bloggang.com mainmenu search


สวัสดีค่ะนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน หลังจากปรับแก้ต้นฉบับนิยายและส่งบก.ไปแล้วก็อยากผ่อนคลายด้วยการเขียนเรื่องสั้นเน้นเอาสนุกไม่อยากคิดอะไรมากค่ะ อ่านแล้วมาทักทายกันบ้างนะคะจะได้รู้ว่ามีคนชอบแนวพระเอกกวนๆ แบบนี้กันเยอะหรือเปล่า ^ ^




บทที่ 4

ปุริมาไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ใหญ่บ้านท่าทางห่ามๆ ไม่มีมาดเก๊กจนดูจะกวน พูดตรงๆ ขวานผ่าซากจะเป็นลูกของป้าไหม สตรีร่างผอมสูงยิ้มง่ายพูดจาไพเราะ ป้าไหมใช้ภาษาไทยสื่อสารกับเธอโดยออกเสียงรอเรือชัดแจ๋ว นอกจากท่าทางใจดีแล้วยังทำกับข้าวเก่งอีกด้วย หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วปุริมารีบมาเป็นลูกมือช่วยป้าไหมเตรียมอาหารเย็นอยู่ในครัว

“แม่จ๋า เย็นนี้มีอะไรกันบ้างจ๊ะ”

เจ้าของเสียงใสอาบน้ำอยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยประแป้งลายพร้อยทั้งใบหน้าและลำคอส่งเสียงถามมารดามาจากบนบ้านก่อนจะวิ่งออกจากห้องนอนซึ่งคืนนี้จะมีปุริมานอนด้วยเป็นคืนแรกแล้วลงบันไดตรงเข้าไปยังห้องครัว กลิ่นอาหารหอมฉุยทำให้จมูกเล็กๆ กระดุกกระดิกทำเสียงฟุดฟิดอย่างน่าขัน

“เบาๆ หน่อยลูก... วันนี้มีน้ำพริกปลาทู กับต้มยำปลานิลจ้ะ แล้วนี่พี่นนท์ไปไหน ยังไม่เสร็จอีกเหรอ” ป้าไหมในชุดเสื้อคอกระเช้ากับผ้าถุงลายไทยตอบ มือวุ่นกับการเติมเครื่องปรุงต้มยำปลานิลง่วนอยู่หน้าเตาแก๊ส

บ้านของผู้ใหญ่ชานนท์เป็นบ้านไม้สองชั้น ด้านบนส่วนหน้าเป็นระเบียงกว้างถัดไปทางด้านหลังเป็นห้องนอนจำนวนสามห้องแยกเป็นสองฟาก ห้องนอนของป้าไหมอยู่ติดกับห้องนอนสำหรับรับแขกส่วนอีกฟากหนึ่งเป็นห้องนอนของชานนท์ซึ่งใหญ่ที่สุดในบ้าน ตรงกลางบ้านเป็นพื้นที่โล่งมีโทรทัศน์วางบนชั้นติดผนัง ชั้นหนังสืออัดแน่นด้วยหนังสือตำรากฎหมาย

“เสร็จแล้วมั้งจ๊ะแม่ นั่นไงพี่นนท์มาพอดี”

“หอมจัง” คนที่ใครต่างถามหาสูดจมูกเสียงดังจนคนที่ยุ่งกับการจัดผักต่างๆ ทั้งมะเขือเปราะ สะเดา ผักชี ต้นหอม ตวัดสายตาไปมองแว่บเดียวก่อนจะรีบหันกลับมา

“หอมอะไรพี่นนท์ หอมกับข้าวหรือว่าหอมแป้ง” เสียงใสๆ ของน้องสาวถาม จึงถูกพี่ชายก้มลงหอมแก้มฟอดใหญ่อย่างหมั่นเขี้ยว

“ก็หอมแก้มนี่ไง๊”

น้องสาวดิ้นไปมาพลางหัวเราะ “พี่โน้น...น...จั๊กกะจี้”

ถึงอย่างนั้นปุริมาก็ยังไม่กล้าหันไปมอง นึกถึงตอนอาบน้ำแล้วใบหน้าก็ร้อนซู่ขึ้นมาอีก หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ขึ้นไปด้านบนของบ้านพอถึงห้องโถงก็ใจเต้นแรงเมื่อเห็นผีตองเหลือง เอ๊ย... อีตาพี่ผู้ใหญ่นุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมาพอดี แทนที่จะสำนึกว่าตัวเองอยู่ในชุดไม่ค่อยเหมาะนัก (ก็ถ้าไม่มีแขกมาพักบ้านก็อาจจะเหมาะอยู่หรอก) กลับเดินตรงมาทางเธอ พอเธอจะรีบก้าวเข้าห้องฝ่ายเสียงห้าวก็ดังสกัดกั้นไว้ก่อน

‘หยุดนะ!’

หญิงสาวชะงักกึก ลมหายใจสะดุด ตัวแข็งค้างแต่ตากลอกไปมา ‘อะ...อะไรคะพี่นนท์’

ร่างสูงมาหยุดยืนตรงข้างเธอ ปุริมากลั้นลมหายใจเมื่อเห็นเขาจับปมผ้าขาวม้าดึงออกแล้วเหน็บมันใหม่ต่อหน้าต่อตาเธออย่างหน้าตาเฉย

‘อ้าว แมลงปอเองเหรอ นึกว่าแมงป่อง กลัวมันต่อยเอาน่ะ’

ดูเอาเถอะ แค่เห็นซากแมลงปอตายก็ทำเสียงดังเป็นเรื่องใหญ่โต หาเรื่องแกล้งกันหรือเปล่าก็ไม่รู้

ปุริมาสะบัดศีรษะ โอ๊ย คิดแล้วก็ช่างน่าเกลียดน่าชังเสียนี่กระไรนี่ถ้าเกิดทำผ้าขนหนูหลุดลงล่ะก็ อ๊าย...ย...ย ไม่อยากจะคิด เธอคงตาโต เอ๊ย เป็นตากุ้งยิงไปทั้งชาติแน่เลย

ชานนท์นั่งปุลงบนพื้นกระเบื้องสะอาดสะอ้านเพราะมารดาเป็นคนรักษาความสะอาด ยื่นมือไปหยิบเอาแตงกวาลูกเล็กในถาดที่มีผักหลายชนิดรวมๆ กันอยู่ขึ้นมากัดกร๊วบ น้องสาวที่ผละจากการคุ้ยตู้เย็นได้นมเปรี้ยวมาหนึ่งกล่องจัดการเสียบหลอดดูดจนนมหมดแล้วทิ้งถังขยะ ตามมาทรุดนั่งลงข้างพี่ชายและเอาอย่างคนโตด้วยการหยิบแตงกวามากัด เลยกลายเป็นว่าปุริมาอยู่ตรงกลางขนาบด้วยพี่ชายกับน้องสาวที่กำลังเมามันกับแตงกวา

ชานนท์อาศัยจังหวะที่ปุริมาก้มหน้ากับการเตรียมผักใส่จานลอบมองเสี้ยวหน้านวลขาวด้านข้าง ผมยาวตรงถูกเจ้าตัวมัดรวบเป็นจุกไว้ด้านบนอย่างง่ายๆ เปิดให้เห็นลำคอระหงนวลผ่อง

“นนท์ นนท์”

“ครับแม่”

“แม่จะให้ยกหม้อข้าวกับจานไปวางหน้าทีวี เรียกตั้งนานไม่ได้ยินมัวแต่เหม่ออะไรอยู่”

“พี่นนท์มัวแต่มองพี่ปู้อยู่จ้ะแม่ มองแล้วก็เคี้ยว ตาวาวๆ แล้วก็เคี้ยว”

“ใครบอกว่าพี่แอบมอง” พี่ชายเกือบทำหม้อข้าวหลุดมือเมื่อเจอน้องสาวแทงเอาแบบซึ่งหน้า “พี่กำลังนับเสียงตุ๊กแกมันร้องต่างหากว่ามันร้องกี่ทีจะได้เอาไปแทงหวย”

“ก็ไหนพี่นนท์บอกว่าการเล่นหวยไม่ดีไง โอ๊ย! พี่นนท์เขกหัวนุ่นทำไม”

จะเขกให้หยุดพูดเสียทีน่ะสิ เจ้าน้องสาวตัวดี ช่างสังเกตเกินไปแล้ว ขายหน้าเลยไหมล่ะ



สองทุ่มแล้ว ป้าไหมขอตัวไปนอนก่อนเพราะอ่อนเพลียและไม่เคยนอนดึก ส่วนน้องสาวผู้ใหญ่บ้านหลังจากนอนเอกเขนกดูทีวีแล้วก็เผลอหลับเลยถูกพี่ชายปลุกให้เข้าไปนอนในห้อง ชานนท์เดินตามน้องสาวเข้าไปในห้องเพื่อดูความเรียบร้อยของที่หลับที่นอน

ถึงจะมีโน้ตบุ๊กที่ขนมาด้วยแต่เพราะงานทุกอย่างในวันรุ่งขึ้นถูกเตรียมไว้หมดแล้วปุริมาจึงไม่อยากเปิดมันในตอนนี้โดยเฉพาะเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นดวงจันทร์ดวงโตลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้าจนมองออกไปเห็นทุ่งนารับแสงจันทร์มีต้นไม้ยืนต้นเป็นเงาสลัวอยู่ไกลๆ หญิงสาวเดินออกไปเลือกมุมที่มีกิ่งกระดังงายื่นออกมาเคลียราวระเบียงชั้นบน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของมันทำให้สดชื่นจนคิดว่าหากเป็นเจ้าของบ้านคงจะถือโต๊ะญี่ปุ่นสักตัวมานั่งทำงานในยามค่ำคืนคงจะเพลิดเพลินไม่น้อย

เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องระงม ระเบียงที่ปุริมานั่งอยู่ยื่นไปคนละทางกับหมู่บ้านซึ่งห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร หญิงสาวได้ยินเสียงกุกกักในห้อง ก่อนจะมีเสียงเปิดประตูออกมา

“อ้าว ยังไม่นอนอีกเหรอ” เสียงเอ่ยถามลอยๆ มาแล้วคนถามก็ดูเหมือนไม่คิดจะได้คำตอบเขาเดินหายเข้าไปในห้องของตัวเองแล้วออกมาพร้อมกับข้าวของเต็มไม้เต็มมือ

“คิดถึงแฟนอยู่เหรอ ทำไมไม่พามาด้วยล่ะ”

ขณะพูดเรื่อยๆ แถมยังลงท้ายเสียงสูงมือก็จับโต๊ะญี่ปุ่นกางออก แล้วยกโน้ตบุ๊กขึ้นมาวาง จัดการเปิดแล้วเสียบปลั๊กเข้ากับตัวเสียบข้างเสา พอเขาทรุดตัวลงนั่งลงหน้าโต๊ะ และไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาอย่างที่อยากให้เป็นจึงเงยหน้าขึ้นสบตาดำที่มองมาอย่างเอาเรื่องหน่อยๆ

“ไม่พูด ทำหน้างอ ปากเบี้ยว ตาเหล่”

“เอ๊ะ” ปุริมาไม่รู้จะขำหรือบึ้งใส่ผู้ใหญ่บ้านจอมกวนนัก ประหลาดคนจริงๆ มาอารมณ์ไหนอีกแล้วก็ไม่รู้ คนยืนอยู่คนเดียวดีๆ จะชมจันทร์เพลินๆ เสียหน่อยก็มาทำให้เสียบรรยากาศหมด

“บังเอิญว่าพี่ชอบออกมานั่งทำงานนอกชาน มันเย็นสบายดี ขอโทษทีถ้าเกิดมาขัดจังหวะตอนที่กำลังจะโทรหาแฟนพอดี”

“ปู้ไม่ได้มาโทรหาแฟนสักหน่อย ก็แค่อยากรับลมชมดาวก็เท่านั้นเอง แต่เห็นทีว่าหากอยู่ตรงนี้คงทำให้พี่นนท์ไม่มีสมาธิปู้ขอตัวดีกว่าค่ะ”

“อ้าว ยังไม่ได้ว่าสักคำเลย ยังไม่ถึงเวลาเป็นสาวแก่อารมณ์แปรปรวนแล้วเหรอ”

หญิงสาวตาเขียว คนที่ตามใจปากอยากกวนแขกเห็นท่าไม่ดีเลยรีบยกประเด็นที่เตรียมมาทันที

“ไม่อยากรู้ข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับหมู่บ้านตามูเหรอ ถ้าไม่ศึกษาไว้ก่อนพรุ่งนี้ทะเล่อทะล่าเข้าหมู่บ้านระวังจะเจอตอเข้าล่ะ”

“ในหมู่บ้านตัดไม้กันเยอะเหรอคะ”

“ทำไม”

“ก็เหลือตอไว้เยอะไงคะ”

ชานนท์หัวเราะพรืด น่าแปลกที่พอรู้ว่ารุ่นน้องสาวสวยเสน่ห์แรงตามที่เขารู้มาเมื่อครั้งยังเรียนอยู่ยังไม่มีแฟนเขาก็เกิดความโล่งอกเหมือนมีหวังอะไรเทือกนั้น ถึงจะยังไม่อยากเชื่อเพราะหน้าตาก็ดีออกปานนี้ ตอนเรียนก็เป็นที่ร่ำลือว่ามีเพื่อนตามจีบกันเป็นพรวน

นพพรเพื่อนเขาออกจะหน้าตาดี ขาวหล่อ แต่ทำไมยังถูกเมิน สุดท้ายเขาก็ให้คำตอบตัวเองได้ว่า สงสัยแม่เจ้าประคุณจะหยิ่งและตั้งสเป็คไว้สูง ประมาณว่ามองลงมาไม่เห็นหัวใคร

ฮึ คิดว่าสวยนักหรือไง เขาก็หล่อเลือกได้เหมือนกัน

“จะอธิบายให้ฟังหรือจะให้ดูในโน้ตบุ๊กคะ”

“หือ...” ชายหนุ่มกะพริบตา

“ก็เรื่องข้อมูลพื้นฐานที่ผู้ใหญ่บ้านว่า”

“เรียกพี่นนท์ก็ด๊าย ไม่ต้องมีพิธีรีตองขนาดนั้นหรอก ไหนๆ ก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันนี่ ใช่ไหม...น้องปู้ ปุริมา”

ตอนท้ายปุริมาจับน้ำเสียงไม่ถูกว่าคนพูดจงใจทอดให้อ่อนหรือว่าล้อเลียนกันแน่ เธอเลยตอบรับกลับไปเสียงราบเรียบ

“ค่ะ พี่นนท์”

พอได้ยินอย่างนั้นถึงมันจะไม่หวานหยดย้อยแต่ก็เปลี่ยนชายหนุ่มจอมกวนเป็นเจ้าถิ่นที่ดีเตรียมให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ ชายหนุ่มก้มหน้าจับเมาส์เลื่อนไปมาคลิกหาไฟล์ที่ต้องการแล้วจึงเงยหน้าขึ้นและกวักมือเรียกหญิงสาวโดยที่ไม่ยอมหันหน้าจอไปทางเธอ

หญิงสาวย่นจมูก ก่อนจะยอมขยับไปใกล้แต่ยังไม่มากพอสำหรับคนที่นั่งตัวโตเป็นยักษ์ปักหลั่น

“เป็นคนแก่สายตายาวเหรอ ถึงอยู่ไกลขนาดนั้นพี่ไม่จับกินหรอกน่า กินข้าวอิ่มแล้วยังไม่หิวเร็วขนาดนั้น”

“ทำไมไม่คิดบ้างล่ะคะว่าปู้อาจจะกลัวพี่นนท์”

“กลัวอะไร กลัวพี่ปล้ำเหรอ” ว่าแล้วก็หัวเราะอย่างเหมือนการ์ตูนในโทรทัศน์ได้อย่างน่าหมั่นไส้มาก

“เปล่าค่ะ กลัวปากพี่นนท์ฉีกเนื้อปู้จนเลือดโทรมต่างหาก”

“พี่ไม่ใช่หมาสักหน่อย”

“ก็ใครว่าล่ะคะ ใครๆ ก็รู้ว่าพี่นนท์เป็นผู้ใหญ่บ้านและคงจะรอบรู้เกี่ยวกับบ้านตามูทุกซอกทุกมุม จะเริ่มอธิบายความเป็นมาของหมู่บ้านได้หรือยังคะ”

เจอดักคอ ชานนท์เลยได้แต่เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ ก่อนจะยอมเริ่มเรื่องราวเกี่ยวกับบ้านตามูที่ตัวเองยกเป็นข้ออ้างให้หญิงสาวอยู่ตรงระเบียงนี้ไม่หนีไปนอน เขากระแอม

“กาลครั้งหนึ่ง...นานมาแล้ว” ชายหนุ่มเริ่ม

“พี่นนท์!”

**************

Create Date :29 มีนาคม 2556 Last Update :29 มีนาคม 2556 13:47:38 น. Counter : 2293 Pageviews. Comments :7