อาบน้ำสุนัข .. ควรอาบน้ำสุนัขทุก 1 - 2 สัปดาห์
คอลัมน์ รู้ไปโม้ด น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com
คำตอบได้มาจากข้อเขียนของ ส.พญ.พรวดี ยังสุขสถาพร ในนิตยสาร DOGAZINE ว่า โดยปกติควรอาบน้ำสุนัขทุก 1-2 สัปดาห์ ซึ่งก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากการอาบน้ำด้วยแชมพูสุนัขจะทำให้แชมพูชะไขมันที่ร่างกายสุนัขสร้างขึ้นมาเคลือบผิวหนังและเส้นขนออกไป การอาบน้ำบ่อยเกินไปจึงมีผลทำให้ผิวและเส้นขนแห้ง ขาดความเงางาม และอาจทำให้สุนัขมีอาการคันได้ หรือถ้าจำเป็นต้องอาบน้ำบ่อยๆ ควรเลือกแชมพูที่เป็นแบบ โซป-ฟรี (soap-free) เพื่อหลีกเลี่ยงสารทำความสะอาดในสบู่ที่เป็นตัวกำจัดไขมันทำให้ผิวหนังแห้ง ในกรณีที่สุนัขมีปัญหาสะเก็ดรังแคและผิวมันเยิ้ม อาจอาบน้ำได้บ่อยขึ้น เป็นทุกๆ 3-4 วัน โดยในช่วงแรกใช้ร่วมกับแชมพูยาเพื่อลดรังแคและความมัน จนเมื่อผิวมันลดลงแล้วก็ปรับเป็นอาบน้ำทุก 1-2 สัปดาห์แทน
สำหรับแชมพูแบบใดจึงจะเหมาะกับผิวของสุนัข ควร หลีกเลี่ยงการใช้แชมพูสระผมของคนมาอาบน้ำให้สุนัข เนื่องจากค่าความเป็นกรดด่างของผิวหนังคนกับสุนัขไม่เท่ากัน การใช้แชมพูคนในช่วงแรก เจ้าของอาจไม่รู้สึกว่าผิวหนังสุนัขมีปัญหา แต่เมื่อใช้ไปนานๆ จะทำให้ผิวหนังสุนัขขาดความสมดุล และโครงสร้างผิวหนังเสียหาย ก่อให้เกิดโรคผิวหนังตามมาได้
การเลือกแชมพูสำหรับสุนัขโดยทั่วไป โดยเฉพาะในลูกสุนัขหรือสุนัขที่ผิวบอบบาง มีโอกาสแพ้ง่าย ให้เลือกสูตรอ่อนโยนที่มีโอกาสก่อให้เกิดความระคายเคืองน้อย (โดยมากมักเขียนที่ข้างขวดว่า Hypoallergenic) และเป็นแชมพูที่ผสม มอยส์เจอไรเซอร์สูงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหนัง หลีกเลี่ยงการใช้แชมพูที่ผสมยากำจัดเห็บหมัดในลูกสุนัขและสุนัขที่สุขภาพอ่อนแอ เพราะมีโอกาสเกิดความเป็นพิษ ส่วนสุนัขที่มีปัญหากลิ่นตัวจากโรคผิวหนัง ให้เลือกแชมพูสูตรที่ลดการแพ้ร่วมกับการใช้แชมพูยาที่สัตวแพทย์เลือกให้
วิธีการอาบน้ำสุนัขเริ่มจากการใช้น้ำเปล่าราดตัวให้เปียกก่อน เจือจางแชมพูกับน้ำสะอาดเล็กน้อยก่อนราดลงบนตัวสุนัข ไม่ควรเอาแชมพูสุนัขเข้มข้นราดสุนัขโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังบริเวณนั้น ไม่ควรใช้เล็บเกาผิวหนังสุนัขแรงๆ เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังสุนัขได้ ควรใช้วิธีนวดคลึงผิวหนังสุนัขแทน หรืออาจใช้แปรงอาบน้ำที่ทำจากยางนวดเบาๆ สำหรับน้ำที่ใช้อาบสุนัขควรใช้น้ำอุ่น ยกเว้นสุนัขที่มีปัญหาภูมิแพ้ควรอาบด้วยน้ำเย็นแทน เพราะถ้าอาบน้ำอุ่นจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น สุนัขจะคันมากขึ้นด้วย
หลังจากฟอกด้วยแชมพูแล้ว ควรล้างน้ำออกโดยใช้เวลาอย่างน้อย 5 นาที เพื่อลดโอกาสที่จะระคายเคืองจากการล้างแชมพูออกไม่หมดและให้ผิวได้รับน้ำเพียงพอ เมื่ออาบน้ำเสร็จ ควรเช็ดตัวหรือเป่าให้แห้งทุกครั้ง ไม่ควรเป่าไดร์ด้วยลมร้อนเกินไป โดยเฉพาะสุนัขที่มีปัญหาผิวหนังควรใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดให้แห้งหรือใช้ลมเย็นเป่า
ในกรณีที่มีปัญหาโรคผิวหนังโดยมากจะแนะนำให้ใช้แชมพูที่สุนัขเคยใช้เป็นประจำที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้อาบก่อน เพื่อล้างคราบสกปรกและฝุ่นที่ติดตามขนออก แล้วล้างออก จากนั้นจึงใช้แชมพูยาที่สัตวแพทย์แนะนำ โดยฟอกทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ให้แชมพูยาออกฤทธิ์ ล้างออกด้วยน้ำสะอาดให้เกลี้ยงและเช็ดตัวเป่าขนให้แห้ง
หน้า 24
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ คอลัมน์ รู้ไปโม้ด - น้าชาติ ประชาชื่น สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ
Create Date : 20 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2557 10:50:32 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1074 Pageviews. |
|
|