นกโดดเดี่ยว บินหลงทาง จิบหยาดฝน
Delight Moment 98 / สุมิตรา จันทร์เงา
นกโดดเดี่ยว บินหลงทาง จิบหยาดฝน... ระหว่างฝนปรอยเบาบาง จู่ๆประโยคนี้ก็ผุดขึ้นมาเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นนกแปลกหน้าตัวน้อยเกาะกิ่งกระพี้จั่นอยู่เงียบงันในสวน เธอมาจากไหนและจะไปที่ใด ไม่มีใครรู้ แค่นกแปลกหน้าตัวหนึ่ง ผ่านทางมาและก็จะผ่านไป... แต่สายฝนนั่นละมุนละไมนัก เจ้านกน้อยฝ่าพายุมากี่ฤดูแล้วนะ เหนื่อยไหม หนาวไหม กลัวไหม? มีคำถามใดกับชีวิตอย่างที่มนุษย์พวกเราเฝ้าถามกันอยู่ทุกวันหรือเปล่าหนอ นกโดดเดี่ยว บินหลงทาง จิบหยาดฝน ... ช่างให้ภาพงดงาม สะทกสะท้านไหว ชวนให้นึกถึงความรู้สึกเดียวดายใต้ฟ้ากว้างของส่ำสัตว์ในระหว่างทางผ่านชีวิตห้วงขณะหนึ่งบนโลกนี้ นกหลงทางบนฟ้าคงจะไม่ต่างจากคนหลงทางกลางทะเลทรายที่กำลังหิวกระหายขาดน้ำ เพียงหยดหนึ่งของน้ำค้าง หรือแม้แต่หยาดฝนละอองนิดก็คงจะช่วยปลุกชีวิตขึ้นมาได้อีกครั้ง
วันหยุดถ้าไม่ออกจากบ้านไปไหน จะมีเสียงนกขับกล่อมอยู่ทั้งวันทั้งคืน พวกเขาแสดงตัวตนอลเวงกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ด้วยเสียง ด้วยปีก ที่สั่นไหวอยู่รายรอบ ไม่ว่าจะเป็นอีกา นกกระจิบ นกกระจาบ นกกางเขนบ้าน กางเขนดง นกปรอด และสองนกใหญ่ที่เป็นราชา-ราชินีในป่าแห่งนั้นอย่างงามสง่าน่าเกรงขาม คือ นกกะปูดใหญ่ กับ นกบั้งรอกใหญ่ แถวบ้านยังมี นกเอี้ยง ประจำซอยที่ทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ ไม่เกรงไม่กลัวผู้ใดอยู่ตัวหนึ่ง เธอชอบเดินส่ายอาดๆเข้ามาในบ้านเพื่อจิกกินอาหารเหลือของสุนัข เดินผ่านเราไปหน้าตาเฉย ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวใดแม้แต่น้อย บางวันถึงกับเดินขึ้นบ้านไปจนถึงชั้นสอง เดินเหมือนคน ขึ้นบันไดไปทีละขั้น...สำรวจตรวจตราว่ามีอะไรให้กินบ้าง ลุยเข้าไปถึงห้องนอนจนเจ้าของห้องร้องกรี๊ดด้วยความตกใจนั่นแหละ เธอถึงรู้สึกตัวว่าบุกรุก ค่อยถอยกรูดเดินกระย่องกระแย่งลงบันไดมา แล้วกระโดดหย็องแหย็งจากไป นกกระปูดใหญ่ นกกะปูดใหญ่ (Greater Coucal) อยู่ด้วยกันมานานหลายปี จะปรากฏตัวในดงหญ้าข้างบ้านทุกเช้า เดินเล่นสบายอารมณ์เหมือนไก่ตัวใหญ่กำลังคุ้ยเขี่ยอาหาร คราวแรกที่เห็นฉันนึกว่าเป็นไก่ฟ้าแต่พอไปเทียบรูปกับตำรานกถึงได้รู้ว่านี่คือนกกะปูดใหญ่ มีปีกสีทองแดงวาววามเป็นประกายอยู่ในแสงอรุณตัดกับขนสีน้ำเงินเข้มเป็นมันสวย เขาหากินอยู่แถวบึงทะเลสาปของหมูบ้าน ไม่เคยหนีไปไหน แม้แต่คราวน้ำท่วมใหญ่ที่เราต่างทิ้งบ้านหนีกันกระเจิงเขาก็ยังเฝ้าป่าอยู่อย่างหวงแหน นกกะปูดตาแดง เห็นชัดเลย นกบั้งรอกใหญ่(Green-billed Malkoha) นั้นชอบมาซุ่มเกาะคอนนอนอยู่ที่ต้นโมกริมหน้าต่างห้องนอน เราจึงเห็นกันใกล้ชิดอย่างยิ่งในตอนกลางคืน ส่งเสียงคราง ต๊อก-ต๊อก-ต๊อก บางทีก็ เอ๊าะ-เอ๊าะ เหมือนใครมาเคาะไม้อยู่แถวนั้น พอเราแนบหน้าแอบดูตรงกระจกก็จะเห็น เอกลักษณ์โดดเด่นชัดเจนของเธอ คือหนังรอบดวงตาสีแดงเข้มและมีขนสีขาวรอบหัว ฉันเห็นเธออีกหลายครั้งในตอนกลางวัน เกาะอยู่ที่กิ่งไม้ติดผนังกระจกโถงบันได ส่งเสียงดังยิ่งกว่าตอนกลางคืนเสียอีก นกบั้งรอกใหญ่ เห็นขอบหนังตาชัดเจน นกบั้งรอกใหญ่มีหางยาวสวยงาม สังเกตดูแต่ละเส้นไม่เท่ากันเหมือนแหว่งๆ แต่ปลายขนหางทุกเส้นมีแถบสีขาวอยู่ทำให้มองเห็นเป็นลายบั้ง มารู้ทีหลังว่าเธอเป็นนกนักล่า ไม่ค่อยชอบบิน แต่เป็นนกปีนต้นไม้ชอบไต่จากกิ่งล่างไปกิ่งบนแล้วกระโจนโผนผกไปมา นกบั้งรอกใหญ่ตัวนี้ก็อยู่กับเรามานาน แต่ไปๆมาๆ ไม่ได้เป็นขาประจำทุกเช้าเหมือนนกกะปูดใหญ่ตัวนั้น บ้านอยู่ติดกับป่าทำให้รู้ว่าเสียงนกร้องตอนกลางคืนมิได้มีแต่เสียงของนกที่ออกหากินกลางคืนอย่างนกแสก หรือนกเค้าแมวเท่านั้น เสียงที่ชัดมากทุกคืนคือเสียง วี๊ด วิดวิ่ว ...วี๊ดดดด วิดวิ่ว...วี๊ด วิดวิ่ว คล้ายเสียงเป่านกหวีดเป็นจังหวะของนกกางเขนบ้าน หรือบางทีก็ร้อง จิ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รัวเร็วกระชั้นถี่ เสียงสองแบบนี้คงเป็นเสียงนกตัวผู้กับนกตัวเมียร้องเรียกหากัน อาจเป็นการส่งสัญญาณเรียกหาคู่หรืออาจเป็นเรื่องอื่นที่คนไม่อาจรู้ เสียงนกดุเหว่าหรือกาเหว่าก็ไพเราะมีเอกลักษณ์ ชอบร้องตอนกลางคืนเหมือนกัน ตัวผู้กับตัวเมียร้องกันคนละเสียง ลองเปิดยูทูปเทียบเสียงดู กาเหว่าตัวผู้ส่งเสียง กูวู้ กาวู้... กรอ... กร้ออออ... กะอออ กร้อออ ส่วนเสียงตัวเมียดัง กรอดๆๆ วิด วิดๆๆๆ กรอดๆๆ วิดๆๆๆๆ แต่นกตัวไหนๆ ก็ไม่เข้ามาชิดใกล้คลอเคลียอยู่กับเราในสวนได้เท่ากับเจ้านกกินปลีอกเหลืองอีกแล้ว นกกินปลีอกเหลือง (Olive-backed Sunbird หรือ Yellow-bellied sunbird) เป็นนกขนาดเล็กน่ารัก ตัวยาวราว 10 เซนติเมตรเท่านั้นเอง พวกเธอจัดอยู่ในกลุ่มนกที่กิน น้ำต้อย หรือ น้ำหวานจากต่อมนํ้าหวานซึ่งหล่ออยู่ที่โคนกลีบดอกไม้ เป็นนกประจำถิ่น บ้านชานเมืองที่ปลูกต้นไม้ร่มรื่นแทบทุกหลัง โดยเฉพาะพวกไม้ดอกมีน้ำหวานอย่างต้นโมกจะมีโอกาสพบเห็นเธอเป็นประจำ ลักษณะกิริยาอาการของนกกินปลีอกเหลืองระหว่างดูดกินน้ำหวานด้วยจงอยปากโค้งยาวดูเผินๆคล้ายนกฮัมมิ่งเบิร์ด แต่แท้จริงแล้วนกสองชนิดนี้เป็นคนละสายพันธุ์กัน และสีสันของฮัมมิ่งเบิร์ด(ซึ่งไม่ใช่นกในถิ่นนี้)จะจัดจ้านสดสวยงามกว่าสีเขียวมะกอกของกินปลีอกเหลืองมาก ธรรมชาติของสัตว์ทุกชนิด ตัวผู้จะมีรูปร่างและสีสันสวยงามกว่าตัวเมีย ลักษณะของนกกินปลีอกเหลืองตัวเมียจะตัวสั้นป้อมกว่า แผงขนตั้งแต่คอจนถึงอกมีสีเหลืองสดใสส่วนตัวผู้ขนบริเวณเดียวกันมีสีน้ำเงินเหลือบดำเป็นประกาย นกกินปลีเหลืองตัวผู้ ดูกันชัดๆอีกภาพ กินปลีอกเหลือง นกกินปลีส่วนใหญ่เป็นนกป่าไม่ค่อยปรากฏให้เห็นในเมืองนัก ยกเว้นเจ้านกกินปลีอกเหลืองนี่แหละที่กล้าเข้าใกล้บ้านเรือน ย้ายบ้านมาสองสามหลังแล้วเราก็ยังเจอกันมาตลอด ทำรังให้ชมกันไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น โดยเฉพาะในสวนดอกไม้ตอนนี้ ฤดูกาลนี้ วิด วิด วิดๆๆๆ ....จิ๊บๆๆๆๆๆ (รัว) คือเสียงร้องทักทายของเธอในทุกจุดที่เคลื่อนผ่าน ร้องอยู่นั่นไม่มีเหนื่อย แต่เอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือนของนกกินปลีอกเหลืองต้องยกให้เป็น รังนก ซึ่งหาความงามใดๆมิได้ วัสดุในการทำรังดูเหมือนจะหยิบฉวยเอาจากทุกสิ่งใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นหยากไย่ตามเปลือกไม้ ขี้ด้วงเจาะต้นไม้ เส้นใยใบเฟิร์น เศษใบไม้แห้งรุ่งริ่ง เศษกระดาษ เศษผ้ายุ่ยๆ ถักร้อยขึ้นเป็นบ้านหลังน้อยย้อยลงมาจากกิ่งไม้ ดูเหมือนก้อนขยะหยากไย่แขวนลอยอยู่ตามเถาวัลย์ หรือบางทีก็อาศัยห้อยตามสายไฟหรือสายเคเบิล ดูแล้วเหมือนพร้อมจะหลุดไปกับลมไกวแต่กลับแข็งแรงมากด้วยเส้นใยจากใบเฟิร์นที่สอดร้อยไปมาเหนียวแน่น และข้างในรังก็จะบุด้วยนุ่นนุ่มหนาสำหรับรองรับการวางไข่ นอกจากรังแบบแขวนห้อยแล้ว ตอนนี้ในสวนของฉันยังมีรังนกกินปลีแบบใหม่ แม่นกกับพ่อนกจะหาต้นไม้เหมาะๆที่คิดว่าปลอดภัย เลือกต้นที่มีใบขนาดใหญ่พอดี นำมาม้วนขอบเข้าหากันเป็นรูปกรวย และเย็บขอบใบด้วยหยากไย่ให้ใบไม้ติดกัน ที่ก้นกรวยซึ่งมีรูอยู่ก็กรุเสียให้มิดชิด ด้วยเศษวัสดุและนุ่นจนแน่น กลายเป็นรังที่มีรูลึก วางไข่เล็กๆไว้ที่ก้นรังได้อย่างปลอดภัย รังนกกินปลีทั่วไปเป็นแบบนี้ แม่นกตัวนี้หวงรังมาก ทุกเช้าแม่นกจะจะคอยเฝ้าอยู่ในสวนไม่ไกลรัง บินเล่นหากินวนเวียนอยู่ตามต้นไม้ โดยเฉพาะบนต้นโมกกอใหญ่หน้าบ้าน ระหว่างที่ฉันรดน้ำพรมใบไม้ที่อยู่สูง เธอจะบินถลามาเล่นละอองน้ำ เอาตัวลงไปคลุกเคล้าซุกไซร้อยู่กับใบไม้เปียกฉ่ำ อาบน้ำอย่างสนุก คงคิดว่ากำลังอาบน้ำฝน และเธอทำให้ฉันนึกถึงประโยคนั้นทุกครั้ง นกโดดเดี่ยว บินหลงทาง จิบหยาดฝน... ขอบคุณ มติชนออนไลน์ Delight Moment 98 คุณสุมิตรา จันทร์เงา สวัสดิ์สิริศนิวารค่ะ
Create Date : 24 สิงหาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 24 สิงหาคม 2556 12:44:01 น. |
Counter : 5928 Pageviews. |
|
|
|