bloggang.com mainmenu search



หนังสือเล่าเรื่องราวชีวิตของคนกัมพูชาในช่วงที่เกิดสงครามยึดอำนาจ และมีพวกเขมรแดง ตัวละครหลักที่เล่าเรื่องคือ "โสวัณ" เป็นเด็กชายวัยรุ่นที่มีเพื่อนสาวข้างบ้านชื่อ "จันเตรีย" แต่ก่อนพวกเขาชอบแกล้งเด็กคนนี้เนื่องจากเป็นลูกครึ่งเวียดนามผิวพรรณขาวผิดแผกจากชาวขแมร์ แถมยังไม่ยอมมาเล่นกับเพื่อน เอาแต่นั่งมองไม่พูดไม่จา จนวันหนึ่งเขาแกล้งแหย่รังมดแดงให้ตกใส่เธอ และได้ข่าวว่าเธอเจ็บหนักต้องนอนพักฟื้นอยู่นาน เพราะเป็นโรคน้ำเหลืองเป็นพิษ และเธอเองก็ไม่ได้บอกกับใครว่าเขาเป็นคนที่แกล้งเธอ ทำให้เขารู้สึกผิดมากและเริ่มที่จะหันมาปกป้องเธอจากการกลั่นแกล้งของเพื่อนคนอื่นๆแทน เมื่อไปเรียนเขามีเพื่อนชายที่สนิทด้วยชื่อ "บก สะแบง" ซึ่งมีนิสัยที่แปลกแยกและต้องจำใจมาอยู่พนมเปญเพราะบ้านที่พระตะบองถูกทางการขับไล่และฆ่าฟัน เนื่องจากชาวบ้านชนบทไม่พอใจที่โดนถูกไล่ที่และโดนรังแกจากทางการ จึงรวมตัวกันต่อสู้แต่กลับพ่ายแพ้และบาดเจ็บ ต้องหนีเอาตัวรอดหลังสูญเสียครอบครัวมากับพี่สาวอีกสองคนคือ "ผกา และจำไป" ซึ่งทำงานเป็นสาวพาร์ทเนอร์ในบาร์ที่ให้บริการทหารอเมริกัน ซึ่งโสวัณให้ความสนิทสนมกับจำไปเป็นพิเศษ แม้ว่าพ่อของเขาจะไม่ต้องการให้เขาสนิทสนมกับคนบ้านนี้สักคนเลยก็ตาม เพราะพ่อเห็นว่าทั้งบก สะแบง ก็มีหัวรุนแรงคิดแก้แค้นทหาร จำไปก็เป็นผู้หญิงไม่ดี พ่อต้องการให้เขาตั้งใจเรียนหนังสือและไปเป็นครูอย่างพ่อ

จากสถานการณ์บ้านเมืองที่เริ่มจากความขัดแย้งและสงครามในชนบท ก็ค่อยๆลุกลามมายังพนมเปญ ทุกครอบครัวเริ่มหวั่นวิตกแต่ก็เชื่อว่าทหารของลอน นอล จะจัดการได้ แม้ว่าราคาข้าวของจะแพงขึ้นไปทุกที พ่อของโสวัณที่นอกจากจะเป็นครูสอนประวัติศาสตร์ในโรงเรียนแล้ว ก็ยังทำงานในบาร์ตอนกลางคืนเพิ่มอีกด้วย แต่แล้ววันหนึ่งที่โรงเรียน โสวัณก็ได้ข่าวร้ายว่า ลอน นอล ขนข้าวของและทรัพย์สมบัติหนีออกไปแล้ว โรงเรียนก็ต้องยกเลิกการเรียนไปในที่สุด ทหารของเขมรแดงเริ่มรุกเข้ามาในเมือง และเข่นฆ่า ทรมานผู้คนที่คิดว่าเป็นพวกเก่าและเคยรับใช้สังคมเก่าที่ต้องกำจัดให้สิ้นซากก่อนที่จะสร้างสังคมใหม่ขึ้นมาได้

  

ช่วงแรกของหนังสือค่อนข้างอ่านไปได้ช้า เพราะพ่อโสวัณเป็นครูสอนประวัติศาสตร์ดังนั้นเขาก็จะเล่าเรื่องราวโดยละเอียด ซึ่งเราเองเคยได้ยินเรื่องราวมาแต่ไม่ได้จดจำหรือเข้าใจมากนัก พอได้อ่านก็หาข้อมูลเพิ่มเพื่อความกระจ่าง และเรียงลำดับว่าใครเป็นใครเพราะสับสนมาก

แต่พออ่านพ้นช่วงประวัติศาสตร์การปกครองก็เริ่มสนุก และวางไม่ลง เป็นการสะท้อนเรื่องราวทั้งประวัติศาสตร์ ความเป็นอยู่ ความยากลำบาก และการต้องต่อสู้ดิ้นรนไม่ว่าใครจะได้ปกครองประเทศ แต่ชาวบ้านก็เป็นฝ่ายที่ต้องลำบากเสมอ เห็นว่าแม้จะเป็นคนชาติเดียวกันแต่พอความเห็นต่างกัน เชื่อกันคนละแบบสุดท้ายก็นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทำลายกันเอง ซึ่งมันน่าเศร้ามากเพราะพ่อของโสวัณคิดมาตลอดว่าเป็นคนขแมร์เหมือนกันไม่มีทางมาทำร้ายคนขแมร์ด้วยกันเองได้ และเรายิ่งอินหนักไปอีกเพราะแม่ของน้องที่ทำงานเราคือหนึ่งในผู้คนมหาศาลที่พยายามหนีเพื่อมีชีวิตรอดจากความโหดร้ายของพวกเขมรแดงเข้ามาในไทยตั้งแต่อายุ 12 ปี

 

 

 

Create Date :26 กรกฎาคม 2562 Last Update :26 กรกฎาคม 2562 14:12:24 น. Counter : 612 Pageviews. Comments :0