Khantī paramam tapo tītikkhā [Buddhist Proverbs]
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
12 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 

๒๔ พฤษภาคม ๒๕๔๖ - พบ 'พนมเทียน'

ในหัวข้อที่แล้ว พอดีมีคำถามนึงที่ถามถึงของที่ระลึกเกี่ยวกับเพชรพระอุมาของปู่ ทำให้ปู่นึกขึ้นได้ถึงเรื่องนี้ครับ...

ต้องขอขอบคุณรายการ ‘แฟนพันธุ์แท้’ ของคุณปัญญา นิรันด์กุล ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ สำหรับโอกาสที่ให้ผมได้แสดงถึงความเป็น ‘แฟนพันธุ์แท้’ ออกมา ซึ่งถือเป็นใบเบิกทางอันดีที่ทำให้ ผม เป็น ปู่ มาจนถึงทุกวันนี้

คือหลังจากที่ออกอากาศ ผมก็ได้มีโอกาสสนทนากับคุณลุงพนมเทียนหลายครั้ง (ซึ่งหลังจากนี้ผมขออนุญาตเรียกท่านว่า ‘คุณลุง’ นะครับ) ซึ่งนับเป็นความเมตตาของคุณลุงอย่างมากครับ เพราะ ‘พนมเทียน’ ท่านไม่นิยมการให้สัมภาษณ์นัก

คุณลุงท่านได้เมตตาพูดคุยอย่างให้ความเป็นกันเองมากครับ ซึ่งผมและหลานๆที่ไปด้วยกันก็ได้เรียนถามถึงข้อสงสัยต่างๆ มากมาย ซึ่งคุณลุงก็ตอบคำถามต่างๆ อย่างอารมณ์ดี (ไม่ทราบว่าผมอุปาทานหรือเปล่าว่าทุกครั้งที่ได้คุยกับคุณลุง ดูเหมือนยิ่งคุยท่านยิ่งดูหนุ่มขึ้นๆ) คุยกันครั้งหนึ่งไม่เคยต่ำกว่าสี่ชั่วโมง!!!

มีอยู่คืนหนึ่งครับ (ถูกแล้วครับคุณลุงท่านตื่นกลางคืน นอนกลางวัน) พวกเราก็ได้มีโอกาสบันทึกบทสนทนานั้นด้วย (บันทึกด้วยเหตุผลดีๆ บางอย่าง ที่ยังไม่ได้ทำ ซึ่งขอข้ามนะครับ) คืนนั้นเป็นวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๔๖ ครับ



ภาพอ้างอิงครับ โปรดสังเกตปีในกล้องครับ คนถ่ายเธอตั้งกล้องผิดย้อนหลังไปปีนึง
แล้วสังเกตสาวเสื้อฟ้าสิครับ เธอ...ทุกงาน


และวันนี้ผมอารมณ์ดี จึงขอมานำเสนอให้พวกเราได้อ่านกันครับ (อาจมีพวกเราบางคนบอกว่าทำไมเก็บไว้ซะนาน...แหม ก็ต้องมีท่าไม้ตายกันบ้างสิครับ) เพราะน่าจะมีประโยชน์บ้างในการช่วยกันทำหนัง PPU ให้สมบูรณ์ที่สุดครับ

บทสนทนานี้เป็นการสรุปใจความออกมา มิได้ถอดเทปคำต่อคำ แต่ก็ได้มีการจดอย่างค่อนข้างละเอียด และได้มีการรับฟังกันหลายคน จึงมั่นใจได้ว่า จะไม่ผิดพลาดในใจความสำคัญครับ ซึ่งจะคัดมาเฉพาะที่เกี่ยวกับ เพชรพระอุมา นะครับ

ขอกราบขอบพระคุณคุณลุง 'พนมเทียน' มา ณ ที่นี้อีกครั้งครับ



เชิญรับชมได้ ณ บัดนี้ครับ



- ทำไม เวลาเริ่มต้นเวลาเริ่มต้นเขียนภาคแรก (19 พฤศจิกายน 2507) เริ่มต้นเขียนภาคจบบริบูรณ์ (25 ธันวาคม 2518) จึงเป็นวันพฤหัสบดี ครับ
อย่างนั้นหรือ อันนี้เป็นเรื่องบังเอิญ แต่วันพฤหัสบดีคือวันครู



- ตั้งใจจะเขียนภาค 2 ไว้ล่วงหน้าหรือไม่ครับ
ไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้า แต่ช่วงนั้นมีปัญหากับนิตยสารที่ทำอยู่ กำลังคิดจะหาทางหนีทีไล่ ก็พอดีคุณแสง เหตระกูล จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ มาขอให้เขียนเพชรพระอุมา ภาค 2 คือต้องให้ชื่อว่าเพชรพระอุมา ด้วย ก็คิดอยู่นานว่าจะเขียนหรือไม่ คือถ้าเขียนจะวางพล็อตอย่างไร สุดท้ายก็ตัดสินใจเขียน ตอนแรกว่าจะเขียนลงที่หนังสือนพเก้า ของคุณปรีชา เหตระกูล แต่หนังสือนี้ปิดตัวลงก่อน จึงมาเขียนที่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ทุกวันจันทร์ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2519 ซึ่งตอนนั้นมีคุณสุเทพ เหมือนประสิทธิเวช เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ





- แต่ดูเหมือนตอนจบของภาคแรก มาต่อกับภาคจบบริบูรณ์ได้เนียนมากนะครับ
อันนี้ก็ต้องคิดอยู่นาน เพื่อให้มีความลงตัว



- เขียน ‘เพชรพระอุมา’ แล้วเขียนเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ครับ
เป็นธรรมดาของนักเขียนอาชีพ ที่จะต้องมีเขียนเรื่องไปพร้อมๆ กัน แต่ลุงเป็นคนเขียนหนังสือช้า จึงไม่ค่อยมีเขียนพร้อมๆ กันนัก สำหรับตอนเขียนเพชรพระอุมา ที่เขียนไปพร้อมๆ กันก็มี มัจจุราชสีรุ้ง แล้วก็นวนิยายขนาดสั้นอื่นบ้าง รู้สึกจะมี เหล็กไหล ก่อนอุษาสาง รัตติกาลยอดรัก ฆาตกรในเสื้อกาวน์ แต่อย่างไรก็ตาม ที่เน้นที่สุดในการเขียนช่วงนั้นก็คือเพชรพระอุมา

- คิดเหตุการณ์ตอน ‘ปิ่นพระศิวะฉายแสงเรืองรอง ถันพระอุมาจะปรากฏ’ ได้อย่างไรครับ
เหตุการณ์นี้คิดนานมาก ว่าจะทำอย่างไรให้การเดินทางเข้าสู่มรกตนครมีความเป็นปริศนาที่จะต้องขบคิดกัน ก็อาศัยความรู้ทางอินโดโลจี้ (Indology : ภารตะวิทยา) คือมีความเกี่ยวข้องกับพระศิวะ พระอุมาเทวี แต่การให้จันทร์เสี้ยวห้าค่ำลอยลงมาแตะเขาศิวะเทพ กลายเป็นปิ่นพระศิวะ เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น อันนี้คิดอยู่นานทีเดียว

- คือรูปพระศิวะฉายแสงเรืองรอง เป็นการหักเหของแสงหรือครับ
ใช่ เป็นปรากฏการณ์ที่หนึ่งปีมีครั้งเดียว เมื่อจันทร์เสี้ยวทำมุมกับเขาศิวะเทพ เกิดเป็นโครงร่างพระศิวะฉายแสงขึ้นมา

- เขาศิวเทพ หมายถึงศิวะลึงค์ หรือครับ
ใช่ คู่กันกับเนินพระจันทร์ คือขอให้เป็นแท่งชะลูดขึ้นไป ก็ถือว่าใช้แทนสัญลักษณ์ศิวะลึงค์ได้


ภาพโดย McGy



- เหตุการณ์ไหนในเรื่องที่คุณลุงชอบมากที่สุดครับ
ตอนปิ่นพระศิวะฉายแสงเรืองรอง ถันพระอุมาจะปรากฏ เพราะคิดนานอย่างที่บอกไว้ แล้วก็เป็นตอนที่สำคัญที่สุดของเพชรพระอุมา ถ้าผ่านเหตุการณ์นี้ไปไม่ได้ ก็จะไม่พบมรกตนคร ไม่เห็นขุมเพชรพระอุมา



แต่ถ้าเป็นเหตุการณ์กุ๊กกิ๊กๆ ก็ต้องรพินทร์กับดารินนั่งห้าง โดยเฉพาะตอนผึ้งไต่ อันนี้เอามาจากเรื่องจริงที่ลุงประสบมาเอง ขนาดเราเป็นผู้ชายยังรู้สึกแทบแย่ ก็คิดอยู่ว่าตอนสร้างภาพยนตร์ฉากนี้จะทำอย่างไรให้สมจริง แต่ตรงนี้ในภาพยนตร์ตัดไม่ได้นะ (หัวเราะ) แล้วถ้าเป็นภาคจบบริบูรณ์ก็ต้องเป็นตอนดารินมาหารพินทร์ที่หนองน้ำแห้ง แล้วก็ดารินพบรพินทรืที่สวนปาริชาติ (มรกตนคร) จะเห็นว่าตอนแรกดารินดีใจมากที่ได้พบรพินทร์ แต่สักพักอารมณ์ก็เปลี่ยนเป็นน้อยใจว่าทำไมหนีมา ตรงนี้ชัดเจนทางอารมณ์มาก


- เรื่องเสือแม่ลูกอ่อน เมื่อมีใครไปจับตัวลูกมัน มันจะตามล่าจนถึงที่สุด (เหตุการณ์ตอนรพินทร์-ดารินหลงป่า) เป็นความจริงไหมครับ
จริง แต่ต้องสำหรับเสือป่านะ ไม่ใช่เสือเลี้ยง



- เรื่องมดแดงกินเนื้อจระเข้แล้วบินได้ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ
จริง ลองดูสิ หาเนื้อจระเข้มาแขวนไว้ในที่ที่มดแดงชุม ไม่กี่วันปีกงอกบินไปหมด คือมดแดงนี่พอมันแก่ ปีกก็งอกบินได้เป็นเรื่องปกติ ทีนี้เนื้อจระเข้มันคงมีฮอร์โมนบางอย่างที่ไปเร่งให้ปีกงอกเร็วขึ้นนั่นเอง

พูดง่ายๆ เรื่องที่เกี่ยวกับศิลปะการเดินป่าที่ลุงเขียนไว้ในเพชรพระอุมา สามารถใช้เป็นคู่มือการเดินป่าได้เลย


- คุณลุงคิดชื่อพระเอก-นางเอก อย่างไร
คิดอยู่นานมากชื่อพระเอก-นางเอก คือชื่อต้องเหมือนคนทั่วๆไป แต่ดูดีหน่อย และต้องฟังแล้วรื่นหู แต่ไม่เป็นกระเทย (ชื่อพระเอก) คิดอยู่ประมาณสองอาทิตย์ ในที่สุดก็มาลงตัวที่รพินทร์กับดาริน แล้วเมื่อดูที่ความหมายก็สอดคล้องกันพอดี คือ รพินทร์ มาจาก รพิ+อินทร หมายถึง พระอาทิตย์ผู้ยิ่งใหญ่ ดาริน ก็แปลงรูปมาจาก ดารา ที่หมายถึง ดวงดาว ก็ไปกันได้ดีมาก

แงซายนี่ก็ตั้งยาก สำหรับชื่อจักราช หรือ จักราธิราช อันนี้ไม่ยาก คือตั้งแล้วต้องให้ผู้อ่านติดปาก ทีนี้เคยได้ยินชาวไทยใหญ่คนหนึ่งชื่อแงซาย รู้สึกเข้าท่าดี ทั้งที่ไม่รู้ความหมายหรอกนะ ก็เลยใช้ชื่อนี้


- การตั้งชื่อตัวละคร คุณลุงตั้งใจใช่ชื่อนั้นๆ เลยหรือครับ
ตั้งใจ เพราะอย่างน้อยต้องสอดคล้องกับที่อยู่ของคนนั้นๆ แล้วก็ความหมาย เช่นมีอยู่ท่านหนึ่ง มาบอกลุงว่าจะตั้งชื่อลูกสาวว่าวาชิกา ลุงก็บอกว่าอย่าตั้ง เพราะ ‘วาชิกา’ แปลว่า ‘อีแร้ง’ (หัวเราะ) ทีนี้ถ้าเป็นชื่อทางสันสกฤตก็ง่ายหน่อยเพราะอยู่ในทาง เช่น ‘อัคนีรุทร์’ ที่หมายถึง ผู้คลั่งแค้นดั่งเพลิง หรือ นีลา ที่มาจากนิลนลในรามเกียรติ์ ก็คือลิงนั่นเอง แต่ถ้าเป็นชื่อทางด้านอื่นก็อาจต้องใช้การถามจากผู้รู้

- มังมหานรธาเป็นชื่อคนหรือชื่อตำแหน่งครับ
เป็นชื่อตำแหน่ง

- ตัวละครในเพชรพระอุมาที่คุณลุงชอบเป็นพิเศษ เรียงตามลำดับ 1-2-3 ครับ
รพินทร์-ดาริน-แงซาย เป็นสามตัวละครที่บรรจงปั้นมากที่สุด แล้วก็บุญคำซึ่งเปรียบเสมือนพริกขี้หนูที่ใส่ลงไปในกับข้าว ถ้าขาดบุญคำไปสักคน เพชรพระอุมาคงขาดรสไปพอสมควร





- ใครฉลาดที่สุดในเพชรพระอุมาครับ
ก็ต้องเป็นเชษฐา เพราะสามารถดึงคนเก่งๆทั้งหลายมาให้อยู่ในทีม และประคับประคองไปจนตลอดรอดฝั่งได้ คล้ายๆ กับ เล่าปี่ ในสามก๊ก



- เวลาเขียนปล่อยให้ภาพดำเนินไปในใจหรือเปล่าครับ
ส่วนใหญ่จะเป็นการกำหนดโครงเรื่องไว้แล้วว่าจากจุดนี้จะไปยังจุดใด ส่วนที่ต้องคิดคือ วิธีการที่จะดำเนินเรื่องไปสู่จุดนั้น และคำพูดต่างๆ ที่จะต้องให้กินใจ แล้วการเขียนของลุงจะต้องเห็นภาพในใจชัดเจน จากนั้นจึงจะหาวิธีบรรยายออกมาให้ผู้อื่นอ่านแบบ...ง่ายๆ ซึ่งตรงนี้เขียนได้ไม่ง่ายนัก

เพราะฉะนั้น สิ่งใดที่ลุงไม่ชัดเจน ลุงจะเขียนไม่ได้ เราจะต้องมีประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆ หรืออย่างน้อยสุด ถ้าเราไม่มีประสบการณ์ เราก็สามารถถามผู้รู้ได้ อย่างตอนที่สะเอิงโดนกระทิงขวิดไส้ไหล แล้วอิสซาเบลเข้าไปช่วยรักษา ตรงนั้นลุงใช้ถามแพทย์เลยว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง เริ่มต้นอย่างไร มีวิธีอะไรบ้างที่จะปฐมพยาบาลขณะที่อยู่ในป่าอย่างนั้น


- แสดงว่าคุณลุงจะเน้นเรื่องคำพูดของตัวละครมากหรือครับ
เน้นมาก คำพูดต้องคมคายติดใจผู้อ่าน บางทีคิดคำพูดไว้ก่อนเลยว่าพอถึงเหตุการณ์นี้จะต้องพูดอย่างนี้ ที่ลุงคิดนานแล้วชอบมากก็เช่น ตอนจิตรางคนางค์ปะทะคารมกับอัคนีรุทร์ ตอนที่อยู่ด้วยกันในถ้ำ จิตรางคนางค์ชักดาบขึ้นมาฟันหอกของอัคนีรุทร์ ถามว่าดาบของนิทรานครกับดาบของปัญจาลนคร ดาบไหนคมกว่ากัน คือจิตรางคนางค์นี่มุทะลุกว่า แต่อัคนีรุทร์ ใช้วิธีโยนผ้าแพรขึ้นไปในอากาศ แล้วตั้งดาบรับ แพรยังขาดเป็นสองท่อน แล้วถามกลับจิตรางคนางค์ว่าคิดว่าดาบของนครใดคมกว่ากันล่ะ ก็ต้องเน้นคำพูดให้ได้ออกมาอย่างนี้ล่ะ

- ทำไมเพชรพระอุมาแต่ละภาคถึงเน้นไปคนละแบบครับ
เพราะในภาคแรกศิลปะการเดินป่า การผจญภัยต่างๆ ใส่ไว้จนแน่นแล้ว ถ้าภาคจบบริบูรณ์มาทำอย่างนั้นอีกก็จะเป็นการซ้ำ ภาคจบนี่จะเลยเป็นการเน้นไปที่อารมณ์ เรื่องของจิตใจ เป็นพิเศษ ซึ่งเขียนได้ยากกว่าภาคแรก และภาคจบบริบูรณ์นี้ จะเป็นการทำให้สิ่งที่ยังค้างอยู่ในภาคแรก (ความรักของรพินทร์-ดาริน ความอาฆาตจองเวรของมันตรัย) คลี่คลายลงอย่างสมบูรณ์

- ตอนเขียนภาคจบบริบูรณ์นี้ คุณลุงคิดว่าจะยาวเหมือนภาคแรกไหมครับ
ภาคจบนี้ต้องยิ่งใหญ่เท่าภาคแรค เพราะเขียนภาคแรกไว้ยิ่งใหญ่แล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างเช่น ต้องเขียนว่ามันตรัยจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบใด และจะเกี่ยวพันกับรพินทร์-ดารินอย่างไร

- ทำไมเพชรพระอุมาภาคจบบริบูรณ์ ไม่จบที่หนองน้ำแห้งครับ
เพราะว่าพอถึงตอนที่ส่งคณะอเมริกัน แล้วมาพบช้างไอ้ด้วนนั้น ทุกอย่างสมบูรณ์แล้ว หากเขียนต่อมาถึงหนองน้ำแห้ง ก็จะเป็นส่วนเกินออกไป เป็นส่วนที่ไม่จำเป็น

- ทำไมถึงจบเรื่องที่เชษฐากับไชยยันต์ครับ
เป็นเพราะรพินทร์กับดาริน มีความสมบูรณ์ในใจของผู้อ่านมานานแล้ว

- การเขียนฉากจบนี่ยากไหมครับ
ก็ต้องรวมทั้งหมดที่วางให้คลี่คลายโดยสมบูรณ์

- งานเขียนที่ผ่านมาคุณลุงชอบเรื่องใดมากที่สุดครับ
มีอยู่สองเรื่อง คือ ศิวาราตรี และ เพชรพระอุมา ศิวาราตรีเป็นการประมวลความรู้ทางภารตะวิทยาที่ได้ศึกษามา ส่วนเพชรพระอุมา เป็นการประมวลความรู้และประสบการณ์ต่างๆ ที่มีใส่ไว้ทั้งหมด โดยเฉพาะเพชรพระอุมา ลุงตั้งใจจะให้เป็นงานมาสเตอร์พีซ อย่างเต็มฝีมือ

- เมนูไหนใน “เพชรพระอุมา” ที่คุณลุงคิดว่าอร่อยที่สุดครับ
(คุณลุงตอบทันที) หมูป่า เคล้ากับเกลือแล้วย่างไฟ อร่อยมาก รองๆ ลงมาก็คือซุบเนื้อสันวัวแดง


- คุณลุงคิดว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง ที่ทำให้คุณลุงประสบความสำเร็จครับ
ความขยัน มุมานะ ตั้งใจจริง ตั้งใจที่จะเป็นนักเขียนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเรื่อง เพชรพระอุมา ลุงตั้งใจเขียนแบบขอไว้ลายกันทีเดียว

ปล. ขออนุญาตสงวนบทสนทนานี้ไว้เฉพาะอ่านกันในบล็อคนะครับ ขอบคุณครับ



แถมท้ายครับ
- นี่คือภาพที่ปู่รู้สึกดีอย่างมากเลยครับ เมื่อคุณลุงพนมเทียนดีใจที่เห็นว่าพวกเราหาไฟฉายแบบฮันเตอร์มาจนได้



- และนี่คือหนึ่งในนักแสดงที่คุณลุงบอกว่าน่าจะเล่นเป็นรพินทร์ ไพรวัลย์ได้ครับ
(ที่นำลงเพราะเห็นว่านักแสดงในภาพ อายุปัจจุบันนี้คงเล่นเป็นหนานอินได้แล้ว อิๆ)



- คลิปวีดีโอดูพอได้บรรยากาศครับ วันงานสัปดาห์หนังสือ ตอนที่ท่าน Cinephile ไปพบคุณลุงครับ
//video.msn.com/video.aspx?mkt=en-us&vid=36af055a-7dba-4ef5-87f4-98d47faa1eda




 

Create Date : 12 ตุลาคม 2550
61 comments
Last Update : 15 ตุลาคม 2550 18:32:28 น.
Counter : 5857 Pageviews.

 

และขอเชิญถามคำถามต่อได้เลยครับ จะจัดให้

 

โดย: อุปนิกขิต 12 ตุลาคม 2550 20:32:00 น.  

 




มาอย่างเร็ว ฮิๆ บังเอิญไปป่าว

พอดีเห็นในหน้ารวมนะคะ


ถามว่า....ทำไมนู๋รู้สึกเหมือนว่ายังไม่เคยอ่านเลย

 

โดย: เ จ้ า ตั ว ร้ า ย 12 ตุลาคม 2550 20:47:33 น.  

 

อิ่มอกอิ่มใจค่ะ ได้เหมือนฟังบทสัมภาษณ์จริงๆเลยค่ะ

ขอบคุณปู่มากนะค่ะ




ปล. ที่ปู่บอกว่คุณลุงพนมเทียนดูหนุ่มนั่นน่ะ ภาว่าท่านหนุ่มตั้งแต่เรื่องรพินทร์ถูกเขียนขึ้น และก็หนุ่มอย่างรพินทร์เช่นนั้นตลอดมาค่ะ ภามองรูปท่านเวลาอ่านเพชรพระอุมา นึกหน้าท่านคล้ายๆกับรพินทร์เลยค่ะ

 

โดย: Par&Par 12 ตุลาคม 2550 21:24:27 น.  

 

ถามว่า....ทำไมนู๋รู้สึกเหมือนว่ายังไม่เคยอ่านเลย
ปู่ก็ต้องมีไม้ตายบ้างดิ อิๆ
ไม้ตายนี้ร่ำเรียนมาจากประมุขพรรคกระยาจกจ้ะ ยังมีอีกหลายท่าอยู่


โดย: เ จ้ า ตั ว ร้ า ย วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:20:47:33 น.

 

โดย: อุปนิกขิต 12 ตุลาคม 2550 21:54:30 น.  

 

แวะมาเยี่ยมค่ะปู่
แต่ยังไม่มีคำถามอยู่ดี...
เห็นปู่ไปแวะที่ c box บล็อคพระศรี
ก็เลยตามมาให้กำลังใจค่ะ

 

โดย: เอื้องสามปอย 13 ตุลาคม 2550 1:21:28 น.  

 

ใครไปไหนอะไรหรือครับ

 

โดย: อุปนิกขิต 13 ตุลาคม 2550 1:23:06 น.  

 

อ้าว...ที่ c box เป็นตัวปลอมเหรอคะปู่....

 

โดย: เอื้องสามปอย 13 ตุลาคม 2550 1:25:10 น.  

 

โอว์...................วิทยายุทธ...........ท่านล้ำลึกนัก

มีภาพมาฝากจ้า......ยังจำได้มั้ย ?? จำได้หรือป่าว ??



 

โดย: nooaoh 13 ตุลาคม 2550 1:26:03 น.  

 

c box คืออะไรหรือครับ

เดี๋ยวขอตัวไปเล่นกล้ามแป๊บครับ

 

โดย: อุปนิกขิต 13 ตุลาคม 2550 1:27:13 น.  

 

จะมีเร้อ กล้ามอ่ะ 555

 

โดย: คุณนายขาวมณี 13 ตุลาคม 2550 1:33:54 น.  

 

ปู่ฯ รูปนั้น คุณ สอาด เปี่ยมพงษ์สานต์ ใช่ป่าวจ้ะ (หากพิมพ์ชื่อนามสกุลผิด ขอโทษด้วยนะจ้ะ)

 

โดย: คุณนายขาวมณี 13 ตุลาคม 2550 1:36:57 น.  

 

- จะมีเร้อ กล้ามอ่ะ 555
น่านน่ะสิครับ อยากรู้เหมือนกัน

- ปู่ฯ รูปนั้น คุณ สอาด เปี่ยมพงษ์สานต์ ใช่ป่าวจ้ะ
ไม่ใช่ครับ
สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์ ต่างหาก


โดย: คุณนายขาวมณี วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:1:36:57 น.

 

โดย: อุปนิกขิต 13 ตุลาคม 2550 1:44:31 น.  

 

อ่ะจ้า

ปล. อย่าลืมที่สัญญานะปู่ฯ อย่าให้เจอนะ 555

 

โดย: คุณนายขาวมณี 13 ตุลาคม 2550 1:54:41 น.  

 

โห เข้าไป c box แป๊บเดียว เรียกเรตติ้งได้เพียบเลยนะปู่

 

โดย: Oji_yoyo 13 ตุลาคม 2550 2:06:51 น.  

 



ปู่มีคลิป!!!


 

โดย: เ จ้ า ตั ว ร้ า ย 13 ตุลาคม 2550 2:32:21 น.  

 

สาวๆเพียบเลยblogปู่----ทำไงblogผมสาวถึงจะเยอะแบบนี้บ้างเนีย

ขอบคุณครับปู่ที่มาอับblogให้ลูกหลานได้อ่านกัน

 

โดย: ปูน (poonseemen ) 13 ตุลาคม 2550 2:45:22 น.  

 

เซง...วันที่นั้นที่คุณลุงพนมเทียนมางาน ผมก็ไปด้วย แล้วก็เป็นวันแรกที่เริ่มอ่าน เพชรพระอุมา แต่ไม่ได้เจอ... อด

 

โดย: ฟาง (gumbie_narak ) 13 ตุลาคม 2550 7:57:21 น.  

 

แวะมาดู

 

โดย: เป๋าตังค์เป๋าตุง 13 ตุลาคม 2550 13:02:06 น.  

 

หุๆๆๆ ปู่คะ ไอ้วิชาไม้ตีสุนัข ของพรรคกระยาจกนี้ ได้ผลดีขนาดไหนคะ บอกๆกันมาบ้างนะจ๊ะอ ว่าแต่นี้ยังไม่ใช่กระบวนท่าสุดท้ายอีกหรือคะเนี่ย ข้าน้อยขอคารวะท่านสักหนึ่งจอก

ว่าแต่ดาริจะตามมาเก็บค่านางแบบนะคะ จะเรียกสัก 6-7 หลักเลยดีกว่า

พอเห็นรูปนี้แล้วนึกถึงบรรยากาศตอนไปสัมภาษณ์คุณลุงมากๆเลย คุณลุงคุยเก่งจัง ทำเราไม่รู้สึกง่วงนอนเลยแม้แต่นิดเดียว ได้เปิดหูเปิดตาเกี่ยวกับเพชรฯอีกตรึม

 

โดย: ดาริเมยา 13 ตุลาคม 2550 13:10:06 น.  

 

- มีภาพมาฝากจ้า......ยังจำได้มั้ย ?? จำได้หรือป่าว ??
ภาพนี้หรือครับหลาน



โดย: nooaoh 13 ตุลาคม 2550 1:26:03 น.



- ทำไงblogผมสาวถึงจะเยอะแบบนี้บ้างเนีย
ใช้เชือกหลายๆเส้นสิครับ

โดย: ปูน (poonseemen ) 13 ตุลาคม 2550 2:45:22 น.



- หุๆๆๆ ปู่คะ ไอ้วิชาไม้ตีสุนัข ของพรรคกระยาจกนี้ ได้ผลดีขนาดไหนคะ บอกๆกันมาบ้างนะจ๊ะอ ว่าแต่นี้ยังไม่ใช่กระบวนท่าสุดท้ายอีกหรือคะเนี่ย ข้าน้อยขอคารวะท่านสักหนึ่งจอก
มีตั้ง ๓๖ กระบวนท่าแน่ะจ้ะ
มิกล้า มิกล้า


โดย: ดาริเมยา 13 ตุลาคม 2550 13:10:06 น.

 

โดย: อุปนิกขิต 13 ตุลาคม 2550 13:24:33 น.  

 

ดีใจที่ได้อ่านค่ะ เป็นไม้ตายเด็ดจริงๆ

ปู่จ๋า ขอบคุณนะค้า



ว่าแต่ เขาคุยกันข้ามคืนเนอะ

 

โดย: ~* ดาวเดือนเคลื่อนคล้อย *~ 13 ตุลาคม 2550 17:17:20 น.  

 

ขอบคุณครับปู่...

 

โดย: ฟาง (gumbie_narak ) 13 ตุลาคม 2550 17:34:06 น.  

 

DJ.................จัดให้ล่ะนะค่ะ.........ปู่........ขา



ขอเชิญ......ฟังและซึม............ซับเนื้อเพลงอันไพเราะ

ตามซำบายจ้า

 

โดย: nooaoh 13 ตุลาคม 2550 19:28:02 น.  

 

พระศิวะฉายแสงเรืองรอง ถันพระอุมาจะปรากฏ
ตอนอ่านนึกภาพไม่ค่อยออก พอเห็นรูปนี้แล้วเห็นภาพเลยครับ

 

โดย: บุรุษพเนจร 14 ตุลาคม 2550 0:39:23 น.  

 

ขอบคุณปู่ฯครับ
แอบเข้ามาอ่านตอนดึกครับ
สบายดีนะครับปู่ฯ

 

โดย: แสนพลพ่าย 14 ตุลาคม 2550 1:01:36 น.  

 

ขอบคุณค่ะ...........ปู่
หลานคนนี้.....จดๆ จ้องๆ จะอ่าน PPU มาหลายรอบ
แต่ก็ไม่กล้าสักที......ทั้งๆ ที่....สมควรจะอ่านตั้งนานแล้ว
แต่ขาดแรงบันดาลใจที่จะอ่าน

มาวันนี้....ได้อ่านบท...พูดคุย...ของปู่กับผู้ประพันธ์

ถึงกับ....อึ้ง...
ซึ้งแล้วว่า......เหตุใด ใครๆๆ จึงหลงใหล

"เพชรพระอุมา"

 

โดย: nooaoh 14 ตุลาคม 2550 9:17:05 น.  

 

ตามมาอ่านค่ะ
สวัสดค่ะ....

 

โดย: naragorn 14 ตุลาคม 2550 15:26:24 น.  

 

แวะมาให้กำลังใจปู่ พี่เป๋า และทุก ๆ คนที่มีส่วนร่วม
อย่าท้อแท้นะคะ ตามไปอ่านได้ที่บล็อคพี่เป๋าค่ะ

 

โดย: เอื้องสามปอย 16 ตุลาคม 2550 0:13:29 น.  

 

ผมupblogแล้วนะปู่ช่วยไปฝากรอยเท้าทีครับ

 

โดย: ปูน (poonseemen ) 16 ตุลาคม 2550 11:11:33 น.  

 

เข้ามาสวัสดีและมาให้กำลังใจปู่อุปฯ ค่ะ
สู้ ๆ นะคะปู่

 

โดย: vivee (vivee_t ) 16 ตุลาคม 2550 11:17:36 น.  

 

ขอบคุณครับทุกคน
ว่าแต่ไม่ยักกะมีคำถามแฮะ

งั้นปู่เล่าเรื่องตลกให้ฟังเรื่องนึงครับ (เข้าใจว่าคงฟังกันมาแล้ว แต่ปู่จะใส่สีให้หนักยิ่งขึ้น )

มีสาวในที่ทำงานที่นึง แกชอบพูดเรื่องของชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ฟังมาจากโทรทัศน์บ้าง วิทยุบ้าง ใส่สีตีไข่เอง บ้าง รายการที่ฟังก็เช่น แฉแต่เช้ามืด ที่นี่ที่ไหน คนค้นเข้าไป เป็นต้น แล้วแกก็ชอบไปเล่าให้คนโน้นคนนี้ในที่ทำงานฟัง พูดง่ายๆก็นินทานั่นแหละ

ทีนี้พอแกมาเล่าให้สาวเจ้าเสน่ห์คนนึงสมมุติว่าชื่อขาว คุณขาวฟังแล้วเธอก็พยักหน้าแล้วพูดอยู่คำเดียวซ้ำๆซากๆว่า "อ๋อ...เหรอ"

พอสาวชอบนินทาคนนั้นไปแล้ว ก็มีชายในที่ทำงานคนนึงสมมุติว่าชื่อปูน มาถามสาวขาวนี้ว่า "ตัวเองๆ ทำไมพูดอยู่คำเดียวว่า อ๋อ...เหรอ ล่ะ"

สาวขาวเธอก็ตอบว่า "แม่สอนมาว่าถ้านึกจะบอกใครว่า อี(ไอ้)ตอ... อย่าไปพูดให้หยาบปาก ให้พูดคำว่า 'อ๋อ...เหรอ' แทน"

"อ้อ...แล้วไปเที่ยวกันอีกนะจ๊ะ" หนุ่มปูนตอบทิ้งท้าย


ช่วงนี้ปู่ไม่ค่อยตอบบางกระทู้ในห้อง PPU เพราะกลัวจะอดใจไม่ไหวที่จะตอบไปว่า อ๋อ...เหรอ น่ะครับ

 

โดย: อุปนิกขิต 16 ตุลาคม 2550 17:36:58 น.  

 

เย้ๆได้เล่นเป็นตัวละครหลักของเรื่องตลกของปู่ด้วย

คำถามนะครับกองถ่ายจะปิดให้เข้าชมวันไหนครับอยากพาน้องๆที่บ้านไปเที่ยวด้วย
แต่พี่ชายผมดันเอารถไปจูบกับเสาไฟฟ้าเค้าบอกว่ารถได้เดือนธันวาอาจจะสิ้นเดือนด้วย
เลยยังไม่มีรถไปกลัวว่าจะปิดให้เข้าชมก่อนอะครับ

ปล.ครั้งหน้าขอเปลี่ยนนางเอกด้วยนะปู่คนเบื่อคนนี้แล้วอะ

 

โดย: ปูน (poonseemen ) 16 ตุลาคม 2550 18:33:29 น.  

 

จะดีใจ ดีมั้ยเนี้ยะ คุณนายขาวจ้าวเสน่ห์ 555
แต่ว่าตอบแต่ "อ๋อ..เหรอ" มันอึดอัดนะ ปู่ ฮ่า ๆๆ

ปล. ปูน คิดว่าตัวเองเบื่อเป็นคนเดียวเหรอ ฮ้า อิอิ

 

โดย: คุณนายขาวมณี 16 ตุลาคม 2550 18:56:48 น.  

 

ระวังมีพระเอกตัวจริงกลายเป็นตาอยู่นะครับปูนคุง

 

โดย: โอจิ (Oji_yoyo ) 16 ตุลาคม 2550 20:14:25 น.  

 

เอาล่ะสิ..............จะเกิดศึกชิงนาง....ป่าวเนี้ย

 

โดย: nooaoh 16 ตุลาคม 2550 20:43:30 น.  

 

แวะมาเยี่ยมปู่
ได้มาดูละคร คู่พระ-นาง เรียกเรตติ้งซะแล้ว
....วันหลัง ขอยืม "อ๋อ....เหรอ" ไปใช้มั่งนะคะปู่ขา
จะได้ไม่หยาบปากค่ะ...

 

โดย: เอื้องสามปอย 16 ตุลาคม 2550 22:56:06 น.  

 

- คำถามนะครับกองถ่ายจะปิดให้เข้าชมวันไหนครับอยากพาน้องๆที่บ้านไปเที่ยวด้วย
แต่พี่ชายผมดันเอารถไปจูบกับเสาไฟฟ้าเค้าบอกว่ารถได้เดือนธันวาอาจจะสิ้นเดือนด้วย
เลยยังไม่มีรถไปกลัวว่าจะปิดให้เข้าชมก่อนอะครับ
ไม่ปิดครับ มีแต่จะเปิดไปเรื่อยๆ
ยิ่งไทยไวด์ไลฟ์ขึ้นเมื่อไหร่ ก็สนุกล่ะครับ


โดย: ปูน (poonseemen ) 16 ตุลาคม 2550 18:33:29 น.



ปล.
ตกลงมีพระเอกนางเอกกันด้วยหรือครับนี่
นางเอกนี่โอจิ หรือปูนล่ะครับ

ความจริงคุณนายขาวฯนี่เหมือนตัวเอกในเรื่องมังกรหยกภาค 2 คนนึงนะครับ คนที่มีชื่อแปลเป็นภาษาไทยว่า ผู้ไร้โศก น่ะครับ

 

โดย: อุปนิกขิต 17 ตุลาคม 2550 1:32:17 น.  

 

โอ้ว์ เพิ่งรู้ว่าเพื่อนสาวนามคุณนายขาวมณี She so hot จริ๊งๆๆ ทั้งมีปูนคุงมากิ๊กส์ แถมเป็นนางเอกในบล็อกอีกต่างหาก อิอิน่าอิจฉาเสียจริงๆ
ปล.ชบาแก้วมาใหม่ขออนุญาติแอดบล็อกนะค่ะ

 

โดย: ชบาแก้ว (peta.W ) 17 ตุลาคม 2550 18:15:09 น.  

 


ปล.
ตกลงมีพระเอกนางเอกกันด้วยหรือครับนี่/////งั้นสนใจรับสมัครนางอิจฉามั้ยค่ะ อิฉันขอสมัครคนเเรกเลยค่ะ อิอิ
รับรองค่ะว่ากรี๊ดได้แน่ๆ555

 

โดย: ชบาแก้ว (peta.W ) 17 ตุลาคม 2550 20:03:34 น.  

 

ความจริงคุณนายขาวฯนี่เหมือนตัวเอกในเรื่องมังกรหยกภาค 2 คนนึงนะครับ คนที่มีชื่อแปลเป็นภาษาไทยว่า ผู้ไร้โศก น่ะครับ

'' ผู้ไร้โศก" ครายอ่ะปู่ แต่ฟังแล้วคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ใช่ป่าว

 

โดย: คุณนายขาวมณี 17 ตุลาคม 2550 20:16:07 น.  

 

- งั้นสนใจรับสมัครนางอิจฉามั้ยค่ะ อิฉันขอสมัครคนเเรกเลยค่ะ อิอิ
รับรองค่ะว่ากรี๊ดได้แน่ๆ555
มาเป็นนางเอกใหม่ดีกว่าครับ ดูเหมือนนางเอกคนเก่าเสน่ห์แรงเกินไป เดี๋ยวหลานๆจะตีกันซะเปล่าๆ


โดย: ชบาแก้ว (peta.W ) วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:20:03:34 น.



- '' ผู้ไร้โศก" ครายอ่ะปู่ แต่ฟังแล้วคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ใช่ป่าว
เธอเป็นสาวสวยครับ ผมยาวเสื้อพริ้วไสว กำลังภายในสูงส่ง คนไร้โศก แปลมาจากชื่อของเธอในภาษาจีนนั่นเองครับ
นามของเธอ "ลี้มกโช้ว"



โดย: คุณนายขาวมณี วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:20:16:07 น.

 

โดย: อุปนิกขิต 18 ตุลาคม 2550 2:29:53 น.  

 

สวัสดี งามๆ .... คุณปู่อุปกขิต ค่ะ
วันนี้นู๋แวะมาอ่าน แล้วก็มาดูรูป ด้วยค่ะ...

 

โดย: naragorn 18 ตุลาคม 2550 11:36:14 น.  

 

มาเป็นนางเอกใหม่ดีกว่าครับ ดูเหมือนนางเอกคนเก่าเสน่ห์แรงเกินไป เดี๋ยวหลานๆจะตีกันซะเปล่าๆ
....นู๋ก็พูดไปงั้นแหละปู่ไม่กล้าไปแย่งตำแหน่งคุณนายขาวมณีหรอกกลัววววว ...555

 

โดย: ชบาแก้ว (peta.W ) 18 ตุลาคม 2550 18:21:21 น.  

 

อิ...อิ.......แอบมาอ่าน

นิทาน........ของปู่

เทพธิดาไหมแดง "ลี้มกโช้ว"

......ความเป็นมาของลี้มกโช้วนั้น
เดิมที่นางเป็นดรุณีสาวที่งดงามนุ่มนวล
ได้มาพบรักกับชายหนุ่มนาม เล็กเต็งง้วน

แต่แล้วทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปเมื่อความรักไม่สมหวัง
นางถูกพิษแห่งความรักกัดกร่อนจิตใจจนกลายเป็น
นางมารร้ายแห่งยุทธภพ ที่มีความชั่วร้ายอำมหิต
ยากจะหาใครเทียบเทียม

ลี้มกโช้ว แม่จะเป็นมารร้าย
แต่สุ้มเสียงนาง อ่อนโยนนุ่มนวล ท่าทางแช่มช้อย
งดงาม บวกกับตาดำขลับ ฟันขาวสะอาด ผิวพรรณ
ละเอียดอ่อน อยู่ในชุดนักพรตสีเหลืองอ่อน

นับเป็นหญิงงามที่โดดเด่น เพียงแต่จิตใจภายใน
กลับไม่ได้งดงามตามรูปลักษณ์ภายนอก
ทั้งนี้ก็เนื่องจากพิษแห่งความรักที่มักแปรเปลี่ยนผู้คน

 

โดย: nooaoh 18 ตุลาคม 2550 23:11:11 น.  

 

นึกแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้

"ลี้มกโช้ว" นางมารร้ายเลยเหรอปู่ฯ งอลลลลลลลล ปู่แล้วฯ

 

โดย: คุณนายขาวมณี 19 ตุลาคม 2550 8:03:38 น.  

 

อ้าวนี่ตกลงเพื่อนฉานเป็นนางมารแทนนางเอกไปแล้วหรอนี่พี่นู๋โอ๋ให้ข้อมูลได้แล่มม๊ากมาก

 

โดย: ชบาแก้ว (peta.W ) 19 ตุลาคม 2550 12:33:08 น.  

 

ลี้มกโช้วที่จริงเธอมีจิตใจดีงาม รักเด็ก หน้าตาสะสวยนะจ๊ะ เพียงแต่ช้ำเพราะรักจึงฟั่นเฟือนไปบ้างเท่านั้นเอง ส่วนฉายานั้นคนอื่นตั้งให้ต่างหาก ใยต้องถือเป็นจริงเป็นจัง

งั้นเปลี่ยนก็ได้ เป็นสาวน้อยหน้าตาหมดจดที่ชื่อแปลเป็นไทยว่า มังกรน้อย ก็แล้วกัน

 

โดย: อุปนิกขิต 19 ตุลาคม 2550 12:51:34 น.  

 

อ้าว ! แวะมาเยี่ยมอีกที
กลายเป็น "มังกรหยก" ไปซะแล้วววว....

 

โดย: เอื้องสามปอย 19 ตุลาคม 2550 13:22:15 น.  

 

ปู่ครับผมไปตอบปู่แล้วนะที่ปู่ถามว่าประตูผีมีไว้ทำป๊ะอะไรไปดูเฉลยได้ที่blogผมครับแอบมาเรียกลูกค้า

ปล.ดาราขาวฯนี้เรื่องมากจังปู่...หนังเรื่องต่อไปผมขอเปลียนนางเอกใหม่
อยากให้ลองเรียกพี่โอจิมาแคสเป็นนางเอกให้ผมที

 

โดย: ปูน (poonseemen ) 19 ตุลาคม 2550 13:40:13 น.  

 

ธิดามังกรน้อย............เซียวเหล่งนึ่ง

ผมเผ้าที่ดำขับ ตลอดทั้งร่างขาวผ่องราวหิมะ
วงหน้างามพิลาสล้ำเหนือหญิงใดในโลกหล้า

ใบหน้าดูสงบเยือกเย็น บริสุทธิ์ดังหิมะ
และเย็นชาราวน้ำแข็ง

สตรีนางนี้ สร้างจากแก้วผลึก หรือว่าเป็นมนุษย์หิมะหรืออย่างไร ที่แท้เป็นคนหรือภูตผี หรือว่าเป็นเทพธิดาสวรรค์กันแน่

 

โดย: nooaoh 19 ตุลาคม 2550 18:59:29 น.  

 

ที่เปรียบเทียบกับ มังกรหยก เพราะถ้าเปรียบเทียบกับ เพชรพระอุมา เดี๋ยวคุณนายขาวฯเธอรู้แกวน่ะครับ

แต่ถ้าไม่มีคำถามเดี๋ยวก็จะขึ้นหัวข้อใหม่ล่ะครับ

 

โดย: อุปนิกขิต 19 ตุลาคม 2550 22:28:27 น.  

 

ถ้าได้เซียวเหล่งนึ่งมาเป็นคู่ใจ ถึงแม้ต้องเสียแขนข้างหนึ่งข้าก็ยอม

"แยกจากกันไม่นาน หวังพบพานกันภายหน้า
น้ำใจพี่ขนิษฐา กระจ่างจ้าดั่งดวงเดือน
สิบหกปีผ่านไป พบกันใหม่ ณ ที่นี้
รักผูกผันนานปี อย่าให้มีผิดคำสัญญา"

 

โดย: จอมยุทธอินทรีย์ (บุรุษพเนจร ) 20 ตุลาคม 2550 14:24:40 น.  

 

...ปู่ครับผมสงสัยมานานแล้วว่าจะถามปู่แต่ยังไม่มีเวลา คือคุณลุงพนมเทียนยืนยันว่ามดแดงกินเนื้อจระเข้แล้วอีกไม่กี่วันปีกมันจะงอกเป็นเรื่องจริงเนื่องจากเนื้อจระเข้อาจมีสารบางอย่างแร่งการเติบโตของมดแดงอันนั้นก็เป็นไปได้หรือเป็นไปได้หรือป่าวว่าสมมุติวงจรชีวิตมดแดงมี 30 วัน พอวันที่ 30 มันจะมีปีก และบังเอิญมดแดงกลุ่มนี้อาจเป็นตัวที่มีอายุ 28 -29 วันและก็บังเอิญไปกินเนื้อจระเข้อีกไม่กี่วันก็เลยมีปีกงอกได้คนที่พบเห็นเลยพูดกันปากต่อปากจนเป็นเรื่องเล่าขานกันมา

ผมไม่รู้ว่าปู่มีการทดลอง เรื่องนี้หรือยังครับอาจจะไม่เกี่ยวกับภาพยนตร์เท่าไหร่แต่เวลามีคนถามจะได้ตอบได้เต็มปากว่าเป็นเรื่องจริงครับพี่น้อง ปู่ไม่ลองทำโครงงานเรื่องนี้ดูอะผมยกตัวอย่างนะครับ

สมมุติฐาน
ถ้าเนื้อจระเข้มีสารช่วยเร่งการเจริญพันธุ์ของมดแดงแล้วมดแดงกินเนื้อจระเข้เป็นอาหารดังนั้นจระเข้จะเจริญพันธุ์เร็วกว่าปกติจนมีปีกงอกได้

ตัวแปลต้น ประชากรมดแดงที่มีเนื้อจระเข้เป็นอาหาร กับ ประชากรมดแดงที่รับประทานอาหารอื่นๆ
ตัวแปลตาม การเจริญเติบโตของมดแดง
ตัวแปลควบคุม อุณหภูมิ ชนิดและสายพันธุ์มดแดง อายุ ......

อันนี้ผมคิดเองนะครับอาจเป็นความรู้เด็กๆเพราะอาศัยเคยเรียนโครงงานวิทยาศาสตร์ตอนม.ต้นแต่ถ้าทำจริงๆคงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านแมลงเข้ามาช่วยเพราะเค้าจะกำหนดตัวแปลต่างๆได้ดีกว่าโดยเฉพาะตัวแปลควบคุมหรือว่าถ้าปู่ได้ทดลองไปแล้วก็เอาผลการทดลองมาเล่าให้หลานฟังบ้างนะครับผมก็อยากทดลองอยู่นะครับแต่คงไม่มีพาวเวอร์พอที่จะไปขอให้ผู้เชี่ยวชาญช่วย

 

โดย: ปูน (poonseemen ) 20 ตุลาคม 2550 15:01:51 น.  

 

เป็นคำถามที่ดีครับปูน

ว่าแต่ตัวแปลจะใช้ของใครดีล่ะครับ สอ เสถบุตร รึว่า ดร.วิทย์ ดีล่ะ

เข้าใจว่าจะเป็นตัวแปรนะครับ จะไปยากอะไรถ้าจะทดลองจริงๆ

ก็เอาไข่มดแดงมาเลี้ยงให้มันเป็นตัวแต่แรกเลยครับ นับวันเลยว่ามันกินได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ แล้วปีกมันงอกได้ตั้งแต่วันแรกๆเลยรึเปล่า

แล้วนี้ปู่ต้องทดลองกินเลือดค่างผสมเหล้าด้วยมั๊ยครับนี่ รึไม่ก็ทดลองให้คุณนายขาวฯดื่มเลือดสาวพรหมจรรย์ดูซิว่าจะเป็นสาวสองพันปีจริงรึเปล่า

 

โดย: อุปนิกขิต 20 ตุลาคม 2550 20:18:46 น.  

 

ขอปิดเบรคคำถามในหัวข้อนี้นะครับ แล้วขอเชิญไปต่อกันที่หัวข้อถัดไปครับ





ภาพจาก //liuyifeithaifan.invisionplus.net/index.php?mforum=liuyifeithaifan&showtopic=8

 

โดย: อุปนิกขิต 20 ตุลาคม 2550 20:44:21 น.  

 

ในรูป หน้าคล้าย อ้อจ๋า ( คุณนายฯ )....เลยอ่ะค่ะ

 

โดย: naragorn 20 ตุลาคม 2550 23:29:26 น.  

 








 

โดย: โอจิ (Oji_yoyo ) 21 ตุลาคม 2550 23:25:34 น.  

 

แล้วนี้ปู่ต้องทดลองกินเลือดค่างผสมเหล้าด้วยมั๊ยครับนี่ รึไม่ก็ทดลองให้คุณนายขาวฯดื่มเลือดสาวพรหมจรรย์ดูซิว่าจะเป็นสาวสองพันปีจริงรึเปล่า

ไม่กินได้ปะ ปู่ แค่ร้อยปี ก็หง่อมแล้ว 2000 ปี ไม่อยากนึกสภาพเลย 5555

ปล. พี่ naragorn (พี่กบ) อ้อจ๋า สวยขนาดนั้นเลยเหรอ อิอิ

 

โดย: คุณนายขาวมณี 22 ตุลาคม 2550 8:40:40 น.  

 

แวะมาอ่านค่ะ.. คิดถึงปู่นะ ไม่ได้มาเยี่ยมนานพอควร

 

โดย: ทะเลดาว (yongwa ) 22 ตุลาคม 2550 8:55:22 น.  

 

ปู้ค๊าบ.. ภาพสวยจังเลยครับ คุ้นๆกับคนแถวๆนี้ไงก็รู้ 5 5

ไปเยี่ยม blog ผมบ้างนะครับ.. เชิญ เชิญ

 

โดย: ฟาง (gumbie_narak ) 22 ตุลาคม 2550 10:43:10 น.  

 

อ่านกระทู้นี้แล้วมีความสุข รอชมภาพยนตร์อย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ

 

โดย: แม่มดจิ๋ว 12 ธันวาคม 2550 13:23:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


อุปนิกขิต
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




อุปนิกขิต น. คนสอดแนม, จารบุรุษ



Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
New Comments
Friends' blogs
[Add อุปนิกขิต's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.