|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สามก๊ก กับการวิพากษ์เชิงลบ : ความร้อนแรงที่ยากเกินห้ามใจ
สามก๊กกับการวิพากษ์เชิงลบ : ความร้อนแรงที่ยากเกินห้ามใจ |
|
|
โดยส่วนตัวแล้วเราว่าตัวละครสำคัญในสามก๊กไม่ใช่ เด็กแนว ที่แค่อยากลองทฤษฎีสามก๊ก ดังที่มีคนกล่าวหาว่ามาแบบนี้ เพราะผู้ที่ยอมเข้าสู่วิถีแห่งการเมือง อันเป็นกงล้อแห่งชะตากรรม ซึ่งมีแต่ความสับสนวุ่นวาย ไร้จุดจบสงบสุข คงเหมือนที่ แม่นางเตียว เคยกล่าวถึงถ้อยคำหนึ่งขึ้นมา ซึ่งเมื่อมาผสมผสานเข้ากับความเห็นเราแล้ว ก็จะเป็นแนวคิดประมาณว่า
ปราชญ์เห็นแผ่นดินเดือดร้อน ก็อยากจะเข้ามาช่วย ทั้งที่จริงถ้านิ่งเฉยเสีย ก็จะได้อยู่อย่างสุขสบาย ครั้นเมื่อมาช่วยแล้ว...แต่ไม่สำเร็จ...กาลก็กลับกลายเป็นว่าเขาเหล่านั้นต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางลบต่างๆ นานา....แต่เคยมีคนคิดทบทวนหรือไม่ว่า เหตุใดปราชญ์เหล่านั้น จึงออกมาจากที่เร้นกาย ปรากฏตัวในราชสำนักฝ่ายต่างๆ หากเป็นเพียงเพื่ออำนาจ , ชื่อเสียง , ลาภยศ ,เงินทอง , บริวารนับเรือนแสนหรือหลักล้าน (ทหารในบัญชาการ) หรือเพื่อประกาศเกียรติคุณในโลก วิสัยทัศน์ที่คับแคบเพียงแค่นี้ คงไม่มีปราชญ์ที่ใดกระทำกัน และถึงมีผู้ทำเช่นนั้น นั่นก็ ไม่ใช่ปราชญ์ที่แท้จริง ปัญญาของคนผู้นั้นคงเทียบได้แค่หางอึ่ง ที่มิอาจสร้างสรรค์อะไรให้แผ่นดินได้นอกจาก ความโลภ ที่เป็นสมบัติติดตัวอยู่ชั่วกาล
การวิพากษ์เชิงลบที่รุนแรงต่อตัวละครเด่นในสามก๊กนั้น เกิดขึ้นเพียงเพราะว่าประวัติศาสตร์จารึกโดยผู้ชนะในยุคสมัยนั้น หรือจะเพราะการตีความของคนในยุคปัจจุบัน ที่กาลเวลามันช่างต่างกันแสนห่างไกลกับคนในยุคก่อนอย่างไม่อาจคำนวณได้ และหรือเพราะชนรุ่นปัจจุบันมักใช้ความคิดความรู้สึกของตนเองเข้าไปจับความคิดอ่านของคนในยุคนั้นแล้วตัดสินแทน ทั้งที่ตนเองก็เกิดไม่ทันเขา และไม่ได้ร่วมเหตุการณ์นองเลือดนั้นด้วยเลยสักนิด ร่วมทั้งความสับสนในฉบับวรรณกรรมกับประวัติศาสตร์ ที่ทำให้บางครั้งยากจะตัดสินสามก๊กได้ว่า เนื้อหาใดเป็นความจริง สิ่งใดเป็นประวัติศาสตร์ลวง ...
ในที่นี้ มิได้มีเจตนาจะห้ามการวิพากษ์เชิงลบ และไม่คิดจะให้ใครมองเห็นตามใคร แต่หากกล่าวถึงคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของการวิพากษ์เชิงลบนั้น สิ่งที่เรียกกันว่า ความเป็นสุภาพชน ควรมีอยู่ในถ้อยทีนั้นด้วย เพราะบางถ้อยความสื่อความหมายได้เพียงแค่แนวคิดว่าระบายอารมณ์ความคิดเห็นกับตัวละครนั้นแล้วสะใจดีแท้ แม้มีเหตุผล แต่ลองทบทวนถ้อยคำดูสักหน่อยคงจะดีมิน้อย เพราะบางทีเราสบายใจที่ได้กล่าวออกไป แต่บางคนเข้ามาแล้วก็เครียดแทน ความรู้สึกของคนที่ไม่ประสานกัน มันทำให้เกิดความร้อนแรงขึ้นมา แล้วสุดท้ายใครเล่าที่เริ่มความร้อนแรงนั้นมาก่อน ก็ด้วยเหตุว่าการวิพากษ์เชิงลบนั้นยากกว่าเชิงบวก เพราะถ้าหากไม่ระวัง ปล่อยให้อารมณ์ทางลบแฝงอยู่ในถ้อยความมากเกินไป มันก็ไม่ต่างจากดาบสองคมที่หันกลับไปทำร้ายทั้งคนอ่านและคนเขียน แล้วสุดท้ายเหตุการณ์ก็ร้อนแรงไม่แพ้สงครามใน สามก๊ก นั่นเอง
ยุคนี้ไม่มีสงครามฆ่าฟันแบบสามก๊กแล้ว แต่เหตุใดคนชอบก่อสงครามที่ทำร้ายกันด้วยถ้อยคำและอารมณ์ ผู้เห็นพ้องต้องกัน ไหนเลยจะรู้ใจผู้ที่เห็นต่างออกไป แต่ไม่ว่าฝ่ายไหนมากกว่ากัน ฝ่ายที่กำลังน้อยกว่าและมิใช่เจ้าถิ่นก็คงต้องหลบมุมไป เพราะโลกนี้ ผู้ไม่มีสิทธิ์ถือครองก็คือคนที่ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องสิ่งใดเลยนั่นเอง....
ไว้อาลัยแด่ห้องหนึ่งของหัวใจ ที่เคยได้พักพิงเสมอมา ด้วยรักและห่วงหาจาก หงส์อรุณ |
|
|
|
**************************
Create Date : 29 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 31 กรกฎาคม 2551 1:16:38 น. |
|
0 comments
|
Counter : 589 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|