แม้ไม่เหลืออะไร...หัวใจก็ยังเป็นสุข วันแรกที่ผมได้เดินทางออกมาจากบ้านหลังจากผจญกับอุทกภัยครั้งใหญ่มานานซึ่งหากนับถึงวันที่เดินทางออกมาก็เป็นเวลา ๑ เดือนเต็มที่ผมจมปรักอยู่กับสิ่งที่ผมเรียกมันในขณะนั้นว่า “ความทุกข์” เพราะไม่ว่าจะมองไปทางใดก็มีแต่ผืนน้ำกว้างไกล แม้เคยได้ยินและเชื่อว่าน้ำนั้นคือชีวิตก็ตาม ไม่ว่าจะพยายามคิดหาทางแก้ไขอย่างไรก็หวนคำนึงถึงสิ่งที่สูญเสียแม้ตัวเองนั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้มีสติก็ตาม เมื่อเดินทางมาถึงที่พักในจังหวัดนครปฐมผมจึงเดินทางไปหาของใช้ส่วนตัวเท่าที่จำเป็น เมื่อซื้อหาเสร็จก็เดินเข้าไปในร้านหนังสือเพื่อหาหนังสือไปอ่านเพลิน ๆสักเล่มสองเล่มเหมือนเคย แม้ไม่เหลืออะไร...หัวใจก็ยังเป็นสุข หนังสือเล่มนี้ทันทีที่ผมเห็นผมก็หยิบขึ้นมาและเดินไปจ่ายเงินโดยไม่เปิดอ่านเนื้อหาด้านในเลยแม้แต่น้อย วันนั้นผมได้หนังสือเล่มนี้มาเพียงเล่มเดียวเท่านั้น ทำไมผมไม่เปิดอ่านเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ ? ๑๖๐ หน้าในราคา ๙๙ บาท ซึ่งเป็นราคาที่ลดลงมาจากเดิม ๑๔๕ บาท คงไม่ใช่สาระสำคัญในการตัดสินใจครั้งนี้ ผมซื้อหนังสือเล่มนี้เพียงเพราะประโยคที่เป็นชื่อของหนังสือเล่มนี้..เท่านั้น หลายครั้งเรามักใช้ความคิดที่เกิดขึ้นภายหลังย้อนไประงับความคิดหรือความรู้สึกแรกเริ่ม ด้วยเหตุแห่งการชอบเปรียบเทียบโดยมุ่งเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด โดยมีมาตรฐานในการเปรียบเทียบที่ไม่เคยมีความคงเส้นคงวาเลยแม้แต่น้อย เรามักใช้ความรู้สึกแห่งความพึงพอใจเป็นที่ตั้งเสมอ ความดีงามและคุณค่าในด้านอื่นๆที่ควรจะก่อเกิดจึงถูกลดทอนลงโดยปริยาย เมื่อก่อนผมเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือเลย แต่มักที่จะเขียนบทความหรือความเรียงต่าง ๆออกมาจากความคิดและประสบการณ์ของตนเองเท่านั้น หลายครั้งที่ได้คำแนะนำให้พยายามอ่านหนังสือหรือบทความของคนอื่นเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความคิด ความรู้สึกของตนเติมเต็มให้รอบด้าน การเรียนรู้ความคิดของคนอื่นจึงถูกบรรจุลงในความคิดของผมและถ่ายทอดออกมาในอีกแง่มุมที่ผมตีความตามความคิดและความรู้สึกของตนเอง และผมก็เชื่อว่ามีหลายท่านเลยที่กำลังเรียนรู้ความคิดของผมเช่นกัน สุขอยู่ที่หยุดเป็น เป็นเรื่องแรกของหนังสือเล่มนี้ เนื้อหาที่เขียนนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก การใช้ชีวิตคู่ ปัญหามากรักหลายใจ และเหตุผลต่าง ๆนานารวมถึงหลักการประคับประคองชีวิตคู่ให้อยู่มั่นคง คำว่า หยุดเป็น ในเรื่องจึงหมายถึงการหยุดทุกสิ่งที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ชีวิตคู่ต้องจบลง ความสุขก็จะเกิดขึ้นตามมา สุขอยู่ที่หยุดเป็น ... สำหรับผมจึงไม่ได้มีความหมายเพียงแค่ในหนังสือกล่าว แต่กลับถูกตีความตามความคิดมากมาย หากเรา... หยุดเป็นทุกข์ เราก็สุข ทุกข์ในเรื่องใดอะไรก็ตาม หนึ่งในกระบวนการที่ทำให้ความทุกข์เวียนว่ายตายเกิดอยู่กับเราคือ ความคิด ดังนั้นเมื่อเราไม่คิดเราก็สุข ไม่ว่าเรากำลังเป็นอะไรก็ตามแล้ว การเป็นหรือการถือครองสถานะนั้นเรารู้สึกว่าเป็นทุกข์ เราก็หยุดเป็นหรือหยุดถือครองสถานะนั้นเสีย แม้หยุดเป็นแบบถาวรไม่ได้ก็ขอมีความสุขด้วยการหยุดเป็นแบบชั่วคราวก็ยังดี ...ปล่อยและวางตามเหตุปัจจัย อย่าเอาใจไปผูกเท้าใคร... ชื่อเรื่องนี้เมื่อได้อ่านเพียงชื่อเรื่อง ทำให้คิดถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า “อย่านำดวงใจไปให้ใครเหยียบเล่น” ของท่านชุติปัญโญ ที่ผมเคยนำมาแนะนำเมื่อนานมาแล้ว แต่เมื่ออ่านเนื้อหาด้านในแล้ว เนื้อหากลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เนื้อหาเรื่องนี้ในหนังสือเล่มนี้ เน้นในเรื่อง ความรัก การตีความตามสิ่งที่เห็นโดยปราศจากการใคร่ครวญไตร่ตรองอย่างแยบคาย หรือโยนิโสมนัสิการ นั้นอาจทำให้เราด่วนสรุปจนนำพาให้เราไม่สนใจใคร่รู้ในเรื่องนั้น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วอาจไม่ใช่อย่างที่เราคิดหรือจินตนาการตามทัศนคติเดิมที่มี นี่คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราเสียโอกาสในการชักนำทางปัญญาของเราให้สูงขึ้น ................................ สำหรับผมแล้ว.. หนังสือเล่มนี้มีดีตรง Wording หรือการใช้ถ้อยคำเป็นประโยคสั้น ๆในการสื่อสารเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ ทำให้ผู้ที่ไม่ชอบการอ่านมากมายอย่างผมได้เข้าใจในเนื้อหาสาระนั้น ๆได้ง่ายขึ้น ................................ แล้วคุณล่ะ... จะรอวันที่ไม่เหลืออะไรถึงคิดที่จะมีความสุข หรือ... เราจะมีความสุขทุกขณะที่มีลมหายใจ   Create Date : 30 พฤศจิกายน 2554 12 comments Last Update : 30 พฤศจิกายน 2554 10:47:40 น. Counter : 5342 Pageviews. Share Tweet

อวิชฺชา นิปตตํ วรา บรรดาสิ่งที่โรยราร่วงหาย อวิชชาหมดไปได้เป็นดีที่สุด มีความสุขกับวิชชาที่พบได้ด้วยตนเอง ตลอดไป...นะคะ ปอป้ามาส่งกำลังใจให้คุณเทียนฯ...นะคะ เกิดมา ไม่ว่าจะเป็นอะไร ล้วนจมอยู่ในกองทุกข์ทั้งสิ้น แม้แต่เวลาที่เราคิดว่าสุข แต่ภายในก็เจือไปด้วยความทุกข์เช่นกัน หนทางยังอีกยาวไกล สู้..สู้ ต่อไป...นะคะ   โดย: พรหมญาณี 30 พฤศจิกายน 2554 11:10:45 น.

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดีนะครับพี่ชาย แม้จะไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ก็ทำให้ "หัวใจเริ่มเป็นสุข" ขึ้นมาบ้างแล้วเลยครับ   โดย: Woodythailand (WoodyThailand ) 30 พฤศจิกายน 2554 11:19:20 น.

Yes! Right   โดย: deco_mom 30 พฤศจิกายน 2554 13:42:52 น.

ชอบค่ะเฮีย เด๋วไปหาอ่านมั่ง..   โดย: ในความอ่อนไหว 30 พฤศจิกายน 2554 15:18:07 น.

คนมีสติ ระงับทุกข์ง่าย จะมีสิ่งให้สติ ให้ได้ดับทุกข์เสมอ ยินดีกับเฮียด้วย แม้น้ำบ้านเฮียจะยังอีกพะเรอ อ่านข่าว แล้วมองไปตรงบ้านเฮียเสมอครับ   โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) 30 พฤศจิกายน 2554 18:46:42 น.

อรุณสวัสดิ์ครับเฮีย ไม่เห็นในร้านหนังสือเลยครับ แต่เป็นหนังสืออีกเล่มที่น่าอ่าน โหวตให้เฮียในสาขาหนังสือครับ   โดย: กะว่าก๋า 1 ธันวาคม 2554 6:12:30 น.

อรุณสวัสดิ์ครับเฮีย   โดย: กะว่าก๋า 2 ธันวาคม 2554 6:28:39 น.

สวัสดีค่ะเฮีย เพิ่งเคยเห็นรีวิวหนังสือที่บ้านนี้ค่ะ   โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 2 ธันวาคม 2554 9:35:06 น.

อรุณสวัสดิ์ครับเฮีย   โดย: กะว่าก๋า 3 ธันวาคม 2554 6:35:35 น.

วรมสฺสตรา ทนฺตา อาชานียา จ สินฺธวา กุญฺชรา จ มหานาคา อตฺตทนฺโต ตโต วรํ อัสดร อาชาไนย สินธพ กุญชร และช้างหลวง ฝึกแล้วล้วนดีเลิศ แต่คนที่ฝึกตนแล้ว ประเสริฐยิ่งกว่านั้น มีความสุขกับการฝึกตน ตลอดไป...นะคะ   โดย: พรหมญาณี 7 ธันวาคม 2554 13:06:47 น.

ทักทายวันสีเขียวค่ะ   โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 7 ธันวาคม 2554 16:26:39 น.

ทิโส ทิสํ ยนฺตํ กยิรา เวรี วา ปน เวรินํ มิจฺฉาปณิหิตํ จิตฺตํ ปาปิโย นํ ตโต กเร โจรกับโจร คนคู่เวรกัน พบกันเข้า พึงทำความพินาศ และความทุกข์ใดแก่กัน จิตที่ตั้งไว้ผิด ทำแก่คน เลวร้ายยิ่งกว่านั้น มีความสุขกับจิตที่สมบูรณ์ด้วยวิชชา ตลอดไป...นะคะ   โดย: พรหมญาณี 8 ธันวาคม 2554 9:42:15 น.