bloggang.com mainmenu search
ปีศาจรับอรุณ

ขนหัวลุก

ใบหนาด



ชาตรี" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากซอยเทเวศร์ 1

สมัย เด็กๆ ผมอยู่ที่ซอยนามบัญญัติ ใกล้ๆ กับวัดมกุฏฯ นี่เองครับ! กรุณาอย่าคิดว่าตึกรามแน่นหนา ผู้คนคลั่กๆ อย่างสมัยนี้ แต่ลองนึกถึงภาพชานเมืองที่เปล่าเปลี่ยวไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนก็แล้วกัน

เลย เข้าไปหน่อยมีซอยเล็กๆ ร้านขายขนมแห้งที่ซื้อมาจากตลาดยอด บางลำพูอีกที พอใกล้เย็นก็มีขนมที่เพิ่งยกจากลังถึง เช่น ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ ในซอยเป็นบ้านทำธูปหอม 2-3 เจ้า รับจ้างกะเทาะเม็ดบัวก็มี ขวามือเป็นสระน้ำที่มีผักบุ้ง ผักกระเฉดแตกยอดเขียวๆ น่ากิน หน้าฝนมักจะมีคนมาช้อนปลากัดกันแทบทุกวัน

ทางเดินตอนนั้นต้องทำเป็น ลูกระนาดครับ ไม่งั้นต้องลุยน้ำแย่...สุดทางก็เลี้ยวขวามีต้นมะเดื่อใหญ่อยู่ริมคู...เคย มีเด็กสาวอกหักมาผูกคอตายที่นั่น ตอนดึกๆ มีคนได้ยินเสียงร้องไห้และสะอึกสะอื้นน่าขนลุก แถมหมายังหอนผสมโรงอีกต่างหาก

ตรงนั้นมีสะพานข้ามคู่ไปตามทางเดิน แคบๆ ผ่านสวนตากุ๊น ถ้าทะลุไปเลยก็ออกทางด้านหลังวัดอินทร์ ที่มีศาลโย้เย้ ผ้าเขียวผ้าแดงเต็มไปหมด ไหนจะมีตุ๊กตาไม้และตุ๊กตาดินเผาทั้งเก่าและใหม่ที่โคนเสาอีกล่ะ

คน ที่กลับบ้านดึกๆ ผ่านมาได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก พอหันไปดูก็แทบสติแตกไปตามๆ กัน...ตุ๊กตาเจ้ากรรมพวกนั้นลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้นน่ะซีครับ!

ทางออก ด้านขวามือคือซอยเทเวศร์ 1 ผ่านบ้านจอมพลผิน นายพลเผ่า...ช่วงนี้สองฟากมักจะมีแต่บ้านช่องใหญ่โตแทบทั้งนั้น...เดินกันพอ เมื่อยน่องก็ไปออกถนนใหญ่ที่เลียบคลองผดุงกรุงเกษม เลี้ยวซ้ายนิดเดียวก็ถึงสี่แยกเทเวศร์พอดี

ที่ปากทางมีข้าวแกงขาย 2 เจ้า ตั้งแผงกันบนฟุตปาธนั่นเอง มีเก้าอี้เตี้ยๆ ให้ลูกค้านั่งกินอยู่หน้าแผง จากนั้นก็เข้าไปสู่ดงอาหารที่มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ขนมถาด ขนมน้ำแข็ง...เรียงรายอยู่หน้าโรงหนังศรีเทเวศร์ที่อยู่ชั้นบน

ใต้ถุน โรงหนังก็คือตลาดสด...เรียกว่าปากท้องของคนเทเวศร์อาศัยที่นั่นกันแทบทุกคน ก็ว่าได้...ถ้าออกจากตลาดก็ไปโผล่ถนนสามเสนและวัดนรนารถ ที่มีร้านขายขนมถาดพวกทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุนฝอยทอง ตะโก้ สังขยา ข้าวเหนียวตัด...มีถึงสองเจ้าประชันกันคนละฝั่ง คล้ายๆ กับร้านข้าวแกงสองเจ้าไม่มีผิด

สาเหตุของเรื่องขนหัวลุกเกิดขึ้นเพราะเราจะไปตลาดเทเวศร์นั่นเอง!

ผม อยู่กับยายที่ก้นซอย 1 ใกล้ๆ กับสวนตากุ๊น ยายจะออกไปจ่ายตลาดตอนเช้าแทบทุกวัน บอกว่าได้ของสดๆ ทั้งผักและปลาที่เขาขนลงเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาขึ้นที่ท่าวัดแล้วใส่รถ เข็นเตี้ยๆ มาที่ตลาดทันที

วันหนึ่ง ผมนึกอยากจะไปตลาดกับยาย เราออกจากบ้านแต่เช้ามืด...อากาศเยือกเย็น ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น พระยังไม่มาบิณฑบาต ยายหิ้วตะกร้าว่างเปล่ามือหนึ่ง อีกมือก็จูงแขนผม...ยังไม่มีใครออกจากบ้านแม้แต่คนเดียว

มาถึงสามแยกก้นซอย เรากำลังจะเลี้ยวขวาไปตามถนนกว้างๆ ก็พอดีมีร่างๆ หนึ่งเดินเร็วๆ เหมือนลอยมาจากทางหลังวัดอินทร์

กลิ่นเหม็นสาบสางให้ยายชะงักกึก แล้วเราก็จ้องมองพร้อมกัน

หญิง ชราร่างผอมกะหร่องในชุดดำ หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนแม่มดในนิยายไม่มีผิด จู่ๆ แกก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเรา นัยน์ตาลึกน่ากลัวจ้องมองเขม็ง แก้มบุบบุ๋ม ปากเหี่ยวย่นแสยะยิ้มกว้าง จนคาง แหลมๆ ดุจะยื่นมากกว่าเดิม

"จาปายหนาย..."

เสียง แหบแห้งดังวู่หวิวเหมือนลอยมาจากที่ไกลแสนไกล กลิ่นเหม็นสาบสางยิ่ง ฉุนเฉียวมากกว่าเดิม ผมใจเต้นโครมคราม มือเย็นเฉียบ แต่ยายกลับชะโงกหน้าเข้าไปหา เสียงอุบาทว์นั่นก็ดังขึ้นอีก

"จาปายหนายกาน...เหอๆๆ"

ผมแทบจะขาดใจตายด้วยความหวาดกลัว รู้สึกว่ายายบีบแขนแน่นก่อนจะตวาดว่า

"อย่ามายุ่งกับข้า ไสหัวไปให้พ้น...ไป๊!"

หน้า ตาน่ากลัวผงะออกนิดหนึ่ง อ้าปากหัวเราะแหบโหยจนเห็นเหงือกแดงๆ เมื่อแสงสว่างเริ่มเรื่อเรืองขึ้น...ยายเฒ่าอุบาทว์โบกมือไปมา พูด เสียงแหบแห้งปนหัวเราะ

"ปาย...ปายซะ..." แทบจะไม่ขาดเสียง ร่างนั้นก็ถอยหลังช้าๆ เหมือนลอยได้ ส่วนยายก็รีบจูงแขนผมเลี้ยวขวาไปทางซอยเทเวศร์ 1 ทันที...ผมเองยังเต้นระทึกเพราะความกลัวไปตลอดทาง

ถ้ายายจิตใจไม่เข้มแข็งพอ ผมว่าเราอาจจะกลัวผีจนขาดใจตายคาที่ตั้งแต่วันนั้นแล้วครับ! บรื๋อสสสส...

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEE0TURrMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdPUzB3T0E9PQ==
Create Date :08 กันยายน 2551 Last Update :8 กันยายน 2551 19:30:59 น. Counter : Pageviews. Comments :0