|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สารกำจัดวัชพืช(ยาฆ่าหญ้า) ตอนที่ 17
บท ความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำ ชื่อสารเคมี(ชื่อสามัญ) ชนิดต่างๆ มาเผยแพร่ให้เกษตรกร,ผู้สนใจ,ฯลฯ ได้รู้ถึงประโยชน์, อันตราย, และความเป็นพิษเพื่อจะได้เลือกใช้สารเคมีอย่างระมัดระวัง(ในกรณีที่จำเป็น) มิได้ต้องการส่งเสริมให้เกษตรกรหรือผู้อ่านใช้สารเคมีเพิ่มขึ้น เพียงแต่หากจำเป็นต้องใช้สารเคมี ก็ควรใช้อย่างรู้คุณและโทษของมันอย่างถูกต้อง และได้ประโยชน์ คุ้มค่ากับเงินลงทุนที่เสียไปทุกบาททุกสตางค์ และไม่ทำให้ผู้บริโภครวมถึงตัวเกษตรกรและผู้ใช้เองต้องตกเป็นเหยื่อของพิษ ภัยจากการใช้สารเคมีโดยมิได้รู้แจ้ง ซึ่ง ทางผู้โพสหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรและบุคคลทั่วไปไม่มากก็น้อย สำหรับท่านที่มีเพื่อน,มิตร,ญาติสนิท,ฯลฯ ที่ทำเกษตร หรือเกี่ยวข้องทางด้านนี้อยู่ ก็รบกวนช่วยนำไปเผยแพร่นะครับ ผมเองได้ข้อมูลมาตั้งแต่สมัยที่ยังทำการเกษตรอยู่ จาก หนังสือ "สารกำจัดศัตรูพืชในประเทศไทย" เป็นหนังสือที่หาค่อนข้างยาก ปัจจุบันไม่ทราบว่ามีตีพิมพ์อีกหรือไม่ แต่ข้อมูลก็ยังสามารถใช้ได้ดีอยู่ จึงอยากนำมาเผยแพร่ให้คนรักต้นไม้,เกษตรกร,หรือคนที่เกี่ยวข้องได้ทราบกัน (นายยักษ์เขียว)
เมธาเบ็นซ์ไธอายูรอน (methabenzthiauron) การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช urea ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอกและภายหลังงอก ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) มากกว่า 2,500 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 500 มก./กก. วัชพืชที่กำจัดได้ กำจัดวัชพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและใบเลี้ยงคู่ และวัชพืชพวกหญ้า พืชที่ใช้ ถั่ว กระเทียม มันฝรั่งและหอม สูตรผสม อยู่ในรูปผงผสมน้ำ (ดับบลิวพี) อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก ข้อควรรู้ - ไม่เป็นพิษต่อผึ้งและปลา - อย่าใช้ผสมกับยูเรียและปุ๋ยน้ำอย่างอื่น - ขณะที่ใช้ดินควรมีความชื้น - ภายหลังจากใช้ 14-20 วัน วัชพืชจึงจะตาย - ไม่กำจัดวัชพืชที่ขยายพันธุ์ด้วยราก
เมโตลาคลอร์ (metolachlor) การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช acetanilide ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอก ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 2,780 มก./กก. ทางผิวหนัง 3,100 มก./กก. อาจทำให้ดวงตาและผิวหนังระคายเคือง วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบแคบหรือหญ้าล้มลุกและวัชพืชใบกว้างบางชนิด พืชที่ใช้ ข้าวโพด ถั่วเหลือง ฝ้าย กะหล่ำปลี หอม กระเทียม ข้าวฟ่าง ทานตะวัน มะเขือเทศ ปอ มันฝรั่งและพืชที่ไม่ได้ทำการเพาะปลูก สูตรผสม 40% อีซี อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก ได้ทั้งก่อนปลูกและก่อนงอก การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ ข้อควรรู้ - เป็นพิษกับปลา
เมทริบูซิน (metribuzin) การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช triazine ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอก และภายหลังงอก ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 2,200 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 20,000 มก./กก. วัชพืชที่กำจัดได้ กกต่าง ๆ หญ้าตีนนก หญ้าตีนกา หญ้านกสีชมพู หญ้าปากควาย หญ้ารังนก ผักปราบ ผักเบี้ยหิน ผักโขมหนาม โคกกระสุน หญ้าและวัชพืชใบกว้างประเภทล้มลุกอื่น ๆ พืชที่ใช้ ถั่วเหลือง มะเขือเทศ อ้อย กาแฟ ชา ข้าวโพด แอสพารากัส ข้าวสาลี ข้าวบาเลย์ มันฝรั่ง และสัปปะรด สูตรผสม 70% ดับบลิวพี อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตรา 80-120 กรัม ผสมกับน้ำ 40-60 ลิตร/ไร่ ฉีดพ่นหน้าดินทันทีที่ปลูกพืชเสร็จ ในขณะฉีดพ่นดินควรมีความชื้นและวัชพืชยังไม่ทันงอก ก่อนใช้ควรศึกษารายละเอียดจากฉลากเพิ่มเติม อาการเกิดพิษ ผู้ได้รับพิษจะมีอาการหายใจขัด เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดเกร็งในช่องท้อง การแก้พิษ ถ้าเกิดพิษที่ผิวหนัง ให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่ ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง ถ้ากินเข้าไป ให้ล้างท้องคนไข้ แล้วรักษาตามอาการ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ ข้อควรรู้ - อย่าใช้กับดินทรายหรือดินร่วนปนทรายที่มีอินทรียวัตถุต่ำกว่า 2% - พืชที่อ่อนแอต่อสารนี้ คือ พืชตระกูลกะหล่ำปลี แตงกวา สตรอเบอร์รี่ ทานตะวันและยาสูบ - อย่าปลูกพืชอื่นนอกจากพืชแนะนำในพื้นที่ ๆ ฉีดพ่นสารนี้แล้วอย่างน้อยเป็นเวลา 4 เดือน - ดินที่มีอินทรียวัตถุสูง ให้ใช้อัตราเพิ่มขึ้น - ควบคุมวัชพืชได้นาน 3-4 เดือน - อาจใช้ผสมกับสารกำจัดวัชพืชอย่างอื่นได้
เม็ทซัลฟูรอน - เม็ทธิล (metsulfuron-methyl) การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช urea , triazine ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอกและภายหลังงอก ออกฤทธิ์ด้วยการเข้าไปยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ และการเจริญเติบโตของวัชพืช ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู)มากกว่า 5,000 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 2,000 มก./กก. วัชพืชที่กำจัดได้ สาบเสือ มังเคร่ ผกากรอง ไม้พุ่มและวัชพืชใบกว้างยืนต้นอื่น ๆ พืชที่ใช้ ข้าวสาลี ข้าวบาเลย์ ข้าวโอ๊ตและกำจัดวัชพืชตามบริเวณพื้นที่ไม่ได้ทำการเพาะปลูก ริมทางรถไฟ ถนนหลวง ริมคลองชลประทาน สนามบิน ในป่าและพื้นที่อุตสาหกรรม สูตรผสม 20% ดีเอฟ และ 60% ดีเอฟ อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก อาการเกิดพิษ อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองเมื่อเข้าตา จมูก คอหรือเมื่อถูกผิวหนัง การแก้พิษ ถ้าเข้าตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก ๆ หลายครั้ง ถ้ากินเข้าไปให้คนไข้ดื่มน้ำแล้วทำให้อาเจียนด้วยการล้วงคอ แล้วนำส่งแพทย์ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
Create Date : 03 มีนาคม 2554 |
Last Update : 3 มีนาคม 2554 18:04:15 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1997 Pageviews. |
|
|
|
โดย: โอ้ทะเล วันที่: 3 มีนาคม 2554 เวลา:20:28:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]
|
แ่บ่ง ข้าวปลาอิ่มแล้ว ยังมี ลืมได้ ปัน สิ่งทรัพย์ยามดี บ่แท้ ความ รู้เพื่อนดีที่ แบ่งต่อ ทำกิน คิด บ่ลืมคุณแม้ ท่านสิ้น ชีวี
ขอบคุณสำหรับทุก ๆ ความรู้และทุก ๆ น้ำใจจากเพื่อนร่วมโลก (ยักษ์เขียว)
|
|
|
|
|
|
|
|
https://spreadsheets.google.com/viewform?formkey=dGtsbnRod1ZUbEVDU3U4UzhGM09mOHc6MQ