ลด ลด ลด ลงมาหน่อย...

เมื่อตัดสินใจแน่วแน่ ในการทดลองนับแคลอรี่ของการกินแต่ละวันแล้ว เราก็ต้องมีปรับอะไรกันหลายๆอย่างในชีวิตเลยล่ะ ทำให้เรารู้เลยนะ ว่า ที่ผ่านมา เราใช้ร่างกายได้แบบ.. ไม่ทะนุถนอมเลย ทำร่างกายรวนไปซะทุกระบบ พักหลังๆ ที่บ่นๆๆ เหมือนร่างกายจะล้าๆ เหมือนคนแก่โอดนู่น โอยนี่ เพราะทำตัวเองทั้งน๊านนนน..

นิสัยเดิมๆ..

- ชานมเย็น ทุกเช้า ถ้าได้แวะเซเว่น คือเลือกแก้วใหญ่สุด วันไหนไม่กิน จะปวดหัว (มโนไปเองว่าปวดเพราะต้องการคาเฟอีนในชา โถ...คนเรา)

- มื้อเช้าอะไรก็ได้ ที่หาได้ ข้าวเหนียว หมูปิ้ง แซนวิชแฮมชีสเซเว่น ขนมปังใส่ครีม

- มื้อกลางวัน ก็จัดกันเต็ม ข้าวก็หมดจาน ก๋วยเตี๋ยวเส้นก็หมดเกลี้ยง แถมน้ำอัดลมเรียกความสดชื่นอยู่เรื่อยๆ (อ่อยยยย ... ประหนึ่งงานออฟฟิสนี่เสียเกลือแร่ไปเยอะมากเลยเนอะ) 

- ช่วงบ่ายๆ ก็แล้วแต่ว่าได้แวะที่ไหน ก็จัดมา ชานมมุก (อีกรอบ) เผลอๆมีพวก กล้วยข้าวเม่า ขนมไข่นกกระทา ขนมปัง เบเกอรี่ต่างๆ (บำรุงเกิ๊น ขาดแคลนไขมันในเลือดเหรอยะ)

- อาหารจานเดียวอย่าง ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู หมูกระทะ ผัดซีอิ๊ว หอยทอด จะเอ็นจอยมากกกก ถ้ารับในมื้อค่ำ.. ไอด้อนท์แคร์ (หึๆๆๆ)

- กลับถึงบ้านก็ผึ่งพุงนอน สแคชหน้าจอมือถือ ไปเรื่อยอ่ะ ลูกไม่ร้อง ไม่ง่วง นอนไม่เป็นฮ่ะ

- วันหยุดนี่สุดแสนจะสรรหาของกิน พิซซ่า สปาเก็ตตี้ สเต็ก ไอศครีม ร้านเค้กรอบๆบ้าน จัดแน่น จัดเต็ม สั่งให้คุณนายทั้งสองกิน รับกันไม่หมด แม่จัดการเรียบบบ 

ก็เพราะทำซะเคยตัวแบบนี้ เมื่อถึงคราวปรับ ก็เลยต้องปรับกันยกใหญ่ ซึ่งก็ทำมาได้ 10 สัปดาห์ หรือ สองเดือนกว่าๆแล้ว ตามนี้

- บอกลาชานมไปแล้ว ถ้าอยากมาก ก็ชามะนาวแบบแก้วเล็ก ซึ่งที่ผ่านมารับไปแค่ 2-3 แก้วได้ นอกนั้นที่เป็นชา ก็จะเป็นชาจีนจืดๆแบบใน MK หรือชาร้อน น้ำตาลหนึ่งช้อน อันหลังนี่รับไปแค่สองแก้วได้

- แม้จะต้องซื้อจากข้างนอกเหมือนเดิม แต่ลดและเลือกขึ้นเยอะนะ ข้าวขาว เหลือแค่ทัพพีเดียว กับข้าวก็เลือกประมาณ ไข่ต้ม แกงส้ม ผัดผัก แอบมีของทอดก็จะเป็น ปลาทู ปลาสลิด ไปร้านก๋วยเตี๋ยว ก็สั่งเกาเหลา ข้าว 1 ทัพพี ร้านตามสั่งก็เปลี่ยนเป็นเมนู ผัดเผ็ดปลา ผัดผัก พร้อมข้าว 1 ทัพพี เช่นเดิม

- ช่วงบ่าย ส่วนใหญ่ก็เป็นผลไม้ น้ำผลไม้ มีขนมบ้างตามโอกาส แต่ปริมาณลดลงครึ่งนึง กล้วยข้าวเม่าจาก 2 เหลือ 1 ชามุก ไม่แล้ว เบเกอรี่แบ่งกินครึ่งเดียว อีกครึ่งให้สามี อิอิ

- ช่วงเย็นกลับถึงบ้าน ต้องเจอหน้าป๋าฌอนก่อน เหงื่อออกแล้วก็สบายใจ หาอะไรกินได้ แต่ส่วนใหญ่จะไปในแนว เกาเหลาไก่ โจ๊ก(เหลือข้าวครึ่งนึง) แซนวิชทูน่า ปลาดุกย่าง น้ำพริกผัก

- สามทุ่ม เรียกคุณนาย ขึ้นนอนนนน

- วันหยุดก็ออกหาของกินเช่นเดิม แต่จำพวก พิซซ่า ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู หอยทอด ไม่แตะมา 2 เดือนละนะ เสียดายเหงื่อที่ออกอ่ะ เปลียนสเต็กเป็นปลา เฟรนซ์ฟรายยกให้คุณลูก

- ของชอบๆทั้งหลาย ก็ลดๆไปได้หลายอย่าง หมูกระทะนี่ชอบมาก สามชั้นย่างนะของโปรด ก็ไม่เอาละ ใครชวนกินก็เลือกส่วนเนื้อๆแล้วลวกเอา หรือไม่ก็กินเป็นจิ้มจุ่มไปเลย สมุนไพรเพียบ.. ต้มยำน้ำข้น ก็เปลี่ยนเป็นน้ำใส.. บาร์บีคิวหนังไก่ บ๊ายบายแล้วนะ..แกงกระทิ เลี่ยงเลย..  

ทำแล้วมันเป็นงัย ผลที่ได้ล่ะ..

แม้ไม่ได้รรับชาเป็นกิจวัตร แต่อาการปวดหัวไม่มีให้เห็นแล้วนะ ที่เจอปวดหัวบ้าง ก็คือเกิดจากอาการไข้หวัด ซึ่งเป็นครึ่งวัน หายละ ... จริง..!

ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยสรรพสิ่ง ดีขึ้นเยอะ ...จริง..!

เดินไปเดินมา ขึ้นลง บันไดสะพานลอย.. เหนื่อย แต่ไม่หอบนะเออ... จริง..!

เนื้อย้วยๆ ก็ตึงขึ้น แน่นขึ้น ไม่ได้วัด แต่การสัมผัสของสามี เธอบอกว่า เนื้อหายไป...จริง..!

แล้วเป้าหมายแคลอรี่ที่ตั้งไว้ล่ะ ทำมันได้มั้ย.. คือจริงๆ ด้วยเมนูอาหารของคนไทย เลือกนิด เปลี่ยนหน่อย แล้วคำนวณกลับไปเป็นแคลอรี่ เท่าที่ทำมา มันได้นะ มีหลุดบ้างแค่ 2-3 ครั้ง ซึ่งการหลุดก็ไม่เกิน TDEE ที่เราคำนวณไว้... เราทำได้...แถมไม่ต้องอดด้วยเน้อ.. แค่นี้ สบายใจป่ะล่ะ

วัดด้วยตัวเลขน้ำหนัก 11 สัปดาห์ที่ทำมา น้ำหนักลงไป 5.7 กิโล ชั่งเมื่อ 26 กค 2557

ยังคงเดินหน้าต่อ เพราะใจหวังจะเอาออกไปอีก 5 กิโลนะ อีกสองเดือนได้แน่ หุหุหุ..

อยากจะจ๊วบบบบ ตัวเองซักที ที่ทำสิ่งดีๆให้ร่างกายเนาะ...

Create Date : 30 กรกฎาคม 2557 Last Update : 30 กรกฎาคม 2557 15:28:44 น. Counter : 459 Pageviews.		0 comments
Share Tweet