ปีศาจรับอรุณ ปีศาจรับอรุณขนหัวลุกใบหนาดชาตรี" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากซอยเทเวศร์ 1สมัย เด็กๆ ผมอยู่ที่ซอยนามบัญญัติ ใกล้ๆ กับวัดมกุฏฯ นี่เองครับ! กรุณาอย่าคิดว่าตึกรามแน่นหนา ผู้คนคลั่กๆ อย่างสมัยนี้ แต่ลองนึกถึงภาพชานเมืองที่เปล่าเปลี่ยวไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนก็แล้วกันเลย เข้าไปหน่อยมีซอยเล็กๆ ร้านขายขนมแห้งที่ซื้อมาจากตลาดยอด บางลำพูอีกที พอใกล้เย็นก็มีขนมที่เพิ่งยกจากลังถึง เช่น ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ ในซอยเป็นบ้านทำธูปหอม 2-3 เจ้า รับจ้างกะเทาะเม็ดบัวก็มี ขวามือเป็นสระน้ำที่มีผักบุ้ง ผักกระเฉดแตกยอดเขียวๆ น่ากิน หน้าฝนมักจะมีคนมาช้อนปลากัดกันแทบทุกวันทางเดินตอนนั้นต้องทำเป็น ลูกระนาดครับ ไม่งั้นต้องลุยน้ำแย่...สุดทางก็เลี้ยวขวามีต้นมะเดื่อใหญ่อยู่ริมคู...เคย มีเด็กสาวอกหักมาผูกคอตายที่นั่น ตอนดึกๆ มีคนได้ยินเสียงร้องไห้และสะอึกสะอื้นน่าขนลุก แถมหมายังหอนผสมโรงอีกต่างหากตรงนั้นมีสะพานข้ามคู่ไปตามทางเดิน แคบๆ ผ่านสวนตากุ๊น ถ้าทะลุไปเลยก็ออกทางด้านหลังวัดอินทร์ ที่มีศาลโย้เย้ ผ้าเขียวผ้าแดงเต็มไปหมด ไหนจะมีตุ๊กตาไม้และตุ๊กตาดินเผาทั้งเก่าและใหม่ที่โคนเสาอีกล่ะคน ที่กลับบ้านดึกๆ ผ่านมาได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก พอหันไปดูก็แทบสติแตกไปตามๆ กัน...ตุ๊กตาเจ้ากรรมพวกนั้นลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้นน่ะซีครับ!ทางออก ด้านขวามือคือซอยเทเวศร์ 1 ผ่านบ้านจอมพลผิน นายพลเผ่า...ช่วงนี้สองฟากมักจะมีแต่บ้านช่องใหญ่โตแทบทั้งนั้น...เดินกันพอ เมื่อยน่องก็ไปออกถนนใหญ่ที่เลียบคลองผดุงกรุงเกษม เลี้ยวซ้ายนิดเดียวก็ถึงสี่แยกเทเวศร์พอดีที่ปากทางมีข้าวแกงขาย 2 เจ้า ตั้งแผงกันบนฟุตปาธนั่นเอง มีเก้าอี้เตี้ยๆ ให้ลูกค้านั่งกินอยู่หน้าแผง จากนั้นก็เข้าไปสู่ดงอาหารที่มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ขนมถาด ขนมน้ำแข็ง...เรียงรายอยู่หน้าโรงหนังศรีเทเวศร์ที่อยู่ชั้นบนใต้ถุน โรงหนังก็คือตลาดสด...เรียกว่าปากท้องของคนเทเวศร์อาศัยที่นั่นกันแทบทุกคน ก็ว่าได้...ถ้าออกจากตลาดก็ไปโผล่ถนนสามเสนและวัดนรนารถ ที่มีร้านขายขนมถาดพวกทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุนฝอยทอง ตะโก้ สังขยา ข้าวเหนียวตัด...มีถึงสองเจ้าประชันกันคนละฝั่ง คล้ายๆ กับร้านข้าวแกงสองเจ้าไม่มีผิดสาเหตุของเรื่องขนหัวลุกเกิดขึ้นเพราะเราจะไปตลาดเทเวศร์นั่นเอง!ผม อยู่กับยายที่ก้นซอย 1 ใกล้ๆ กับสวนตากุ๊น ยายจะออกไปจ่ายตลาดตอนเช้าแทบทุกวัน บอกว่าได้ของสดๆ ทั้งผักและปลาที่เขาขนลงเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาขึ้นที่ท่าวัดแล้วใส่รถ เข็นเตี้ยๆ มาที่ตลาดทันทีวันหนึ่ง ผมนึกอยากจะไปตลาดกับยาย เราออกจากบ้านแต่เช้ามืด...อากาศเยือกเย็น ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น พระยังไม่มาบิณฑบาต ยายหิ้วตะกร้าว่างเปล่ามือหนึ่ง อีกมือก็จูงแขนผม...ยังไม่มีใครออกจากบ้านแม้แต่คนเดียวมาถึงสามแยกก้นซอย เรากำลังจะเลี้ยวขวาไปตามถนนกว้างๆ ก็พอดีมีร่างๆ หนึ่งเดินเร็วๆ เหมือนลอยมาจากทางหลังวัดอินทร์กลิ่นเหม็นสาบสางให้ยายชะงักกึก แล้วเราก็จ้องมองพร้อมกันหญิง ชราร่างผอมกะหร่องในชุดดำ หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนแม่มดในนิยายไม่มีผิด จู่ๆ แกก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเรา นัยน์ตาลึกน่ากลัวจ้องมองเขม็ง แก้มบุบบุ๋ม ปากเหี่ยวย่นแสยะยิ้มกว้าง จนคาง แหลมๆ ดุจะยื่นมากกว่าเดิม"จาปายหนาย..."เสียง แหบแห้งดังวู่หวิวเหมือนลอยมาจากที่ไกลแสนไกล กลิ่นเหม็นสาบสางยิ่ง ฉุนเฉียวมากกว่าเดิม ผมใจเต้นโครมคราม มือเย็นเฉียบ แต่ยายกลับชะโงกหน้าเข้าไปหา เสียงอุบาทว์นั่นก็ดังขึ้นอีก"จาปายหนายกาน...เหอๆๆ"ผมแทบจะขาดใจตายด้วยความหวาดกลัว รู้สึกว่ายายบีบแขนแน่นก่อนจะตวาดว่า"อย่ามายุ่งกับข้า ไสหัวไปให้พ้น...ไป๊!"หน้า ตาน่ากลัวผงะออกนิดหนึ่ง อ้าปากหัวเราะแหบโหยจนเห็นเหงือกแดงๆ เมื่อแสงสว่างเริ่มเรื่อเรืองขึ้น...ยายเฒ่าอุบาทว์โบกมือไปมา พูด เสียงแหบแห้งปนหัวเราะ"ปาย...ปายซะ..." แทบจะไม่ขาดเสียง ร่างนั้นก็ถอยหลังช้าๆ เหมือนลอยได้ ส่วนยายก็รีบจูงแขนผมเลี้ยวขวาไปทางซอยเทเวศร์ 1 ทันที...ผมเองยังเต้นระทึกเพราะความกลัวไปตลอดทางถ้ายายจิตใจไม่เข้มแข็งพอ ผมว่าเราอาจจะกลัวผีจนขาดใจตายคาที่ตั้งแต่วันนั้นแล้วครับ! บรื๋อสสสส...//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEE0TURrMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdPUzB3T0E9PQ== Create Date :08 กันยายน 2551 Last Update :8 กันยายน 2551 19:30:59 น. Counter : Pageviews. Comments :0 twitter google Comment * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก