| | เมื่อสองอาทิตย์ก่อน ผมได้นำภาพถ่ายและเรื่องราวของสิงโตอัฟริกันมาแบ่งปันกับทุกท่าน ก่อนจบบทความในคอลัมน์นั้น ผมเล่าค้างไว้ว่า ผมได้รับแจ้งข่าวจากรถท่องซาฟารีคันอื่นว่า พวกเขาพบเห็น เสือดาว ตัวหนึ่งกำลังเดินโชว์หุ่นอยู่ ไม่ไกลจากที่ผมกำลังเก็บภาพพวกลูกสิงโตอยู่นัก ขณะนั้น ผมกำลังมีความสุข เบิกบานอยู่กับการเก็บภาพเหล่าลูกสิงโต แสงของวันกำลังจะเปลี่ยนเป็นสีทองเหมาะต่อการถ่ายภาพธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อข่าวของเสือดาวมาถึง ผมก็พร้อมทันทีที่จะตัดใจปล่อยให้แม่กับลูกสิงโตอยู่กันเองตามลำพัง ผมบอกไกด์ให้รีบออกรถ อธิษฐานไปตลอดทาง ว่าขอให้ผมไปทันได้เห็นเสือดาวเดินอยู่กลางทุ่งด้วยเถอะ อย่าเพิ่งให้มันพรางตัวหนีเข้าพงหญ้าจนมองไม่เห็นเลย ผมรู้สึกว่า โชคยังอยู่ข้างเดียวกับผมอยู่ครับ เมื่อตอนที่เดินทางไปถึงอีกฝั่งของป่า และทันได้เห็นเสือดาวตัวเมียตัวหนึ่งกำลังเยื้องย่างอยู่แบบไร้อารมณ์และไม่รีบร้อนนัก มันเดินตรงเข้าไปในพงหญ้าหนาทึบ แต่ก็หลังจากที่ผมทันได้เก็บภาพความงามของมันไว้บ้างแล้ว ผมบอกไกด์ให้ลองขับรถอ้อมไปดักรออีกด้านหนึ่งของพงหญ้า ด้วยความหวังว่า เผื่อเจ้าเสือดาวจะเดินโผล่ออกมาทางด้านที่ผมซุ่มรออยู่ และผมก็เดาทางเธอถูกจริง ๆ ด้วยครับ ซุ่มรออยู่พักใหญ่ เสือดาวก็เยื้องกายออกมาให้ผมได้เก็บภาพเพิ่มอีกหลายใบ รถนำเที่ยวคันอื่นเริ่มเข้ามาสมทบใกล้กับตรงที่ผมอยู่ กลิ่นและเสียงแปลกปลอมทำให้เสือดาวตื่นตัว และตัดสินใจเดินกลับไปซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าหนาทึบอีกครั้ง คราวนี้มันพรางตัวเงียบหายไปเลยครับ นานจนคนที่เฝ้ารออยู่ตรงนั้นทั้งหมดหมดความอดทน และต่างต้องแยกย้ายกันจากไป
|