สารกำจัดวัชพืช(ยาฆ่าหญ้า) ตอนที่ 2
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำ ชื่อสารเคมี(ชื่อสามัญ) ชนิดต่างๆ มาเผยแพร่ให้เกษตรกร,ผู้สนใจ,ฯลฯ ได้รู้ถึงประโยชน์, อันตราย, และความเป็นพิษเพื่อจะได้เลือกใช้สารเคมีอย่างระมัดระวัง(ในกรณีที่จำเป็น) มิได้ต้องการส่งเสริมให้เกษตรกรหรือผู้อ่านใช้สารเคมีเพิ่มขึ้น เพียงแต่หากจำเป็นต้องใช้สารเคมี ก็ควรใช้อย่างรู้คุณและโทษของมันอย่างถูกต้อง และได้ประโยชน์ คุ้มค่ากับเงินลงทุนที่เสียไปทุกบาททุกสตางค์ และไม่ทำให้ผู้บริโภครวมถึงตัวเกษตรกรและผู้ใช้เองต้องตกเป็นเหยื่อของพิษ ภัยจากการใช้สารเคมีโดยมิได้รู้แจ้ง ซึ่ง ทางผู้โพสหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรและบุคคลทั่วไปไม่มากก็น้อย สำหรับท่านที่มีเพื่อน,มิตร,ญาติสนิท,ฯลฯ ที่ทำเกษตร หรือเกี่ยวข้องทางด้านนี้อยู่ ก็รบกวนช่วยนำไปเผยแพร่นะครับ ผมเองได้ข้อมูลมาตั้งแต่สมัยที่ยังทำการเกษตรอยู่ จาก หนังสือ "สารกำจัดศัตรูพืชในประเทศไทย" เป็นหนังสือที่หาค่อนข้างยาก ปัจจุบันไม่ทราบว่ามีตีพิมพ์อีกหรือไม่ แต่ข้อมูลก็ยังสามารถใช้ได้ดีอยู่ จึงอยากนำมาเผยแพร่ให้คนรักต้นไม้,เกษตรกร,หรือคนที่เกี่ยวข้องได้ทราบกัน (นายยักษ์เขียว)
อะลาคลอร์ (alachlor) การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช anilide ที่ใช้ทางดินและเป็น protein synthesis inhibitor ซึ่งให้ผลในทางควบคุมเมล็ดพืชมิให้งอก (pre emergence) ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 1,800 มก./กก. ทางผิวหนัง 13,300 มก./กก. ทำให้ดวงตาและผิวหนังระคายเคือง วัชพืช ที่กำจัดได้ ใช้ควบคุมมิให้เมล็ดพืชงอก เช่น หญ้าขน หญ้าตีนนก หญ้าปากควาย หญ้าปล้อง หญ้าข้าวนก หญ้าตีนไก่ หญ้ากุศลา หญ้าหางหมา ผักโขม ผักโขมหวาน หญ้าชันอากาศ วัชพืชใบแคบและใบกว้างอื่น ๆ พืช ที่ใช้ ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลิสง หอม กระเทียม ผักตระกูลกะหล่ำ มะเขือเทศ และพริก สูตรผสม 45.1% และ 48% อีซี อัตรา ใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราแตกต่างกันออกไปตามชนิดของดินทั่ว ๆ ไปใช้อัตราระหว่าง 500-1,000 ซีซี ผสมกับน้ำ 60-80 ลิตร ฉีดพ่นคลุมดิน อาการ เกิดพิษ หากถูกบริเวณผิวหนัง อาจทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคือง ถ้าเข้าตาทำให้ดวงตาระคายเคือง ถ้ากินเข้าไป ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และท้องเสีย การ แก้พิษ ถ้าเกิดพิษที่ผิวหนัง ให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่จำนวนมาก ๆ ถ้าเข้าตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดนานประมาณ 15 นาที ถ้ากินเข้าไป อย่าทำให้อาเจียน ให้คนไข้รับประทานยาแอ็คติเวทเต็ด ซาร์โคล 2-4 ช้อนโต๊ะ ละลายกับน้ำ 1 แก้ว แล้วนำผู้ป่วยส่งแพทย์ รักษาตามอาการ ข้อควรรู้ - ให้ใช้ก่อนวัชพืชงอกหรือก่อนพืชที่ปลูกงอก - ภายหลังการฉีดพ่น ถ้ามีฝนตกลงมาภายใน 10 วัน จะให้ผลดีมาก - ใช้ผสมฉีดพ่นร่วมกับสารกำจัดวัชพืชอื่น ๆ ได้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งปุ๋ย - คงตัวอยู่ในดินได้นาน 6-10 สัปดาห์ - อย่าใช้กับดินที่มีอินทรีย์วัตถุสูงกว่า 10%
อะมีทรีน (ametryn) การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช triazine ประเภทเจาะจง กำจัดวัชพืชได้ทั้งก่อนงอก และภายหลังจากงอกแล้ว ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 1,110 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 8,160 มก./กก. วัชพืชที่กำจัดได้ หญ้าตีนนก หญ้าขน หญ้าตีนกา หญ้ากุศลา หญ้าชันอากาศ หญ้าหางหมา ผักโขม ผักโขมหวาน พืชที่ใช้ ใช้กำจัดวัชพืชในไร่อ้อย ส้ม สัปปะรด กล้วย ชา กาแฟ มันฝรั่ง สูตรผสม 80% ดับบลิวพี อัตรา ใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราแตกต่างกันออกไปตามชนิดพืช อยู่ในช่วงระหว่าง 320-640 กรัม/ไร่ ผสมกับน้ำ กวนให้เข้ากันดีแล้วฉีดพ่นคลุมหน้าดินให้ทั่วพื้นที่เพาะปลูก ศึกษารายละเอียดวิธีการใช้เพิ่มเติมจากฉลาก อาการ เกิดพิษ อาจทำให้ผิวหนัง ดวงตาและเยื่อบุต่าง ๆ เกิดอาการระคายเคือง หากกินเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เคลื่อนไหวไม่เป็นปกติ เนื่องจากกล้ามเนื้อทำงานไม่สัมพันธ์กัน หายใจขัดและอาจชักได้ การ แก้พิษ ถ้าเกิดพิษที่ผิวหนัง ให้ล้างออกด้วยสบู่กับน้ำ ถ้าเข้าตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก ๆ เป็นเวลา 10 นาที ถ้ากลืนกินเข้าไป รีบทำให้คนไข้อาเจียนด้วยการใช้นิ้วล้วงคอหรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่นหรือให้ ยา syrup of IPECAC ถ้า ยังไม่อาเจียนให้ล้างท้องคนไข้แล้วให้ทานถ่านยาแอ็คติเวทเต็ด ซาร์โคล ภายหลัง 4 ชั่วโมง ถ้ายังไม่หายให้คนไข้ถ่ายด้วยยาประเภทเกลือ ห้ามให้ยาถ่ายที่เป็นน้ำมัน แล้วรักษาตามอาการ ข้อควรรู้ - สำหรับอ้อยและสัปปะรด ไม่ควรใช้เกินขนาดที่แนะนำ - ห้ามใช้ฉีดพ่นยอดข้าวโพด - ดูดซึมเข้าไปในต้นวัชพืชได้โดยผ่านทางราก ดังนั้น วัชพืชจึงงอกออกมาก่อนแล้วจึงตายในภายหลัง - เข้ากันได้กับสารกำจัดศัตรูพืชอื่น ๆ และปุ๋ย
อะมีโทร (amitrol) การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช triazole ประเภทไม่เจาะจงพืช ใช้กำจัดวัชพืช ภายหลังงอก โดยออกฤทธิ์ผ่านทางใบและราก ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 5,000 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 10,000 มก./กก.(หนู) วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบแคบ เช่น หญ้าต่าง ๆ และวัชพืชใบกว้าง ทั้งประเภทล้มลุกและยืนต้น พืชที่ใช้ ใช้กำจัดวัชพืชในสวนผลไม้ ตามคลองชลประทานและไหล่ถนน สูตรผสม 80% เอสพี อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก ฉีดพ่นที่ใบพืชให้ทั่วทั้งต้นพืช การแก้พิษ ยังไม่ทราบยาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ ข้อควรรู้ - ให้ผลในการกำจัดเต็มที่ภายใน 2-3 สัปดาห์ - เป็นสารขัดขวางการสร้าง chlorophyll จึงทำให้ใบพืชเป็นสีขาวแดง และน้ำตาล - วัชพืชที่มีอายุมากหรือต้นแก่กว่า จะดูดซึมสารนี้ได้ช้ากว่าพืชที่มีอายุอ่อนกว่า - คงตัวอยู่ในดินได้นาน 2-4 สัปดาห์
อ่านต่อตอน 3 ครับ
ที่มา สารกำจัดศัตรูำืพืชในประเทศไทย
Create Date : 27 มกราคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 27 มกราคม 2554 17:03:59 น. |
Counter : 4416 Pageviews. |
|
|
|