bloggang.com mainmenu search


มันก็นานมาแล้ว หลังจากหนังเรื่อง Lord of the ring , Pirate of the Carribian, Troy, Stardust , ที่ไม่พบหนังเทพนิยายหรือแฟนตาซีย้อนยุคที่จะถูกอกถูกใจมากพอ เคยอาจหนังสือ Lord of the ring และเคยคิดว่า เนื้อเรื่องยาวตัวละครเยอะอัดแน่นซะขนาดนั้น น่าจะมีคนหยิบเอามาทำเป็นซีรีย์คงจะดีไม่น้อย เช่นเดียวกับหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ความเป็นหนังสองชั่วโมงแต่ละภาค ไม่อาจใส่รายละเอี่ยดของเรื่องราวและตัวละครได้พันผูก

Legend of the seeker จึงเคยเป็นซีรีย์เรื่องหนึ่งที่คาดหวัง ถึงไม่ทำให้ผิดหวังนักแต่ก็ไม่อาจสะกดอารมณ์ได้ดีเท่า Game of Thrones ที่อารมณ์มันหนักกว่ากันเยอะ ส่วน Robin Hood ยังค้างคาอยู่ก้นกรุเพราะมันเหมือนเป็นแนวเรื่องที่รู้กันอยู่แล้ว จึงไม่มีความแปลกใหม่ที่ดึงดูดความสนใจนัก แต่ความที่มันเป็นซีรีย์ย้อนยุคก็ยังตัดใจไม่ได้และอุตส่าห์ซื้อแผ่นมาเก็บไว้รอโอกาสอยากดูเมื่อไหร่ค่อยเปิดดู Tudors อาจเคยเป็นอีกหนึ่งซีรีย์ที่เลือกสรร แต่ว่าซีรีย์เรื่องนี้นั้น มันช่างแรงในความรู้สึก และจะหาคนดีๆ สักคนก็แสนจะยากลำบาก



แต่กับเรื่อง Game of Thrones อาจไม่ใช่ซีรีย์ที่เรียกได้ว่า "ถึงใจ" ในแง่ของความสนุกเร้าใจสุดมันส์อย่างที่เคย Prison break และ 24 hours แต่ก็เป็นซีรีย์ที่ถูกใจพลอตตลอดเนื้อเรื่องอย่างมาก

การแย่งชิงบัลลังก์เพื่อครอบครองดินแดน "เวสเตอรอส"

Game of thrones เกมแห่งบัลลังก์
เวสเตอเรส ประกอบด้วยดินแดน ๗ อณาจักร แต่ละอณาจักรปกครองโดยตระกูลใหญ่ ๗ ตระกูล สตาร์ค,เลนนิสเตอร์, บาราธอร์น, ทาร์เกเรียน, ทูลลีย์, ไทเรล , เกรย์จอย

คิงส์แลนดิ้ง (King's landing) เป็นเมืองหลวงของเวสเตอรอส มีพระราชวังชื่อตำหนักแดง ในอดีตเวสเตอรอสเคยปกครองโดยตระกูลทาร์เกเรียนที่มีตำนานเล่าขานว่าบรรพบุรุษของได้ขี่มังกรจากฟากฟ้ามาพบดินแดนแห่งนี้และก่อตั้งเวสเตอรอสขึ้นมา แต่ก็ถูกแย่งชิงบัลลังก์ไป ตระกูลทาร์เกเรียนถูกทำลาย ตระกูลบาราธอร์นได้ครองอำนาจ มี โรเบิร์ต บาราธอร์น เถลิงราชย์เป็นกษัตริย์ปกครอง ๗ อณาจักร

เรื่องราวใน Season ๑ เหตุการณ์หลักๆ ถูกผลักดันด้วยเรื่องราวของสามตระกูล สตาร์ค,เลนนิสเตอร์ และทาร์เกเรียน


//gameofthrones.wikia.com/wiki


โรเบิร์ต บาราธอร์น กษัตริย์แห่งเวสเตอรอส เดินทางมายังอณาจักรทางเหนือ "วินเทอร์เฟล" เพื่อขอให้ลอร์ดเอ็ดดาร์ด เน็ด สตาร์ค เข้ารับหน้าที่เป็นมือขวาของกษัตริย์ (Hand of the king) เนื่องจากมือขวาคนก่อนเสียชีวิตลง แม้ไม่เต็มใจนักเพราะเน็ด สตาร์ค เป็นคนไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ แต่กษัตริย์โรเบิร์ตเป็นเพื่อนที่เติบโตและร่วมรบในสงครามเคียงบ่ามาด้วยกัน (คือการแย่งชิงบัลลังก์จากกษัตริย์ทาร์เกเรียนนั่นแหละ แต่คำว่า "กบฏ" จะใช้กับเฉพาะผู้แพ้เท่านั้น ชัยชนะคือความชอบธรรมของฮีโร่ผู้กอบกู้อณาจักรจากกษัตริย์ชั่วร้าย) เน็ด สตาร์ค จึงไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะนั่นคือคำขอของกษัตริย์และเพื่อนแท้ อีกทั้งสตาร์คมีความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของมือขวาคนก่อน เขาจึงต้องการค้นหาความจริงถึงผู้อยู่เบื้องหลังและสาเหตุการลอบสังหารที่อาจสั่นคลอนถึงความมั่นคงของอณาจักร


Credit : //gameofthrones.wikia.com/wiki


ไกลออกไปอีกฟากฝั่งของทะเล สองทายาทสายเลือดกษัตริย์ราชวงศ์ทาร์เกเรียนยังคงมีชีวิตอยู่ กำลังเฝ้ารอและมองหาหนทางหวนคืนสู่เวสเตอรอส เพื่อทวงสิทธิ์อันชอบธรรมตามกฏการสืบบัลลังก์โดยสายเลือด

ท่ามกลางการช่วงชิงอำนาจ การทรยศหักหลัง และไฟสงครามที่ลุกโชน มนุษย์ผู้โง่เขลาไม่เคยรู้ตัวว่า สงครามที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใด กองทัพของแต่ละตระกูลต่างมุ่งหน้าลงใต้ไปสู่คิงส์แลนดิ้ง เพื่อบัลลังก์ดาบเหล็กของกษัตริย์ผู้ครอบครอง ขณะที่ทางเหนือปิศาจโบราณที่หลับใหลไปนับพันปีได้ตื่นขึ้น แม้บรรพบุรุษจะสร้างเดอะวอลล์ (The wall) เป็นกำแพงยักษ์กั้นขวางระหว่างดินแดนมนุษย์ศิวิไลซ์กับดินแดนป่าเถื่อนอันลี้ลับที่เต็มไปด้วยสิ่งน่าสะพึงกลัวมาตั้งแต่โบราณกาล แต่หากถึงเวลาเลวร้าย เดอะวอลล์ที่มีอยู่อาจยังกั้นได้ไม่สูงนัก และหน่วยไนท์วอทช์ (Night's watch) กองกำลังรักษาเดอะวอลล์ (เฝ้ายาม) ก็อาจไม่เพียงพอจะรับมือ

แล้วยังมี วัฏจักรของฤดูกาล ความมืดและสิ่งน่าสะพึงกลัวกำลังจะคืบคลานเข้ามาพร้อมกับฤดูหนาวหฤโหดที่ไร้แสงตะวัน

ดูจบไปแล้วสองซีซั่น และจะปักหลักรอคอยซีซั่นสามด้วยความตั้งใจรอ



ซีรีย์เรื่องนี้สร้างมาจากนิยายชุดชื่อดัง A song of ice and fire ของ George R. R. Martin โดย Game of Thrones เป็นชื่อเรื่องเล่มแรกของนิยายชุดนี้ ขอเอ่ยถึงเกียรติคุณของหนังสือเล่มนี้ตามที่อ่านพบได้จากการเสิร์ชกูเกิ้ล เห็นว่าพิมพ์ออกมาแล้ว ๕ เล่ม ได้รับการแปลกว่า ๒๐ ภาษา ขายได้ ๗ ล้านเล่มในอเมริกา และ ๑๕ ล้านเล่มทั่วโลก กวาดรางวัลมาแล้วหลายรางวัล พอเอามาทำเป็นซีรีย์ก็ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอมี่อวอร์ดถึง ๑๓ สาขา แม้จะได้จากเอมี่มาไม่เยอะ แค่ ๒ สาขา ในปี ๒๐๑๑ แต่รวมรางวัลจากสถาบันอื่นด้วยทั้งในปี ๒๐๑๑ และ ๑๐๑๒ ก็ถือได้ว่ากวาดรางวัลมา มิใช่น้อย


Credit: //gameofthrones.wikia.com


David Benioff และ D.B. Weiss ผู้ผลิตซีรีย์เรื่องนี้เห็นว่าหนังสือชุดนี้ควรจะถูกทำเป็นซีรีย์ "พออ่านหนังสือเล่นแรก A Game of Thrones จบ มันชัดเจนมากว่าหนังสือเรื่องนี้ ไม่ควรจะถูกทำเป็นภาพยนตร์ฉายในโรงหนังอย่างยิ่ง A Game of Thrones มีเนื้อเรื่องที่พัวพันอีรุงตุงนัง เต็มไปด้วยแรงขับเคลื่อนต่างๆ มากมาย ผสมรวมกันออกมาอย่างสมบูรณ์แบบและลงตัว การจะอัดทุกอย่างใส่ในเวลา 3 ชั่วโมงถือว่าเป็นการก่อวินาศกรรมที่เลวร้ายมาก นิยายของ George เรื่องนี้มีเบื้องหลังตัวละครที่ลึกมาก และมีดราม่าความขัดแย้งในระดับมโหราฬ และมันไม่ใช่เนื้อเรื่องสำหรับเด็ก ที่ไม่มีเลือด ไม่มีเรื่องเพศ เป็นความดี VS ความเลวเรียบๆ ง่ายๆ ไม่ใช่ มันเต็มไปด้วยเลือด เต็มไปด้วยกามารมณ์ และตัวละครที่เป็นคนดีจริงๆ นั้นมีอยู่น้อยเหลือเกิน (โอเค ยกเว้น เน็ด สตาร์ค และคนอื่นอีกสองสามคน) เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องสำหรับเด็กจริงๆ และไม่สามารถทำ trailer ได้ภายใน 2 นาทีอย่างแน่นอน เรื่องนี้จะต้องเป็นซีรีย์ HBO คือการตัดสินใจของพวกเรา... และที่น่าอัศจรรย์ที่สุด HBO ก็เห็นด้วย!!" (ที่มา: บทความจากผู้ผลิต แปลโดยสุนัขป่าโลกันต์)

ดังนั้นรู้สึกขอบคุณผู้ผลิต และ HBO ที่ควักกระเป๋าแบบทุ่มทุนงบประมาณ ๕๐ ล้านเหรียญสำหรับซีซั่นแรก (แต่ไม่รู้ใช้จริงเท่าไหร่) อ่านพบอีกว่าเปิดตัวซีรีย์ได้ ๒ วัน จำนวนคนดูก็พุ่งทะยานอย่างน่าตกตะลึงทำให้ HBO ไฟเขียวให้กับซีซั่นสองทันที และก็ใจชื้นแล้วล่ะที่เห็นภาพทีเซอร์ของซีซั่น ๓ ออกมาตามอินเตอร์เน็ตแล้วด้วย หวังว่าจะสร้างต่อไปจนจบไม่เลิกไปกลางคันเหมือน Legend of the seeker ที่หยุดลงแค่ซีวั่น ๒ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันต้องใช้งบประมาณมากเกินไป

อีกคนที่อยากขอบคุณ คือ สุนัขป่าโลกันต์ ผู้แปลซับไทย เพราะเลือกใช้คำในภาษาไทยที่เข้ากับความเป็นซีรีย์ย้อนยุคได้ดีอย่างน่าชม

มารู้จักตัวละครกันดีกว่า

ตระกูลสตาร์ค


ลอร์ดเอดดาร์ด เน็ด สตาร์ค ( ฌอน บีม , โบโรเนียร์ Lord of the ring ) เป็นลอร์ดปกครองอณาจักรวินเทอร์เฟลทางด้านเหนือของเวสเตอรอส เป็นคนที่กษัตริย์โรเบิร์ตไว้วางใจและรู้กันทั่วไปว่ากษัตริย์โรเบิร์ตรักใคร่ เน็ด สตาร์ค เป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง มากกว่าพี่น้องร่วมสายเลือดบาราธอร์นของตัวเองซะอีก เน็ด สตาร์คเป็นคนเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ซื่อตรง จงรักภักดี มีคุณธรรม เป็นความดีเลิศที่ใครๆ ต่างให้การยอมรับ ไม้เว้นแม่แต่ขุนนางชั่วๆ ก็ยังมีใจยกย่อง เน็ด สตาร์ค คือชายชาตรีต้นแบบที่ดีอย่างไร้ที่ติ


แคทเทอรีน ทูลลีย์ หรือ เลดี้สตาร์ค ภรรยาของลอร์ดเอดดาร์ค เป็นคนหยิ่งทะนงในเกียรติตระกูล กล้าหาญ ซื่อตรง ไม่เสแสร้ง แต่ก็เป็นคนใจร้อนวู่วาม ดูจากการตัดสินใจกระทำเรื่องต่างๆ ที่นำมาซึ่งความยุ่งยากและบางเรื่องก็ดูไม่ฉลาดซักเท่าไหร่ (ในความคิดของเราน่ะนะ)


Credit://thegameofthronesseason2finaleepisode.blogspot.com/


ร็อบ สตาร์ค ลูกชายคนโต หลังจากเกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นมากมาย ลูกชายของพ่อได้กลายเป็นผู้นำกองทัพจากดินแดนทางเหนือมุ่งลงสู่ใต้และตกอยู่ในฐานะผู้ก่อกบฏเพื่อล้มล้างบัลลังก์ ร็อบ.. เริ่มต้นจากการเป็นเด็กหนุ่มมีชาติตระกูลที่มีพ่อเป็นแบบอย่างที่ดี แต่สงครามจากประสบการณ์รับฟัง กับสงครามที่ต้องฆ่าคนจริงๆ นั้นแตกต่างกันมาก ร็อบเป็นคนมีเมตตาและได้คุณธรรมมาจากพ่อมาก็ไม่น้อย เมื่อเขาเริ่มกลายเป็นผู้นำ ก็ทำให้เริ่มชอบร็อบ

แต่เมื่อเขาพบรัก ผู้ชายที่บูชารักอาจเท่เป็นบางกรณี แต่กรณีของร็อบ ความรัก ท่ามกลางไฟสงคราม ทำให้จงใจละเลยสัญญาหมั้นหมายอันเคยตกลงยินยอมเพื่อผลประโยชน์ ในความเห็นส่วนตนรู้สึกว่านั่นมันเป็นเรื่องเสียสัตย์ เสียความเป็นผู้นำ และเสียแมน หลังๆ ก็เลยไม่ค่อยปลื้มร็อบซักเท่าไร


Credit : //gameofthrones.wikia.com

ซานซ่า สตาร์ค ลูกสาวคนโต เลดี้แสนสวยจากตระกูลสตาร์คที่ดูเหมือนจะเกิดมากับโชควาสนา เพราะตำแหน่งราชินีในอนาคตดูจะไม่ไปไหนไกล เพราะถูกหมั้นหมายเอาไว้กับ จอฟฟรีย์ ทายาทสืบต่อบัลลังก์ของกษัตริย์โรเบิร์ต แต่โชคชะตามันเป็นสิ่งไม่แน่ไม่นอน จึงพลิกผันกันได้ จากเด็กสาวผู้ทะเยอทะยาน มุ่งมั่นในรักและเอาแต่ใจ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ซานซ่าจะเติบโตไปพร้อมกับการเผชิญชะตากรรมที่โหดร้ายของเธอ เดาเอาว่าในซีซั่นสาม ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ซานซ่าผู้ทนทุกข์จะเริ่มกลายเป็นคนเข้มแข็งที่ยืนหยัดอย่างเด็ดเดี่ยวท่ามกลางศัตรูแวดล้อมในคิงส์แลนดิ้ง



อาร์ย่า สตาร์ค
ลูกสาวคนเล็กของเน็ด สตาร์ค ผู้ได้ชื่อว่า "ดุร้าย" เธอเหมือนเกิดมาผิดเพศ เพราะเป็นเด็กผู้หญิงแต่ยิงธนูแม่น ไม่ชอบเย็บปักถักร้อย แต่มีพรสวรรค์ในการฟันดาบ เข้มแข็ง กล้าหาญ มีแววเป็นสตรีผู้กล้า พี่ชายคนดีจึงยอมตีดาบมอบให้ ผู้เป็นพ่อถึงกับหาครูมาสอนดาบให้อย่างจริงจัง อาร์ย่าเป็นเด็กเฉลียวฉลาดและรู้จักเอาตัวรอด กระทั่งราชินีเซอร์ซียังอารมณ์เสียถึงขั้นเรียกเธอว่า "นังเดรัจฉานน้อยอาร์ย่า"


//www.tvguide.com/tvshows/game-thrones/photos/305628/686748

แบรนดอน สตาร์ค ลูกชายคนรอง เป็นคนจิตใจอ่อนโยน มีเมตตา เขาคือเด็กชายผู้ถูกรบกวนด้วยลางสังหรณ์ แบรนมักจะฝันเห็นอีกาสามตา และเหตุการณ์ไม่ดีในฝัน ก็นำมาซึ่งเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะได้เห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น แบรนจึงต้องกลายเป็นเด็กพิการเดินไม่ได้ หวังอย่างยิ่งว่าในอนาคตซีซั่นต่อๆไป จะมีปาฏิหารย์ให้แบรนหายพิการ และจะกลายเป็นอีกหนึ่งสตาร์คที่สำคัญยิ่ง แม้บทบาทของลอร์ดน้อยแบรนจะโดดเด่นเป็นสำคัญอยู่แล้วก็ตาม


Credit : //gameofthrones.wikia.com/wiki/

ริคอน สตาร์ค ( Rickon ) ลูกชายคนเล็กที่ยังไม่ค่อยมีบทบาทในเรื่องสักเท่าไร


จอน สโนว์ ลูกนอกสมรสหากลอร์ดเน็ด สตาร์ค จะมีข้อด่างพร้อยสักสิ่งในเรื่องของการเสื่อมเสียเกียรติ นั่นก็คือ "จอน สโนว์" หลักฐานของการร่วมประเวณีกับหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยา การเป็นลูกนอกสมรสคือความต่ำต้อยที่ต้องทนแบกรับการดูถูกเหยียดหยาม (ไม่แพ้ลูกเมียน้อยของหนังย้อนยุคทางเอเชีย) เขามีเลือดพ่อเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ แต่เขาไม่ใช่จอน สตาร์ค แต่เป็น จอน สโนว์ เพราะลูกนอกสมรส ไม่มีสิทธิ์จะใช้นามสกุลของบิดา

และสโนว์ไม่รู้ว่าแม่ของตนคือใคร

ตามประสาผู้มีจินตนาการ เนื่องจากแคทเทอรีน ทูลลี่ย์ ภรรยาของลอร์ดสตาร์ค เคยรักเคยหมั้นหมายกับพี่ชายของเน็ดมาก่อน แต่เขาตายในหน้าที่ เลดี้แคทเลยถูกจัดให้แต่งงานกับน้องชายแทน ร็อบกับจอน มีวัยใกล้เคียงกัน เดาเอาว่าบางทีแม่ของจอนอาจเป็นผู้หญิงที่เน็ดรัก อาจจะเป็นโสเภณี หรืออาจจะเป็นเลดี้จากตระกูลสูงศักดิ์ ใครจะรู้ได้ บางทีเรื่องแม่ของจอน อาจจะมีหรือไม่มีความหมายในอนาคต (ดูซีรีย์เรื่องนี้มีประเด็นให้จินตนาการอยู่เรื่อยๆ )


Credit ://www.fanpop.com/spots/game-of-thrones


แม้พี่น้องจะรักกันดี แต่เลดี้สตาร์คผู้เป็นแม่เลี้ยงนั้นเกลียดชังสโนว์ เรื่องน่าเศร้าของการเป็นลูกนอกสมรส ผลักดันให้สโนว์อาสาติดตามท่านอาเบนเจน ไปเป็นหน่วยไนท์วอทช์ที่เดอะวอลล์ ที่ของวีรบุรุษผู้ปกป้องอณาจักร ที่ ๆ คนหนุ่มเชื่อว่า มันจะทำให้ชีวิตมีมีความหมายและมีเกียรติ



ลอร์ดเบนเจน สตาร์ค เดอะวอลล์เป็นกำแพงกั้นชายแดนอณาจักรวินเทอร์เฟลกับดินแดนป่าเถื่อนทางเหนือและอยู่ภายใต้การดูแลของตระกูลสตาร์ค ลอร์ดเบนเจน สตาร์คจึงทำหน้าที่เป็นผู้นำกองกำลังของไนท์วอทช์

ตระกูลเลนนิสเตอร์

เจ้าของคติพจน์อย่างไม่เป็นทางการแต่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปมากกว่าคติพจน์จริงๆ ของตระกูล

"เลนนิสเตอร์ไม่ทำอะไรเหมือนคนไร้สมอง"

"เลนนิสเตอร์จะชดใช้หนี้ของพวกเขาเสมอ"

"เลนนิสเตอร์ไม่เคยติดหนี้ใคร"

(มันเป็นคติพจน์ที่เจ๋งดีนะ)



Credit : //gameofthrones.wikia.com/wiki


ลอร์ดไทวิน เลนนิสเตอร์ หัวหน้าตระกูลเลนนิสเตอร์ผู้มั่งคั่งทั้งเงินทองและอำนาจ มีลูกชายลูกสาวและหลานๆ ดังต่อไปนี้



Credit : //www.fanpop.com/spots/game-of-thrones

เซอร์ซี เลนนิสเตอร์ ราชินีแห่งเวสเตอรอส


Credit : //gameofthrones.wikia.com

เจมี เลนนิสเตอร์ น้องชายฝาแฝดของราชินีเซอร์ซี เป็นอัศวินในหน่วยองครักษ์พิทักษ์กษัตริย์


ไทเรียน เลนนิสเตอร์ น้องชายคนเล็กของตระกูลที่เกิดมาเป็นคนแคระพร้อมกับการเสียชีวิตของเลดี้เลนนิสเตอร์ผู้เป็นแม่

ราชินีเซอร์ซีของกษัตริย์โรเบิร์ต บาราธอร์น เธอมีลูกสามคน


จอฟฟรีย์ บาราธอร์น / เมอร์เซลล่า บาราธอร์น และ ทอมเมน บาราธอร์น


Credit : //www.fanpop.com/spots/game-of-thrones



ตระกูลทาร์เกเรียน




Credot : //www.fanpop.com/spots/game-of-thrones


วิเซอรีส์ ทาร์เกเรียน (Viserys Targaryen)
แดเนริส ทาร์เกเรียน (Daenerys Targaryen)


สองทายาทราชวงศ์ทาร์เกเรียนที่หลบหนีโทษทัณฑ์ไปไกล ณ อีกฟากฝั่งทะเล วิเซอรีส์ได้ยกน้องสาวให้แต่งงานกับ คาลโดรโก้ ผู้นำอันแข็งแกร่งของชนเผ่าดอธแรคคี เพื่อหวังแลกกับกองกำลังช่วยเหลือในการยกพลข้ามทะเลไป แต่อะไรๆ มันก็ไม่เป็นอย่างใจปรารถนานัก เพราะคาลโดรโก้ ไม่ใช่ชายที่จะสนใจในอำนาจหรือลุ่มหลงในอิสตรี ชาวดอธแรคคีรักการต่อสู้ ผู้นำไม่มีการสืบทอดทายาททางสายเลือด คนที่แข็งแกร่งที่สุดและต่อสู้ชนะคือคนที่จะได้เป็นผู้นำ (แต่มันดูเถื่อนมากกว่าจะเท่นะ) ชาวดอธแรคคีชอบนั่งบนหลังม้า และจะไม่สวมเกราะในการต่อสู้ คาลโดรโก้จะไม่นำพาผู้คนข้ามทะเลไป เช่นเดียวกับไม่คิดสนอะไรกับบัลลังก์ดาบเหล็ก

แต่ความคิดก็พลิกผันได้ เช่นเดียวกับโศกนาฎกรรมที่ไม่ปราณีใคร

แนะนำเป็นการเป็นงานแค่ตระกูลที่มีบทบาทกับสมาชิกตัวหลักๆ ของเรื่องราวในซีซั่นแรกอันเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามให้พอหอมปากหอคอ เพราะตัวละครเยอะมาก เพราะตัวชูโรงอันเป็นเสน่ห์ของละครหักเหลี่ยมเฉือนคมที่จะขาดเสียไม่ได้สำหรับซีรีย์ย้อนยุคก็คือพวกตัวประกอบแวดล้อม อย่างพวกเหล่าขุนนางทั้งหลายที่ซีซั่นแรกยากจะบอกได้ใครดีใครเลว และแล้วก็พบว่ามันเลวแทบทุกคน

สองตระกูลที่มีบทบาทใน Season 2

ตระกูลบาราธอร์น

Credit : //www.fanpop.com/spots/game-of-thrones


กษัตริย์โรเบิร์ต / ลอร์ดสแตนนิส / ลอร์ดเรนลี

ตระกูลเกรย์จอย

ว่าคติของตระกูลเลนนิสเตอร์นั้นเจ๋งเป้ง คติของตระกูลนี้ยังเจ๋งกว่า จำเป็นประโยคไม่ได้ ความหมายประมาณว่า เราไม่ขุดเหมือง เราไม่ทำโน่น เราไม่ทำนี่ สรุปคือ เราไม่ลงทุนลงแรง ถ้าเราอยากได้อะไรเป็นของๆ เรา เราต้องแย่งชิง (มันไม่ใช่เป็นคติพจน์ที่ดีเอาซะเลย แต่ถ้ามองในแง่ความกล้าจะยึดถือ มันเจ๋งโพด ...)



ตระกูลเกรย์จอยได้ชื่อว่าเป็นจอมทรยศที่ไว้ใจไม่ได้ และคนของตระกูลเกรย์จอยก็ได้สำแดงเดชทรยศที่ทำเอาจุกอกซะจริงๆ

เก็บลิ้งค์บทความนี้มาให้เพราะรู้สึกว่ามันอธิบายลักษณะเรื่องราวของซีรีย์ได้ดึงดูดใจดี ทันทีที่มันขึ้นต้นด้วยประโยคที่ว่า "มันคือลอร์ดออฟเดอะริงฉบับเซ็กส์เดือดเลือดพล่าน" (ที่มา : Game of Thrones หนังแฟนตาซีที่มีมนุษย์เป็นตัวชูโรงอย่างแท้จริง)

ในกูเกิ้ลมีบทความดีๆ ที่เขาเชิดชูซีรีย์เรื่องนี้อย่างค่อนข้างมีข้อมูลเป็นทางการกันเยอะแล้ว ดังนั้น ขอเขียนถึงตัวละครและอะไร ๆ ที่ตัวเองชอบในซีรีย์เรื่องนี้ในแง่มุมความชอบส่วนตนที่อยากเปิดเผยให้คนอื่นรู้

ตัวละครสุดโปรด



แน่นอนอยู่แล้วต้องเป็น ไทเรียน แลนนิสเตอร์ น้องชายร่างแคระของราชินีเซอร์ซี รับบทโดย ปีเตอร์ ดิงก์เลซ (Peter Dinklage) ที่มีรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมเป็นเครื่องการันตีในฝีมือจาก 3 สถาบัน Emmy Awards , Golden Globes ( ลูกโลกทองคำ )และ Satellite Awards

ในละครก็พอจะหาคนตัวสูงหน้าตาดีให้ชอบได้อยู่บ้าง แต่ตัวละครที่มีเสน่ห์น่าหลงรักที่สุดก็ท่านลอร์ดผู้มีฉายา เดอะอิมพ์ (The Imp) ลอร์ดภูตน้อยผู้นี้แหละ ในสุนทรพจน์ด่าทอกษัตริย์ของชาวเมือง เขาถูกเรียกว่า ลิงปิศาจอีกด้วย ดูๆ แล้วคนในตระกูลเลนนิสเตอร์นั้นชั่วทุกคน แต่เดอะอิมพ์ผู้มีฉายาดั่งสิ่งชั่วร้าย กลับดูเป็นคนดีที่สุดแล้ว เขารู้จักมีเมตตา (ถ้าจำเป็น) ไม่หล่อไม่สูง สังขารไม่อำนวยต่อการจับดาบต่อสู้ แต่เขามีอาวุธเป็นสมองที่ฉลาดปราดเปรียว เอาตัวรอดอย่างเก่ง การเป็นมนุษย์ร่างเตี้ยที่ศรัทธาในความเป็นจริง ส่งผลให้การกระทำตน การพูดจา มันเป็นตลกร้ายที่มีเท่และมีเสน่ห์เหลือล้น มันทั้งเชือดเฉือน ประชดประชัน แดกดัน มีอารมณ์ขัน หักมุม และบ่อยครั้งมันก็เป็นความจริงที่คมกริบ

เดอะอิมพ์เป็นคนที่ดูเหมือนไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับอะไรทั้งสิ้น ไม่มีความเกรงกลัวกับอำนาจใด แม้แต่กับกษัตริย์ เดอะอิมพ์ก็ยังบรรลุขีดความอดทนสุดขั้น ตบหน้าเอาฉาดๆ อยู่หลายครั้ง อย่างไม่เกรงกลัวโทษประหาร หากจะมีใครสักคนที่จอฟฟรีย์กษัตริย์คนต่อมารู้สึกขยาดอยู่ลึกๆ ก็ท่านอาเดอะอิมพ์นี่แหละ


Credit : //www.omega-level.net/tag/game-of-thrones-season-2/


"ข้าไม่ได้ข่มขู่พระราชา แต่ข้ากำลังสั่งสอนหลานชาย"

"นี่ต่างหากล่ะคือการข่มขู่ เจ้าเข้าใจความแตกต่างของมันมั้ย"

ลอร์ดไทเรียนร่างแคระแห่งตระกูลเลนนิสเตอร์ เขาเล่นในบทบาทของเขาไม่ว่าจะเป็นแค่เดอะอิมพ์ผู้เสเพลกับสุรานารี หรือการได้มาซึ่งอำนาจสำคัญในราชวงศ์ เมื่ออยู่ในตำแหน่งไหนเขาจะเล่นในบทบาทนั้นอย่างดี เพราะการเกิดมาเป็นคนแคระมันเป็นปมด้อยที่ทำให้ต่ำต้อยไม่ต่างจากการเป็นลูกนอกสมรส เดอะอิมพ์ไม่สนใจในอำนาจเพราะย่อมรู้ตัวว่าไม่มีทางได้มา ผู้ไม่ฝักใฝ่ ไม่หลงใหลมัน ย่อมไม่หลอกตัวเอง มองเห็นความจริงได้กระจ่างและลงเล่นเกมชิงบัลลังก์อย่างรู้ทิศทางลม

ลอร์ดไทเรียนจึงถูกจัดอันดับเป็นตัวละครสุดโปรดที่หนึ่งในใจมาทั้งสองซีซั่น เขาเป็นความสนุกอย่างมากทั้งการผจญภัยนอกเมืองหลวงในซีซั่นแรก และยังกลายเป็นตัวละครหลักในซีซั่นสองขับเคี่ยวกันอย่างโดดเด่นกับราชินีเซอร์ซี พี่น้องที่มีทั้งความรัก ความแค้นในเวลาเดียวกัน เดอะอิมพ์ผู้ไม่เคยแยแสต่ออำนาจ แต่กลับจับพลัดจับผลูต้องมารับตำแหน่งสำคัญและรับมือกับอำนาจอันหอมหวานที่ดึงดูดเอาแต่ความชั่วร้ายเข้ามาหามัน

ความสุขในชีวิตแคระๆ ของเดอะอิมพ์คือการพูดจาข่มทับ
และสนุกสนานในการชิงไหวชิงพริบกับพวกแย่งชิงอำนาจ

ลอร์ดไทเรียนอาจไม่ใช่คนเลวนัก แต่ก็อย่าได้แอบหวัง ว่าเขาจะเป็นคนดี



คนต่อมาต้องเธอคนนี้ ราชินีเซอร์ซี สตรีผู้มีอำนาจมักมีความโดดเด่นเป็นที่ต้องตาต้องใจในเกือบทุกๆ ซีรีย์ย้อนยุค สีหน้าของราชินีเซอร์ซีนั้นดูเหมือนคนที่เหนื่อยล้ากับทุกสิ่งอย่างรอบตัว แต่เธอก็ไม่เคยหยุดต่อสู้ เพราะนี่คือเกมชิงบัลลังก์ เมื่อไหร่ที่หยุดก็จะสูญเสียอำนาจ เมื่อไหร่ที่ทำอำนาจหลุดมือ เมื่อนั้นก็จะแพ้ และเมื่อไหร่ที่แพ้ เมื่อนั้นคือความตาย ราชินีเซอร์ซีในซีซั่นแรกเหมือนจะควบคุมทุกอย่างในมือได้ แต่พอซีซั่นต่อมาทุกอย่างก็เริ่มจะอยู่เหนือการควบคุม จุดสำคัญคือเธอไม่ได้เป็นแค่ราชินีแต่เธอเป็นแม่ที่รักลูก และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนเป็นแม่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกๆ ของเธอ

Credit : //www.fanpop.com/spots/game-of-thrones


คนต่อมา เจ้าหญิงแดเนริส ทาร์เกเรียน สายเลือดเผ่าพันธุ์มังกร และ คาลสิลี ราชินีของชนเผ่าดอธแรคคี ชอบเรื่องราวของอีกฟากฝั่งทะเลนี้จังเลยค่ะ เมื่อคาลโดรโก้ที่น้าตาคงหล่อภายใต้หนวดเคราที่น่ากลัว แต่งงานกับเจ้าหญิงรุ่นเยาว์แดเนริส ความดุดันของคาลโดรโก้และความตระหนกหวาดกลัวของคาลิลีในระยะแรก ได้กลายเป็นความรักในเวลาต่อมา (แถมโรแมนติกเสียด้วยสิ) แม้ในฉากน่ากลัวอย่างตอนที่คาลสิลีต้องทำพิธีกรรมด้วยการกินหัวใจม้าเลือดฟูมปาก ก็ยังอุตส่าห์จะแฝงความโรแมนติกด้วยสายตาของคาลสิลีแดเนริสและคาลโดรโก้ที่มองสบตากัน เป็นแรงผลักดันและเป็นกำลังใจ มันเหมือนเป็นการส่งพลังให้เธอค่อยๆ กล้ำกลืนหัวใจม้าดิบๆ ลงไปได้ถึงคำสุดท้ายโดยไม่ขย้อนออกมาซะก่อน แล้วเธอก็ได้รับการยอมรับจากดอธแรคคีเหมือนที่เธอได้รับความรักจากคาลเดรโก้

แต่ว่านะ...ขอเป็นพิธีกรรมที่น่าขย้อนน้อยกว่านี้ได้ก็คงดี


Credit : //www.wordofthenerdonline.com/you-win-or-you-die-a-game-of-thrones-blu-ray-review/


ดาวหางแดงบนฟากฟ้ากับชะตาลิขิตของทายาททาร์เกเรียน เจ้าหญิงแดเนริสผู้อ่อนโยน จะค่อยๆ ได้รับบทเรียนของความโหดร้าย ตระหนักในพลังอำนาจของสายเลือดมังกรที่เปลวไฟมิอาจแผดเผาให้มอดไหม้ และเธอก็เริ่มเรียนรู้ที่จะใช้อำนาจอย่างเหี้ยมเกรียมด้วย



พัฒนาการทางคาแร็คเตอร์ของแดเนริส ทำให้เธอมีเสน่ห์มากมาย เจ้าหญิงผมสีเงินผู้งดงาม การตกระกำลำบาก กับการได้มาซึ่งอำนาจ "มารดาแห่งมังกร" ส่งผลให้ Emilia Clarke ผู้รับบทนีได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบถึงสองสถาบันในปี 2012 และคว้ามาได้หนึ่งรางวัลจาก Screen Actors Guild Awards ความจริง ก็ไม่รู้ระดับคุณค่าความใหญ่น้อยของอวอร์ดที่เอ่ยมาทั้งหลายแหล่นั่นหรอก แต่เห็นเป็นรางวัลก็ขอแสดงเป็นเครื่องการันตีคุณภาพให้แก่นักแสดงและบทบาทตัวละครนั้นๆ เอาไว้ก่อน



Credit ://www.tvequals.com/2011/06/05/game-of-thrones-the-pointy-end-episode-8/


อาร์ย่า สตาร์ค ธิดาคนเล็กของลอร์ดเน็ด สตาร์ค ผู้นี้ เธอเป็นเด็กหญิงที่ทำให้เกิดด้วยจินตนาการโรมานซ์ล่วงหน้า ไม่ว่าจะในแง่ของสายสัมพันธ์พี่น้องในวันที่เธอจะได้พบร็อบ พบสโนว์ หรือในแง่ของการเติบโตขึ้นในอนาคต (ถ้าหากจะโตขึ้นในเนื้อเรื่องน่ะนะ) เด็กหญิงในตระกูลผู้ดีควรจะเป็นเลดี้สูงส่ง แต่เส้นทางของอาร์ย่าผู้ห้าวหาญดูจะไม่ไปลงเอยที่การแต่งงานกับใครสักคนเพื่อสร้างสัมพันธ์ทางสายตระกูล ฉากสะเทือนใจหนึ่งในเรื่องนี้ คืออาร์ย่าท่ามกลางฝูงชนในช่วงท้ายๆ ของซีซั่นหนึ่ง เด็กหญิงมอมแมมบนแท่นรูปปั้น และการเผชิญหน้ากับความจริงอันเป็นฝันร้ายหลอกหลอนทั้งในยามตื่นและในยามค่ำคืนที่ไม่อาจข่มตาหลับลง (มันเป็นฉากคล้ายหนังฮอลลีวู้ดเรื่องนึงเลย แต่จำชื่อเรื่องไม่ได้)


Credit ://gameofthrones.wikia.com


เพราะมีฉากน่ารักเล็กๆ น้อยๆ ที่หาได้ยากในซีรีย์ อาร์ย่าตัวแสบที่ร็อบต้องจับตัวแบกใส่บ่าไปเข้านอน หรือตอนที่จอน สโนว์พี่ชายต่างแม่ได้ทำดาบเล่มน้อยเป็นของขวัญมอบให้ในวันลาจาก หรือความอ่อนโยนของพ่อผู้แข็งแกร่งกับการแสดงความปราณีต่อ Sweet Heart ลูกสาวตัวน้อย ทั้งในยามอบรมสั่งสอน ในยามปลอบโยน ชอบฉากที่จอน สโนว์กอดน้องสาว และเน็ด สตาร์คจูบหน้าผากลูกสาวมากๆ เลย (ก็มันเป็นฉากน่ารักที่หาได้ยากในท่ามกลางฉากเซ็กส์เดือด)




ที่ว่าเธอเป็นตัวก่อจินตนาการด้านโรมานซ์ เพราะคาดหวังว่าอาร์ย่าจะเป็นนางเอกในอนาคต (จินตนการทำงานอีกละ) การพัดพรากจากพ่อแม่และเหล่าพี่น้อง ทำให้อาร์ย่าที่แต่เดิมก็เป็นคนกล้าหาญไม่กลัวใครอยู่แล้ว จะ กร้านโลกที่เต็มไปด้วยการเข่นฆ่าอย่างรวดเร็ว เด็กหญิงอาร์ย่าที่ผ่านการฆ่าคนตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก เรียนรู้ที่จะเก็บงำซ่อนอารมณ์และมีไหวพริบรักษาความอยู่รอดของตนแม้ต้องตกอยู่ภายใต้เงาปีกของศัตรู



และแล้วเมื่อจินตนาการอาร์ย่าเป็นนางเอก ก็เริ่มจินตนาการถึงพระเอกในอนาคตอีกด้วย (อิอิ จินฯ เยอะเลยนะเนี่ย) หรือจะเป็นสายเลือดบาราธอร์นลูกนอกสมรสของกษัตริย์โรเบิร์ต แต่อย่าเป็นเขาคนนั้นเลย หน้าตาไม่ถูกโฉลกสักเท่าไร ถ้าจะให้ปลื้มจริง ต้องอัศวินลึกลับ จาเคน ฮาการ์ เขาไม่หล่อหรอกนะ แต่บังเอิญชะตาข้องเกี่ยวระหว่างเขากับเด็กหญิงอาร์ย่ามันต้องใจ นักโทษที่เด็กหญิงได้ปลดปล่อยช่วยชีวิต กับคำสัญญา 3 ศพ ที่เป็นเหตุให้จาเคนประณามว่า "เด็กหญิงช่างน่ารังเกียจ" คนพูดเหมือนจะเคืองนิดๆ แต่บรรยากาศการรบเร้าทวงคำสัญญาของอาร์ย่ามันน่ารัก ^^ (ประหนึ่งมองเห็นขุนไกรในวัยหนุ่มกับแม่หญิงดาวเรืองวัยเด็กน้อยในละครเรื่องสายโลหิต)



สัญญา คำต่อรอง ข้อแลกเปลี่ยน ที่บุรุษหนุ่มมอบให้เด็กหญิงตัวน้อยทั้งที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ มันคือที่พึ่งพาสุดเท่เลยล่ะ แล้วยังมีของแทนใจที่บ่งบอกว่าอาร์ย่าจะพึ่งพาบุรุษเปลี่ยนหน้าลึกลับคนนี้ได้อีกในอนาคต



แล้วก็ยังหวังอีกว่า ครอบครัวที่จะได้พบตัวอาร์ย่าเป็นคนแรกคือ จอน สโนว์ (ก็ชอบพี่ชายคนนี้เข้าไปแล้ว) เช่นเดียวกับที่หวังให้ จอน สโนว์เป็นคนได้พบน้องชายคนเล็กทั้งสอง แบรน กับ ริคคอน ได้โอบกอดและปกป้องพวกเขาเอาไว้ในแบบฉบับของพี่ชายแสนดี แต่ดูๆ แล้ว เส้นทางการกวัดแกว่งดาบของจอน สโนว์ก็เริ่มจะไกลห่างพี่น้องออกไป บนดินแดนอันหนาวเย็นนอกกำแพง



จอน สโนว์ อย่างแรกเลยคือเป็น "คนหล่อ" ที่หาได้น้อยในซีรีย์เรื่องนี้ อย่างที่สองคือเป็นลูกนอกสมรสที่เป็นปมด้อยต่ำต้อย (ชอบพวกมีปมในใจ) แต่เขาคือสายเลือดของเน็ด สตาร์ค ลอร์ดผู้เปี่ยมไปด้วยเกียรติศักดิ์และคุณธรรม สายเลือดก็ย่อมต้องมีดีอะไรบ้างล่ะ เพราะเป็นส่วนเกินของตระกูลอันทรงเกียรติ จอน สโนว์ จึงหวังจะสร้างเกียรติของตนเองด้วยการสละตนเป็นหนึ่งในวีรบุรุษไนท์วอทช์


Credit : //www.fansshare.com/gallery/photos/221510/Game-Of-Thrones-Wp-The-Wall/


แต่ไนท์วอทช์หน่วยหน่วยทหารประจำการรักษาเดอะวอลล์ ไม่ใช่หน่วยวีรบุรุษอย่างที่จอนจะคาดหวัง มันนานนับพันปีมาแล้วที่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น แม้หน่วยไนท์วอทช์จะยังคงปกปักรักษากำแพง แต่บรรดาผู้นำทหารประจำการเริ่มแก่ชรา กองกำลังเริ่มมีจำนวนลดน้อยถอยลง สิ่งชั่วร้ายนอกเดอะวอลล์กลายเป็นเพียงเรื่องเล่าขานที่ทางการคิงส์แลนดิ้งไม่ได้ให้ความสำคัญอีกต่อไป ไนท์วอทช์จึงไม่ใช่ที่สำหรับวีรบุรุษ แต่เป็นที่ของเศษเดนจากสังคมศิวิไลซ์ เป็นที่รวมตัวของนักโทษไร้ค่าเท่าที่จะเลือกหามาเป็ฯกำลังเฝ้ากำแพงได้ มันคือศูนย์รวมของคนไม่เป็นที่ต้องการ และไม่มีที่จะไป ถูกเนรเทศจากทางการ ครอบครัว หรือไม่ก็เนรเทศชีวิตอันสิ้นหวังของตนเองมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ อาหารการกินก็ขาดแคลน กำลังพลก็ไม่เพียงพอจะเฝ้าป้อมของกำแพงได้ทุกแห่ง กำแพงหินบางส่วนเริ่มผุพังและไร้กำลังจะซ่อมแซม แต่ถึงกระนั้นหน่วยไนท์วอทช์ก็ยังเท่ด้วยภารกิจเฝ้ากำแพงและคำสาบานตนต่อเทพเจ้าจะมอบกายถวายชีวิตเพื่อปกป้องผู้คนในดินแดน



"คืนมืดรวมตัว และโมงยามของข้าเริ่มต้น
มันจักไม่สิ้นสุด จนกว่าชีวิตข้าจะหาไม่
ข้าจักไร้ซึ่งดินแดน ไร้ภรรยาและไร้ซึ่งบุตร
ข้าจักไร้ซึ่งมงกุฏ ฤามีชื่อเสียงใดๆ
ข้าจะอยู่และตายขณะเฝ้ายาม
ข้าคือคมดาบในความมืดมิด
ข้าคือผู้เฝ้าระวังอยู่บนกำแพง
ข้าคือโล่ห์ผู้ปกป้องผู้คนในดินแดนนี้
ข้าขอยกชีวิตและเกียรติของข้าให้แก่ไนท์วอทช์
นับแต่คืนนี้จวบจนคืนต่อๆ ไป"


"ตอนเจ้าคุกเข่าลงยังเป็นเด็กชาย
แต่จงยืนขึ้นในฐานะคนของไนท์วอทช์"

นอกจากซีรีย์จะเริ่มต้นด้วยเรื่องราวของสามตระกูลในซีซั่นแรก มันยังเป็นเรื่องราวของสามดินแดนที่ทำให้เนื้อเรื่องค่อนข้างกระจัดกระจาย และมันก็ยังกระจายอยู่จนจบซีซั่นสอง คือ การไขว่คว้าหาหนทางของทาร์เกเรียนอีกฟากทะเล การแย่งชิงอำนาจของคนใต้กำแพง และการลาดตระเวนของหน่วยไนท์วอทช์ท่ามกลางป่าหินทุ่งน้ำแข็งในดินแดนนอกกำแพง


เป็นสามแนวที่ให้อารมณ์ต่างกันในซีซั่นแรก อารมณ์โรแมนติกของเจ้าหญิงตกยากกับหัวหน้าเผ่าดอธแรคคี อารมณ์ลุ้นกับการหักเหลี่ยมเฉือนคม ความปลิ้นปล้อนทรยศ การสืบสวนหาความจริงเกี่ยวกับการลอบสังหารมือขวาของกษัตริย์คนก่อน ความลับอัปยศ และสัมพันธ์สวาทของผู้คนที่ร้อนแรง (มากเกินไป) ส่วนดินแดนน้ำแข็งนอกกำแพงก็ให้อารมณ์วังเวง แลดูสงบนิ่งแต่ชวนยะเยือกหนาว ฉากเฝ้ายามบนกำแพงแลลงไป การเปิดประตูอุโมงไปสู่เขตนอกกำแพง หน่วยลาดตระเวนที่สูญหายไปพร้อมกับลอร์ดเบนเจน มีเหลือรอดเพียงม้าตัวเดียวที่วิ่งโดดเดี่ยวกลับเข้ากำแพง บรรยากาศเหล่านี้มันหลอนดีนะ แล้วก็เริ่มจะหลอนมากขึ้นๆ ในซีซั่นสอง ยอดเขาที่ปฐมบุรุษชาวเหนือเคยหยัดยืน เสียงแตรสัญญาณของคนเถื่อน หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง หมายความว่า ... และพอมันดัง ...หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง ...อ่า น่ากลัว

การปรากฏตัวของราชาปิศาจ (เป็นพวกซอมบี้กินคน)
การรวมตัวของคนเถื่อนภายใต้การปกครองของราชานอกกำแพง
(ยังไม่เจอตัว แต่กำลังจะโผล่มาแน่ในซีซั่นสาม)

ซึ่งไม่ต้องใช้จินตนาการใดก็บอกได้ว่า มันคือการเตรียมตัวยกพลลงใต้ร่นเข้ามาในเขตกำแพงในซีซั่นต่อไปแน่ๆ ฝ่ายหนึ่งจะลุกไล่ดินแดนเพื่อหาที่ปลอดภัย และอีกฝ่ายหนึ่งจะออกล่าเพื่อหาอาหาร (จินฯ ได้เตลิดเปิดเปิงมาก)

ในซีซั่นสอง ตระกูลต่างๆ เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมช่วงชิงอำนาจกับสามตระกูล ทูลลีย์ เกรย์จอย ไทเรล และบาราธอร์น ต่างระดมพล สุมหัว ร่วมมือ หักหลังกันอยู่ในเขตกำแพง เรื่องราวนอกกำแพงที่ถูกรายงานเข้าไปในคิงส์แลนดิ้งถูกละเลยความสนใจ เป็นเพียงเรื่องเหลวไหลอันงมงายของคนเหนือ ทั้งสิ่งน่าสะพึงกลัวนอกกำแพง หรือฤดูหนาวที่กำลังพัดมา ฤดูหนาวที่หายไปกว่าเก้าปี เมื่อลมหนาวเริ่มพัดมา คนเหนือต่างเชื่อว่าหากมีฤดูร้อนอันยาวนานเช่นนี้ นั่นหมายความว่าฤดูหนาวก็จะต้องยาวนานด้วยเช่นกัน แต่ผู้คนในกำแพงยังคงรบราฆ่าฟันแย่งชิงอำนาจโดยมองไม่เห็นความจริงที่ว่า

“คมดาบเหล่านั้นควรหันไปทางเหนือ ไม่ใช่ทางใต้”

เดอะวอลล์กับหน่วยไนท์วอทช์ เป็นเหมือนตัวคอยเบรกอารมณ์จากเรื่องเกมขับเคี่ยวช่วงชิงอำนาจและกามารมณ์ประโลมโลกในโลกใต้กำแพง พอเรื่องตัดมาที่เดอะวอล์ปุ๊บ มันจะกลายเป็นอีกอารมณ์ปั๊บ มันไม่มีการช่วงชิงที่นี่แต่มันคือความเปล่าเปลี่ยวของคนที่ไร้ความหมายต่อผู้คนผู้อยู่เบื้องหลัง คนที่มีคำสาบานเป็นเครื่องพันธนาการ การหลบหนีจากกำแพงมีโทษสถานเดียวคือประหาร (แต่ก็ไม่ประหารทุกคนหรอก เพราะคนเฝ้ากำแพงเหลือน้อยลงทุกที)


Credit : //www.fanpop.com/spots/game-of-thrones


เดอะฮาล์ฟแฮนด์ (The half hand ) ผู้บัญชาการครึ่งมือ หนึ่งในผู้บัญชาการของหน่วยไนท์วอทช์ที่ไม่ศรศิลป์ไม่ค่อยจะกินกันกับจอน สโนว์ แต่เขาคนนี้จะสั่งสอนให้เด็กหนุ่มผู้ทะนงในสายเลือดสตาร์คได้เข้าใจถึงหน้าที่และความเป็นจริงของไนท์วอทช์

"ข้ายินดีสละชีพ"

"ข้าไม่อยากให้เจ้ายินดี ข้าอยากให้เจ้าด่าพ่อมัน
แล้วสู้จนหัวใจเจ้าหยุดเต้น รู้ไว้นะ ไอ้หนู
ความตายของเจ้าคือของขวัญแด่ทุกคนที่อยู่หลังกำแพง
พวกเขาไม่มีวันรู้ว่าเจ้าทำอะไร ไม่รู้ว่าเจ้าตายอย่างไร
พวกเขาไม่รู้ชื่อห่าเหวของเจ้าด้วยซ้ำ
แต่พวกเขาจะปลอดภัย เพราะไอ้คนไม่มีแม่ไร้ชื่อ
สละชีพอยู่นอกกำแพง เพื่อพวกเขา
ทีนี้ เจ้าเข้าใจหรือยัง"

ถึงมันจะเป็นแค่คำพูดที่ใช้ปลอบใจตัวเองว่ามีความหมาย แต่จอน สโนว์ก็ต้องเลือกเองระหว่าง ครอบครัว กับ กำแพง เขาจะมีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งไหน

มันไม่มีศึกสงครามห่าเหวใดใต้กำแพงจะสำคัญ
หากพวกมันที่อยู่เหนือกำแพงนั่น
พากันข้ามฟากข้ามกำแพงเข้ามาได้

เพื่อประโยชน์ในวันข้างหน้าที่จะรักษากำแพงสูงตระหง่าน
จอน สโนว์ต้องฆ่าคนที่ไม่ควรถูกฆ่า
และรับเอาคำสั่งเสียสุดท้ายไว้

"จงจำไว้ว่า เจ้าคือคนของกำแพง"



ด้วยเหตุนี้ จึงเดาเอาว่า ทิศทางของซีรีย์ก็คงจะคล้ายๆ ลอร์ดออฟเดอริง คือสามัคคีรวมพลังทำลายล้างจอมมารผู้ชั่วร้าย ที่สุดแล้วอำนาจบนบัลลังก์กษัตริย์จะไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไป หากไม่มีเผ่าพันธุ์มนุษย์เหลือรอดอยู่ และมนุษย์จะรวมตัวกันเพื่อต่อสู้ขับไล่ปิศาจ (ดูแล้วเดาไปเรื่อยๆ มันสนุกดี)

ความชอบที่มีต่อซีรีย์เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องการหักเหลี่ยมหักมุมทั้งหลายแหล่
แต่มันเป็นเรื่องของแฟนตาซีที่น่าชมด้วย

ความดึงดูดแรกคือเดอะวอลล์สูงตระหง่าน และภารกิจฮีโร่ของบุรุษชุดดำ-ไนท์วอทช์
สายเลือดมังกรคนสุดท้ายและการกำเนิดครั้งใหม่ของมังกรพ่นไฟ หลังจากที่เคยสูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อพันปีก่อน (ออกแบบมังกรได้สวยดี)





หมาป่าแห่งแดนเหนือ หมาป่าเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของตระกูลสตาร์ค เช่นเดียวกับที่ราชสีห์เป็นสัญลักษณ์ของตระกูลเลนนิสเตอร์ ลูกหมาป่าที่รอดชีวิตจากการถูกฆ่า จอน สโนว์ โน้มน้าวผู้เป็นบิดาขอให้เลี้ยงพวกมันไว้ คำอนุญาตมาพร้อมกับเงื่อนไข ลูกๆ แต่ละคนต้องเลี้ยงดูป้อนข้าวป้อนน้ำพวกมันด้วยตนเอง หมาป่าแต่ละตัวของลูกแต่ละคนได้เติบโตขึ้น มันเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้ายแต่มันจงรักภักดีต่อเจ้าของยิ่ง หมาป่าของร็อบมันลือชื่อในสงครามด้วยมันกัดแหลกฆ่าหมู่ม้าและเหล่าทหารของศัตรูเป็นฝูง หมาป่าของอาร์ย่าได้ช่วยนายหญิงของมันไว้ เช่นเดียวกับหมาป่าของแบรน ริคคอนและสโนว์ที่ความดุร้ายและความจงรักภักดีของมันเป็นที่เกรงขาม

เพราะมันปกป้องนายของมัน มันจึงหล่อและเท่ทุกตัว โดยเฉพาะ "โกส" หมาป่าสีขาวโพลนที่เดินย่ำบนป่าน้ำแข็งสีขาว วนเวียนอยู่กับนายของมัน จอน สโนว์






แม้ไม่ฮอบบิท ไม่มีเอลฟ์ ไม่มีก็อบลินเหมือนลอร์ดออฟเดอะริง แต่ก็มีอะไรๆ หลายอย่างได้แฟนซีขนาดหนัก หมาป่า มังกร ร่างเงาลึกลับของยักษ์โบราณ ลางร้ายของอีกาดำบอกเหตุ ปิศาจซอมบี้ (ทีมผู้ผลิต walking dead คงต้องทำงานหนักหน่อยเพราะซีรีย์เลือกนี้กำลังพยายามจะแย่งผู้ชม) แดนน้ำแข็งทางตอนเหนือ ลุ่มทะเลทางตอนใต้ ที่ราบทะเลทรายอีกฝั่งทะเลอันไกลโพ้น ปราสาทภูผาในม่านเมฆบนดินแดนเวลล์ (ตระกูลทูลลีย์) เกาะเหล็กไหล (ตระกูลเกรย์จอย) โจรสลัด -สังกัดอิสระแถวน่านน้ำย่านอณาจักรตระกูลบาราธอร์น ดาวหางแดงบนฟากฟ้า ไสยศาสตร์แม่มด มนต์ดำของนักบวชแดง จอมขมังเวทแห่งคาร์ธ สารระเบิดทำลายล้างไวร์ไฟร์ (ยังพยายามจะแอคชั่นไซไฟกะเค้าอีกต่างหาก) ความเชื่อในทวยเทพและพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ขุนนาง ขันที ทหารเลว อัศวินชั่ว ปราสาทงดงาม หอคอยสูงเสียดฟ้า ป้อมปราการแข็งแกร่ง กระโจมกองทัพ หมู่ม้า กองเรือ กษัตริย์ ราชินี มายลอร์ด มายเลดี้ ซ่องโสเภณี คมดาบ ยาพิษ กามราคะอันโล่งโจ้ง ความวุ่นวายกระหายอำนาจที่หากจะได้มา ต้องช่วงชิง ฯลฯ





มันคือความหลากหลายอารมณ์ในเรื่องเดียว ความหลอนที่ยังไม่ปรากฏตัวมากนักบนดินแดนอันหนาวเย็นนอกกำแพง ฤดูหนาวที่ผู้คนเป็นกังวลอย่างหวาดกลัวแต่ก็ยังมาไม่ถึง (แม้มันจะผ่านไปสองซีซั่นแล้ว) การเข่นฆ่าอย่างเหี้ยมโหดที่ทำให้หายใจไม่ทั่วท้อง การทรยศหักหลัง ความเนรคุณคนที่ทำให้รู้สึกอยากแค้นกระอักอกตามไปด้วย การหักเหลี่ยมที่ชวนอึ้ง การหักมุมที่กระชากใจ และคารมคมคายที่เข้ากันกับเนื้อหาอย่างน่าฟัง

"กษัตริย์ที่ดีต้องรู้ว่าเมื่อใดควรเก็บแรง และเมื่อใดควรบดขยี้ศัตรู"

"ใครก็ตามที่ไม่ใช่พวกเรา พวกเขาคือศัตรู"

"ราชสีห์ไม่ทุกข์ร้อนกับความคิดของแกะหรอก"

"ข้าเตือนท่านแล้วนะ อย่าไว้ใจข้า"

"การมองไม่ใช่การเห็น การเห็น คือการเห็นที่แท้จริง"

"ข้าควรจะตื้นตันใจที่เจ้าเกิดทะนงตนขึ้นมา
ในขณะที่ทำอะไรบุ่มบ่ามลงไปงั้นสินะ"

“เอาอีกแล้วนะ ใต้เท้า ตอนนั้นข้าไม่มีทั้งอาวุธ ทั้งชุดเกราะ
และถูกล้อมรอบไปด้วยคมดาบของพวกเลนนิสเตอร์นะ
ท่านเห็นความเป็นวีรบุรุษในตัวข้างั้นรึ”

“หากวันใดเจ้าคิดขายข้าให้กับศัตรูล่ะก็ จำไว้ว่า
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะจ่ายให้เจ้าเท่าใด ข้าจะให้มากกว่า
ข้าชอบการมีชีวิตอยู่”

"เราเคยมีกษัตริย์ที่เลว เราเคยมีกษัตริย์ที่โง่
แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเหมือนครั้งนี้เลย
ที่เรามีกษัตริย์ที่ทั้งโง่และเลว"

"หนทางที่ใสสะอาดไม่ชนะในสงครามหรอก"

"การภักดีที่แท้จริง คือการบอกความจริงที่โหดร้าย"

"ความจริงอันโหดร้าย เป็นดาบสองคม"

ฯลฯ



นี่คือ Game of thrones ที่ชื่นชอบมาก  ส่วนที่ไม่ชอบเอามากๆ คือความเหี้ยมโหด และกามราคะนี่แหละ อย่างแรกมันทั้งโหด ทั้งเถื่อน ปาดคอเลือดสาด จ้วงท้องไส้กระฉูด ตัดคอหัวกระเด็น ตัดคอม้าขาดท่อน ตอกหัวศพเข้ากับหลักประจานปั่กๆๆๆ ฯลฯ ไม่รู้ทำไมจะต้องแสดงความโหดอะไรกันขนาดนั้น ส่วนอย่างหลังมันก็เยอะจริงๆ เอาแค่อีโรติคมันก็พอน่าดูชม แต่นี่มันเซ็กส์สะบึมเปลือยโล่งอย่างโจ่งแจ้งมาก ดีนะที่เราก็อายุเกิน 18 แล้ว ไม่ต่ำกว่ามาตรฐานวัยแยกแยะของ กบว. คิดว่าที่ซีรีย์มันฮือฮาและโด่งดัง..ความรุนแรงและเซ็กส์จัดเหล่านี้น่าจะมีส่วน (เดาเอานะ)



หนังสือชุดนี้เพิ่งเขียนออกมาได้ 5 เล่ม ยังไม่มีฉบับแปลไทย เพราะถ้ามีคงแล่นไปซื้อหามาอ่านเพราะมีความเชื่อส่วนตนว่า หนังสือนั้นมีมนต์เสน่ห์กว่าหนังเสมอ แต่ขณะนี้แพรวสำนักพิมพ์ได้ซื้อลิขสิทธิ์การแปลไว้แล้ว เห็นว่าจะออกปลายปี

หวังว่าผู้ประพันธ์จะทำมันต่อให้จบถึงเล่มที่เจ็ด โดยไม่ล้มหายตายจากไปซะก่อน ขอให้ท่านจอร์จ อาร์ อาร์ มาร์ติน มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน และสร้างบทสรุปสุดมันส์ที่ทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์มีความรักความเมตตา สามัคคีรวมพลัง และเจริญจริยธรรมอันดีงาม(บ้าง)ด้วยเถิด เพราะเท่าที่ดูมาในสองซีซั่นนั้น มนุษย์ช่างโหดร้ายและเลวทราม



ภาพและข้อมูล :

//www.fansshare.com
//gameofthrones.wikia.com
//filmax.in.th/feature125.html
//www.makinggameofthrones.com
//gameofthronesfansite.com/threads/8/
//www.imdb.com/title/tt0944947/awards
//www.fanpop.com/spots/game-of-thrones
//en.wikipedia.org/wiki/Game_of_Thrones_(TV_series)

Create Date :08 กรกฎาคม 2555 Last Update :3 สิงหาคม 2558 22:59:58 น. Counter : 61889 Pageviews. Comments :14