bloggang.com mainmenu search
วันพฤหัสที่ 29 มี.ค.-วันอาทิตย์ที่ 1 เม.ย.61

ทริปนี้มีเวลาเตรียมตัว 2 อาทิตย์ จองแค่ตั๋วรถไฟกับตั๋วเครื่องบินแล้วก็ที่พัก ที่เหลือไปตายเอาดาบหน้า ตามไปเที่ยวด้วยกันครับ เที่ยวแบบฉบับรถไฟ ปู๊นๆ
 
 
วันพฤหัสที่ 29 มี.ค.61 เดินทางโดยรถไฟ

เป็นครั้งแรกที่เดินทางโดยรถไฟตู้นอน ตื่นเต้นมาก ตอนจอง จองในเวปไซค์ของการรถไฟ คลิกเลย
 
วิธีการจองดูในเวปนี้ได้ครับ คลิกเลย เริ่มต้นเดินทาง ผมจองรถด่วน ขบวนที่ 83 ออกจากหัวลำโพง 17.05 น. ถึงตรังเวลา 08.05 น. จองตู้แอร์ชั้นสอง จองเตียงบนกับเตียงล่าง ราคาเตียงบนจะถูกกว่าเตียงล่าง
 
ออกจากบ้านนั่งแท็กซี่ไปลงรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานี ศูนย์ราชการนนทบุรี (ศาลากลางนนทบุรี) มาถึง MRT เวลา 16.35 น.
 
 
 
รอไม่ถึงนาที รถไฟมาพอดี ภายในคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ นั่งสบายเชียว
 
 
นั่งมาสุดสายถึงสถานีเตาปูนเปลี่ยนขบวนไปลงสถานีบางซื่อ (1 สถานี) 
 
 
 
จากสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีนั่งประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ 
 
 
 
ผมมาดักขึ้นที่สถานีชุมทางรถไฟบางซื่อ รถไฟจะมาถึงเวลา 17.30 น.
 
 
มาถึงก่อนครึ่งชั่วโมง มีเวลาหาอะไรรองท้องไปก่อน เจอร้านข้าวแกงแถวสถานีรถไฟนั้นแหละ กินกันตาย
 
 
 
หมูกระเทียม อาหารตามสั่ง
 
 
 
อิ่มเสร็จเดินไปรอรถไฟที่ชานชาลาที่ 2
 
 
รถไฟมาจากหัวลำโพง แอบเลทไป 20 นาที ชิวๆ
 
 
ขึ้นไปภายในตู้นอนสะอาดดี ระหว่างทางเดินไม่กว้างมาก
 
 
ช่วงแรกที่นั่งเป็นเก้าอี้หันหน้าชนกัน ยังไม่ได้ปรับเป็นเตียง ตรงกลางสามารถดึงไม้มาวางเป็นโต๊ะตรงกลางได้
 
 
ชั้นบนพับอยู่ รอเจ้าหน้าที่มาปรับเป็นเตียง
 
 
พอเจ้าหน้าที่มาไขกุญแจปรับเป็นเตียงนอน จะเป็นแบบนี้
 
 
ตรงกลางด้านบนจะมีที่วางกระเป๋า
 
 
ส่วนปลั๊กไฟจะมีให้แค่จุดเดียว ตรงกลางขบวนระหว่างเตียงที่ 17 กับ 21 มีให้แค่ 4 หัวปลั๊ก
 
 
นั่งเล่นไปซักพักประมาณทุ่มเจ้าหน้าที่จะมากางเตียงให้ ถ้าเรายังไม่อยากก็บอกเจ้าหน้าที่ว่ายังไม่กาง ของผมให้มากางตอน 2 ทุ่ม นั่งดูบรรยากาศภายนอกรถไฟไปก่อน
 
 
 
เตียงบนไม่เห็นวิวอะไรทั้งนั้น แคบกว่าเตียงล่าง แต่นอนไม่อึดอัด ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม สะอาดเลยครับ ไม่มีกลิ่นเหม็น กลิ่นอับใดๆ แต่ไม่หอม 555 ตรงนี้ความสะอาดให้ผ่าน
 
ส่วนเตียงล่างติดกระจกเห็นวิว เตียงกว้างกว่า นอนสบายกว่าไม่ต้องปีนบันได
 
 
ส่วนหัวตู้จะมีอ่างน้ำไว้ให้ล้างหน้าแปรงฟัน 2 อ่างพร้อมกระจก ถัดไปเป็นห้องส้วมจะมี 2 ห้อง ซ้าย-ขวา มีแบบนั่งยองๆกับชักโครกคนละฝั่ง เป็นแบบปล่อยลงราง ไม่มีกลิ่น สะอาดในระดับหนึ่ง ไม่ถึงกับเลวร้าย ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูนะครับ
 
 
ช่วงประมาณหกโมงเย็นเดินไปตู้เสบียง เป็นแบบหน้าต่างเปิดโล่งรับลมสบาย มีโต๊ะให้นั่งกินข้าว ครัวจะปิดประมาณ 4 ทุ่ม ไม่มีแอลกอฮอล์ขาย ราคาแอบสูงไปนิด ผมไม่ได้อุดหนุน อิ่มมาแล้ว แต่บรรยากาศนั่งกินข้าวไป ชมวิวไป น่าจะเพลิน ตอนแรกว่าจะถ่ายบรรยากาศภายในตู้เสบียงมาให้ดู เจ้าหน้าที่บอกห้ามถ่ายรูป เลยเดินกลับ

พอสามทุ่มเริ่มเข้านอน จะมีผ้าม่านกั้นให้ มีหมายเลขเตียงปักไว้เพื่อให้รู้ว่านอนเตียงไหน
 
 
นั่งๆนอนๆประมาณสองทุ่มถึงราชบุรี ลงไปถ่ายรูปเล่น
 
 
ภายในตู้แอร์ มีผัดลมให้ด้วย เปิดทั้งคืน พัดลมดังเหมือนกันครับ แต่อากาศไม่หนาวเกินไป ผ้าห่มอุ่นดี นอนหลับสบาย ช่วงรถวิ่งอาจจะมีโครงเครงบ้างเป็นบางจังหวะ เสียงจากภายนอกดังเข้ามาในตัวรถแต่ดังไม่น่ารำคาญ มาตื่นอีกทีประมาณตี 1 รู้สึกว่าจะจอดนานเหมือนกัน หลังจากนั้นก็หลับๆตื่นๆ มาตื่นอีกทีตอนหกโมงเช้า เริ่มมีแม่ค้าเอาของมาขายบนขบวนกันแล้วครับ ตามกำหนดถึงตรังเวลา 08.05 น. เย้..
 
ความเป็นจริงเวลา 08.15 น.เพิ่งถึง สุราษฏร์ธานี เฮ้ย...
 
 
ถามพนักงานรถไฟบอกว่าเมื่อคืนรถหัวจักรเสีย ต้องรอมาเปลี่ยนที่บางสะพานเป็นชั่วโมง วันนี้น่าจะถึงตรังประมาณเที่ยง อืม... อยาก Slow Life รถไฟไทยตอบโจทย์คุณได้จริงๆ
 
แม่ค้าขายข้าวมาขายบนขบวนพอดี กินกันตายไปก่อน 45 บาท อร่อยเหมือนกันแหะ
 
 
ใจอยากนั่งรถไฟมานานแล้ว เพิ่งมีโอกาสครั้งนี้ครั้งแรก สมใจอยาก จริงๆถ้าตรงเวลาจะเชียร์เต็มที่เลย เพราะรู้สึกปลอดภัย นอนสบาย มีอีสระ นั่งชมวิวสองข้างทางเพลินดี แต่เจอเลทไป 4 ชั่วโมง จะเชียร์ดีเปล่าหนอ เห้อๆ ถามพนักงานโรงแรมบอกรถไฟเลทบ่อยมาก ไม่บ่นแล้ว เดินสำรวจแต่ละตู้ดีกว่า ส่วนมากฝรั่งจะลงที่ สุราษฏร์กันเยอะ
 
ตรงนี้ตู้แอร์แบบนั่ง ดูสบายดีเหมือนกัน
 
 
วันศุกร์ที่ 30 มี.ค.61 กิน เที่ยวตัวเมืองตรัง

ตามกำหนดถึงตรังเวลา 8.05 น.แต่วันนี้มาถึงสถานีตรังเวลา 12.30 น. สบายใจไป ดีนะไม่ได้วางโปรแกรมไปไหน ไม่งั้นพัง
 
 
ภายในสถานีรถไฟจำหน่ายตั๋ว เอาตารางเที่ยวรถไฟมาให้ดู ใครสนใจนั่งรถไฟไปเที่ยวกันตังก็ได้นะ ส่วนผมขอบายเรื่องรถไฟก่อนครับ 555
 
 
หน้าสถานีรถไฟจะมีรถตุ๊กๆหัวกบ เอกลักษณ์ของเมืองตรังรอบริการผู้โดยสาร
 
 
ที่ตรังผมจองโรงแรม มายเฟรนด์ จากหน้าสถานีรถไฟเลี้ยวขวาเดินประมาณ 50 ม. ก็ถึงที่พักแล้วครับ ไม่ไกล
 
 
 
ตอนจองไม่ได้วางมัดจำอะไรทั้งนั้นคุยกันทางไลน์ บอกให้มาจ่ายวันที่มาพักได้เลย
 
 
คุยกับน้องพนักงานดูแลดี ให้คำแนะนำที่เที่ยว ร้านอาหาร ประทับใจครับ
 
ให้แผนที่พร้อมอธิบายการเดินทางดีมาก
 
 
ผมเช่ามอเตอร์ไซค์ จองทัวร์ดำน้ำ One day trip เกาะรอก และวันสุดท้ายเหมาตุ๊กๆหัวกบพาไปกินข้าว ซื้อของพร้อมส่งสนามบิน น้องพนักงานเค้าจัดให้หมด ไม่เอาเปอร์เซ็นต์อีกต่างหาก แถมบอกวันสุดท้ายค่อยมาเคลียร์เงิน รูดบัตรเครดิตได้อีกด้วย ถูกใจๆ เดี๋ยวค่อยมาเชียร์ที่พักต่อ 555 ตอนนี้พาไปดูห้องก่อน
 
ผมได้ห้อง 312 อยู่ชั้น 3 ห้องติดด้านหน้าถนนเลยครับ
 
 
เข้าไปดูห้องกัน ภายในกว้างดี ไม่อึดอัด เป็นเตียงไม้คู่ขนาด 5 ฟุตแข็งแรงดี ขยับตัวไม่มีเสียงเอี๊ยดอ๊าด มีผ้าเช็ดตัวให้ 2 ผืน ผ้าห่ม ปลอกหมอนอยู่ในเกณฑ์สะอาด ห้องไม่มีกลิ่นอับหรือเหม็นชื้นใดๆ ผนังห้องปูด้วยวอลเปเปอร์สีไข่ไก่ พื้นกระเบื้อง ตรงหัวเตียงไม่มีปลั๊กไฟและโคมไฟ ด้านข้างเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ 2 บานมีผ้าม่านกันแดดสีฟ้า บังแสงได้ดี
 
 
ปลายเตียงมีตู้เย็น น้ำเปล่า 2 ขวด ชั้นบนมีทีวีพร้อมกล่องสัญญาณดิจิตอล ถัดไปเป็นโต๊ะเครื่องแต่งตัว มีปลั๊กไฟให้เสียบอยู่ 4 หัวปลั๊ก ใครไม่พอเตรียมรางปลั๊ก 3 ตาไปด้วยก็ดี
 
 
มีกฎการเข้าพักติดไว้ด้วย
 
 
ด้านประตูจะมีตู้ใส่เสื้อผ้าไว้ให้ 1 ตู้พร้อมไม้แขวนเสื้อ ถัดไปเป็นห้องน้ำ
 
 
 
ห้องน้ำเป็นแบบชักโครกพร้อมสายฉีดน้ำ อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกจะอยู่ขวามือด้านประตูห้องน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่นใช้ได้ปกติ ร้อนดี น้ำไหลแรงใช้ได้ แอร์เย็นฉ่ำไม่มีเสียงดังรบกวน ระบบไฟแบบการ์ดตัดไฟ ส่วนไวไฟผมไม่ได้ขอเลยไม่รู่ว่าสัญญาณแรงเปล่า
 
 
โรงแรมมีทั้งหมด 4 ชั้น ไม่มีลิฟต์ ชอบตรงชั้น 4 มีลานตากผ้าให้ด้วย มีทั้งไม่แขวนเสื้อ ราวตากผ้าพร้อม ลืมถ่ายรูปมาให้ดู สำรวจห้องเสร็จ ลงมารับรถมอเตอร์ไซค์ที่เช่าไว้ ราคา 250 บาท 24 ชั่วโมง ผมรับเวลาบ่ายสองพรุ่งนี้มาคืนเวลาบ่ายสองเหมือนเดิม แฟร์ดี ส่วนน้ำมันเหลือติดถังมาหน่อยต้องไปเติม 50 บาท เกินครึ่งถัง วิ่งได้ยาว
 
คันนี้แหละครับ เวฟ 125 ตอนแรกให้แบบเกียร์ออโต้ ผมขับเกียร์ออโต้ไม่เป็นเลยขอเป็นรุ่นนี้
 
 
ก่อนแว๊นซ์ขอเติมพลังก่อน พนักงานแนะนำร้านข้าวแกงเจ้เกียงอยู่แถวข้างหน้าที่ผมพักนั้นแหละ ตอนเดินจากสถานีรถไฟมาที่พักก็ผ่านอยู่
 
ถ่ายจากที่พัก มายเฟรนด์
 
 
 
มาแล้วไข่พะโล้กับผัดวุ้นเส้น แถมน้ำพริกพร้อมผัก
 
 
หมูฮ้อมกับแกงเหลืองปลากะพง
 
 
มาม่าใส่ไข่
 
 
โดยรวมรสชาติยังไม่โดดเด่น พอกินได้ ราคา 145 บาท รวมน้ำเปล่า 2 ขวด รับได้ไม่ถูก ไม่แพง อิ่มเสร็จขับรถไปเติมน้ำมัน ออกด้านหลังข้ามทางรถไฟตรงไปก็เจอปั๊มน้ำมันแล้วครับ ผมขับผิดทางถามน้องที่ขับมอเตอร์ไซด์ บอกทางให้ ผมทำท่างงๆน้องเค้าจะขับย้อนไปส่งให้ อยากบอกว่าคนเมืองตรัง มีน้ำใจมาก ขับมาสองวันถามทางมีแต่ให้ขับตามเดี๋ยวจะขับไปส่ง รักคนเมืองตรังแล้วสิ
 
หลังจากเติมน้ำมันเสร็จวิ่งย้อนกลับมาสถานีรถไฟเลี้ยวขวาตรงไปทางหอนาฬิกา จากสถานีรถไฟผ่านแยกไฟแดง 2 แยกถึงหอนาฬิกา
 
 
 
ระหว่างติดไฟแดงแฟนเห็นด้านขวามือมีร้านอาหารบอกขอชิมหน่อย จัดไป สงสัยเมื่อกี้ยังไม่อิ่มแน่
 
 
 
ร้านโกหยิง อยู่ด้านขวามือต้องกลับรถตรงวงเวียนหอนาฬิกาตรงนี้มีสองร้านติดๆกันแฟนเลือกร้านนี้ดูเก่ากว่า น่าจะสูตรดังเดิม 
 
นี่เลยเส้นเหลืองผัดซีอิ๋ว รสชาติยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่ ต้องปรุงน้ำตาล น้ำส้ม พริกป่นนิดหน่อยถึงจะอร่อย แต่แฟนผมบอกอร่อยมาก ลิ้นใครลิ้นมันเนอะ
 
 
เกาเหลาเย็นตาโฟ ชอบกุ้งกรอบ ส่วนน้ำเย็นตาโฟเฉยๆยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่
 
 
ร้อนๆอย่างนี้ตบด้วยชามะนาวกับน้ำลำไย เย็นชื่นใจ
 
 
อิ่มเสร็จขับกลับไปทางสถานีรถไฟเลี้ยวขวาไปได้หน่อยนึงฝนตก เห้อๆ กลับเข้าที่พัก นอนหลับไป 1 ตื่น สบายไป
 
ห้าโมงเย็นฝนหยุดตก ขับรถไปเที่ยว ขับวนไปวนมา มั่วไปมั่วมา มาออกถนนห้วยยอด เจอวิหารคริสต์ได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่นปี 2522
 
 
 
 
สำรวจถนนห้วยยอดขับไปเรื่อยๆ ผ่านร้านหมูย่าง ติ๋มซำตลอดสาย รวมถึงขนมเปี๊ยะซอย 9 เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน ย้อนกลับเข้าตัวเมืองผ่านหอนาฬิกา เข้าตลาดสด วนจนเจอจนได้ ศิลปะข้างกำแพง อยู่ตรงข้างร้านแว่นตา
 
 
 
 
นางแบบผมถ่ายรูปจนพอใจ ขับไปล่ารูปถ้ำมรกตต่อ รูปนี้จะอยู่แถว ธ.ธนชาติ ถ้าใครไปไม่ถูกถามพี่วินได้เลยครับ ผมก็ถามพี่วิน อยู่ในเมืองนั้นแหละ
 
 
 
 
ชอบตึกนี้จังเลย สวยคลาสิคดี อยู่ตรงซอยรูปถ้ำมรกตนั้นแหละ
 
 
เป้าหมายต่อไป ถนนคนเดินชินตา จากสถานีรถไฟขับตรงไปหอนาฬิกาให้ตรงไปเรื่อยๆจะผ่านถนนคนเดินก่อนถึง สนง.ป่าไม้เราเลยไปก่อนถึงแยกไฟแดงเลี้ยวขวามานิดเดียวถนนคนเดินชินตาจะอยู่ทางซ้ายมือ
 
 
จากป้ายขับตรงไปไม่ไกลก็ถึงถนนคนเดินชินตาแล้วครับ
 
 
 
โดยรวม ร้านอาหารเยอะ มีของกิ๊บเก๋ มุมถ่ายรูปคล้ายๆถนนคนเดินที่หาได้ทั่วไปใน กทม. เหมาะสำหรับวัยรุ่นมาเดินเล่น
 
 
 
 
 
ที่ชอบคือร้านนี้ ตักกับข้าวไว้เป็นจานๆ ชอบอย่างไหนก็เลือกหยิบไปได้เลย เห็นมีอยู่ 2 ร้านอีกร้านอาหารน้อยกว่านี้
 
 
 
 
 
เดินได้ซักพักกลับมาเดินถนนคนเดินอีกที่ตรง สนง.ป่าไม้ ตลาดจะเล็กกว่าถนนคนเดินชินตา ส่วนมากขายของกิน เจอขนมจีนแฟนผมไม่รอช้า น้ำยาผสมน้ำพริก ของโปรดเค้าละ
 
 
 
 
ส่วนผมเดินสำรวจของกินไปเรื่อยๆ
 
 
 
 
ก่อนกลับซื้อลูกชิ้นทอดติดมือไปด้วย
 
 
เป้าหมายต่อไปคือร้าน เลตรัง 2 เป้าหมายหลักสำหรับวันนี้
 
 
จากถนนคนเดินขับกลับมาถึงวงเวียนหอนาฬิกาเลี้ยวขวาตรงไปถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินตรงไปแล้ววนเข้าซอยนิดนึง ถ้าใครงงลองโทรถามทางได้ครับ

พิกัด 13 ซอยไทรงาม 1 ถนนไทรงาม ตำบลทับเที่ยง จังหวัดตรัง92000 โทรศัพท์ : 075-217-700, 081-665-5870 , 089-772-3080
เวลาเปิดปิด : รอบเช้าติ่มซำเริ่มตั้งแต่ 6.30-11.00 น. รอบเที่ยงเริ่มตั้งแต่ 11.00-14.00 น. รอบเย็นเริ่มตั้งแต่ 17.00 - 22.00น. (ครัวปิดเวลา 21.30 น.)
 
 
ได้เวลาสั่งอาหาร จะมีเมนูมาให้เลือกส่วนติ่มซำจะอยู่หน้าร้าน วันนี้ตอนเย็นบอกของจะไม่วางเยอะอยากได้อะไรก็สั่งได้เลยเดี๋ยวนึงสดๆให้
 
 
มาแล้ว สั่งไม่เยอะครับ เพราะเริ่มอิ่มกันแล้ว
 
 
ไม่ได้สั่งหมูย่างมาชิมครับ
 
 
ขนมจีบเต้าหู้
 
 
ขนมจีบกุ้งสาหร่าย
 
 
กุยฉ่ายทอด
 
 
เต้าหู้หมูสับ
 
 
บะกุดเต๋ น้ำซุปเข้มข้นมาก เมนูนี้เด็ด เนื้อติดกระดูกเปื่อยมาก
 
 
ปลาหมึกแดดเดียว ทอดมากำลังดีเคี้ยวหนุบหนึบ ปลาหมึกสดเนื้อหวานมาก
 
 
พระเอกมาแล้ว ฮ้อยจ้อปู ก้อนละ 50 บาท
 
 
ตอนแรกคิดว่าแพง พอตัดชิมดู เนื้อปูอัดแน่น รสชาติกลมกล่อมละมุนลิ้นมาก ไม่มีกลิ่นคาวเลยครับ เมนูนี้ห้ามพลาด
 
 
ทั้งหมดรวมน้ำเปล่า 2 ขวด 490 บาท
สรุปโดยรวม
รสชาติอร่อยพอประมาณ ให้เด็ดสุดคือ บะกุดเต๋ กับ ฮ้อยจ้อปู 4 เต็ม 5
ร้านตกแต่งสวย บรรยากาศดี 5 ดาว
ความสะอาด 4.5 ดาว
ห้องน้ำสะอาด สวยงาม 4.5 ดาว
พนักงานสุภาพ ดูแลดี 4 ดาว
ราคาแอบแรงไปนิด 3 ดาว
อันนี้ผมให้ตามความรู้สึกผมเองที่ได้ไปสัมผัสมา ณ วันนี้
อิ่มเสร็จเดินทางกลับเข้าที่พักผ่านถนนคนเดินรถไฟ ขอสำรวจนิดนึง ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาเดินอีกครั้ง
 
 
คืนนี้นอนเอาแรง พรุ่งนี้ไปดำน้ำที่เกาะรอกกันครับ ติดตามตอน 2 คลิกเลย
 
เอารูปเกาะรอกมายั่วก่อน 
 

สรุปค่าใช้จ่าย ตอน 1 ทั้งหมด 7,444 บาท
 
จองก่อนเดินทาง
-เครื่องบินขากลับ 3,080 บาท (2 คน ได้โหลดกระเป๋าน้ำหนักคนละ 10 กก.)
-ค่ารถไฟ รถด่วน แอร์ชั้น 2 รวมทั้งหมด 1,712 บาท (นอนชั้นล่าง 871 บาท ชั้นบน 781 บาท ค่าธรรมเนียนคนละ 30 บาท)

วันพฤหัสที่ 29 มี.ค.61
-ค่าแท็กซี่จากบ้านมาสถานี MRT  40 บาท
-ค่ารถไฟฟ้า 60 บาท (คนละ 30 บาท 2 คน)
-ค่าข้าวแกง 125 บาท
-น้ำเปล่า 30 บาท (2 ขวดใหญ่)

วันศุกร์ที่ 30 มี.ค.61
-ข้าวกล่องบนรถไฟ 90 บาท (2 กล่องกล่องละ 45 บาท)
-ค่าที่พัก มายเฟรนด์ 1,200 บาท (1 ห้อง 2 คืนคืนละ 600 บาท)
-ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ 250 บาท (24 ชั่วโมง)
-เติมน้ำมันมอเตอร์ไซค์ 50 บาท
-ค่าอาหารร้านเจ้เกียง 145 บาท
-ค่าอาหารร้านโกหยิง 125 บาท
-ขนมจีน 27 บาท
-ลูกชิ้นทอด 20 บาท
-ร้านเลตรัง 490 บาท
Create Date :05 เมษายน 2561 Last Update :3 กุมภาพันธ์ 2565 18:46:51 น. Counter : 8411 Pageviews. Comments :1