zenchompoo
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




............................................................................

อ่านการ์ตูน Manga-แปลไทย

Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
10 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add zenchompoo's blog to your web]
Links
 

 
@^@.โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ 1980-2010รวมประวัติการฉายในประเทศไทย

@^@.รวมโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ 1980-2010รวมประวัติการฉายในประเทศไทย
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ (อังกฤษ: Doraemon the movies) เป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาวฉบับพิเศษ สร้างโดยบริษัทผลิตภาพยนตร์โตโฮ แอนิเมชั่น สตูดิโอ พิคเจอร์ส เพื่อจัดฉายในโรงภาพยนตร์ปีละหนึ่งตอนในช่วงเดือนมีนาคมเป็นประจำทุกปี ในประเทศญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ตอนไดโนเสาร์ของโนบิตะทั้งนี้ใน พ.ศ. 2548 ยังมีการฉลองครบรอบ 25 ปีของการฉายโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์อีกด้วย และในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 ที่ประเทศญี่ปุ่นก็ได้มีการฉาย โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ตอนไดโนเสาร์ของโนบิตะฉบับสร้างใหม่ โดยใช้ทีมนักพากย์ชุดใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นชุดที่พากย์เสียงให้กับ โดราเอมอนฉบับการ์ตูนทีวีสร้างใหม่ ที่กำลังออกอากาศทางโทรทัศน์ของประเทศญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้ นอกจากนั้นยังมีการดัดแปลงผลิตออกเป็นฉบับหนังสือการ์ตูนด้วย ปัจจุบันมีการสร้างมาแล้วทั้งหมด 25 ตอน และมีการนำตอนเก่ามาสร้างใหม่ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา


โปสเตอร์โดเรม่อนผจญไดโนเสาร์
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์นี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ประเทศไทย ตอนแรกคือ ไดโนเสาร์ของโนบิตะ (Nobita's Dinosaur) นำเข้ามาฉายโดยไชโยภาพยนตร์ เริ่มรอบปฐมทัศน์ 2 โรงด้วยกันคือ โรงภาพยนตร์เมโทร และสามย่าน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2525 หรือหลังจากประเทศญี่ปุ่น 2 ปี ซึ่งทางไชโยภาพยนตร์ใช้ชื่อตอนว่า "โดเรม่อนผจญไดโนเสา" ตามชื่อเรียกโดราเอมอนฉบับหนังสือการ์ตูน ของสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจในสมัยนั้น หลังจากเข้าฉายประมาณหนึ่งเดือน สามารถทำรายได้ประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่ไม่น้อยในสมัยนั้น
ต่อมาทางไชโยภาพยนตร์นำตอนที่สองของฉบับภาพยนตร์มาฉายคือ โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ โดยเข้าฉายหลังจากตอนแรกออกจากโรงภาพยนตร์ไปได้เพียงสัปดาห์เดียว ตอนนี้เข้าฉายในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2525 โดยตั้งชื่อตอนว่า "โดเรม่อนบุกพิภพอวกาศ" มีการเพิ่มโรงขึ้นอีก 1 โรงคือโรงภาพยนตร์เฉลิมไทย แม้จะเข้าฉายในช่วงเวลาปิดเทอม และมีการเพิ่มโรง แต่รายได้กลับน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เหตุเพราะในช่วงเวลานั้น ทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ได้เริ่มออกอากาศโดราเอมอนฉบับการ์ตูนทีวีแล้ว ทำให้ประชาชนไม่สนใจในการเข้าชมในโรงภาพยนตร์มากเท่าที่ควร[1]
หลังจากนั้นโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ก็ไม่มีผู้จัดฉายในประเทศไทยอีกเลย แต่สามารถหาชมได้ในรูปแบบวิดีโอเทป หรือวีซีดีแทน จากนั้นใน พ.ศ. 2544 ทางวิจิตอลก็ได้จัดฉาย โดราเอมอนตอนตำนานสุริยกษัตริย์ ในวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2545 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโดราเอมอนอายุครบ 30 ปี ถือได้ว่าเป็นการกลับมาของโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ที่จัดฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่ พ.ศ. 2525 หรือเป็นเวลาเกือบ 20 ปีทีเดียว
ในอีก 2 ปีให้หลัง ได้มีการเปลี่ยนผู้จัดฉายเป็นบริษัทดับบลิว พี เอ็ม ฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จัดฉายโดราเอมอนตอนโนบิตะและอัศวินแดนวิหค เข้าฉายในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2546 หลังจากนั้นก็ได้จัดฉายเป็นประจำเรื่อยมา

[แก้] รายชื่อตอนของโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์
หมายเหตุ: ปีค.ศ. ที่ต่อท้ายชื่อตอน นับตามการออกฉายในโรงภาพยนตร์ที่ประเทศญี่ปุ่น
[แก้] ไดโนเสาร์ของโนบิตะ (1980)
ดูบทความหลักที่ โดราเอมอน ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の恐竜; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Dinosaur
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ผจญภัยไดโนเสาร์ เป็นตอนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ พีสุเกะ ไดโนเสาร์หลงยุค ซึ่งโนบิตะ พบหินไดโนเสาร์โดยบังเอิญ จึงใช้ผ้าคลุมกาลเวลา ย้อนเวลากลับไปในอดีต แล้วจึงฟักออกมาเป็นตัว แต่เมื่อเลี้ยงแล้ว พีสุเกะโตขึ้นและถูกคนมาพบ จึงพากลับไปยังอดีตด้วยไทม์แมชชีนแต่ไปผิดทวีป จึงต้องเดินทางผจญภัยในโลกดึกดำบรรพ์ ต่อสู้กับเหล่าวายร้าย นักล่าไดโนเสาร์ จากอนาคต ที่จ้องจะจับพีสุเกะไปขาย
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1980 เป็นตอนที่ 1 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) โดยใช้ชื่อตอนว่า "โดเรม่อนผจญไดโนเสา" (สะกดตามต้นฉบับ)


โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ (1981)
ดูบทความหลักที่ โดราเอมอน ตอน โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の宇宙開拓史 ; ชื่อภาษาอังกฤษ: The Record of Nobita, Space blazer
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ เป็นตอนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ โรพอล เด็กชายในอวกาศ วันหนึ่งเครื่องเกิดเสียระหว่างที่เดินทางกลับดาวบ้านเกิด เมื่อลองวาร์ป แล้ว ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างมิติ ที่เชื่อมโยงกับใต้เสื่อในห้องของโนบิตะ เมื่อหมดหนทางกลับบ้าน กลางดึกคืนนั้นเอง จามี่ สัตว์เลี้ยงของโรพอล ได้เปิดประตูข้ามมิติมาที่โลก จนเจอกับโนบิตะและโดราเอมอน โดราเอมอนจึงช่วยพากลับบ้าน แต่ทว่าบนดาวบ้านเกิดของโรพอลนั้น กลับมีเหล่าร้าย โจรโขมยแร่การ์ไทต์ โนบิตะและเพื่อน ๆ จึงต้องหาหนทาง ช่วยดาวดวงนี้ให้ได้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1981 เป็นตอนที่ 2 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) โดยใช้ชื่อตอนว่า "โดเรม่อนบุกพิภพอวกาศ"


บุกดินแดนมหัศจรรย์ (1982)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の大魔境; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Haunts of Evil
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน บุกดินแดนมหัศจรรย์ เป็นตอนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ เปโกะ ลูกสุนักจรจัดหลงทาง ที่โนบิตะบังเอิญพบเข้าและเก็บเอามาเลี้ยง เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ทำให้ทุก ๆ คนอยากออกผจญภัย โดราเอมอนจึงพาทุกคนไปยังป่าลึกลับแถบแอฟริกาชื่อป่า Heavy Smoker แต่ระหว่างทาง กลับเจออุปสรรคมากมาย ทำให้ไจแอนท์หวาดกลัว จนไม่อยากเดินทางอีกแล้ว แต่ทว่าในคืนนั้น กลับมีเทวรูปศักดิ์สิทธิ์มาบอกไจแอนท์ว่ามีสมบัติรออยู่และให้แผนที่ ทำให้ไจแอนท์บังคับให้ทุกคนเดินทางไปกันอีกครั้ง แต่เมื่อถึงที่หมาย กลับไม่เป็นเช่นอย่างที่ฝัน เปโกะกลับพูดได้และบอกว่าตัวเองเป็นรัชทายาท เจ้าชายตุงตัง ทายาทองค์ที่ 108 แห่งราชวงศ์บาวังโก และขอความช่วยเหลือโดราเอมอนให้ช่วยปราบ ดาบูรันด้า เพื่อทวงบัลลังก์คืน พร้อมกับปริศนาคำทำนาย คนต่างถิ่นทั้ง 10 คน
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 1982 เป็นตอนที่ 3 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

ตะลุยปราสาทใต้สมุทร (ผจญภัยใต้สมุทร)(1983)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の海底鬼岩城; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Castle of the Undersea Devil หรือ Nobita's Monstrous Underwater Castle
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตะลุยปราสาทใต้สมุทร เป็นตอนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การผจัญภัยใต้ทะเล เริ่มจากไจแอนท์และซูเนโอะ ได้ข่าวเรื่องการค้นพบทองในเรือปีศาจ จึงขอร้องโดราเอมอนไปเที่ยวใต้ทะเล โดราเอมอนจึงใช้ รถบัคกี้ (บัคกี้จัง) พาทัวร์ใต้ทะเล แต่ที่ใต้ทะเลนั้นเอง พวกโดราเอมอน ได้พบกับบุคคลลึกลับใต้ทะเล เอล ได้เล่าถึงอวสานของโลก เนื่องจากทวีปแอตแลนติส ในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ด้วยการนำจาก“โพเซดอน” คอมพิวเตอร์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้ทำลายโลก พวกโดราเอมอน จึงต้องช่วยกันหยุดยั้งเอาไว้ให้ได้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1983 เป็นตอนที่ 4 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

ตะลุยแดนปีศาจ (1984)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の魔界大冒険; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Great Adventure into the Underworld
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตะลุยแดนปีศาจ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ โนบิตะและโดราเอมอนที่ไปทิ้งพรมเก่า ๆ ที่กองขยะ และทันใดนั้นรูปปั้นประหลาดก็ตกใส่โนบิตะและหน้าตาเหมือนโดราเอมอน โดราเอมอนจึงนำไปเก็บในสวนหลังบ้าน แต่ด้วยความต้องการของโนบิตะที่อยากให้โลกทั่งโลกเป็นโลกแห่งเวทมนตร์ และต่อมาโนบิตะกำลังนอนอยู่ใต้ต้นไม้ แต่ก็มีรูปปั้นเหมือนโนบิตะตกลงมา และนำไปไว้ในสวนหลังบ้าน ตกดึกโนบิตะได้ยินเสียงคนร้องไห้จึงลงไปข้างล่างและพบรูปปั้นทั้งสอนยืนอยู่ในบ้าน แม่และพ่อของโนบิตะให้นำรูปปั้นนี้ไว้ข้างนอก เผื่อที่โนบิตะจะเปลื่ยนแปลงไปบ้างโดราเอมอนจึงใช้ของวิเศษของโดราเอมอน รุ่งเช้าพวกเขาสังเกตความเปลี่ยนแปลงของโลก มีพรมลอยเต็มไปหมด แต่โนบิตะก็ยังโง่อยู่ดี ทั้งสองจึงจะจะให้โลกกลับเป็นเหมือนเดิม แต่ก็เปลื่ยนใจ และไปหัดขี่ไม้กวาดกับชิซุกะ แล้วเจอ ไจแอนท์ และซึเนะโอะ ประสบอุบัติเหตุ บังเอิญเจอบ้านหลังหนึ่ง พวกเขาได้พบกับ ดร.มันเงะสึ เจ้าของทฤษฎีโลกก้าวสู่ยุคปีศาจ และได้พบกับ มิยาโกะ บุตรสาวของ ดร.มันเงะสึ แม่ของโนบิตะได้ทำลายของวิเศษของโดราเอมอนจึงทำให้กลับโลกเดิมไม่ได้ และโนบิตะ และโดราเอมอนจึงทะเลาะกัน ต่อมาในขณะ ดร.มันเงะสึ และมิโยโกะกำลังแปลคัมภีร์อยู่นั้น ก็ถูกปีศาจลอบโจมตี และทำให้มิโยโกะกลายร่างเป็นแมว และจะเป็นมนุษย์อีกครั้งเมื่อได้รับแสงจันทร์ และมีวิธีการอย่างเดียว คือไปโลกปีศาจ และกำจัดซาตานเตมาออง แต่ชิซุกะ ไจแอนท์ และซึเนโอะ ไม่กล้าไป แต่ในที่สุดทั้งสามก็เปลี่ยนใจไปยังโลกแห่งปีศาจเพื่อกำจัดปีศาจ และไม่ให้โลกนี้กลายเป็นโลกขนาน
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1984 เป็นตอนที่ 5 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

สงครามอวกาศ (1985)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の宇宙小戦争; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Little Galaxy Wars หรือ Nobita's Little Star Wars
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน สงครามอวกาศ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "ปาปิ" ประธานาธิบดีวัย 10 ขวบของดาวพิริคะ ที่ถูกจอมเผด็จการ "นายพลกิลมอร์"ล้มล้างอำนาจและได้หลบหนีมายังโลกขณะที่นายพลกิลมอร์เองก็ได้ส่งผู้บัญชาการ "โดรากอลรูรู"แห่ง PCIA มาตามล่าปาปิเช่นกัน ปาปิได้ลี้ภัยมายังบ้านของโนบิตะและโดราเอมอน จากการตามล่ากองกำลังของ PCIA ทำให้โดราเอมอน โนบิตะ และเหล่าผองเพื่อนได้วางแผนกันอย่างลับ ๆ เพื่อช่วยเหลือปาปิให้กลับไปยังดาวพิริคะและล้มล้างเผด็จการคืนอำนาจให้กลับปาปิ ณ ฐานทัพที่โดราเอมอนสร้างขึ้น แต่ไม่วายถูกพวก PCIA หาฐานลับพบและชิซุกะก็ถูกจับตัวไป เมื่อปาปิรู้ว่าชิซุกะถูกจับตัวก็ได้แอบหนีพวกโนบิตะมามอบตัวกับพวก PCIA เพื่อแลกกับชีวิตของชิซุกะ โนบิตะ โดราเอมอน ชิซุกะ ไจแอนท์ และซึเนะโอะจึงต้องเดินทางไปยังดาวพิริคะเพื่อช่วยเหลือพาพิก่อนที่จะถูกประหารและนำอำนาจกลับมาสู่ปาปิอีกครั้ง
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1985 เป็นตอนที่ 6 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก (1986)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と鉄人兵団; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Platoon of Iron Men หรือ Nobita and the Steel Troops
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ โนบิตะที่ได้พบส่วนประกอบของหุ่นยนต์ยักษ์ในขั้วโลกเหนือพร้อมกับลูกบอลประหลาดที่ส่งเสียงร้องตลอดเวลา (ภายหลังจึงรู้ว่าเป็นสมองของหุ่นยนต์ยักษ์ดังกล่าว) จึงชวนโดราเอมอนมาประกอบหุ่นยนต์ยักษ์นี้โดยใช้ของวิเศษสร้างโลกกระจกออกมาและได้ตั้งชื่อหุ่นยนต์นี้ว่า "ซานตาครอส" แต่ภายหลังพวกเขาก็รู้ว่าหุ่นยนต์นี้ได้นำมาใช้ในสงครามเนื่องจากมีเลเซอร์ที่สามารถถล่มตึกสูงใหญ่ภายในพริบตาจึงได้พยายามปิดเรื่องนี้เป็นความลับและขังหุ่นยนต์ยักษ์ไว้ในโลกกระจกตลอดไปและให้สัญญากันว่าจะไม่ให้ใครรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด ต่อมาโนบิตะได้มาพบกับ "ริล" หญิงปริศนาที่ปรากฏตัวพร้อมกับการถามหาเบาะแสเกี่ยวกับหุ่นยนต์ยักษ์จิวและบีบคั้นให้โนบิตะบอกที่ซ่อนของหุนยนต์ยักษ์พร้อมกับขอของวิเศษที่เป็นทางเข้าออกโลกกระจกอีกด้วยซึ่งต่อมาโดราเอมอนและโนบิตะได้สืบหาเรื่องราวของริล จนรู้ว่าเธอได้แอบสร้างฐานทัพสำหรับนำร่องเหล่าหุ่นยนต์จำนวนมหาศาลจากเมกาโทเปียเพื่อหมายจะยึดครองโลกไว้ในโลกแห่งกระจก ทำให้โดราเอมอน โนบิตะ และเหล่าผองเพื่อนต้องเตรียมกำลังเพื่อต่อสู้กับหุ่นยนต์จำนวนเป็นล้าน ๆ
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1986 เป็นตอนที่ 7 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

เผชิญอัศวินไดโนเสาร์ (1987)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と竜の騎士; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Knights of Dinosaurs
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน เผชิญอัศวินไดโนเสาร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะที่พยายามจะซ่อนผลสอบ 0 คะแนนโดยไม่ให้แม่รู้ ด้วยการพึ่งของวิเศษ "ท่อหาโพรงใต้ดิน" แต่บังเอิญที่ท่อนั้นเชื่อมต่อกับโพรงที่มีขนาดใหญ่มากทำให้โนบิตะวางแผนที่จะสร้างสถานที่ส่วนตัวโดยที่ไม่ให้ผู้ใหญ่มากวนใจโดยที่ชวนชิซุกะ ไจแอนท์ ซึเนะโอะ มาร่วมด้วยแต่ความสนุกนั้นอยู่ได้ไม่นานเมื่อท่อหาโพรงใต้ดินถูกทำลายเนื่องจากวางทิ้งเกะกะระหว่างทางจึงโดนรถทับทำให้พวกโนบิตะไม่สามารถไปยังโพรงนั้นได้อีกแต่บังเอิญที่ซึเนะโอะไม่สามารถขึ้นจากใต้ภิภพได้ทันทำให้ต้องติดอยู่ในโลกใต้ภิภพตลอดไป เดือดร้อนให้โดราเอมอนและเพื่อน ๆ ต้องช่วยกันออกตามหา เมื่อพวกเขาสามารถหาโลกใต้ภิภพเจอก็เจอเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเมื่อไดโนเสาร์ที่น่าจะสูญพันธ์ไปเมื่อหลายล้านปีกลับมาอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้และพวกเขาก็ยังได้พบเจอกับเมืองไดโนเสาร์ที่มีเทคโลยีและอารยธรรมที่เจริญมาก พวกเขาจะทำเช่นไรและจะสามารถตามตัวซึเนะโอะเจอหรือไม่
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1987 เป็นตอนที่ 8 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

ตำนานเทพนิยายไซอิ๋ว (1988)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太のパラレル西遊記; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Version of Journey to the West หรือ Nobita's Parallel "Journey to the West"
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตำนานเทพนิยายไซอิ๋ว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะที่พยายามจะพิสูจน์ว่าหงอคงมีอยู่จริง จึงได้นั่งไทม์แมชชีนไปยังประเทศจีนสมัยที่พระถังซัมจั๋งไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่ชมพูทวีป และบังเอิญที่โนบิตะได้พบกับหงอคงขณะที่หงอคงกำลังขี่เมฆบินผ่านไป เมื่อเห็นเช่นนั้นโนบิตะจึงชวนให้พวกเพื่อน ๆ มาเห็นเพื่อพิสูจน์ความจริง แต่เรื่องมันไม่ง่ายเช่นนั้นเมื่อไทม์แมนชีนได้ลบข้อมูลการเดินทางเมื่อครั้งก่อนออกหมดแล้ว เดือดร้อนโดราเอมอนให้ช่วยสร้างสถานการณ์ว่ามีหงอคงอยู่จริงด้วยเครื่อง "ฮีโร่แมนชีน" ซึ่งเป็นเกมส์ชนิดหนึ่งในโลกอนาคตโดยให้โนบิตะแสดงเป็นหงอคงเพื่อหลอกเพื่อน ๆ แต่ไม่วายถูกจับได้ ขณะที่เวลานั้นพวกปีศาจในฮีโร่แมนชีนได้แอบหนีออกมาจากเครื่องโดยที่โดราเอมอนเองก็ไม่รู้ตัว เมื่อกลับมายังโลกปัจจุบันพวกโนบิตะก็ต้องรู้สึกถึงความเปลี่ยนไปของพ่อแม่ ครู และเพื่อนอีกหลาย ๆ คนจนในที่สุดก็รู้ว่าพวกเขาได้กลายเป็นปีศาจไปเสียแล้ว ทางเดียวที่จะสามารถทำให้ทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิมคือ การไปกำจัดปีศาจในโลกอดีตกลับเข้าเครื่องฮีโร่แมนชีนให้เร็วที่สุดก่อนที่พวกปีศาจจะลอบจับกินพระถัมซัมจั๋ง
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1988 เป็นตอนที่ 9 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์
เกร็ด : ภาพยนตร์ชุดนี้ไม่ได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือการ์ตูน จึงสามารถหาชมได้ฉพาะในรูปแบบอะนิเมะเท่านั้น

กำเนิดประเทศญี่ปุ่น (ท่องแดนญี่ปุ่นโบราณ) (1989)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の日本誕生; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita at the Birth of Japan
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน กำเนิดประเทศญี่ปุ่น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะที่วางแผนจะหนีออกจากบ้านเนื่องจากน้อยใจแม่ที่ดุด่าว่าเขาแต่ไม่ว่าจะหนีไปที่ใดมักจะมีอุปสรรคอยู่เสมอขณะที่ชิซุกะ ไจแอนท์ ซึเนะโอะ หรือแม้แต่โดราเอมอนก็คิดที่หนีออกจากบ้าน ทั้งหมดจึงได้คิดที่จะนั่งไทม์แมชชีนย้อนอดีตกลับไปสมัยที่ญี่ปุ่นไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ และสร้างบ้านที่นั่นโดยเลียนแบบชีวิตของมนุษย์ยุคโบราณ ขณะที่มนุษย์โบราณ (ตัวจริง) ได้หลงเข้ามาในมิติเวลา และหลุดจากมิติมาโผล่ที่ภูเขาหลังโรงเรียนและหนีเข้ามาอาศัยในบ้านโนบิตะ เมื่อพวกโนบิตะพบเจอจึงได้ตรวจสอบประวัติเขา และพบว่าเขาเป็นมนุษย์ยุคโบราณที่มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ และเมื่อสอบถามประวัติเขาก็รู้ว่าเขามีชื่อว่า "คุคุรู" เป็นลูกของหัวหน้าเผ่าแสงสว่าง และพวกชนเผ่าก็ได้ถูกเผ่าแห่งความมืด โดยมี "กิกะซอมบี้" ผู้เป็นหัวหน้า เข้ารุกรานและจับตัวไป พวกโดราเอมอนจึงรีบเดินทางไปช่วยชนเผ่าแสงสว่างให้รอดพ้นจากภัยอันตรายในครั้งนี้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1989 เป็นตอนที่ 10 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

ตะลุยดาวต่างมิติ (1990)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太とアニマル惑星; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Animal Planet
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตะลุยดาวต่างมิติ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะและเหล่าผองเพื่อนที่ได้หลงเข้าไปในหมอกสีชมพู และหลุดออกมายังดาวเคลเฮนอาณาจักรของเหล่าสิงสาราสัตว์ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากกว่าโลก ที่ซึ่งสัตว์ทุกตัวใช้ชีวิตและพูดได้เหมือนมนุษย์และมีสภาพแวดล้อมเหมือนกับโลกแทบทุกอย่าง แต่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติที่ดีกว่าโลกเป็นอย่างมาก พวกโนบิตะได้มาพบกับ "ชิปโปะ" สุนัขน้อยที่ชอบเล่นซนและต้องการไขปริศนาของป่าต้องห้ามซึ่งตั้งอยู่อีกฟากของเมืองแต่เหตุการณ์ร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อพวก "นิบุเกะ" มนุษย์จากดวงจันทร์(หมายถึงดาวฝาแฝด)ตามตำนานของชาวดาวได้บุกมาทำลายดวงดาวของพวกเขาโดยที่พวกเขาไม่สามารถต่อกรกับผู้มาเยือนได้ โดราเอมอน โนบิตะ และเหล่าผองเพื่อนจึงต้องหาทางช่วยเหลือและต่อกรกับพวกนิบุเกะก่อนที่พวกชาวดาวจะถูกฆ่า
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1990 เป็นตอนที่ 11 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

ตะลุยแดนอาหรับราตรี (1991)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太のドラビアンナイト; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita in Dorabian Nights
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตะลุยแดนอาหรับราตรี เป็นเรื่องราวของการผจญภัยครั้งใหม่ที่เริ่มขึ้นเมื่อโนบิตะขโมยรองเท้าวิเศษซึ่งสามารถเข้าไปยังโลกบนหนังสือนิทานได้จากโดราเอมอน เป็นรองเท้าวิเศษที่ทุกคนสามารถเข้าไปสัมผัสโลกนิทานได้ด้วยตนเอง แต่จะไม่สามารถจับต้องหรือเปลี่ยนแปลงใด ๆ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะผิดแปลกไปจากเดิม จนทำให้ชิซุกะพลัดหลงอยู่ในหนังสือนิทานอาหรับราตรีและซ้ำร้ายหนังสือนิทานนั้นก็ถูกแม่ของโนบิตะเผาทิ้งไป ทำให้โดราเอมอนกับเพื่อน ๆ ต้องออกท่องอาหรับราตรีเพื่อช่วยเหลือชิซุกะ
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 1991 เป็นตอนที่ 12 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

บุกอาณาจักรเมฆ (1992)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と雲の王国; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Kingdom of Clouds
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน บุกอาณาจักรเมฆ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโดราเอมอน โนบิตะ และเหล่าผองเพื่อน ที่ต้องการจะสร้างสรวงสวรรค์ของตัวเองบนท้องฟ้าโดยใช้ของวิเศษ "ก๊าซทำให้เมฆแข็งตัว" ต่อมาพวกเขาก็ได้พบกับเด็กชาวใต้คนหนึ่งขณะที่นอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนหลังเต่าดึกดำบรรพ์ ณ ภูเขาหิมะ พวกโนบิตะจึงพาตัวเขามารักษาและต้องการทราบสาเหตุว่าเหตุใดเขาจึงได้ไปอยู่บนภูเขาหิมะ แต่ทว่าในวันต่อมาเขาก็ได้หายตัวไป พวกโนบิตะจึงได้สืบหาหาตัวเขาและบังเอิญเข้ามาในอาณาจักรเมฆ (เพราะความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาณาจักรที่ตนเองสร้างขึ้น) ณ ที่แห่งนั้นพวกเขาก็ได้พบกับพันธุ์ไม้และสัตว์ต่าง ๆ ที่สูญพันธ์ไปจากโลกแล้วพร้อมกับกลุ่มมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่อ้างตัวเป็นมิตรและคอยต้อนรับพวกเขา โดยหารู้ไม่ว่าพวกเขาได้วางแผนการที่จะชำระล้างโลกด้วยแผนโนอา
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1992 เป็นตอนที่ 13 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

ฝ่าแดนเขาวงกต (1993)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太とブリキの迷宮; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Tin-Plate Labyrinth
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ฝ่าแดนเขาวงกต เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อโนบิตะได้รับกระเป๋าประหลาดที่สามารถกลายสภาพเป็นประตูที่พาไปยังโรงแรงบนเกาะที่มีชื่อว่า "บริคิงโฮเต็ล" โนบิตะและโดราเอมอนได้รับการต้อนรับจากผู้จัดการโรงแรมที่เป็นหุ่นยนต์เป็นอย่างดีในฐานะที่เป็นแขกวีไอพี ต่อมาโนบิตะและโดราเอมอนได้ไปเล่นสกีที่ภูเขาหิมะใจกลางเกาะ แต่ทว่าโนบิตะได้ประสบอุบัติเหตุผลัดหลงกับโดราเอมอน แต่ก็สามารถกลับโรงแรมได้อย่างปลอดภัย ขณะที่โดราเอมอนได้ถูกพวกหุ่นยนต์ทหารขนาดเล็กจับตัวไประหว่างตามหาโนบิตะและถูกนำตัวไปยังดาวฉาโมฉะ ทำให้โนบิตะและเพื่อน ๆ ต้องออกเดินทางไปยังดาวฉาโมฉะโดยอาศัยเกาะบริคิง(ยานอวกาศ)ของพ่อของ "ซาบิโอะ" เด็กชายที่หนีจากการตามล่าของ "นาโพกิสโทร่า" หุ่นยนต์กบฏที่ตั้งตัวเองเป็นราชา แล้วพวกโนบิตะจะต้องช่วยเหลือโดราเอมอนโดยปราศจากของวิเศษ
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1993 เป็นตอนที่ 14 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

สามอัศวินในจินตนาการ (1994)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と夢幻三剣士; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Fantastic Three Musketeers
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน สามอัศวินในจินตนาการ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะที่ต้องการสร้างโลกแห่งความฝันซึ่งมีตัวเองเป็นฮีโร่จึงขอร้องโดราเอมอนให้นำ "เครื่องสร้างความฝัน" ออกมา แต่ก็ไม่มีเรื่องใดที่ถูกใจโนบิตะเลย วันหนึ่งโนบิตะก็ได้พบกับหญิงชราท่าทางแปลก ๆ และให้โนบิตะกินเชอรี่วิเศษที่ทำให้มีความสามารถเหนือคนธรรมดาทั่วไป แต่ต้องอยู่ในโลกแห่งนิรันดร์กาลเท่านั้น ซึ่งต่อมาโนบิตะก็ได้ขอร้องโดราเอมอนให้ซื้อเครื่องสร้างความฝันชุดอัศวินมังกรซึ่งเป็นสินค้าออกใหม่ให้ และพา ชิซุกะ ไจแอนท์ ซุเนะโอะมาร่วมในการผจญภัยครั้งนี้ด้วย โดยที่หน้าที่หลักของพวกเขาคือการกำจัดเจ้าแห่งปีศาจ พวกเขาได้พาลพบกับอุปสรรคต่าง ๆ เช่น ต้นโอ๊กยักษ์ที่ซ่อนดาบวิเศษ มังกรที่สามารถทำให้ผู้อื่นกลายเป็นหินได้ กองทัพปีศาจจำนวนมาก แล้วพวกเขาจะฝ่าฟันไปได้หรือไม่?
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1994 เป็นตอนที่ 15 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

บันทึกการสร้างโลก (1995)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の創世日記; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Genesis Diary
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน บันทึกการสร้างโลก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะและเพื่อน ๆ ที่ได้การบ้านปิดเทอมเป็นรายงาน ซึ่งก็เป็นปัญหาเดิม ๆ และเพื่อนแต่ละคนก็มีหัวข้อทั้งนั้น โนบิตะจึงขอร้องโดราเอมอน แล้วโดราเอมอนก็ซื้อ "ชุดสร้างโลก" มาให้ เมื่อสร้างโลกจนสิ่งมีชีวิตเริ่มพัฒนาตนเองจนเหมือนโลกของจริงพวกโนบิตะจึงเริ่มตรวจตราสภาพของโลก (ในโลกที่สร้างเอง) แต่ก็ยังมีปัญหาตรงที่บรรพบุรุษของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์เลื้อยคลานยังอาศัยอยู่ในทะเล พวกโดราเอมอนจึงได้ใช้ "รังสีเพิ่มลดวิวัฒนาการ" ช่วยให้วิวัฒนาการให้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่หารู้ไม่ว่าพวกเขาได้พัฒนาสัตว์จำพวกแมลงโดยไม่รู้ตัว ทำให้พวกแมลงวิวัฒนาการจนมีอารยธรรมคล้ายกับมนุษย์และเข้ามาป่วนเปี้ยนในประวัติศาสตร์ของเหล่ามนุษย์ โดราเอมอนและเหล่าผองเพื่อนจึงต้องมาแก้ไขกับประวัติศาสตร์อันผิดพลาดในครั้งนี้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1995 เป็นตอนที่ 16 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

ผจญภัยสายกาแล็คซี่ (1996)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と銀河超特急; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Galactic Express
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ผจญภัยสายกาแล็คซี่ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อโดราเอมอนได้ซื้อตั๋วท่องเที่ยวกาแล็กซี่ทางช้างเผือกจากโลกอนาคต โดยมีพาหนะเป็นรถไฟหัวจักรไอน้ำ(ยานอวกาศ) มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สวนสนุกและไปลงจอดที่สวนสนุกอวกาศแห่งอนาคตที่มีชื่อว่า "ดรีมมาซูแลนด์" ที่นั่นมีเครื่องเล่นมากมายหลากหลายชนิดและมีหมู่ดาวบริวารต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เหล่าลูกค้าสามารถรับบทเป็นฮีโร่ได้ เช่น ดาวแห่งโลกตะวันตก ดาวนินจา ดาวเทพนิยาย ดาวไดโนเสาร์ ดาวมอนสเตอร์ เป็นต้น โดยแต่ละดวงดาวจะมีหุ่นยนต์คอยบริการซึ่งควบคุมโดยดาวเคราะกลางซึ่งเป็นศูนย์กลาง แต่ท่ามกลางความสนุกพวกเหล่าร้ายอวกาศนาม "กาฝากอวกาศ" ได้มาสิงเจ้าหน้าที่สวนสนุกป่วนระบบคอมพิวเตอร์ทำให้เครือข่ายสวนสนุกวุ่นวายและควบคุมหุ่นยนต์ในแต่ละดวงดาวมาเป็นพวก โดยมีเป้าหมายที่จะยึดร่างกายของมนุษย์ให้ได้มากที่สุด โดราเอมอนและเหล่าผองเพื่อนจึงต้องหาทางป้องกันและช่วยเหลือผู้คนจำนวนมากจากการสิงของพวกเหล่าร้ายนี้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1996 เป็นตอนที่ 17 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์


ตะลุยเมืองตุ๊กตาไขลาน (1997)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太のねじ巻き都市冒険記; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Adventure in Clockwork City
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตะลุยเมืองตุ๊กตาไขลาน เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อโดราเอมอนได้ไปยังงานประมูลดวงดาวแห่งโลกอนาคต เพื่อหวังจะได้รางวัลใหญ่แต่กลับพลาดได้รางวัลที่ระลึกแทน ซึ่งรางวัลจะเป็นกลุ่มดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี สร้างความเสียใจให้กับโนบิตะมาก แต่โนบิตะกลับสนใจและหวังที่จะสร้างฟาร์มส่วนตัว ทำให้ไปพบกับดาวที่มีความอุดมสมบูรณ์มีพืชพันธุ์และน้ำเหมือนกับโลกเพียงแต่ไม่มีสัตว์เท่านั้น(ไปผิดดาว) โนบิตะจึงชวนเพื่อน ๆ มาสร้างเมืองตุ๊กตาไขลานโดยให้พวกตุ๊กตาเป็นประชากรโดยอาศัย "ไขลานให้ชีวิต" จากโดราเอมอนให้ชีวิตแก่พวกตุ๊กตา ขณะที่บนโลกได้มีนักโทษแหกคุกฉายา "ไอ้เคราหมี" แอบเข้ามาบ้านโนบิตะและผ่านประตูไปไหนก็ได้ไปยังโลกไขลาน โดราเอมอนและเหล่าผองเพื่อนจึงต้องขับไล่โจรรายนี้ออกไปก่อนที่จะทำอะไรที่ส่งผลร้ายต่อเมืองตุ๊กตาไขลาน
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1997 เป็นตอนที่ 18 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

ผจญภัยเกาะมหาสมบัติ (1998)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の南海大冒険; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's South Sea Adventure
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ผจญภัยเกาะมหาสมบัติ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะที่ต้องการออกผจญภัยตามล่าหาสมบัติในหมู่เกาะทะเลใต้ โดยอาศัยเครื่องมือของโดราเอมอนที่มีชื่อว่า "แผนที่ค้นหาขุมทรัพย์" ค้นหาสมบัติจนพบโนบิตะจึงได้ช่วยเพื่อน ๆ เออกเดินทางโดยใช้เรือยนต์เป็นพาหนะ แต่ทว่าในระหว่างการเดินทางพวกโนบิตะได้หลงในมิติเวลาและหลุดออกมาโผล่ในทะเลสมันศตวรรษที่ 17 สมัยโจรสลัดยังเรืองอำนาจ เรือของพวกโนบิตะได้ชนกับเรือโจรสลัดจนเรือแตก ทุกคนกระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง รู้สึกตัวอีกทีก็ถูกพวกโจรสลัดช่วยไว้ ยกเว้นโนบิตะ ทำให้พวกโดราเอมอนต่างเป็นกังวลและเป็นห่วง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากกระเป๋ามิติที่สี่ของโดราเอมอนได้ถูกน้ำทะเลพัดหายไป พวกโดราเอมอนจึงต้องขอความช่วยเหลือพวกโจรสลัดที่มีเป้าหมายไปยังเกาะสมบัติแห่งเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือหาโนบิตะที่ติดเกาะกลางทะเล
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1998 เป็นตอนที่ 19 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

บันทึกท่องอวกาศ (1999)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の宇宙漂流記; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Adventure: Drifts in the Universe
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน บันทึกท่องอวกาศ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "ไรอัน" หน่วยอัศวินอวกาศผู้ของกองคาราวานท่องอวกาศ มีหน้าที่ในการค้นหาดาวดวงใหม่ที่เขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์ที่มนุษย์สามารถอาศัยอยู่ได้ เพื่อทำการอพยพผู้คนของกองยานอวกาศอพยพมาอาศัยบนดาวดวงนั้น ซึ่งต่อมาไรอันก็ได้พบกับดวงดาวที่ต้องการนั้นก็คือโลก ขณะเดียวกันพวกโดราเอมอนก็ได้เล่นเกมอนาคตในรูปของเกมอวกาศ โดยต้องเข้าไปเล่นในยานขนาดเล็ก แต่บังเอิญโดราเอมอน โนบิตะ ชิซึกะ ได้เกมโอเวอร์ออกมาจากเกมก่อนปล่อยให้ไจแอนท์ ซึเนะโอะ เล่นเกมส์กันอยู่สองคน และบังเอิญถูกไรอันนำตัวไป พวกโดราเอมอนจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยซึเนะโอะกับไจแอนท์ ขณะเดียวกันทางกองทัพอิสระก็ได้จัดกำลังทหารเพื่อเตรียมการบุกโลกภายใต้แกนนำของ "อันกอร์ โมอา"
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1999 เป็นตอนที่ 20 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์

ตำนานสุริยกษัตริย์ (2000)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の太陽王伝説; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Legend of the Sun King
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตำนานสุริยกษัตริย์ เป็นเรื่องราวอันบังเอิญของโดราเอมอนและโนบิตะที่ต้องการเอาของวิเศษคืนจากใจแอน แต่เกิดพลาดท่าทำให้เครื่องขัดข้อง มันจึงย้อนเวลาไปยังดินแดน อาณาจักรมายานะ โนบิตะก็ได้พบกับเจ้าชาย ทีโอ ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกันในดินแดนแห่งนี้ เกิดปัญหาใหญ่ก็คือ เรดิน่า แม่มดชั่วร้ายที่เคยทำงานให้กับพระราชินี ก็ใช้เวทมนตร์สร้างให้เกิดปัญหาต่อมายานะ ทำให้ฝนไม่ตกและพระราชินีก็ทรงพระประชวรเพราะเวทมนตร์ของเรดิน่า ทีโอจึงจำเป็นต้องเรียนรู้โลกความจริง ทำให้ทีโอรู้จักความเป็นเพื่อนของโนบิตะที่มอบให้แก่กัน
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2000 เป็น ตอนที่ 21 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 2002 ซึ่งนับเป็น โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ที่เข้าฉายในประเทศไทยครั้งแรกในรอบ 20 ปี นับจากที่เคยนำตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ และตอน โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ เข้ามาฉายในปี ค.ศ. 1982

โนบิตะและอัศวินแดนวิหค (2001)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と翼の勇者たち; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Winged Braves
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะและอัศวินแดนวิหค เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับข่าวเกี่ยวกับนกหายไปคาดว่ามีมนุษย์วิหคมาพาไป ที่เพื่อน ๆ ทุกคนดู ทำให้เพื่อนทุกคนตะลึง โนบิตะเองก็ได้ดู ก็หันมาสนใจในการเป็นมนุษย์วิหค จึงทำปีกจำลองทดลองบินแต่ก็ไม่สำเร็จ ครั้งสุดท้ายก็บินได้เพราะโดราเอมอนพยุงโนบิตะโดยใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่ แต่แล้วประตูมิติก็พาให้มนุษย์นกตัวหนึ่งชื่อ กูซึเกะ ตกลงมาพร้อมกับเครื่องร่อนของเขา โนบิตะทำแผลจนเขาหายดี จึงหันมาซ่อมเครื่องร่อน เพื่อจะบินไปกลับยังโลก เบิร์ดโนเปีย ซึ่งเป็นโลกของนกอีกครั้ง แต่โชคร้ายซูเนโอะกับไจแอนท์ก็ติดกันไปด้วย(เกาะหางเครื่องร่อนไปเพราะอยากจับกูซึเกะไปลงนิตยสารเพื่อให้ตัวเองดัง) ทำให้โดราเอมอนและโนบิตะตามไปยังโลกของนกแห่งนี้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2001 เป็นตอนที่ 22 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)

โนบิตะ ตะลุยอาณาจักรหุ่นยนต์ (2002)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太とロボット王国; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Robot Kingdom
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะ ตะลุยอาณาจักรหุ่นยนต์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "โปโกะ" หุ่นยนต์ที่หนีจากการตามล่าของโครงการล้างสมองหุ่นยนต์ภายใต้การนำของราชินี "แจน" และราชครู "เดสต้า" แต่ได้หลงเข้าไปในมิติเวลาและหลุดออกมายังห้องของโนบิตะ พร้อมกับบรรดาหุ่นยนต์ 100 ตัวจากศตวรรษที่ 22 พร้อมกับความเสียหายอย่างหนัก จนโดราเอมอนเองก็ไม่สามารถรักษาหรือทำอะไรได้ หนทางเดียวที่สามารถช่วยเหลือเด็กคนนี้คือ พาโปโกะไปรักษาบนดาวบ้านเกิด โดยใช้ไทม์แมนชีนรุ่นปรับปรุงใหม่สืบหาห้วงเวลาที่โปโกะเคยผ่าน การผจญภัยครั้งใหม่จึงเริ่มต้นขึ้น
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2002 เป็นตอนที่ 23 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 กันยายน ปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) โดยใช้ชื่อตอนว่า " โนบิตะ ตะลุยอาณาจักรหุ่นยนต์"

โนบิตะ มหัศจรรย์ดินแดนแห่งสายลม (2003)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太とふしぎ風使い; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Mysterious Wind Masters หรือ Nobita and the Wind Wizard
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะ มหัศจรรย์ดินแดนแห่งสายลม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "ฟูโกะ" ลูกพระพายที่ฟักตัวออกมาจากไข่และถูกโนบิตะนำมาเลี้ยงเอาไว้ ลูกพระพายผู้ซึ่งถูก "อูรันด้า" หัวหน้าเผ่าอาราชิในอดีตตามล่าโดยอูรันด้าซึ่งอยู่ในสภาพวิญญาณ (เนื่องจากตายมาหลายพันปี) ได้เข้าสิงซึเนะโอะเพื่อทำการแก้แค้นด้วยการคืนชีพปีศาจร้ายนาม "มาฟูก้า" ขึ้นมาเพื่อทำลายล้างโลก โดยฟูโกะเองก็เป็นส่วนหนึ่งของปีศาจตัวนั้น พวกโนบิตะจึงได้ร่วมมือกับเผ่ากาเซ่เพื่อช่วยเหลือโลกให้รอดพ้นจากภัยพิบัตินี้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 2003 เป็นตอนที่ 24 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) โดยใช้ชื่อตอนว่า "โนบิตะ มหัศจรรย์ดินแดนแห่งสายลม "

โนบิตะ ท่องอาณาจักรโฮ่งเหมียว (2004)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太のワンニャン時空伝; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Wannyan Space-Time Odyssey
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะ ท่องอาณาจักรโฮ่งเหมียว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะและโดราเอมอนได้เก็บสุนัขจรจัดที่ชื่อ "อิจิ" และแมวจรจัดมาเลี้ยงเพื่อรอดพ้นจากสายตาของแม่ ทั้งสองจึงพาอิจิพร้อมกับสุนัขและแมวจรจัดอีกหลายร้อยตัวไปยังยุคกว่า 300 ล้านปีก่อน พร้อมทั้งใช้ปืนเร่งรังสีวิวัฒนาการเพื่อให้สุนัขและแมวมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ จากนั้นจึงย้อนเวลามาสำรวจอีกครั้ง แต่เกิดอุบัติเหตุห้วงมิติผกผันขึ้นทำให้มายุคหลังจากนั้นพันปีและพบว่าเมืองของสุนัขและแมวนั้นมีวิวัฒนาการที่เหนือกว่ามนุษย์มาก แต่การมาคราวนี้พวกเขากลับต้องช่วยเหลือพลเมือง ๆ นี้ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือ "เหมียวนิล"แมวจอมโลภที่พยายามจะสร้างไทม์แมนชีนไปยังโลกมนุษย์เพื่อแก้แค้นให้กับบรรพบุรุษและพวกโดราเอมอนร่วมมือกับเหล่าสุนัขกลุ่มหนึ่ง
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 2004 เป็นตอนที่ 25 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ปี (พ.ศ. 2549) โดยใช้ชื่อตอนว่า "โนบิตะ ท่องอาณาจักรโฮ่งเหมียว"

ไดโนเสาร์ของโนบิตะ (ไดโนเสาร์ของโนบิตะ 2006) (2006)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の恐竜2006; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's Dinosaur 2006 - The Movie หรือ Doraemon The Movie 2006
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะได้ค้นพบกับฟอสซิลไดโนเสาร์โดยบังเอิญ และจากนั้นเขาก็ใช้ผ้าคลุมกาลเวลาให้กลายเป็นไข่ที่ฟักตัวได้ ไม่นานนักไดโนเสาร์คอยางน่ารัก ๆ ก็ฟักออกมาแล้วตั้งชื่อให้ว่า พิสุเกะ โนบิตะก็ได้เลี้ยงดูมันจนเติบโต จนกระทั่งพึสุเกะตัวใหญ่เกิดกว่าที่จะดูแลได้ จนต้องตัดสินใจส่งกลับไปยังยุคของมัน แต่ทว่าดันส่งไปผิดท้องถิ่น โนบิตะจึงขอร้องโดราเอมอนและเพื่อน ๆ ให้ช่วยพามันกลับไปยังถิ่นฐานจริง ๆ ที่มันอยู่คือทะเลญี่ปุ่นโบราณ พร้อมกับการหลีกหนีการตามล่าของเศรษฐีชั่วร้ายจากโลกอนาคตที่ต้องการพิสุเกะเพื่อนำไปค้าขายอย่างผิดกฎหมาย แถมยังต้องช่วยพิสุเกะปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ที่โหดร้านโดเดี่ยวให้ได้อีกด้วย ทั้งห้าคนจะช่วยเหลือพิสุเกะได้หรือไม่ และการจากกันของโนบิตะกับพิสุเกะจะออกมาในรูปแบบใดกันแน่
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2006 เป็นตอนที่ 26 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ เป็นการนำ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ผจญภัยไดโนเสาร์ ในปี ค.ศ. 1980 กลับมาสร้างใหม่ และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) โดยใช้ชื่อตอนว่า "ไดโนเสาร์ของโนบิตะ"


โนบิตะ ตะลุยแดนปีศาจ 7 ผู้วิเศษ (2007)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: 映画 ドラえもん のび太の新魔界大冒険~7人の魔法使い~; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita's New Great Adventure into the Underworld ~ The Seven Magicians~ หรือ Doraemon The Magic 2007
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะ ตะลุยแดนปีศาจ 7 ผู้วิเศษ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโดราเอมอนและโนบิตะได้เก็บรูปปั้นประหลาดที่หน้าตาเหมือนเขาสองคนได้ และขณะนั้นโนบิตะคิดว่าถ้าใช้เวทมนตร์ได้ก็จะดี จึงได้ใช้ตู้โทรศัพท์ติ๊ต่างของโดราเอมอนเปลี่ยนเป็นโลกแห่งเวทมนตร์ซะเลย แต่ถึงกระนั้นในโลกได้เปลี่ยนเป็นโลกเวทมนตร์ไปและทุกคนสามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างคล่องแคล่ว มีเพียงโนบิตะเท่านั้นที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซักกะอย่าง แล้วต่อมาโนบิตะก็ได้พบกับมิโยโกะ ก็ได้รู้เกี่ยวกับแผนคุกคามโลกของเหล่าปีศาจรูปปั้นประหลาดนั้นมีความเกี่ยวข้องกับการคุกคามโลกในครั้งนี้หรือไม่ ทั้งโนบิตะและโดราเอม่อนจึงต้องการที่จะใช้ตู้ติ๊ต่างโทรไปบอกว่าให้โลกกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่ทว่าแม่ของโนบิตะได้ทำลายตู้ติ๊ต่างไปเสียแล้ว โดราเอม่อน โนบิตะและเพื่อนๆจึงต้องต่อสู้กับซาตานเตมาออง ในฐานะ"จอมเวททั้ง 7 หรือ 7 ผู้วิเศษ"
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2007เป็นตอนที่ 27 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ เป็นการนำ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน ตะลุยแดนเวทมนตร์ ในปี ค.ศ. 1984 กลับมาสร้างใหม่ และเข้าฉายในประเทศไทยในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2551

โนบิตะกับตำนานคนยักษ์สีเขียว (2008)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太と緑の巨人伝 ; ชื่อภาษาอังกฤษ: Nobita and the Green Giant Legend 2008 หรือ Doraemon The Future 2008
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะกับตำนานคนยักษ์สีเขียว นี้เริ่มต้นขึ้นจากการที่โนบิตะไปเก็บเอาต้นอ่อนจากภูเขาหลังโรงเรียนและใช้ยาวิเศษของโดราเอมอนทำให้ต้นอ่อนเคลื่อนไหวและพูดเองได้เหมือนมนุษย์ โนบิตะตั้งชื่อให้ว่า "คีโบ" วันหนึ่งเมื่อทุกคนพากันไปที่ภูเขาหลังโรงเรียนจู่ๆก็มีน้ำวนยักษ์ปรากฏขึ้นมา แล้วก็ดูดพวกโนบิตะเข้าไปและพาพวกเขาไปยังโลกอันแสนประหลาดที่มีต้นไม้ยักษ์แผ่กิ่งก้านสาขากว้างใหญ่ที่มีชื่อว่า "ดาวแห่งสีเขียว"ซึ่งมีพวกพืชที่มีวิวัฒนาการจนสามารถพูดได้เหมือน อย่างคีโบปกครองอยู่โดยมีเจ้าหญิงรีเรเป็นผู้นำและอำมาตย์ใหญ่ชีร่าเป็นผู้วางแผนลับเพื่อปกป้องอนาคตของดาวสีเขียวเอาไว้เป็นผู้รับใช้อยู่เบื้องหลัง โนบิตะ โดราเอมอน และเพื่อนๆ จะทำเช่นไร? เพื่อกลับคืนสู่โลกเดิมของตน และตำนานคนยักษ์สีเขียวในตำนานคืออไรกันแน่?...!
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 2008เป็นตอนที่ 28 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์
เกร็ด : ภาพยนตร์ชุดนี้ไม่ได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือการ์ตูนเป็นตอนที่ 2 จึงสามารถหาชมได้ฉพาะในรูปแบบอะนิเมะเท่านั้น
โนบิตะกับตำนานคนยักษ์สีเขียวผมต้องการแก้ไขให้ดูได้แก้ให้ได้นะครับ

โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ 2009 (2009)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: 新・のび太の宇宙開拓史 ; ชื่อภาษาอังกฤษ: The New Record of Nobita: Spaceblazer หรือ Doraemon The Hero 2009
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ 2009 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโรพอล เด็กชายผู้ท่องไปในอวกาศ วันหนึ่งเครื่องเกิดเสียระหว่างที่เดินทางกลับดาวบ้านเกิด เมื่อลองวาร์ป แล้ว ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างมิติ ที่เชื่อมโยงกับใต้เสื่อในห้องของโนบิตะ เมื่อหมดหนทางกลับบ้าน กลางดึกคืนนั้นเอง จามี่ สัตว์เลี้ยงของโรพอล ได้เปิดประตูข้ามมิติมาที่โลก จนเจอกับโนบิตะและโดราเอมอน โดราเอมอนจึงช่วยพากลับบ้าน แต่ทว่าบนดาวบ้านเกิดของโรพอลนั้น กลับมีเหล่าร้าย ผู้หมายยึดครองแร่ธาตุของดาวดวงนี้ไป โนบิตะและเพื่อน ๆ จึงต้องหาหนทาง ช่วยดาวดวงนี้ให้ได้
ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2009 เป็นตอนที่ 29 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ เป็นการนำ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ตอน โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ ในปี ค.ศ. 1981 กลับมาสร้างใหม่
โนบิตะผจญภัยทะเลนางเงือก (2010)
ชื่อภาษาญี่ปุ่น: のび太の人魚大海戦; ชื่อภาษาอังกฤษ: nobita no ningyo daikaisen หรือ Doraemon The Legend 2010
โดราเมอนฉบับภาพพยนต์ ตอน โนบิตะผจญภัยทะเลนางเงือก ': ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ ???? ค.ศ. 2010เป็นตอนที่ 30 ของ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ เป็นการนำ โดราเอมอนฉบับโดจินชิ มาสร้างเป็นภาพยนตร์


อ่านนารูโตะ,วันพีช(แปลไทยล่าสุด)คลิกที่นี่



Create Date : 10 สิงหาคม 2552
Last Update : 12 สิงหาคม 2552 14:00:18 น. 15 comments
Counter : 7797 Pageviews.

 
ของใหม่ก็มีดีทีสีสันแสงสวยงาม ฉากการเคลื่อนไหวต่างๆๆนุ่มขึ้น ดีขึ้นเยอะ แต่ติดอย่างเดียว สัดส่วนตัวละครแต่ละตัวทำไมหน้าขี้เหร่ ก่าของฉบับดังเดิมมากมาย ลายเส้นหน้าตาตัวละครห่วยลง


โดย: *0* IP: 125.26.54.179 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:9:55:56 น.  

 
มีแฟนแล้ว


โดย: ที IP: 114.128.49.101 วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:18:00:34 น.  

 
มีให้โหลดป่ะ
555+


โดย: เด็กว.พ. IP: 125.25.236.221 วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:16:45:31 น.  

 
คือ ภาคหลังๆเขาเปลี่ยนคนวาดไม่ใช่หรอ

แล้วที่เราดูมาอ่า

มันมีภาคซ้ำกัน 2 ภาคใช่ป่ะ จากรูป และเนื้อหาอ่า??

แต้ยังไงก็สนุกนะ ...แต่มันดูวนเวียนเกี่ยวกะอวกาศเยอะไปหน่อย


โดย: รักนะ IP: 125.27.77.166 วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:22:24:52 น.  

 
ก็โดเรม่อน มันมาจากอนาคต ไม่ใช่หรอ?


โดย: boss IP: 110.164.125.114 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:13:50 น.  

 
ที่รักรักตัวนะ (ล้อเล่น)


โดย: มายบอก IP: 118.172.110.219 วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:22:37:21 น.  

 
ชอบดูดโดเรมอนมากเลย


โดย: pim IP: 125.27.156.13 วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:15:46:54 น.  

 
ดเเด


โดย: ด IP: 183.89.110.22 วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:18:12:01 น.  

 
ก็ชอบดูโดราเอมอนมากเลยถึงจะอยู่ม.1แล้วก็ยังชอบอยู่ดูหมดทุกตอนแล้วแต่ยังมีCDไม่ครบเลย


โดย: ทราย IP: 113.53.122.41 วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:17:20:41 น.  

 
ขอบคุณ


โดย: กก IP: 192.168.1.108, 58.8.53.50 วันที่: 6 สิงหาคม 2553 เวลา:14:27:14 น.  

 
รายชื่อของภาคที่เหลืออยู่นี่ สงครามเงือกใต้สมุทร โนบิตะกับกองทัพสงครามหุ่นยนต์


โดย: เดีย3 IP: 124.120.21.157 วันที่: 16 มกราคม 2554 เวลา:18:37:12 น.  

 
ยากดูตอนสงครามเงือกใต้สมุทร


โดย: พี IP: 118.172.6.65 วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:02:40 น.  

 
อยากดูโนบิตะนักนุกเบิกอาวากาศ
เเละ ขอดูวีดีโอที่ถูกลบจากอินเทอร์เน็ต


โดย: พิมพ์ IP: 115.87.8.182 วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:17:20:41 น.  

 
อยากดูตะลุยเเดนปีศาจ


โดย: พั้นซ์ IP: 115.87.8.182 วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:17:25:10 น.  

 
อยากดูไดโนเสาร์ของดโนบิตะ


โดย: สามารถ IP: 115.87.39.196 วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:12:39:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.