ไปสะดุดอยู่อยางที่ว่าด้วยกฎ 5 ข้อ ในการเลือกผู้ฝึกสอนหรือครูที่จะช่วยคุณได้มากที่สุด ก็ให้บังเอิญมาวิเคราะห์กับอาจารย์ที่สอนภาษาเราเองที่ทำให้ภาษาเราพัฒนาไปอีกขั้น

เราได้มาเรียนกับอาจารย์คนนี้ก็เพราะแม่เลือกให้ แม่บอกว่าเพื่อนแม่แนะนำกันมาหลายคนแล้วลูกๆเขาประสบความสำเร็จกันหมด ปกติอาจารย์เขาสอนภาษาอังกฤษกับญี่ปุ่น แต่นี้แม่ให้อาจารย์มาวางแผนจัดตารางการใช้ชีวิตให้เราใหม่หมดเลย คือนอกจากสอนทั้งอังกฤษและญี่ปุ่นให้เราแล้ว ยังเหมือนกับเป็นโค้ชส่วนตัวคอยกระตุ้นเราด้วย ฝึกความมั่นใจ ฝึกให้มีวินัย ตรงต่อเวลา กระทั่งบุคลิกภาพ 

ในหนังสือข้างต้นที่ว่านั่นน่ะเขาบอกมีกฏที่จะต้องเลือกผู้สอน คือ

1. อย่าเลือกคนที่ชวนให้นึกถึงบริกร ให้คุณสบายใจมองข้ามปัญหา

2. เลือกคนที่ทำให้คุณรู้สึกหวั่นเกรงนิดๆ

3. เลือกคนที่ให้คำแนะนำสั้นๆแต่ชัดเจน

4. มองหาคนที่ชอบปูพื้นฐาน

5. เลือกคนที่อายุมากกว่า

อาจารย์ที่แม่เราเลือกมาให้เนี่ยเรียกว่าครบทุกข้อเลย ข้อแรก อาจารย์เข้มงวดมากไม่ปล่อยผ่าน

ข้อสอง ทำให้เราหวั่นเกรงได้จริงๆ อาจารย์ไม่ดุ แต่เขาเรียกว่าไรอ่ะ มีรังสี มีพลังบางอย่าง 55

ข้อสาม กับข้อสี่นี่ก็ใช่ ตอนเรียนอังกฤษวันแรกโครตงงเลย ทำไมต้องมาอ่าน a b c ใหม่ ต้องมานั่งฝึกลิ้น ฝึกออกเสียงเชื่อมเสียงกันอยู่นั่นแหละ ภาษาญี่ปุ่นก็มานั่งเน้นเสียงย้ำอยู่นั่น เพิ่งมารู้ว่ามันทำให้เราสื่อสารกะคนอื่นรู้เรื่อง ฟังรู้เรื่องขึ้น ซึ่งแต่เดิมฟังไม่รู้เรื่องก็เพราะออกเสียงไปเพี้ยนนั่นเอง

การบ้านก็ต้องทำ และยิ่งแม่เราให้อาจารย์มาแทบจะดูแลชีวิตเราเลย มันเลยเหมือนกับได้ทุกเรื่องเลย ทั้งวิชาการและเรื่องส่วนตัว คือเราเป็นคนที่ผ่านการเรียนพิเศษมาหลากหลายรูปแบบอ่ะนะ แต่อาจารย์นี่แบบเอาเราอยู๋อ่ะ ประทับใจ 

ใครที่อยากพัฒนาตัวเองที่เคยลงไว้เมื่อวันก่อนก็ คลิกไปอ่านที่นี่เลยค่ะ เป็นภาษาอังกฤษนะ แต่ว่าไม่ยากมาก อ่านเข้าใจง่ายค่ะ ฝึกไปในตัว ได้ความรู้ดีด้วย 

ที่จริงในหนังสือ 52 เคล็ดวิชาเนี่ย ยังมีเกร็ดอะไรอีกเยอะ เล่มนิดเดียวแต่ถ้าอ่านแล้ววิเคราะห์ไปด้วย จะได้อะไรดีๆหลายอย่างเลย ใครอยากพัฒนาตัวเองไปหาอ่านกันได้เลย