สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกประกอบไปด้วยรัฐ 50 รัฐ ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ มี พรมแดนต่อกับประเทศแคนาดาและเม็กซิโก สภาพภูมิอากาศคือจะมีด้วยกัน 4 ฤดูกาล คือ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ถือเป็นเมืองที่หลายๆคนใฝ่ฝันอยากจะไปเยือนสักครั้งและเป็นดินแดนสวรรค์ของนักเดินทางเลยก็ว่าได้ วันนี้ Premiumworldtour จะมาแนะนำที่เที่ยวในช่วงฤดูร้อนของอเมริกากันว่ามีที่ไหนน่าไปกันบ้าง
.รับรองว่าต้องถูกใจอย่างแน่นอนเลยค่ะ 
1.ชายหาดเวนิส (Venice Beach) ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกของลอสแอนเจลิส เป็นชายหาดที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสงอาทิตย์อันสดใส และสามารถ ทิ้งตัวลงนอนริมชายหาดได้อย่างสงบสุข เป็นหาดที่เต็มไปด้วยผู้คนและสีสัน โดยเฉพาะเวลาเย็น ท้องฟ้ายาม อาทิตย์ตกดินจะมีสีสันฉูดฉาดมาก ชายหาดแห่งนี้เป็นจุดที่ได้รับความนิยมจากเหล่านักโต้คลื่นและผู้ที่ชอบแสงแดด ความสวยสด งดงามของริมหาด ที่ ๆจะทำให้คุณเดินทอดอารมณ์ได้อย่างเพลิดเพลิน 
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจได้ร่วมอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถนนสำหรับถีบจักรยาน ไปจนถึงลานเสก็ตบอร์ดที่มีวัยรุ่นจำนวนมากมาวาดลวดลายในสวนที่สร้างไว้ให้นักเล่นเสก็ตโดยเฉพาะ รวมไปถึงการแสดงระบำหน้าท้อง การดูลายมือ และมายากลคนกินไฟ ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนที่มาเที่ยวที่หาดแห่งนี้เช่นกัน ที่ตั้ง : ลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา 
Photo by : centertourandtravel 2.บิ๊กเซอร์ (Big Sur) ถนนที่ขึ้นชื่อว่าสวยและวิวดีที่สุดในโลก เป็นถนนเลียบชายฝั่งแปซิฟิกที่ทอดยาวมาตั้งแต่ทางตอนเหนือไปจนใต้สุดของรัฐ เป็นหนึ่งในถนนที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น All-American Road ซึ่งตลอดทั้งเส้นทางจะเห็นวิวของท้องทะเลและหน้าผาหินริมชายฝั่งทะเล ที่ถูกปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวสลับแซมกับดอกไม้นานาชนิด ซึ่งถ้าได้มองแล้วก็สบายตามากเลยค่ะ 
Photo by : chayaneebam และด้วยระยะทางกว่า 140 กิโลเมตร จากซานคาร์โปโฟโร ไปจนถึงแม่น้ำคาร์เมล ถนนสายนี้ จึงถูกโอบล้อมวิวทิวทัศน์ที่หลากหลาย จากหน้าผาเลียบชายฝั่ง ไปจนถึงป่าทึบ และเป็นถนนที่ตัดเลียบชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือได้ว่าเป็นชายฝั่งที่มีความงดงามที่สุดในสหรัฐฯ และด้วยความหลากหลายนี่เองทำให้ที่นี่ได้รับการยกนิ้วให้เป็นอันดับ 1 ของถนนวิวสวยที่สุดในโลก ที่ตั้ง : แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา 
3.ทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe) ทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe) อยู่ที่ความสูง 6,225 ฟุต (1,897 เมตร) เหนือเทือกเขาเซียร์ราเนวาดาในทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา มักเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในฐานะที่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่งดงามที่สุดในโลก อ่าวมรกต (Emerald Bay) ของทะเลสาบทาโฮเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการถ่ายภาพมากที่สุดในโลก 
กิจกรรมฤดูร้อนที่ทะเลสาบทาโฮนั้นประกอบไปด้วยการเดินป่า ตกปลา ปั่นจักรยานบนภูเขา ปีนหน้าผาและขี่ม้า ทะเลสาบทาโฮยังประกอบไปด้วยสนามกอล์ฟอันโดดเด่น และที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่มอบความสนุกให้กับผู้คนได้ทั้งครอบครัว มีตัวเลือกกีฬาทางน้ำจำนวนมาก ซึ่งรวมไปถึงการแล่นเรือยนต์ การแล่นเรือใบ พาราเซล เจ็ตสกี การพายเรือคายัก การพายเรือบนกระดาน สกีน้ำ หรือแม้แต่การดำน้ำลึก ที่ตั้ง : แคลิฟอร์เนียและเนวาดา, สหรัฐอเมริกา 
Photo by : dumk 4.น้ำตกไนแอการา (Niagara Falls) น้ำตกไนแอการาเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่มากเพราะมีน้ำตกหลายสายมาประกอบกัน ตั้งอยู่บนแม่น้ำไนแอการาทางตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ บนพรมแดนระหว่างประเทศแคนาดากับสหรัฐอเมริกา น้ำตกไนแอการาประกอบด้วยสองน้ำตกใหญ่ คือน้ำตกอเมริกัน (American Fall) และน้ำตกแคนาดา (Canadian Fall) หรือน้ำตกเกือกม้า น้ำตกไนแอการาจะตกจากฝั่งอเมริกาไปยังฝั่งแคนาดา ฉะนั้นถ้าอยู่ฝั่งอเมริกาจะเห็นแต่ด้านหลังและด้านข้างของน้ำตก แต่ทางอเมริกาก็พยายามหาวิธีในการชมความงามของน้ำตกโดยการสร้างหอคอยยื่นออกไปจนชิดน้าตกใกล้ขนาดที่นักท่องเที่ยวต้องใส่เสื้อกันฝนกันทุกคน มิฉะนั้นจะเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนเลยทีเดียว 
หรือนักท่องเที่ยวบางท่านอาจจะเลือกล่องเรือไปตามลำน้ำเพื่อชมความงามของน้ำตกแบบ ซึ่งจะเห็นความยิ่งใหญ่ของน้ำตกที่สูงมากกว่า 50 เมตร และกว้างมากกว่า 300-800 เมตร สามารถไปเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี แต่หน้าหนาวจะหนาวมาก และน้ำตกจะเป็นน้ำแข็ง แต่ถ้าเป็นหน้าร้อนอากาศก็กำลังพอดีเมื่อร่างกายได้โดนน้ำตก แหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทำเงินให้กับแคนาดาและสหรัฐอเมริกาปีๆหนึ่งเป็นจำนวนมหาศาล ที่ตั้ง : ทวีปอเมริกาเหนือ, แคนาดากับสหรัฐอเมริกา 
Photo by : Expedia 5.สวนน้ำชลิตเตอร์บาห์น (Schlitterbahn Waterpark) สวนน้ำกัลเวสตัน ชลิตเตอร์บาห์น ไอส์แลนด์ เป็นสวนน้ำที่ได้รับความนิยมและเปิดให้บริการนานหลายเดือนในแต่ละปี ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะจะมาคลายร้อนเป็นที่สุดเลยแหละ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวคลายร้อนที่ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวและสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เกือบ 1,000,000 คนต่อปีเลยทีเดียว เป็นอีกสถานที่มีชื่อเสียงที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่าสวนน้ำใดๆในสหรัฐอเมริกาเลยล่ะค่ะ 
Photo by : Expedia การได้สัมผัสความเย็นของน้ำพุธรรมชาติ พร้อมด้วยเครื่องเล่นต่างๆของสวนน้ำแห่งนี้ที่ไฮเทคสุดๆ และคุณยังสามารถนำอาหารมารับประทานเองหรือจะเลือกรับประทานบาร์บีคิวสไตล์เท็กซัส เนื้ออกวัวเท็กซัส หรือซี่โครงรมควันก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่คุ้นเคย รวมถึงอาหารสุขภาพอื่นๆ อีกด้วย ที่ตั้ง : กัลเวสตัน รัฐเท็กซัส, สหรัฐอเมริกา 
Photo by : YouTube 6.แกรนด์แคนยอน (Grand Canyon) ปัจจุบันแกรนด์แคนยอนได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สำคัญและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้ชื่นชมความงดงามของความมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยารอบๆพื้นที่ แกรนด์แคนยอน ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ไม่ต่ำกว่าห้าล้านคนต่อปี 
Photo by : Thaifly โดยกิจกรรมท่องเที่ยวหลักที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ การล่องแพ , เดินป่า ,ตั้งแคมป์ และอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก และถ้าหากคุณมีโอกาสได้ไปเยือนสหรัฐอเมริกาแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาดมาเยือนที่แกรนด์แคนยอนสักครั้ง ที่ตั้ง : รัฐแอริโซน่า, สหรัฐอเมริกา 
Photo by : Wikipedia 7.ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ (Crater Lake) เป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่ลึกที่สุดในอเมริกา คือมีความลึกอยู่ที่ 1,973 ฟุต ขนาดของทะเลสาบกว้างถึง 5 ไมล์ หรือประมาณ 8 กิโลเมตรกว่า ซึ่งอยู่ท่ามกลางผาสูงชันถึงเกือบ 2,000 ฟุต ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ Crater Lake รัฐออริกอน ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลกอีกด้วย 
Photo by : travel.trueid ทะเลสาบ Crater Lake เกิดจากการที่ภูเขาไฟระเบิดและดับลงเมื่อประมาณ 7,700 ปีที่แล้ว เมื่อมีฝนตกและหิมะในฤดูหนาวละลายก็กลายเป็น ทะเลสาบสีฟ้าใสอันสวยงาม ซึ่งล้อมรอบไปด้วยหน้าผาหินปากปล่องภูเขาไฟ และป่าสนสีเขียวอันอุดมสมบูรณ์ และภายในทะเลสาบยังมีเกาะ Wizard ตั้งอยู่ด้วย สร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับที่นี่ได้อย่างดีเยี่ยม นักท่องเที่ยวสามารถไป เที่ยวได้ทุกฤดูกาล เพราะมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี บรรยากาศดี เงียบสงบ ที่ตั้ง : รัฐออริกอน, สหรัฐอเมริกา 
Photo by : pinterest 8.สวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค (Central Park) สวนสาธารณะแห่งนี้เปรียบเสมือนโอเอซิสสำหรับชาวแมนฮัตตัน เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนิวยอร์ก โดยมีขนาด 4 ตร.กม. หรือประมาณ สนามฟุตบอล 460 สนามต่อกันเลยทีเดียว เป็นปอดขนาดใหญ่ของเมืองนิวยอร์กที่ไม่ว่าจะเป็นชาวนิวยอร์กเอง หรือผู้มาเที่ยวอเมริกา ต่างพากันมาที่นี่เพื่อหลบหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่มาพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นเจ้าบ้านที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกประมาณปีละ 25 ล้านคนเลยทีเดียว 
ที่สวนแห่งนี้ยังมีแหล่งอำนวยความสะดวกสำหรับทำกิจกรรมต่างๆมากมาย เช่น ร้านอาหาร, ม้าหมุน, อ่างเก็บน้ำ, เรือปั่น/จักรยานน้ำ, สวนสัตว์, โรงละครกลางแจ้ง และสนามกอล์ฟ เซ็นทรัลพาร์คเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกหลังจากปรากฏในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายเรื่อง ที่ตั้ง : แมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา 
9.เมจิก คิงดอม (Magic Kingdom) เปรียบเสมือน Disneyland แห่งหนึ่งนั่นเอง มีเครื่องเล่นต่าง ๆ ของ Disneyland อย่างครบครัน Magic Kingdom นี้เป็นสวนสนุกแห่งแรกใน Disney World Resort เลยนะคะ สร้างขึ้นเมื่อปี 1971 โดยมีเครื่องเล่นต่าง ๆ เหมือนกับ Disneyland ใน Anaheim, California หรือที่คนไทยรู้จักกันว่า ดิสนีย์แลนด์ แอลเอ นั่นเองค่ะ 
หนึ่งในสวนสนุกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกนำเสนอดินแดนแห่งความสนุกสนานและแฟนตาซีที่ด้านล่างของปราสาทเทพนิยาย ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาซึ่งมีผู้คนมาเยือนมากที่สุดของปี ใน Magic Kingdom Park เครื่องเล่นและสิ่งที่น่าสนใจส่วนใหญ่มีพื้นที่ร่มให้เข้าแถวได้ และคุณยังสามารถสัมผัสกับความเย็นได้จากเครื่องเล่นในน้ำที่มีอยู่หลายชนิดให้เลือกเล่นตามใจชอบเลยค่ะ ที่ตั้ง : ออร์แลนโด ฟลอริด้า, สหรัฐอเมริกา 
Photo by : Pixabay 10.อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park) หุบเขาโยเซมิตี ( Yosemite Valley ) มีความกว้าง 1.6 กิโลเมตร ยาว 11 กิโลเมตร ถูกตัดผ่านโดยธารน้ำแข็ง (Glacier) ในอดีตกาล จนกลายเป็นหุบเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกา ฮาล์ฟโดม (Half Dome) และเอลแคปปิตอล (El Capital) ภูเขาหินขนาดใหญ่ที่มีหน้าผามหึมาตั้งฉากและสูงลิบคือสัญลักษณ์ของอุทยานฯ นี้ ถ้าอยากชมหนึ่งในหน้าผาที่เลื่องชื่อที่สุดในโลกในระยะใกล้ชิด ขอแนะนำให้พกเสื่อมาปิกนิกที่ El Capitan Meadow El Capitan ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางอันโปรดปรานของนักปีนเขา ผานี้อยู่ระหว่างทางบนถนน Northside Drive ซึ่งเป็นถนนทางเดียว คุณสามารถขับรถผ่านหุบเขาโยเซมิทีได้ตลอดทั้งปี 
Photo by : 1freewallpapers.com ในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากคือช่วงฤดูร้อน ให้หลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดด้วยการใช้บริการรถรับส่งฟรีของหุบเขา บริการนี้มีให้ตลอดทั้งปีที่หุบเขาโยเซมิทีฝั่งตะวันออก และในช่วงฤดูร้อนจะให้บริการสุดที่ El Capitan ทางตะวันตก หรือถ้าหากจะเช่าจักรยานก็มีเส้นทางเล็กๆ ขนานคู่ไปกับถนนสายหลัก นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งคือ แวะที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววัลเล่ย์ ( Valley Visitor Center ) ก่อนเป็นแห่งแรกเข้าชมการบรรยายประกอบการฉายสไลด์สั้นๆ เพื่อเข้าใจประวัติและความเป็นมาของอุทยานฯ แห่งนี้ ที่ตั้ง : แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา เป็นไงกันบ้างคะสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในอเมริกาที่เรานำมาแนะนำให้ชมกันวันนี้ ดูแล้วอยากจะรีบเก็บกระเป๋าไปกันเลยใช่ไหมล่ะ ช่วงนี้ที่อเมริกาก็เริ่มเข้าช่วง Summer กันแล้วนะค่า ใครมีแพลนจะไปตะลุยอเมริกาในช่วงนี้ก็อย่าลืมนึกถึงสถานที่ที่เรามาแนะนำกันวันนี้นะคะ คราวหน้าเราจะแนะนำสถานที่อะไรเกี่ยวกับอเมริกาอีกอย่าลืมติดตามเราและเพื่อนๆท่านไหนสนใจไปเที่ยวอเมริกาสามารถเลือกซื้อทัวร์อเมริกาได้ที่ www.premiumworldtour.info นะคะ หรือติดต่อเราตามช่องทางข้างล่างได้เลยค่ะ : )
| Create Date : 02 ตุลาคม 2560 |
| Last Update : 2 ตุลาคม 2560 12:22:19 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1070 Pageviews. |
 |
|
