สู้สุดฤทธิ์ พิชิตฝัน ภาคต้น

ว่าด้วยเรื่อง "ภารกิจสู้สุดฤทธิ์ พิชิตฝัน" ที่เจ๊คิดขึ้นมาเอง
ที่เพิ่งประกาศไป blog เป็นครั้งแรกเมื่อวาน

ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ตัวข้าพเจ้าจะเปลี่ยนน้องสาวของฉ้านนน
จากลูกหมูน้อยมาเป็นกุลสตรีที่เพรียบพร้อมและสมัครงานดีๆให้ได้
แต่จะทำได้มั้ยนะ สู้โว้ย!!!

คือเมื่อมันเริ่มมีความคิดว่าอยากจะเปลี่ยนแปลง ช่วงแรกนี้ก็เป็นช่วงที่
ต้องหาข้อมูล ก็อย่างที่บอกแล้วว่าทุกอย่างถ้าไม่รู้ให้ถาม Mr.google
จนมาได้คำตอบหลายๆอย่างจากห้องโต๊ะเครื่องแป้งเวปพันทิป
ซึ่งมีอะไรหลายๆอย่างที่แปลกใหม่สำหรับเจ๊มาก...

แต่ก่อนหน้านี้สักสองสัปดาห์ เจ๊ไ้ด้ยาดีทอค เลือด ลำไส้ และน้ำเหลือง
ของยูนิซิตี้จากเพื่อนที่ทำงาน อันเนื่องเพื่อนเห็นเจ๊หน้าซีดเป็นไก่ต้ม
กลัวจะทำโปรเจคไม่รอดต้องจบชีวิตก่อนวันอันควร....
เลยให้ดีทอคมาหนึ่งชุด สั่งเสียวิธีการกินให้เสร็จสรรพ
แต่จนแล้วจนรอดเจ๊ก็ยังไม่ได้กิน เพราะเห็นว่าวิธีการกินมันยุ่งยากพอสมควร
พอเกิดความคิดว่าจะเปลี่ยนเจ้าตัวยุ่ง เลยจัดการจับกินดีทอคที่ว่านี้ซะเลย
พอเค้ากินเราก็จะได้กินด้วย หาเพื่อนกิน(อิอิ)

ผลปรากฏว่า ยาได้ผลดีเกินคาดดดดด....
สองพี่น้องวิ่งเข้าห้องน้ำกันทั้งวัน
สงสารเค้าเหมือนกันเพราะเค้ายังต้องเรียนหนังสือ
ไม่เหมือนเราทำงานวิ่งออกมาง่ายหน่อย
(วันไหนมีประชุมก็แอบกินน้อยหน่อย 555)
จนผ่านมาหนึ่งอาทิตย์เจ้าตัวดีก็งอแงไม่กินอีกแล้ว เพราะแสบตูด
แต่คุณพี่มีหรือจะลดความพยายามก็ยังคงบังคับไปเรื่อยๆ
จนครบสองสัปดาห์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ให้เค้าไปชั่งนน.ดูปรากฏว่านน. หายไปสองโล
ซึ่งเราดีใจมาก ไม่ใช่เพราะนน.ลด เพราะยาไม่ใช่สำหรับลดนน.
แต่เพราะว่า เค้าว่าดีทอคจะช่วยขับของเสียที่ค้างตามลำไส้ออกไป
พอของเสียออก นน.ลดลงเป็นธรรมดา(แต่จะลดไม่มาก)
การที่นน.ลด แสดงว่าของเสียออกไป (แต่เจ๊กินเองไม่ลงเลยอะ)
นับว่าเป็นการเริ่มต้นภารกิจที่ดี

เมื่อวานมีโทรศัพท์มาหาน้องสาวเยอะมาก
เพราะว่าเค้าไปฝากresume ไว้ตามเวปสมัครงานทั้งหลาย
ก็เลยทำให้มีโทรศัพท์แปลกหน้าโทรมานัดสัมภาษณ์งาน
ซึ่งก็ควรจะนับว่าเป็นเรื่องดี เพราะภารกิจจะไปถึงฝั่งฝันเร็วขึ้น
ทว่ากี่สายกี่สายที่โทรมาเป็นบริษัทประกันทั้งนั้น
แถมมาจากบริษัทเดียวกัน เปลี่ยนคนโทรมาเรื่อยๆไม่ซ้ำหน้าไม่ซ้ำเบอร์
เจออย่างนี้แม้ว่าจะสนใจหรือไม่สนใจงานที่โทรมา
รับรองว่าก็ต้องเบื่อกันทุกคน
ถึงกับต้องปิดมือถือหนีกันทีเดียว

แต่พอช่วงเย็นก็มีสายหนึ่งโทรมาจากบริษัทแห่งหนึ่ง
เค้าน่ารักมากโทรชวนไปสัมภาษณ์งานจริงๆ ซึ่งทำให้น้องเราดีใจมาก
ติดตรงที่ว่าเค้าให้มาสัมภาษณ์วันพรุ่งนี้(ตรงกับวันนี้)
พวกเรายังไม่พร้อมกันเลย เราไม่มีีชุดจะใส่ไปสัมภาษณ์
เมื่อวานเย็นจึงเกิดมหกรรมรื้อตู้เสื้อผ้าเกิดขึ้น
ขุดเอาชุดเก่าๆของคุณแม่มาดูเผื่อใส่ได้
แต่ก็ไม่มีชุดไหนที่ใส่ได้เลย ต้องตัดใหม่อย่างเดียว
แต่ถ้าตัดชุดก็คงไม่ทันสัมภาษณ์งานวันนี้
แม้ว่าฉันจะเชียร์ให้เธอไปสัมภาษณ์ด้วยชุดนักศึกษา
แต่เธอก็อับอาย จนทำให้เธอตัดสินใจไม่ไปสมัครงาน
ยิ่งงทำให้ฉันคิดว่า ภารกิจของฉันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ฉันต้องทำให้สำเร็จให้ได้เพื่อน้องเค้าจะได้มีความสุข

แต่ถึงฉันจะจริงจังกับเรื่องนี้มากยังไง
อุปสรรคแรกมาก็มาถึงฉันทันที
เมื่อคืนขณะที่เราคุยกัน อยู่เจ้าตัวดีก็งอนขึ้นมา
ฉันก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดตอนไหน
หลังจากนั้นเค้ามาบอกทีหลังว่า
การที่ฉันอยากให้เค้าลดความอ้วนมันก็ดี
แต่ฉันพูดถึงเรื่องนี้มากเกินไปจนเค้ารู้สึกอึดอัด

นี่ฉันพูดเรื่องนั้นมากเกินไปเหรอ
พอถูกทักก็อึ้งๆไเหมือนกัน
มาคิดๆดูไม่น่าเชื่อฉันอาจจะพูดมากไปจริงๆก็ได้
ฉันเลยชูนิ้วก้อยเป็นสัญญาณขอสงบศึก
และแทนสัญญาว่าจะพูดเรื่องนี้ให้น้อยลง
ตัวยุ่งเอาปากมางับนิ้ว
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ระหว่างเราสองคนว่ายอม
แต่พอฉันจะหาเรื่องมาคุยกับน้องฉันอีก เชื่อมั้ยฉันนึกไม่ออก
ตอนนี้ที่ฉันมีในหัวมีแต่เรื่อง การลดน้ำหนัก กับการบำรุงผิว
นี่ฉันหมกมุ่นไหน่อยหรือเปล่าเนี่ย....

เอาเป็นว่าฉันจะพยายามฉันจะทำได้ไหมนะ
ไม่พูดเรื่องลดน้ำหนัก แล้วฉันจะช่วยน้องฉันได้ยังไงละ..

โฮววว! เจ๊ ปวดหัวตึบ....

Create Date : 22 กันยายน 2552 Last Update : 22 กันยายน 2552 11:06:01 น. Counter : 465 Pageviews.		5 comments
Share Tweet