bloggang.com mainmenu search


Roger Federer ได้แชมป์แกรนด์ สแลมมา 15 รายการ
โดยใช้เวลาไปทั้งหมดเพียงแค่เจ็ดปี
15 รายการของเฟดแบ่งเป็นแชมป์ Wimbledon 6 ครั้ง
U.S. Open 5 ครั้ง
Australian Open 3 ครั้ง
และ French Open 1 ครั้ง




ก่อนวิมเบิลดันปี 2003 เฟดไม่สามารถเข้าไปได้ไกลกว่ารอบควอเตอร์ไฟนัล
ในการแข่งขันที่วิมเบิลดันในปีนั้น เฟดเข้าร่วมการแข่งขันในฐานะมือวางอันดับ 4
หนุ่มสวิสวัย 20 ปี เข้าไปได้ถึงรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 6 กรกฎาคม 2003
และเอาชนะ Mark Philippoussis ไปได้ 3 เซ็ตรวด
กลายเป็นนักเทนนิสจากสวิสเซอร์แลนด์คนแรกที่ได้แชมป์รายการแกรนด์ สแลม



ในช่วงต้นปี 2004 เมื่อเฟดเอาชนะพี่ยุง - ฮวน คาร์ลอส เฟอเรโร่
ได้ในรอบรองชนะเลิศ รายการออสเตรเลียน โอเพ่น
เฟดก็ได้ตำแหน่งมือ 1 ของโลกพ่วงมาด้วย
จากนั้นในรอบชิงชนะเลิศ เฟดเอาชนะ Marat Safin
ซึ่งไม่ได้เป็นมือวางในรายการ แต่สามารถเอาชนะมือ 1 อย่างร็อดดิก
ได้ในรอบก่อนรองชนะเลิศและชนะอกัสซี่ในรอบรองชนะเลิศ



ในวิมเบิลดันปีเดียวกันนั้นเอง
รอบชิงชนะเลิศเป็นการขับเคี่ยวกันของสองมือวางอันดับสูงสุดของรายการซึ่ง Federer เอาชนะ Andy Roddick ไปได้
4-6, 7-5, 7-6 (3), 6-4 คว้าแชมป์ Wimbledon ได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน
Federer เอาชนะร็อดดิกได้ 6 ครั้งและแพ้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น



ในยูเอส โอเพ่นปีเดียวกัน
เฟดเจอกับ Lleyton Hewitt ในรอบชิงชนะเลิศ
และเฟดเป็นฝ่ายชนะ กลายมาเป็นนักเทนนิสคนแรก
นับจาก Mats Wilander ในปี 1988 ที่ได้แชมป์รายการแกรนด์ สแลม
ถึง 3 รายการภายใน 1 ปี
(มิน่าล่ะ ทำไมช่วงนึงอีตาวิลันเดอร์ถึงได้ให้สัมภาษณ์ออกแนวจิก ๆ กัด ๆ
เฟดอยู่ตลอด มันมีที่มานี่เอง)



รอบชิงวิมเบิลดันปี 2005 เป็นแมทช์ที่เฟดเคยออกปากเอาไว้ว่า
เป็น "the best in my life," เฟดเอาชนะ Andy Roddick
6-2, 7-6 (7-2), 6-4 คว้าแชมป์ที่วิมเบิลดันมาได้เป็นปีที่สามติดต่อกัน
ในระหว่างเส้นทางสู่แชมป์ในปีนั้น เฟดเสียเซ็ตให้ Nicolas Kiefer
ในรอบที่สามเพียงเซ็ตเดียวเท่านั้น



ในยูเอส โอเพ่นปี 2005 เฟดโดนนำไปก่อน 1 เซ็ต ได้มา 1 เซ็ต
และในเซ็ตที่สามก็ตามอยู่ในช่วงไทเบรค
คู่แข่งของเฟดตอนนั้นคือ Andre Agassi วัย 35 ปี
เฟดไล่มาจนคว้าเชมป์ได้สำเร็จในการเล่นสี่เซ็ต
ได้แชมป์แกรนด์ สแลมรายการที่ 6 ของตัวเอง
และกลายเป็นนักเทนนิสคนแรกในรอบ 68 ปี
ที่ได้แชมป์ทั้งวิมเบิลดันและยูเอส โอพ่น เป็นปีที่สองติดต่อกัน


อกัสซี่ซึ่งพลาดโอกาสในการได้แชมป์แกรนด์ สแลมรายการที่ 9
ของตัวเอง พูดถึงเฟดเอาไว้หลังจบแมทช์ว่า

"The standard and the options and the talent
and the execution that he shows in all the biggest matches --
it's crazy,"



ที่เมลเบิร์นในปี 2006 เฟดซึ่งตอนนั้นอายุได้ 24 ปี
ทำสถิติได้แชมป์แกรนด์ สแลมเป็นรายการที่ 7
เท่ากับ Mats Wilander และ John McEnroe
ครั้งนั้นเขาชนะ Marcos Baghdatis ในรอบชิงชนะเลิศ
และร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาตอนที่รับถ้วยแชมป์จากมือของ Rod Laver
แชมป์เก่าที่เป็นตำนานคนนึงของวงการ



ก่อนจะถึงรอบชิงวิมเบิลดันในปี 2006 สถิติของเฟดคือ ชนะนาดาล 1 ครั้งและแพ้ 6 ครั้ง
รวมถึงการแพ้ในรอบชิงชนะเลิศรายการเฟรนช์ โอเพ่นในปีนั้นด้วย
ถึงแม้ว่าในรอบชิงเฟดจะเอาชนะนาดาลไปได้และได้แชมป์วิม
เป็นสมัยที่สี่ก็ตาม
แต่นาดาลก็ได้ทำให้แฟน ๆ เทนนิสเริ่มตระหนักว่า
เขามีดีมากกว่าจะเป็นแค่เซียนคอร์ตดินเท่านั้น



และจากการเอาชนะร็อดดิกได้อีกครั้งหนึ่งในรอบชิงชนะเลิศ
รายการยูเอส โอพ่น เฟดได้แชมป์รายการนี้เป็นปีที่สามติดต่อกัน
และปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่เขาได้แชมป์แกรนด์ สแลมถึงสามรายการ
ภายในปีเดียว
(ปีแรกที่ทำได้คือปี 2004)



แชมป์แกรนด์ สแลมรายการที่ 10 ของเฟดเป็นสุดยอดของความมหัศจรรย์
เฟดได้แชมป์รายการออสเตรเลียน โอเพ่นปี 2007 โดยไม่เสียเลยสักเซ็ตเดียว
เขาเอาชนะ Tommy Robredo ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
ชนะ Andy Roddick ในรอบรองชนะเลิศ (แจกไข่ให้ร็อดดิกด้วย)
และชนะ Fernando Gonzalez ในรอบชิงชนะเลิศ



ที่วิมเบิลดันในปี 2007 เป็นปีที่เฟดทำสถิติได้เทียบเท่ากับ
นักเทนนิสระดับตำนานอย่าง Bjorn Borg
ทั้งเรื่องจำนวนแชมป์แกรนด์ สแลม 11 รายการ
และการได้แชมป์รายการวิมเบิลดันเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน
ครั้งนั้นเฟดเอาชนะ Nadal ในรอบชิงชนะเลิศ
7-6 (7), 4-6, 7-6 (3), 2-6, 6-2,
เป็นชัยชนะบนคอร์ตหญ้าเป็นแมทช์ที่ 54 ติดต่อกันของซูเปอร์สตาร์ชาวสวิสผู้นี้



เชื่อว่าแฟน ๆ เฟดคงไม่ลืมความประทับใจในรอบชิงชนะเลิศรายการ
ยูเอส โอเพ่นปี 2007 ที่เฟดในชุดสีดำสนิทเป็นเจ้าชายแห่งรัตติกาล
(Prince of Darkness) ขับเคี่ยวกับโนวัค โจโควิช
คนที่เฟดเพิ่งจะหวดตกรอบสี่ไปเมื่อต้นปีที่เมลเบิร์น
มาหนนี้โนเล่ได้ถึง 7 เซ็ตพ้อยต์แต่ทำไม่สำเร็จ
ให้เฟดเอาชนะไปได้ 7-6 (4), 7-6 (2), 6-4
สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการด้วยการเป็นนักเทนนิสคนแรก
ในยุคโอเพ่น (นับจากปี 1968) ที่ได้แชมป์ยูเอส โอเพ่น 4 สมัยติดต่อกัน

เป็นอีกปีนึงของเฟดที่ได้แชมป์แกรนด์ สแลม 3 รายการ
จากการเข้าชิงทั้งหมด 4 รายการ ทั้งที่ปีนี้เป็นปีที่เริ่มมีขึ้น
พูดกันถึงเรื่องยุคของเฟดบ้างแล้ว จากการที่เขาแพ้คานยาสติดต่อกัน
2 รายการในรายการมาสเตอร์ซีรียส์ตอนต้นปี และยังแพ้เมอเรย์
ในรอบแรก ๆ ของรายการที่ซินซินเนติอีกด้วย



ปี 2008 นับเป็นปีที่ตกต่ำจริง ๆ
หากคิดตามมาตรฐานของเฟด อาการป่วยจากการติดเชื้อ mononucleosis
ตั้งแต่ช่วงต้นปี มีผลให้เฟดไม่ได้แชมป์มาสเตอร์เลยสักรายการเดียว
ได้เพียงแชมป์รายการเล็ก ๆ 2 รายการที่เอสโตริลและที่ฮัลเล
ไม่สามารถป้องกันแชมป์วิมเบิลดันไว้ได้
และยังเสียมือ 1 ให้กับนาดาล ในช่วงเดือนสิงหาคม

อย่างไรก็ตามหลังจากพลิกสถานการณ์เอาชนะ Igor Andreev
มาได้ในการแข่งขันห้าเซ็ตในรอบที่สี่ของยูเอส โอเพ่น
เฟดก็คว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่นได้อีกครั้งหนึ่ง
ด้วยการเอาชนะแอนดี้ เมอร์เรย์ที่มาแรงสุด ๆ ในปีนั้น



เฟรนช์โอเพ่น 2009 เฟดได้มาจากการเอาชนะม้ามืดอย่าง Robin Soderling
(แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์อย่างราฟาเอล นาดาลในรอบที่สี่)
เฟดได้แชมป์ที่โรลังด์ การ์รอสเป็นปีแรก
พร้อมกับทำสถิติได้แชมป์แกรนด์ สแลมเป็นรายการที่ 14
เท่ากับสถิติสูงสุดตลอดกาลที่พีท แซมพราสทำเอาไว้
และยังกลายมาเป็นนักเทนนิสคนที่ 6 ของวงการ
ที่ได้ career Grand Slam ในการเล่นเทนนิสอาชีพ



ที่ วิมเบิลดัน 2009 เฟดล้ำหน้าแซมพราสไปแล้วด้วยการคว้าแชมป์
รายการที่ 15 และเป็นแชมป์วิมเบิลดันสมัยที่ 6 ของตัวเอง
ในปีนี้แชมป์เก่าอย่างราฟาเอล นาดาลถอนตัวจากการเจ็บเข่า
แต่เฟดก็ได้แชมป์มาอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการเอาชนะแอนดี้ ร็อดดิก
ไปได้ 3-2 เซ็ต 5-7, 7-6 (6), 7-6 (5), 3-6, 16-14.
เฟดเสิร์ฟเอซ ไป 50 ครั้ง และเล่นเซ็ตสุดท้ายรวมทั้งหมด 30 เกม
กลายมาเป็นสถิติใหม่ของรายการวิมเบิลดัน
ในเรื่องของจำนวนเกมต่อเซ็ตที่มากที่สุด
ของแมทช์ชิงชนะเลิศประเภทเดี่ยว



เรียบเรียงจาก : //sportsillustrated.cnn.com/multimedia/photo_gallery/0907/tennis.roger.federer.grand.slam.titles/content.16.html


Create Date :13 กรกฎาคม 2552 Last Update :16 กรกฎาคม 2552 22:24:08 น. Counter : Pageviews. Comments :264