เพราะบ้านดำเป็นเสมือนลมหายใจของ พ่อ ที่ยังคงเหลืออยู่ให้เขาดูแล ดอยธิเบศร์จึงนำความรู้ที่มีทั้งหมด เพื่อใช้บริหารจัดการบ้านดำในแบบของตัวเอง จริงๆ บ้านดำมีมา 40 ปีแล้ว แต่ไม่ได้สร้างรายได้หรือไม่มีอะไรสักอย่าง ฉะนั้น มีแต่รายจ่าย ซึ่งในอนาคตผมก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อย่างไร แกลอรี่ ที่ดอยธิเบศร์สร้างขึ้น จึงเป็นส่วนที่เขาหวังสร้างรายได้เพื่อนำมาหล่อเลี้ยงและต่อลมหายใจของบ้านดำ โดยบ้านดำจะมี 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ กับส่วนที่เป็นแกลอรี่ที่เขาสร้างขึ้นมา เพื่อเป็นที่แสดงรูปและขายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว เพื่อนำรายได้มาเลี้ยงเจ้าหน้าที่และคนงาน ทั้งนี้ เพราะพิพิธภัณฑ์บ้านดำไม่เก็บค่าเข้า ชายหนุ่มเล่าอีกว่า การสร้างเป็นสิ่งที่ยากแต่การรักษาเป็นสิ่งที่ยากกว่า เพราะฉะนั้น จะทำอย่างไร จุดประสงค์ลึกๆ ของเขาคือ อยากให้พิพิธภัณฑ์บ้านดำเป็นชุมชนศิลปะครบวงจร ไม่ใช่นักท่องเที่ยวไปแค่ถ่ายรูปแล้วก็จากไป สมัยก่อนคนที่มาเที่ยวบ้านดำ ก็ไม่สามารถเข้าไปในบ้านเพื่อดูรูป ซึ่งเป็นผลงานของถวัลย์ได้ ผมที่ซื้อที่ดินเปล่ามาสร้างแกลอรี่ ตอนนั้นก็ติดลบ ไม่มีเงินก็กู้ สร้างแกลอรี่ขึ้นมา ก็ได้แกลอรี่เปล่ามาไม่มีของขาย ต้องขอภาพเขียนของพ่อมารูปหนึ่งติดไว้ให้คนได้ดู วัตถุประสงค์คือ อยากให้คนมาแล้วได้เห็นรูป ที่มาแล้วไม่ได้เข้าไปดูรูป เนื่องจากเราไม่สามารถเปิดบ้านทุกหลังได้ เพราะไม่มีคนดูแล ก็เลยนำรูปออกมาจัดแสดง ตอนนี้เรามีอยู่ 4 หลัง คือ 3 หลังใส่รูปทำเป็นอาร์ตสเปซ ซึ่งประกอบด้วย อาร์ติสต์เรสซิเดนซ์ อาร์ตไลบรารี่ ร้านกาแฟ แล้วก็สิ่งต่างๆ ที่มันเกี่ยวข้องกับงานศิลปะทั้งหมด มันจะเป็น one stop service ของศิลปะ ส่วนอีกหนึ่งหลังเป็น Shop ให้คนได้ซื้อของกลับบ้าน
|