสุภาพสตรีที่คลุมผผ้า "ฮิญาบ" สีชมพูที่ผมกำลังสัมภาษณ์อยู่
มันเป็นเรื่องราวที่ผมยังจดจำมาได้จนถึงทุกวันนี้
.... "ไก่นาคาราโอเกะ" ....



......

.....

....

...

..

.




วันนั้นผมจำได้ เกิดเหตุระเบิดที่ร้านไก่นาคาราโอเกะ ใน อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส

ผมรีบนำทีมประชาสัมพันธ์ของผมออกเดินทางจากค่ายสิรินทร อ.ยะรัง จ.ปัตตานีไปทำข่าวทันที

เมื่อเราเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นซอยเล็กๆ รถวิ่งสวนกันแทบไม่ได้ มีร้านคาราโอเกะ และร้านอาหารแบบนั่งดื่มยามค่ำคืนเรียงรายติดกันตลอดสองข้างทาง สังเกตดูร้านรวงส่วนใหญ่ จะเป็นห้องแถวไม้ชั้นเดียว

ขณะที่ไปถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แถบพลาสติคล้อมบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นรถโดโยต้าไฮลักซ์ วีโก้ป้ายแดง

ระหว่างที่เดินดูสถานที่เกิดเหตุ ผมก็เห็นสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นภรรยาของเจ้าของร้าน "ไก่นาคาราโอเกะ" แหวกแถบพลาสติคของตำรวจ เข้าไปที่ซากรถ เปิดประตูด้านคนขับออกและเข้าไปรื้อของในซากรถโดโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ คันนั้น

ผมจึงเข้าไปพูดคุยกับเธอว่า กำลังทำอะไรอยู่ครับ เธอบอกว่า สามีของเธอเป็นเจ้าของร้านไก่นาคาราโอเกะ และเป็นเจ้าของรถคันนี้ ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด รักษาตัวอยู่ที่ ร.พ. สุไหงโกลก

เธอกำลังหากระเป๋าสตางค์ของสามีที่ติดอยู่ในรถ เพื่อค้นหาบัตรประชาชน เพื่อจะเอาไปแจ้งทำหลักฐานที่โรงพยาบาล

ผมสังเกตเห็นดวงตาและใบหน้าของเธอภายใต้ผ้าคลุมนั้น เต็มไปด้วยคราบน้ำตา สีหน้าอิดโรยเพราะอดนอนมาทั้งคืน

เธอเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนตอนเกิดเหตุการณ์เวลาประมาณ 2000 น. ผู้คนพลุกพล่าน เพราะเป็นช่วงที่คนกำลังมาเที่ยวกัน ก็มีเด็กวัยรุ่น 2 คนขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดที่บริวเณท้ายรถซึ่งจอดอยู่หน้าร้าน

จากนั้นเด็กวัยรุ่นคนที่ซ้อนท้าย ก็เอากล่องกระดาษกล่องหนึ่งที่หิ้วมาด้วย มาวางที่ท้ายรถกะบะคันนี้

สามีของเธอยืนอยู่หน้าร้านเห็นเหตุการณ์พอดี จึงตะโกนเรียกเด็กวัยรุ่นทั้งสองคนให้หยุด แต่ทั้งคู่เร่งเครื่องมอเตอร์ไซค์หนีไป โดยทิ้งกล่องกระดาษไว้ที่ท้ายรถ

ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกอกตกใจ ปิดร้านกันพัลวัน นักท่องเที่ยวก็วิ่งหนีออกจากบริเวณนั้น (ย่านนี้เป็นย่านบันเทิงยามราตรีของสุไหงโกลก ผู้คนพลุกพล่านพอสมควร)

เจ้าของร้านจึงโทรแจ้งตำรวจ แล้วมายืนอยู่หน้าร้านไม่ห่างจากรถมากนัก คงเป็นเพราะด้วยความเป็นห่วงรถ เพราะเป็นรถใหม่ เพิ่งถอยออกมาได้ไม่นานนี้เอง

ครู่เดียวก็ได้รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่กำลังเดินทางมาที่เกิดเหตุ

ทันใดนั้น ... ระเบิดก็ระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น เจ้าของร้าน สามีของเธอถูกแรงระเบิดอัดจนกระเด็นจากประตูหน้าร้าน เข้าไปจมกองเลือดอยู่เกือบในสุดของร้าน ตอนที่ผมไป กองเลือดกองใหญ่ที่บ่งบอกว่าเป็นจุดที่คนเจ็บนอนอยู่ ยังแห้งกรังอยู่กับพื้นปูนขัดมัน

พอตั้งสติได้ ผู้ประสบเหตุก็ช่วยกันพาเจ้าของร้านผู้เคราะห์ร้ายส่งโรงพยาบาล ผมดูจากรอยเลือด ทำให้เห็นภาพการลากคนเจ็บออกไปแบบถูลู่ถูกัง เพราะรอยเลือดถูกลากยาวไปตลอดทาง เหมือนใช้แปรงทาสีที่สะบัดแปรงไปมา

ผมถามเธอว่า มีอะไรอยากจะบอกคนที่ก่อเหตุการณ์นี้ขึ้นมาบ้าง เธอกล่าวสั้นๆว่า ... หยุดเสียที พอได้แล้ว คนบริสุทธิ์จะต้องเจ็บ ต้องตายไปอีกเท่าไรจึงจะหยุดได้ ไม่ว่าพุทธ หรืออิสลาม ก็คือ "มนุษย์" เหมือนกัน ต่างมีชีวิต มีจิตใจ มีลูก มีภรรยา มีคนที่รัก ...

... หยุดได้แล้วกับการเอาชีวิตผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ ...

พูดจบ เธอก็ร้องไห้ ก่อนที่จะขอตัวไปรื้อค้นกระเป๋าสตางค์ของสามีที่ติดอยู่ในซากรถโยต้าคันนั้นต่อไปทั้งน้ำตาที่นองอยู่เต็มใบหน้า

ผมถอนหายใจออกมาไม่รู้ตัว รู้สึกเหมือนมีน้ำอุ่นๆ เอ่อนองอยู่ในนัยน์ตาของผม ก่อนที่จะเดินเข้าไปช่วยสุภาพสตรีท่านนั้นค้นหากระเป๋าสตางค์ในซากรถอีกแรงหนึ่งจนเจอ

เย็นวันนั้น ผมนั่งรถกลับจากสุไหงโกลก ไปยังปัตตานีด้วยจิตใจที่เลื่อนลอย และใช้เวลาทำใจอยู่นาน กว่าจะเขียนบันทึกฉบับนี้ ...

"บันทึกจากสุไหงโกลก" .... บันทึกที่ทำเอาผมอยู่ในภาวะหงอยเหงาไปเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว


ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องไทยทุกคนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จงแคล้วคลาดและปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวงเถิด ... เหล่าผู้กล้าของชาวไทย ...




บันทึกโดย

พันโท ศนิโรจน์ ธรรมยศ




-----------------------------------

Create Date :15 กรกฎาคม 2552 Last Update :16 กรกฎาคม 2552 15:18:25 น. Counter : Pageviews. Comments :3