จะเป็นหนังสือหรือเป็นภาพยนตร์ ก็ล้วนอยู่ในความสนใจของคนทั่วโลกสำหรับเรื่องราวชิงรักหักสวาท ของราชวงศ์ทิวดอร์อันโด่งดังของฟิลิปปา เกรกอรี่ The Other Boleyn Girl ที่ถูกดัดแปลงนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี 2008

ผ่านมาสองปีกว่ากับความประทับใจของคอหนังสือและคอหนังชาวไทยที่มีต่อเนื่องราวของพี่น้องสองสาวตระกูลโบลีน ซึ่งปิดฉากลงด้วยโศกนาฏกรรมการตายของแอน โบลีนอันน่าเศร้าพร้อมกับข้อกังขาที่ค้างคาใจว่า

หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลโบลีน?

ฟิลิปปา เกรกอรี่จึงได้ฉายภาพชะตากรรมต้องคำสาปของตระกูลโบลีนไว้ในงานเขียนลำดับต่อมาในชื่อเรื่อง The Boleyn Inheritance แปลเป็นภาษาไทยโดย มณฑารัตน์ ทรงเผ่า

ภาคต่อที่เป็นบทสรุปชีวิตในช่วงสามปีหลังการตายของแอน โบลีน ฤดูใบไม้ผลิที่สุดใสของปี 1536 แอนกับจอร์จสองพี่น้องตระกูลโบลีนถูกประหารชีวิตด้วยข้อหาคบชู้

สามปีผ่านไปราชสำนักทิวดอร์ก็ลืมเลือนเรื่องนั้น ทว่าสำหรับตระกูลโบลีนมันกลับกลายเป็นตราบาปที่มิอาจลบเลือนได้ เมื่อเรื่องราวเหล่านั้นกำลังจะย้อนคืนสู่สตรีสามนางอีกครั้ง

เจน ปาร์กเกอร์ สะใภ้ตระกูลโบลีน ครั้งนั้นคำให้การของนางทำให้จอร์จสามีกับแอน โบลีนต้องถึงจุดจบเพราะความพยาบาท ริษยาและไร้ศีลธรรมจนเป็นตราบาปที่มิอาจลบล้างได้ และแล้วชีวิตนางก็ไม่ต่างจากสองพี่น้องตระกูลโบลีน แม้จะได้รับทรัพย์สินและบรรดาศักดิ์แต่ก็ต้องแลกมาด้วยวิญญาณ

แคทเธอรีน ฮาวเวิร์ด ลูกพี่ลูกน้องของแอน โบลีน นางสวยสะดุดพระเนตรกษัตริย์ทันทีที่มาถึงราชสำนัก นางยังสาวและกำลังมีความรักแต่ไม่ใช่กับชายชราขี้โรคผู้เคยสั่งประหารแอน โบลีน แม้นางจะได้ขึ้นเป็นราชินีแต่ก็หนีไม่พ้นคมขวาน

แอนแห่งคลีฟส์เจ้าหญิงจากประเทศเล็กๆ ผู้หนีมารดาใจร้ายและพี่ชายชอบข่มเหง มาซบอก กษัตริย์เฮนรี่ที่ 8 สามีใหม่ผู้ชิงชังนางในทันทีที่พบ

นางต้องปกป้องคอตัวเองจากกษัตริย์ ผู้มีอารมณ์แปรปรวนและราชสำนักที่เกมการเมืองระอุลำพัง แม้จะรอดชีวิตแต่ก็ต้องแปดเปื้อนคำกล่าวหา และการใส่ร้ายป้ายสีจากพยานเท็จ เช่นเดียวกับสาวตระกูลโบลีน

สามสาวที่เข้าไปพัวพันกับอำนาจตัณหา และการแก่งแย่งแข่งขันในราชสำนักทิวดอร์ ความปรารถนาของพวกนางต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด และชีวิตเกิดเป็นโศกนาฏกรรมซ้ำซากเยี่ยงตระกูลต้องคำสาปโบลีน

พลิกผัน หักมุม ตื่นเต้น ไปกับความลับที่กำลังจะถูกเปิดเผยในราชสำนักอันบ้าคลั่ง


ขอบคุณ มติชนออนไลน์


วุธวารสิริวิบูลย์ค่ะ