สุรศักดิ์ โสวัฒนางกูร นักบินฝึกหัดสถาบันวิทยุการบินพลเรือนร้องถูกการ์ด กปปส.ทุบกระจกรถจ้วงชกไม่ยั้งสะบักสะบอม บนด่วนโทลล์เวย์ ระบุแค่เปิดกรวยยางที่กั้นออกเพื่อรีบไปฟังผลสอบ กลับถูกอัดเละจนเลือดคั่งอย่างไร้ปราณี

เมื่อวันที่9 พ.ค.นางอาวรณ์ พรมมารินทร์อายุ 54 ปีเดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.อนุชิตชาติชูเหลี่ยมพงส.สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันอ้างว่าลูกชายคือ นายสุรศักดิ์โสวัฒนางกูร อายุ 27ปี นักบินฝึกหัดสถาบันวิทยุการบินพลเรือนถูกกลุ่มการ์ด กปปส.แจ้งวัฒนะ รุมทำร้ายบนทางยกระดับโทลล์เวย์ฝั่งขาออกบริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสขณะที่กำลังเดินทางไปฟังผลสอบที่สนามบินดอนเมือง

  โดย นายสุรศักดิ์เปิดเผยอ้างว่า เมื่อเวลา 12.30น.ตนพร้อมเพื่อนสาวได้ขับรถเก๋ง บีเอ็มดับปลิวรุ่น 525 สีบรอนซ์เงินเลขทะเบียน ฐย 3922กรุงเทพมหานคร ขึ้นทางยกระดับโทลล์เวย์จากด่านดินแดงมุ่งหน้าไปยังดอนเมืองเพื่อจะไปฟังผลสอบขณะที่ขับรถผ่านมายังด้านหน้าสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเห็นว่ามีการปิดกั้นการจราจรทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.แต่ก็ยังมีรถบางคันที่วิ่งฝ่าด่านกั้นของทางกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ไปได้ตนไม่ได้มีเจตนาอื่นเพียงแค่ต้องการไปยังดอนเมืองเท่านั้นจึงลงไปเปิดกรวยที่กั้นทาง จากนั้นหลังกลับมาขึ้นรถทันใดนั้นเองมีกลุ่มการ์ด กปปส.จำนวน10 คน ทั้งที่สวมเสื้อยืดสีดำแขนสั้นสีดำแขนยาว เสื้อสีฟ้าเสื้อลายทหาร และมีผ้าพันคอสีม่วง ได้เข้าล้อมรถไว้

ผู้บาดเจ็บ ให้การอ้างต่อว่า จากนั้นมีหนึ่งในนั้นได้ตะโกนขึ้นมาว่าตนเป็นคนทำทั้งที่ตนไม่รู้เรื่องอะไรเลยจึงนั่งนิ่งอยู่ในรถพร้อมทั้งล็อกประตูทั้ง4 ด้านแต่กลุ่มการ์ดบางส่วนได้ยืนขวางรถไว้ส่วนคนที่เหลือพยายามที่จะเคาะกระจกมีทั่งเรียกให้เปิดประตูรถ มีทั้งก้มลงไปเพื่อปล่อยลมยางก่อนที่จะใช้ด้านปืนลักษณะด้ามปืนเป็นไม้กระแทกกระจกรถจนแตก จากนั้นก็ผวามาทิ่มที่ใบหน้าและรุมทำร้ายอย่างไร้ปราณีจนบาดเจ็บทำให้หมดสติไป หลังจากเกิดเหตุก็มีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์พยายามเข้าช่วยเหลือส่ง รพ.วิภาวดีเบื้องต้นได้รับบาดเจ็บเลือดคั่งที่บริเวณใบหน้าโหนกแก้ม ดวงตา จมูก และต้นขาขวา

  ด้าน พ.ต.ท.สำอาง ขาวสะอาด สว.สส.สน.ทุ่งสองห้องกล่าวว่า เบื้องต้นผู้เสียหายได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วซึ่งในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปทำการสอบปากคำอย่างละเอียด รวมทั้งสั่งการให้ทางฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป