ได้รับชีทที่ระลึก
ชุดพระราชวังเดิม
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
จากเพื่อนบล็อก .. สายหมอกและก้อนเมฆ
ชุดหนึ่งมีสี่ดวง
ราคาดวงละ ๓ บาท
ดวงแรก : ท้องพระโรงพระราชวังกรุงธนบุรี
ดวงที่สอง : ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ดวงที่สาม : ตำหนักเก๋งคู่หลังเล็กและหลังใหญ่
ดวงที่สี่ : ตำหนักเก๋งสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
ขอบคุณน้องหนูมากนะคะ
ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปค่ะ
พิพิธภัณฑ์พระราชวังเดิม
พระราชวังเดิม หรือพระราชวังกรุงธนบุรี เป็นพระราชวังแห่งเดียว ที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช เมื่อปี พ.ศ.2311
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พระราชวังแห่งนี้เป็นสถานที่
ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชสมภพ
สำหรับพิพิธภัณฑ์พระราชวังเดิม ก่อตั้งขึ้น
โดยมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานพระราชวังเดิม
วัตถุประสงค์ของการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ จากแรกเริ่มจนปัจจุบัน
ยังคงยึดมั่นที่จะเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
โบราณสถาน พื้นที่ของวังเดิมสามารถย้อนเรื่องราวได้ถึงสมัยอยุธยา
เนื่องจากเป็นที่ตั้งของป้อมวิไชยประสิทธิ์
เดิมเรียกว่า "ป้อมวิไชเยนทร์"
สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
เพื่อใช้เป็นป้อมปราการของเมืองบางกอก
ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ทรงปรับปรุงป้อมแห่งนี้
และพระราชทานนามใหม่ว่าป้อมวิไชยประสิทธิ์
ปัจจุบันใช้ยิงสลุตในพระราชพิธีสำคัญ
และติดตั้งเสาธงเพื่อชักธงราชนาวีและธงผู้บัญชาการทหารเรือ
ภายในบริเวณของพระราชวังเดิม ยังประกอบด้วย
กลุ่มอาคารหลายหลังด้วยกัน
อาคารหลังแรกคืออาคารท้องพระโรง
สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีเป็นราชธานี
เป็นอาคารที่เชื่อมต่อกัน 2 หลังคือ
พระที่นั่งองค์ทิศเหนือ เรียกว่า ท้องพระโรง หรือวินิจฉัย
ใช้เป็นที่เสด็จออกขุนนาง กับพระที่นั่งองค์ทิศใต้ เรียกว่า
พระที่นั่งขวาง เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์
ปัจจุบันกองทัพเรือใช้อาคารส่วนนี้
เป็นอาคารจัดงานหรือประกอบพิธีสำคัญต่างๆ
ด้านหลังของอาคารท้องพระโรง
คือพระตำหนักของสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก
เคยเป็นที่ประทับในสมัยที่ยังดำรงพระอิสริยยศ
เป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนอิศเรศรังสรรค์
ชั้นบนจัดแสดงเล่าเรื่องสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ
และเป็นที่ตั้งมูลนิธิฯ พร้อมมีห้องสมุดไว้ให้ศึกษาหาความรู้
ส่วนชั้นล่างเป็นการจัดแสดงเครื่องถ้วยโบราณและเงินตราโบราณ
ด้านหน้าของอาคารท้องพระโรงคือพระตำหนักเก๋งคู่หลังเล็ก
และพระตำหนักเก๋งคู่หลังใหญ่
ทั้งสองกลุ่มอาคารเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน
ปัจจุบันเป็นที่จัดแสดงเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ
ทางด้านการรบของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ส่วนพระตำหนักเก๋งคู่หลังใหญ่จัดแสดงภาพนิทรรศการ
เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ในด้านการทำนุบำรุงบ้านเมือง
ถัดจากพระตำหนักเก๋งคู่หลังเล็กคือ ศาลศีรษะปลาวาฬ
ในช่วงที่มีการบูรณะพระราชวังเดิมครั้งใหญ่
ได้ขุดพบฐานเดิมของอาคารที่คาดว่า
น่าจะเป็นศาลศีรษะปลาวาฬเดิม มูลนิธิฯ จึงได้บูรณะขึ้นมาใหม่
เมื่อเข้าไปชมใกล้ๆ บริเวณฐานของอาคารศาลหลังใหม่
ยังสามารถเห็นรากฐานอาคารเดิมอยู่
ในอาคารจัดแสดงกระดูกศีรษะปลาวาฬที่ขุดพบ
จากใต้ถุนศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ในคราวสำรวจพื้นที่ทางโบราณคดี
รูปแบบของอาคารหลังปัจจุบัน
ได้ประยุกต์ให้เข้ากับอาคารโบราณสถานโดยรอบ
โดยยังคงรูปแบบเก๋งจีน และติดกันนั้น
เป็นศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ภายในประดิษฐานพระบรมรูปในท่าประทับยืนและถือพระแสงดาบ
เรือนเขียว เดิมเป็นโรงพยาบาลเก่า เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว
ยกพื้นสูงจำนวน 2 หลัง ตั้งอยู่บริเวณเขาดิน ซึ่งเป็นเนินดิน
ตรงมุมทิศตะวันออกเฉียงใต้ ภายในเขตกำแพงชั้นใน
ของพระราชวังเดิม อาคารสร้างขึ้นในช่วงเวลาที่
มีการปรับปรุงพระราชวังเดิมให้เป็นโรงเรียนนายเรือ
และได้ใช้เป็นสถานพยาบาลของโรงเรียนนายเรือ
ปัจจุบันใช้เป็นห้องฉายมัลติมีเดีย
เพื่ออธิบายภาพรวมของพระราชวังเดิมก่อนที่จะชมในส่วนอื่นๆ
เนื่องจากพื้นที่พิพิธภัณฑ์อยู่ภายในบริเวณกองทัพเรือ
การเข้ามาภายในบริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ
ต้องปฏิบัติตามระเบียบ เนื่องจากไม่สามารถเปิด
ให้ผ่านเข้าออกได้ตลอดเวลา การเข้าชมพิพิธภัณฑ์
จึงต้องขอให้มีการนัดหมายล่วงหน้า
ที่มูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานพระราชวังเดิม
หมายเลขโทรศัพท์ 0-2466-9355
หน้า 24
ขอบคุณ
ข่าวสดออนไลน์
คอลัมน์ รู้ไปโม้ด
น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com
บล็อกสายหมอกและก้อนเมฆ
กรุ๊พบล็อกที่ ๓๓.ฉมาดลถกลปัฐพินทรา
เป็นบล็อกเกี่ยวกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชค่ะ
สิริสวัสดิ์ศุกรวาร สิริมานรมณีย์นะคะ
Hobby Blog ค่ะ
สวัสดีปีเก่าค่ะพี่นาถ