Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
14 เมษายน 2549
 
All Blogs
 

วุฒิการศึกษาแตกต่างกัน ไม่ใช่เครื่องตัดสินว่าใครดีใครเลว



วุฒิการศึกษาแตกต่างกัน ไม่ใช่เครื่องตัดสินว่าใครดีใครเลว!!


1.) รัฐบาลนายกฯ ทักษิณใช้หนี้ IMF "ก่อน" ระยะเวลาที่จะต้องชำระ ทำให้ประหยัดค่าดอกเบี้ยได้มาก และเป็นการให้กำลังใจคนในประเทศ เพื่อที่จะให้ประเทศได้เป็นอิสระจากการควบคุมของ IMF

2.) รัฐบาลนายกฯ ทักษิณ ช่วยคนจน "ให้โอกาส" คนที่อยากจะแสวงหาโอกาส คนที่เป็นหนี้มือถือและรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนใหญ่ เป็นพวกที่ไม่รู้จักพอ ต่อให้ไม่เป็นรัฐบาลนี้ คนก็เป็นหนี้อยู่แล้ว คนไทยไม่ได้กลัวการมีหนี้ กลัวแต่เวลาที่ต้องการกู้แล้วไม่มีใครจะปล่อยให้กู้ต่างหาก

3.) รัฐบาลนายกฯ ทักษิณปราบยาบ้า "ส่วนที่เหลือ" ของพ่อค้ายาบ้าบางคน ที่กฎหมายยังเอื้อมมือไปไม่ถึง เป็นเพราะมีหลักฐานไม่พอ

4.) ทักษิณขายสมบัติชาติ แล้วที่ประเทศไทยให้สัมปทานการขุดเจาะสำรวจแก๊สในอ่าวไทยนี้ เป็นการขายชาติหรือเปล่าครับ การขายสัญญาสัมปทาน และวงโคจรของดาวเทียมอย่างไรก็ยังเป็นของคนไทย เพียงแต่มีคนมาเช่าไปดำเนินการเท่านั้น และการแปรรูป กฟผ. ทุกคนกลัวกันมากจริง ๆ ว่าหากแปรรูป กฟผ. แล้วค่าไฟจะแพง อยากจะบอกว่า ถึงไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ค่าไฟก็ขึ้นอยู่ดี แปรรูปหรือไม่แปรรูป ค่าไฟก็แพง และการขายบริษัท AIS มันก็เรื่องของเขา สมบัติของเขา คนที่คัดค้านไปเกี่ยวอะไร มันเรื่องของเขา

5.) ข้อเรียกร้องของฝ่ายพันธมิตรและฝ่ายค้านไม่เอานายกฯ ทักษิณ นายกฯ ทักษิณก็ถอยให้แล้ว ด้วยการประกาศยุบสภา เพื่อให้ประชาชนก็ตัดสิน ประชาชนก็ยังเลือกนายกฯ ทักษิณ แม้คะแนนจะน้อยลงจากเลือกตั้งครั้งก่อน จากเดิม 19 ล้านเสียง ครั้งนี้ได้ 18 ล้านเสียง นี่ขนาดถูกด่าทั้งและถูกโจมตีจากสถานีโทรทัศน์ ASTV, วิทยุ, Website Manger Online และถูกด่า Online ในโต๊ะราชดำเนินทุกวันยังได้คะแนนเสียงขนาดนี้ แล้วหากถูกบิดเบือนละ คิดว่าน่าจะได้ซักเท่าไร

6.) ตามกติกานายกฯ ทักษิณ มีความชอบธรรม ที่จะเป็นผู้นำรัฐบาลต่อไป เพราะฝ่ายค้านไม่ลงเลือกตั้ง และตั้งใจที่จะชี้ให้เห็นว่า อำนาจที่นายกฯ ทักษิณได้จากการเลือกตั้ง เป็นโมฆะ ไม่ถูกต้อง ใช้การไม่ได้ สารพัดข้อหา และฝ่ายค้านก็ไม่ลงเลือกตั้งซ่อม และยังไม่เท่านั้น ยังมีขบวนการกีดกันคนอื่นที่จะไปลงเลือกซ่อมอีก

7.) 5 ปีที่ผ่านมา รายได้ต่อหัวของประชาชน ขึ้นมา 38 เปอร์เซ็นต์ จีดีพีประเทศ โตจาก 4.9 ล้านล้าน เป็น 7.1 ล้านล้าน โตขึ้น 2.2 ล้านล้าน ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ ก่อนรัฐบาลนายกฯ ทักษิณเข้ามามี 32,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ วันนี้ 53,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังใช้หนี้ ก่อนรัฐบาลนายกฯ ทักษิณเข้ามาประเทศมีหนี้อยู่ 79,000 ล้านบาท วันนี้หนี้เหลือ 51,000 ลด ก่อนรัฐบาลนายกฯ ทักษิณเข้ามาดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 297 จุด วันนี้เท่าไร?

8.) เลิกเสียที่เถอะคำพูดที่ว่าคนที่สนับสนุนม๊อบพันธมิตร มีแต่คนชั้นปัญญาชน คนที่มีความรู้ คนที่เข้าถึงข่าวสาร คนที่ดี คนที่เก่งต้องดู ASTV ส่วนคนที่สนับสนุบนายกฯ ทักษิณ เป็นคนที่มีการศึกษาน้อย ไม่เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และที่ จขบ. เจอมากับตัวเอง

"คุณ Sky ครับ คุณไปหากระโปรงนุ่งดีกว่าครับ เพราะคุณไม่มีความเป็นลูกผู้ชายอีกแล้ว ใครที่แสดงความเห็นไม่ตรงกับคุณ ๆ ก็ลบทิ้ง จะหาความเป็นธรรมได้จากที่ไหนเนี่ย ไอ้ลิ่วล้อหน้าเหลี่ยมเอ๊ย ไปตายเถอะ เที่ยวมาว่าคนอื่นเป็นหมา เป็นแมว กรุณาตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาหัวตัวเองมั่ง แล้วก็เอาให้นายหน้าเหลี่ยม นายของคุณดูด้วยก็จะดีมากๆ และหากคุณดีจริง เว๊บเค้าคงไม่ระงับคุณหรอก ไอ้ลิ่วล้อ เอ๊ย กว่าคุณจะแจ้งลบอีกเนี่ย คงมีหลายคนได้รู้ความเลวร้ายของคุณ จากข้อความผมหมดแล้ว"

"แน่จิงกระทู้ที่เชลียร์หน้าเหลี่ยม ไมคุณไม่ยอมลบอ่ะ ที่กะทู้ด่าหน้าเหลี่ยมเห็นกุลีกุจอลบจัง หากจะให้แสดงความเห็น ก็ต้องแฟร์ทั้ง 2 ฝ่ายสิครับ ไม่ใช่เห่าอยู่ข้างเดียว เวลาอีกฝ่ายเค้าว่ามั่งก็ลบทิ้ง อย่างนี้อย่าตั้งกะทู้ดีกว่า ก็ไปยอในเวบไทยรักไทยก็สิ้นเรื่อง"

"ดีมากๆ ครับที่ จขบ. เอ่ยมาตรงๆว่าเป็นพวกเชลียร์ทักษิณ แต่ผมมีความเชื่อว่าสิ่งที่คุณกล่าวเป็นความจริงล้านเปอร์เซนต์ ผมและคนรู้จักไม่เคยแม้แต่จะคิดเลือกพรรคไทยลักไทยเลยแม้แต่น้อย ใครต่อใครก็รู้ทันกันหมดแล้ว แม้กระทั่งคนรากหญ้า วันนี้พวกเค้าหูตาสว่างแล้ว จะเหลือก็แต่ จขบ. นี่ล่ะ ลิ่วล้อผู้ภักดีมิเสื่อมคลาย วันใดทักษิณต้องไปต่างประเทศถาวร ก็อย่าลืมตามไปรับใช้ล่ะ"

"คห XX คุณตาถั่วรึ ใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ย ที่บอกไม่มีใครเชลียร์ทักษิณ แล้ว คห XX เนี่ยเค้าเรียกว่าไร และโดยเฉพาะ จขบ เนี่ยแหละป่านนี้ลิ้นแห้งไปถึงไหนแล้ว"


ทำไมต้องแสดงอาการและคำพูดที่รังเกียจเดียดฉันท์ให้พบเห็นเสมอ บ้านเราเมืองเรา คนต่างประเทศต่างชมเชยกันว่า เป็นเมืองแห่งน้ำใจที่งดงาม ทำไมยังเต็มไปด้วยความรู้สึกดูถูกดูแคลน ต่อคนที่ด้อยกว่าในด้านฐานะ และวุฒิการศึกษา ทำไมเราไม่หันมาทำความเข้าใจ เพื่อให้ช่องว่างมันลดลง และประสานรอยร้าวระหว่างกัน


โอกาสที่เกิดมาไม่เท่าเทียมกัน ฐานะทางสังคมแตกต่างกัน วุฒิการศึกษาแตกต่างกัน ไม่ใช่เครื่องตัดสินว่าใครดีใครเลว ว่าใครที่ควรจะถูกลดค่าความเป็นคน

......................................................................








จขบ. เชื่อว่าหาก นายกฯ ทักษิณ บริหารประเทศต่อไป
ประเทศไทยมีโอกาสที่จะไล่ทันประเทศเกาหลี ไต้หวัน และสิงค์โปร์
แน่นอนครับ









 

Create Date : 14 เมษายน 2549
29 comments
Last Update : 29 กันยายน 2549 6:56:18 น.
Counter : 877 Pageviews.

 

....คนที่ด่าคนอื่นว่า...เป็นคนไม่ดี...แล้วตัวเองดีอย่างไร?...ชีวิตนี้ไม่เคยทำผิดเลยหรือ...ไม่เคยเอาเปรียบประเทศไทยซักครั้งจริงหรือ?...ทั้งพรรค ปชป-ทั้งกลุ่มพันธมิตร-ทั้งพวกหนังสือพิมพ์-ทั้งนักวิชาการ...เอวัง...

 

โดย: ศิลาแลง IP: 58.147.123.88 14 เมษายน 2549 11:56:38 น.  

 

ระบอบอภิมาร์คสิทธิ์......มีแนวทางสร้างความเท่าเทียมกันในหมู่พวกพ้อง พวกตน
เห็นคนจนเป็นผักปลา นโยบายต่างเขียงและปังตอ
ดีแต่โยนเรื่องเสื่อมเสียให้คนอื่น ทุกวันนี้ฮั๊วกับสื่อบางกลุ่ม
ร่วมมือกันทำลายล้างประเทศไทย....!!!


ช่วยกันหยุดระบอบอภิมาร์คสิทธิ์และสื่อเลวฯกันเถอะครับ....ก่อนจะสายเกินไป

 

โดย: ลี้ถ้ำฮวย IP: 203.152.33.48 14 เมษายน 2549 15:07:48 น.  

 

จขกท คำพูดที่คุณไปหยิบมาโค๊ดนั้น เป็นของผมทั้งหมด ก็สิ่งที่ผมพูดมันเป็นความจริงนี่ ที่จริงอยากจะตอบโต้หัวข้อคุณแต่มันยาวขี้เกียจพิมพ์ สั้นๆล่ะกัน
1 คุณโกหกหน้าด้านๆ ไม่อายปากเลยนะ หนี้ IMF น่ะรัฐบาลชวน เค้าเลิกกู้ก่อนกำหนด เงินงวดสุดท้ายก็ไม่ได้เบิก และปลายรัฐบาลก็เริ่มจ่ายคืนแล้วด้วย
2 คนเป็นหนี้ส่วนใหญ่ก็เอาเงินมาจากกองทุนหมู่บ้านนะแหละไปซื้อ หามาคืนไม่ได้ก็ไปยืมนอกระบบมาจ่าย แล้วก็กู้ใหม่ เงินกองทุนน่ะเงินภาษีผมนะครับ ไมใช่เงินส่วนตัวของหน้าเหลี่ยม
3 อ้างว่าปราบยาบ้า ไม่รู้ปราบท่าไหนยิ่งปราบยิ่งเยอะ แล้วที่อ้างว่าที่เหลือไม่มีหลักฐานน่ะ จิงเหรอ รึว่าที่เหลื่อน่ะ พวกตัวเองทั้งนั้น
4 เอาอีกแล้วมาหลอกชาวบ้านอีกแล้ว เรื่องก๊าซน่ะใครก็รู้ ว่าเราไม่เคยทำมาก่อน และเดิมทีตอนนี้นก็ไม่มีเงิน เรื่องนี้เกิดตั้งแต่สมัยคุณเปรม เป็นนายก ส่วนเรือง กฟผ น่ะเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว และทำกำไรมากด้วย ดันทะลิ่งเอาไปขาย วงโคจรดาวเทียมเป็นสมบัติของชาติอย่างแท้จริง แล้วเหตุใดนำไปให้ชาติอื่นได้รับผลประโยชน์ จิงอยู๋หมดสัมปทานแล้วตกเป็นของไทย แต่แล้วทำไมต้องให้ต่างชาติเอาประโยชน์ไปด้วย อย่าลืมว่าดามเทียมนี้ในหลวงเป็นคนพระราชทานชื่อนะ ส่วนบ. ais ก็เหมือนกัน เอาสัปทานของชาติไปขาย สัปทานหมายถึงเป็นสมบัติของรัฐ ที่ให้ไปใช้ประโยชน์ในห้วงเวลานึง เป็นสมบัติของส่วนรวม เค้าไม่ได้ให้เอาไปขายเพื่อสมประโยชน์ให้ต่างชาตินะครับ
5 โกหกเบี่ยงเบนประเด็นอีกแล้ว เค้าเรียกร้องให้หน้าเหลี่ยมลาออก แต่ดันทะลึ่งยุบสภา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวไรกะสภาเลย พาลให้เสียเงินฟรีกว่า2200 ล้าน จนป่านนี้ต้องเสียอีกเท่าไรไม่รู้ แล้วคราวนี้ได้มา16ล้านเสียงไม่ใช่18 ล้านอย่างที่โกหก คนไม่เอาหน้าเหลี่ยมโดยการโนโหวต ทำบัตรเสียรวมกันเกือบ 12 ล้านเสียง นี่ขนาดมันคุมสื้อทุกช่อง ออกวิทยุทุกวันเสาร์ คุยอยู่ข้างเดียว ยังได้แค่นี้ ใช้เล่ห์เหลี่ยมสารพัดวิชามาร
6 อยากจะสอนจขกท ซะหน่อย อันว่าประชาธิปไตยนั้น ผู้นำต้องมาจากความชอบธรรม 2 อย่างประกอบกัน ทักษิณน่ะ ไม่มีใครเถียงหรอก ว่าชอบธรรมโดยกฎหมาย แต่ที่มีปัญหาคือความชอบธรรมทางการเมืองต่างหาก เพราะขาดคุณธรรม จริธรรมอย่างร้ายแรง จำได้ด้วย
7 คุณทำไมไม่บอกล่ะครับ ว่าวันนี้หนี้สินต่อครัวเรือนเพิ่มเท่าไร หนี้ต่างประเเทศเฉลี่ยต่อคนเพิ่มเท่าไรนับแต่หน้าเหลี่ยมเป็นนายกเนี่ย ถ้าจะบอกก็บอกให้หมดสิครับ
8 ก็ไม่ถึงขนาดว่าคนมีการศึกษาเท่านั้น ถึงจะรู้ความไม่ดีของทักษิณ เพียงแต่คนที่ห่างไกลอาจจะขาดโอกาสในการรับรู้ข่าวสารที่ถูกต้อง ขอบคุณมากทึ่เอาบทความทั้งหมดของผมมาลง ขอยำว่าผมไม่เคยดูถูกคนที่การศึกษาน้อยเลยสักนิด และไม่เคยยกย่องคนเรียนสูง คนมีเงินเลย
เพราะคนมีการศึกษาบางคน เป็นถึงดอกเตอร์ มีเงินเป็นหมืนล้าน มันยังขายชาติได้เลย มันยังเอาเงินหว่านลิ่วล้อได้อย่างไม่อั้น อย่างที่เห็นนี่ล่ะ

 

โดย: สู้คนซึ่งหน้า IP: 203.107.204.218 14 เมษายน 2549 16:36:56 น.  

 

มาบอกว่าอ่านแล้ว แต่กำลังหาข้อมูลมาตอบครับ เพราะเรื่องบ้างอย่าง ต้องค้นคว้า จึงจะตอบได้

ส่วนการกล่าวหาว่าผมเป็นลิ้วล้อ จริง ๆ ผมเป็นแค่ลูกหาบครับ ยังไม่ถึงขั้นลิ้วล้อ หรือวอร์รูม ตรงนี้ผิดอยู่เล็กน้อยครับ

แต่ขอตอบเป็นน้ำจิ๋มก่อน

"คราวนี้ได้มา 16 ล้านเสียงไม่ใช่ 18 ล้านอย่างที่โกหก คนไม่เอาหน้าเหลี่ยมโดยการโนโหวต ทำบัตรเสียรวมกันเกือบ 12 ล้านเสียง"

(คะแนนเสียงของไทยรักไทย ได้ประมาณ 18 ล้านเสียง No Vote มีคนลงคะแนนประมาณ 9 ล้านเศษ ข้อมูลนี้คุณผิดครับ)

" ส่วนบ. ais ก็เหมือนกัน เอาสัปทานของชาติไปขาย สัปทานหมายถึงเป็นสมบัติของรัฐ ที่ให้ไปใช้ประโยชน์ในห้วงเวลานึง เป็นสมบัติของส่วนรวม เค้าไม่ได้ให้เอาไปขายเพื่อสมประโยชน์ให้ต่างชาตินะครับ"

(บริษัท AIS นายกฯ ได้สัมประทานแล้วขายสัมประทานบริษัท AIS ไม่ผิดครับ เพราะบริษัท AIS ไม่ใช่สมบัติของชาติ แล้วที่ DTAC ก็ข่ายหุ้นไปล่ะ DTAC นั้นล่ะเป็นการขายชาติด้วยหรือเปล่าครับ)

คุณสู้คนซึ่งหน้า อย่าพยายามดู ASTV มากนะครับ เขาพูดความจริงไม่หมด ล้างสมองให้คนเกลียดนายกฯ ครับ การดูสื่อควรดูอย่างมีวิจารญญาณ และโปรดใช้สติปัญญา วิเคราะห์ข้อมูล ด้วยครับ อย่าดูสื่อไปแล้วเชื่อทุกอย่างที่สื่อส่งสารมา

และอีกประเด็น จขบ. ไม่เคยถูกระงับใช้งาน Login ครับ เล่นมา 10 ปี ไม่เคยถูกระงับครับ แค่คุณสู้คนซึ่งหน้า สงสัยเป็นบุคคลที่ไม่ชอบทำตามกฎและทำตามระเบียบหรือเปล่าครับ จึงถูก Pantip.com ระงับการใช้งานอมยิ้ม อย่างไรก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ

ด้วยความเคารพ

 

โดย: Sky 14 เมษายน 2549 18:30:52 น.  

 

โต้ข้อกล่าวหาทักษิณ ล้วนใส่ไคล้ไร้เหตุผล
โต้ข้อกล่าวหาทักษิณ ล้วนใส่ไคล้ไร้เหตุผล

ทักษิโณมิกส์ : ภาคอวสาน ซุกหุ้น และขายชาติ (1)
โดย ยุค ศรีอาริยะ 28 กุมภาพันธ์ 2549 19:47 น.
//www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000027839

ภาคอวสานของ "ระบอบทักษิณ" ปรากฏขึ้นเร็วอย่างเกินคาด หลังกรณีการขายหุ้นชินคอร์ปด้วยเงินจำนวนเจ็ดหมื่นกว่าล้านบาท
----- แต่สนธิหาเรื่องมามากมาย ก็โค่นไม่ได้ บ่อนทำลายทักษิณมาโดยตลอด
----- แสดงว่านัยหนึ่งหาช่องล้มมาตลอด ตอนนี้ไม่ต้องอ้างข้ออ้างเก่า ๆ แล้วใช่ไหม จะเล่นเรื่องนี้เรื่องเดียวเลยใช่ไหม


สำหรับคุณทักษิณ "เรื่องนี้" คือเรื่องเล็กๆ มากๆ และถูกกฎหมาย ไม่น่าก่อสถานการณ์ที่รุนแรงใหญ่โตขึ้นได้
---- ตกลงทุกคนก็เห็นว่าถูกกฎหมายนะ
---- เอาเป็นว่าถูกกฏหมายก็ไม่พอสำหรับทักษิณ ต้อง double standard ให้ได้ใช่ไหม
---- พอถูกกฎหมายก็หาเรื่องจริยธรรม แล้วทีเขาจะบริจาคนับพัน ๆ ล้านล่ะ ไม่คิดหรือ ลืมแล้วหรือ


แต่เรื่องนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่นักวิชาการเกือบทั่วประเทศ
---- ไม่จริง นับดูซี่มีอยู่ไม่กี่ตัว
---- กล้าให้อาจารย์ทั่วทุกมหาลัยแสดงประชามติไหม
---- รับความจริงเถอะที่ออกมาล่ารายชื่อได้นิดเดียว แต่ละแห่งมีนิดเดียว แต่พยายามตีข่าวว่ามีมากมาย


ออกมาเรียกร้องให้คุณทักษิณพิจารณาตัวเอง และมีส่วนผลักให้ขบวนการเคลื่อนไหวของคุณสนธิขยายตัวเติบใหญ่ ก่อเกิดกระแสต้านจากทุกกลุ่มชน แพร่ระบาด กระจายไปทั่วประเทศ
---- ไม่ได้แพร่ระบาดนะ แต่สร้างภาพ บางแห่งมีคนชุมนุมเป็นร้อยเท่านั้น ก็มาบอก
---- บอกจังหวัดนั้นนี้ ทีละหย่อม ทำไมไม่กล้ารับการเลือกตั้งล่ะ
---- ถ้ามีการแสดงประชามติ ผมเชื่อว่ายังไง ทักษิณ ก็ชนะ อย่าตัดสินแทนประชาชนเลยครับ

2 วันก่อน ผมไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปที่ตลาดตอนเช้า แม่ค้าคนหนึ่งกล่าวว่า ... อีกคนเสริมว่า "วันนี้ พวกเรามีแต่จนกับจน ไม่มียุคไหน สมัยไหน ประชาชนไทยถูกรีดภาษีหนักเท่ากับยุคนี้" .... คนถัดไปพูดต่อว่า .... อีกคนหนึ่งบ่นอุบ....
----- คุณเป็นนักวิชาการอะไร ไปฟังคนสี่คนมาเขียนเป็นตุเป็นตะ
----- คิดอย่างเป็นธรรม ถ้าถามแม่ค้าทั้งตลาด คุณไม่เชื่อจริง ๆ หรือว่า ส่วนใหญ่เอาทักษิณ
----- คุณคิดแทนพวกเขาให้ได้ว่า ทักษิณเลว คนเชื่อทักษิณ เพราะไม่รู้ คุณคิดแทนประชาชนทุกทีเลย


สมัยที่ผมเป็นเด็ก พ่อแม่สอนผมว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ผมท่องจนขึ้นใจ แต่จริงๆ แล้ว ผมไม่แน่ใจนักว่าจริงหรือไม่ เพราะผมตอบไม่ได้ว่าทำไมคนเลวๆ จึงร่ำรวยเอา ร่ำรวยเอา
------- อย่าลืมว่า 76,000 ล้านคือหุ้นที่เขามีอยู่ก่อนเป็นนายกฯ นะครับ
------ ไม่ได้ปล้นใครมาเลย อย่ามั่วตีขลุมซี่ครับ


ผมมาเริ่มตั้งคำถามกับพรรคไทยรักไทย เมื่อได้ข่าวว่ามีคนดีๆ จำนวนหนึ่ง อย่างเช่น ท่านอาจารย์หมอเกษม อาจารย์ปุระชัย....ได้ตีตัวออกจากพรรคไทยรักไทย
---- อย่าให้พูดเลยครับ
---- หมอเษม ผมไม่กล้าแตะเพราะเป็นองคมนตรี
---- แต่ปุระชัย ใคร ๆ ก็รู้ว่า หมอนี่เป็นไง
---- คำว่า "คนดีไม่เคยเสื่อม" คนรู้จริงฟังแล้วอยากอ๊วก คุณไม่รู้จริง ๆ หรือ


"พี่ครับ เขา (คงหมายถึงคุณทักษิณ)ไม่ได้คิดถึงคนจนจริงๆ หรอก เขาเพียงหลอกพวกเราไปช่วยเขาสร้างภาพเท่านั้น ความจริงแล้วเขาทำทุกอย่างเพื่อธุรกิจ และตลาดหุ้น"
---- คุณกล่าวหาลอย ๆ ด้วยข่าวลือนี่ล่ะนะ
---- ความเป็นธรรมในหัวใจคุณหายไปไหนหมด


เริ่มจากการออก พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต เปลี่ยนการจ่ายค่าต๋งสัมปทานกิจการโทรศัพท์มือ ผลักภาระภาษีให้แก่ผู้บริโภค ทำให้บริษัท เอไอเอส ของตระกูลชินวัตร ประหยัดค่าสัมปทานไปกว่า 1 หมื่นล้านบาท
----- ถ้ามันเป็นอย่างนั้น ก็คงมีคนค้านไปนานแล้ว
----- แต่นี่เพิ่งมาผูกปมทุกอย่างให้ดูเป็นจริงไปหมด


หลังจากนั้น BOI ได้ให้สิทธิพิเศษย้อนหลังภาษีแก่บริษัทชินแซทเทลไลท์ ในการลงทุนดาวเทียมโดยไม่ต้องจ่ายภาษี เป็นเวลา 8 ปี ทำให้รัฐสูญเงินไป 1.6 ล้านบาท
---- นี่ก็เหมือนกัน ถ้าเป็นอย่างนั้น ไม่มีใครไปฟ้องศาลเลยหรือ
---- ทำไมเอามือซุกหีบ เพราะไม่เป็นความจริงไง
---- อย่ามามั่วซี่ครับ


ตามด้วย การลดค่าสัมปทานสถานีโทรทัศน์ ไอทีวี จากประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท เหลือจ่ายเพียง 3 พันล้านบาท
--- ถ้าจริง คุณปล่อยให้ "คนชั่ว" ลอยนวลได้ไง
--- ไม่ทำอะไรกันเลย ศาลก็ไม่ไปฟ้อง
--- อย่าพูดเป็นตุเป็นตะ แล้วเอามารวม ๆ กันเป็นกระแสสกปรกซี่ครับ


สิทธิพิเศษเหล่านี้ถูกกฎหมาย แต่ผิดศีลธรรม
---- อ้าว ทำไมสรุปแบบหมาป่ากับลูกแกะอย่างนั้นเล่า
---- ตกลง คิดแทนชาวบ้าน เออออห่อหมกกันเอาเอง
---- แบบว่า ยังไงทักษิณ ก็ชั่ว... ว่างั้น


และในเวลาเดียวกัน สิทธิพิเศษเหล่านี้ได้ทำให้ราคาหุ้นบริษัทชินคอร์ป พุ่งขึ้นทุกวัน นำกำไรมหาศาลมาสู่ตระกูลชินวัตร และดามาพงศ์ (กำไรสุทธิในระหว่างปี 2541 ถึง 2547 รวมกันเป็นเงินถึง 111,877 ล้านบาท)
---- อ้าวแล้วขายหมด ทำไมได้แค่ 76,000 ล้าน
--- มั่วตัวเลขนี่ครับ นี่แหละหนา พูดไปพูดมา ลิ้นพันคอตัวเอง


1. ทุจริตลำไยที่ภาคเหนือ จนกลายเป็นข่าวใหญ่ และปิดไม่อยู่ แต่คนที่ต้องรับผิดกลายเป็นเพียงข้าราชการ ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่มีนักการเมืองเกี่ยวข้องเลย
------ แกจับไม่ได้ แต่ยัดเยียดข้อหาคนอื่นได้
------ มองอย่างเป็นกลาง แกคิดแต่จะทำลายทักษิณมากกว่า


2. โครงการประมูลต้นกล้ายางพารา 90 ล้านต้น มูลค่า 1.4 พันล้านบาท เรื่องนี้เกี่ยวพันกับบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี
----- ทำไมที่ผ่านมาไม่มีการเคลื่อนไหว ทำไมไม่ไปฟ้องศาล
----- ทำไมกล่าวหาลอย ๆ อย่างนี้
----- อย่างกรณี ปชป. โกงใน กทม. นี่เห็นชัด
----- แต่ที่ยกมา ในกรณี ทรท. ล้วนเป็นการป้ายสีแบบตีขลุมทั้งนั้นเลย


3. เรื่องการจัดซื้อ และจัดจ้างเครื่องตรวจจับระเบิด CTX 9000 มูลค่า 4.3 พันล้านบาท ซึ่งได้กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวมาก
---- ตกลงพิสูจน์ไม่ได้นะครับว่ามีการโกง
---- ฝ่ายค้านสุดมั่วใครก็รู้ เคยสรุปกันที่ไหนว่า รัฐบาลโกง เคยพิสูจน์แล้วหรือ


4. โครงการสัมปทานคลังสินค้า ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งใช้งบไปถึง 8 หมื่นล้านบาท นับว่ามากจนผิดปรกติอย่างชัดเจน
---- นี่ก็เหมือนกัน ทึกทักไปหมด หาเรื่องไปหมด
---- ถ้ามีการโกงจริง ไม่ใช่ปาหี่ที่พวกแกหาเรื่องให้เป็นกระแส ป่านนี้คงเกาะไม่ปล่อย แต่นี้โคมลอยนี่นา


5. โครงการประกวดราคาไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มูลค่า 4 พันล้านบาท ที่ส่อเค้าว่ามีการฮั้วประมูล....ฯลฯ และยังมีอีกหลายเรื่อง
----- "ส่อ" แสดงว่า ไม่มีมูล ใช่ไหม
----- จนแล้วจนรอดก็ได้แต่มั่ว นี่ขนาดสาธยายมาอย่างนี้ยังหาน้ำหนักไม่เจอเลย


นี่แหละครับท่านผู้ชม พวกที่ต้านทักษิณ ล้วนแต่
1. อาศัยข้อมูลมั่ว ๆ
2. อาศัยข่าวลือ
3. อาศัยการเต้าข่าว โดยเฉพาะ ผู้จัดการ พยายามใช้คำว่า "แหล่งข่าว" แต่ความจริงเขียนเองทั้งเพ

แล้วอย่างนี้จะไปเชื่อพวกต้านทักษิณได้ไง

แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 49 01:37:24

จากคุณ : โรดัก - [ 3 มี.ค. 49 01:29:01 ]

 

โดย: Sky 15 เมษายน 2549 1:02:59 น.  

 

เห็นด้วยกับคนที่ 18 นะ ว่าอุปนิสัยในการใช้จ่ายไม่เกี่ยวกับนโยบายของคุณทักษิณเลย

เคยอยู่ในแวดวง ข้าราชการครู-อาจารย์มาก่อนนะ ว่าส่วนใหญ่จะเป็นหนี้กัน ไม่ว่าจะเป็นผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ เราเข้าไปปีแรกทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยสนิทกัน ก็จะมีคนจ้องให้ค้ำประกันแล้ว

ชวนกันตั้งวงแชร์ กู้เงินทั้งในและนอกระบบ

ใครไม่เป็นหนี้เหมือนกับเชยเลย(โดนเพื่อนแซว) เราเองก็ถูกยืมเงินนะ ก็ปฏิเสธมั่งไม่ปฏิเสธมั่ง ได้เงินคืนไม่ได้คืนครบมั้ง เราไม่มีหนี้ทั้งในและนอกระบบนะ

พ่อแม่เราเองอยู่ในหมู่บ้านไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลย แต่ท่านรู้จักใช้เงิน ท่านเลยไม่เป็นหนี้ทั้งในและนอกระบบ และคิดว่าหลาย ๆ คนก็บริหารเงินเป็น และไม่ได้เกี่ยวกับการศึกษาเลย

จากคุณ : หลานย่าจริงใจ (คนบบโนน)

 

โดย: Sky 15 เมษายน 2549 1:04:21 น.  

 

1. ประเด็นภาษีการขายหุ้นชินคอร์ปฯ

1.1. (หากขายหุ้น 49% ตั้งแต่ปี42) คุณทักษิณและภรรยามีหุ้นชินคอร์ปฯ 49% (จากที่ตั้งบริษัทเองเมื่อ 22 ปีก่อน และเข้าตลาดหุ้นเมื่อ 15 ปีก่อน) หุ้นจำนวนนี้หากขายในตลาดหุ้น ไม่ว่าให้ลูกและลูกขายต่อให้ใคร ในฐานะนักลงทุนบุคคลในตลาดหุ้นไม่มีภาษีจากการขายหุ้น เป็นสิทธิ์พื้นฐานของคุณทักษิณและครอบครัว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรซับซ้อนเพื่อลดหรือเลี่ยงภาษี (เช่นกรณีแอมเพิลริช) เพราะไม่มีภาษีให้ลดหรือเลี่ยง

· ที่คุณทักษิณทำเรื่องบริษัทแอมเพิลริชในปี 42 เพราะจะเอาหุ้นชินคอร์ปฯ 11% เข้าขายในตลาดหุ้นสหรัฐ (ดูหน้าข้อมูลประกอบ) ตอนหลังตลาดหุ้นสหรัฐตกมาก เลยหยุดแผน แต่หุ้นส่วนนี้ก็อยู่ที่แอมเพิลริชไปเรื่อยๆ

1.2. (โอนไป หุ้น11%) คุณทักษิณโอนหุ้นชินคอร์ปฯ 11% ที่เดิมถือเองอยู่ในฐานะบุคคล ให้ถือโดยบริษัทแอมเพิลริชที่คุณทักษิณเป็นเจ้าของ ไม่มีรายได้เพิ่มให้ใช้คำนวณภาษี เพราะเป็นเจ้าของคนเดียวกัน เท่าสิทธิ์พื้นฐานเดิมข้อ 1.1

· (ยกหุ้น49% ให้ลูก) ปลายปี 43 คุณทักษิณและภรรยา ขายโอนชินคอร์ปฯให้ลูกที่ต้นทุน ก่อนจะเป็นนายกฯ เพื่อให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ: เป็นหุ้นชินคอร์ปฯส่วน 38% (ที่ถือในฐานะบุคคล) และเป็นตัวบริษัทแอมเพิลริช (ที่ถือหุ้นชินคอร์ปฯส่วน 11%)

1.3. (โอนกลับ หุ้น11%) ต้นปี 49 พาน/พิณ ในฐานะเจ้าของบริษัทแอมเพิลริช โอนหุ้นชินคอร์ปฯ 11% ที่บริษัทแอมเพิลริชถืออยู่ มาถือเองตรงในฐานะบุคคล การโอนกลับก็เทียบเท่ากับตอนแรกที่ได้โอนไป คือ ไม่มีรายได้เพิ่มให้ใช้คำนวณภาษี เพราะเป็นเจ้าของคนเดียวกัน เท่าสิทธิ์พื้นฐานเดิมในข้อ 1.1

· โอนกลับ 11% จากแอมเพิลริช (มาถือในฐานะบุคคล) เพื่อมารวมกับส่วน 38% (ที่ถือในฐานะบุคคลมาตลอด) เท่าจำนวนหุ้นเดิม 49%

1.4. (ขายหุ้น 49% ปี 49) ต้นปี 49 พาน/พิณ จึงขายหุ้นทั้ง 49% ในตลาดหุ้นในฐานะบุคคลธรรมดา ไม่มีภาษี เท่าสิทธิ์พื้นฐานเดิมตามข้อ 1.1

· ปรากฏว่า ถูกกล่าวหาว่าเลี่ยงภาษีส่วนแอมเพิลริช 11% ตอนโอนกลับ และหากถูกกฏหมายก็หาว่าผิดจริยธรรม

1.5. ข้อกล่าวหาแบบที่ (1) ว่า การที่พาน/พิณได้หุ้นชินคอร์ปฯจากแอมเพิลริชที่ราคา 1 บาท แล้วตอนขายได้ 49 บาท พาน/พิณ มีรายได้เพิ่มให้ใช้คำนวณภาษีได้ 48 บาท และต้องจ่ายภาษีในวันที่ “ขาย”

1.6. ข้อกล่าวหาแบบที่ (2) คล้ายกรณีบริษัทออกหุ้นราคาถูกพิเศษขายจูงใจให้พนักงาน (สต็อกออปชั่น หรือ ESOP ที่พนักงานสามารถซื้อหุ้นใหม่นี้ได้ที่ราคาต่ำกว่าราคาหุ้นบริษัทที่ซื้อขายอยู่ในตลาดในวันนั้นๆ จงใจให้พนักงานมีกำไรจากการขายหุ้น อันเป็นวิธีหนึ่งในการจ่ายรายได้เพิ่มให้พนักงาน)

· ว่า การที่พาน/พิณได้หุ้นชินคอร์ปฯจากแอมเพิลริชที่ราคา 1 บาท ในวันที่หุ้นชินคอร์ปฯในตลาดหุ้นราคา 42 บาท เสมือนว่าพาน/พิณ มีรายได้เพิ่มให้ใช้คำนวณภาษีได้ 41 บาท และต้องจ่ายภาษีในวันที่ “ซื้อ” เลย(ภายหลังขายในตลาดหุ้นที่ 49 บาทไม่มีภาษีแล้วเพราะได้เป็นเจ้าของหุ้นนั้นแล้ว)

1.7. ข้อกล่าวหาทั้งสองลักษณะ เป็นการตีความคนละหลักการ

· พาน/พิณเป็นเจ้าของแอมเพิลริช เป็นเจ้าของหุ้นชินคอร์ปฯ 11% นี้อยู่แล้ว เป็นบุคคลเดียวกันดังที่รายงานตลาดหุ้นมาตลอด ดังนั้น การที่พาน/พิณได้หุ้นชินคอร์ปฯ 11% ที่แอมเพิลริชถืออยู่กลับมาถือเองโดยตรงในราคาพาร์ต้นทุน ไม่ทำให้พาน/พิณมีรายได้เพิ่มให้ใช้คำนวณภาษีได้ เพราะเป็นหุ้นเดิมของตนแต่เดิม

· เป็นคนละกรณีกับ นายจ้างจ่ายผลตอบแทนลูกจ้างด้วยการออกหุ้นใหม่ขายให้ในราคาพิเศษ (หรือ บางข้อกล่าวหาว่าเหมือนการให้รางวัลจับสลาก หรือ การขายตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีส่วนลดหน้าตั๋ว) ล้วนเป็นการจ่ายให้ผู้รับมีรายได้เพิ่มให้ใช้คำนวณภาษีได้ แต่กรณีพาน/พิณไม่มีรายได้เพิ่ม เพราะเป็นหุ้นเดิมของตนแต่เดิม

· จึงดูเพียงครึ่งทางตอนขาโอนกลับอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูทั้งวงจร คือเจ้าของเดิมโอนไปครั้งแรกและโอนกลับครั้งหลัง ระหว่างตนเองกับบริษัทที่ตนเป็นเจ้าของ (แอมเพิลริช) ไม่เป็นการมีรายได้เพิ่ม มิเช่นนั้น ก็ควรต้องออกกฏหมายให้ชัดๆว่าการโอนโดยเจ้าของเดียวกันต้องเสียภาษี

1.8. ประเด็นนี้ พาน/พิณหารือกับสรรพากรตั้งแต่กลางปีที่แล้ว สรรพากรก็ยืนยันว่าเรื่องนี้ถูกต้อง แต่ก็ไม่ฟังกัน กล่าวหาว่าลูกนายกฯเลี่ยงภาษี นายกฯไม่มีจริยธรรม สรรพากรผิดจรรยาบรรณตีความเข้าข้างรับใช้นายกฯ

· ข้อกล่าวหาโดยนักกฏหมายยังมีการตีความไปหลายแบบ (ที่ไม่ใช่ประเด็นถูกต้อง) ว่ามีเข้าข่ายต้องเสียภาษีในหลายกรณีที่แตกต่างกันมาก เพื่อยัดเยียดว่าต้องผิดจริยธรรมแน่นอน (การถูกผิดกฏหมายควรเป็นกรณีชัดเจนเพียงอันใดอันหนึ่ง)

· หากแคลงใจในแง่กฏหมายว่าลูกนายกฯเลี่ยงภาษี โดยการตีความไปต่างๆนาๆ ก็ควรให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ไม่ใช่แค่เอาเป็นประเด็นโจมตีทางการเมืองไปที่นายกฯ สรรพากร และ กลต

1.9. เป็นสิทธิ์ของประชาชนตามกฏหมาย ที่มีหน้าที่เสียภาษีเท่าที่จำเป็น หากเสียภาษีเกิน ก็เรียกคืนจากสรรพากรได้ ตามที่ทุกคนยื่นแบบภาษีกันทุกปี

· ข้อกล่าวหานี้ เปรียบไปคล้ายกับว่า ถนนข้างล่างว่าง ขับได้เร็วอยู่แล้ว คนขับมีสิทธิ์อยู่แล้ว แต่ไปบอกว่าหากไม่ขึ้นทางด่วนเสียเงินค่าทางด่วน ถือว่าคนขับหลีกเลี่ยง

1.10. ตลาดหลักทรัพย์ตั้งใจยกเว้นภาษีกำไรให้บุคคลธรรมดาที่ซื้อขายหุ้นในตลาด เพราะไม่งั้นเสียเปรียบบริษัทนิติบุคคลที่สามารถทำงบกำไรขาดทุนได้

· บริษัทนิติบุคคลสามารถนำการขาดทุน การเสียภาษีเงินปันผล การเสียภาษีกำไรขายหุ้น ไปหักลบในงบกำไรขาดทุน ทำให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลน้อยลง

· บุคคลธรรมดาทำงบไม่ได้ หากขาดทุน หรือเสียภาษี ก็หักลบอย่างอื่นไม่ได้เลย ตลาดหลักทรัพย์จึงต้องส่งเสริมเช่นนี้ มิเช่นนั้น นักลงทุน 500,000 คนต้องไปตั้งบริษัทกันหมด วุ่นวายต้องทำบัญชี สอบบัญชี

1.11. ทั้งตัวคุณทักษิณ ครอบครัว บริษัท และพนักงานกว่า12,000 คน เสียภาษีให้รัฐทุกรูปแบบ ทั้งเงินได้จากเงินปันผล เงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล รวมถึงค่าสัมปทานต่างๆ ทั้งมือถือ ดาวเทียม ฯลฯ ปีละหลายหมื่นล้านบาท สิบกว่าปีนี้หลายแสนล้านบาท เป็นผู้จ่ายภาษีรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศไทย ร่วม 5% ของยอดจัดเก็บของสรรพกร ทำขนาดนี้ ทั้งผู้ก่อตั้งและตัวบริษัทเอง เป็นผู้เสียภาษีที่รักชาติไม่น้อยกว่าใครที่มาโจมตี (หลายปีก่อนตอนยังทำธุรกิจ คุณทักษิณเคยเป็นบุคคลที่เสียภาษีสูงสุดของไทยปีละหลายร้อนล้านบาทหลายปี)

1.12. กลุ่มบริษัทชินคอร์ปฯ ได้ชื่อว่า เป็นบริษัทดีเด่นของไทย มูลค่าทางตลาดรวมในตลาดหลักทรัพย์ (Market Capitalization) กว่า 350,000 ล้านบาท เท่ากับ 7% ของทั้งตลาดหุ้นไทย เป็นหนึ่งในสามบริษัทไทยที่ติด 500 อันดับแรกของบริษัทใหญ่ที่สุดในโลกจัดโดยฟอร์จูน (อีกสองบริษัทคือปูนซีเมนต์ไทยและปตท) ได้รับรางวัลจากตลาดหลักทรัพย์ไทยและสถาบันการเงินระหว่างประเทศจำนวนมาก ในความดีเด่นในแง่ผู้บริหาร การจัดการ ธรรมธิบาล การรายงานการเงิน ความเชื่อถือทางการเงิน (เครดิตทางการเงินของเอไอเอส ในเครือชินคอร์ปฯคอร์ป สูงกว่าของรัฐบาลไทย) ทำได้ขนาดนี้ ต้องมีความสามารถและจริยธรรมเพียงพอแน่

 

โดย: Sky 15 เมษายน 2549 1:05:13 น.  

 

โอ๊ย...

แนะนำให้ไปอ่าน ที่ Website นี่

1. //www.thai4thai.net/
2. //www.khonpanfa.com/
3. //www.thairakthai.or.th/trtp/info_party/index_show.asp?lib_id=1605&lib_Mode=M&lib_subGroup=23

แต่อย่าไปเข้า Link เหล่านี้ เช่น

1. //www.manager.co.th/Home/default.html
2. //www.thaiinsider.com/
3. //www.serithaiwebboard.org/forum/

เดี๋ยวสติจะเลอะเลือนครับ

 

โดย: Sky 15 เมษายน 2549 1:12:04 น.  

 

ส่วนเรื่องดาวเทียมที่ว่ากันว่าเป็นของชาตินั้น

ชินคอร์ปมีเครือข่ายโทรคมนาคมครอบคลุมแทบทุกด้านทั้ง
ธุรกิจโทรคมนาคมไร้สาย (โทรศัพท์เคลื่อนที่ : AIS - DPC และโทรศัพท์ติดตามตัว : Phonelink) ธุรกิจดาวเทียมสื่อสาร(ไทยคม) ธุรกิจอินเตอร์เน็ต (AD Venture - CS Communication) ตลอดจนธุรกิจสื่อและโฆษณา (ITV - Teleinfo Media)

ในปี 2534 บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ได้รับสัมปทานโครงการดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติของกระทรวงคมนาคมเป็นเวลา 30 ปี (2534-2564) โดยได้รับการคุ้มครองสิทธิเป็นเวลา 8 ปี ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานนามดาวเทียมของโครงการอย่างเป็นทางการว่า "ไทยคม" (THAICOM) มาจากคำว่า Thai Communications หรือ ไทยคมนาคม เพื่อเป็นสัญลักษณ์เชื่อมโยงประเทศไทยกับเทคโนโลยีสื่อสารใหม่ และในปีเดียวกันกลุ่มชินคอร์ปอเรชั่นส์ได้จัดตั้งบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด เพื่อดำเนินการโครงการดาวเทียมไทยคม โดยทำหน้าที่จัดสร้าง จัดส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร ให้บริการช่องสัญญาณดาวเทียม และบริหารโครงการดาวเทียมไทยคมตลอดอายุสัมปทาน นอกจากนี้บริษัทฯ ได้จดทะเบียนเข้าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 18 มกราคม 2537 และเปลี่ยนชื่อเป็น "บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน)"

ปัจจุบันบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการจัดส่งดาวเทียมไทยคม 1A ไทยคม 2 และไทยคม 3 เข้าสู่วงโคจรในปี 2536, 2537, และ 2540 ตามลำดับ โดยดาวเทียมไทยคม 1A และ ไทยคม 2 ซึ่งเป็นดาวเทียมรุ่น HS-376 สามารถให้บริการของช่องสัญญาณ จำนวน 28 ทรานสพอนเดอร์ แบ่งเป็นย่านความถี่ C-Band 22 ทรานสพอนเดอร์ และ Ku-Band 6 ทรานสพอนเดอร์

ดาวเทียมไทยคม 3 เป็นดาวเทียมรุ่น Spacebus-3000A ซึ่งมีขนาดใหญ่ และกำลังส่งสูงมาก ประกอบด้วยช่องสัญญาณย่านความถี่ C-Band จำนวน 25 ทรานสพอนเดอร์ มีพื้นที่บริการครอบคลุมสี่ทวีป คือเอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย และแอฟริกา นอกจากนี้ยังมีช่องสัญญาณย่านความถี่ Ku-Band 15 ทรานสพอนเดอร์ โดยแบ่งเป็น Fix Spot Beam ซึ่งมีพื้นที่บริการครอบคลุมประเทศไทย และประเทศในภูมิภาคอินโดจีน Steerable Spot Beam ครอบคลุมพื้นที่ประเทศอินเดีย

ปัจจุบัน ดาวเทียมไทยคมมีสัมปทานแบบ BTO โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนให้ทั้งหมด โดยช่วงระยะของสัมปทานนั้นก้อเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลกำไรของเอกชน แต่หลังจากหมดช่วงระยะสัมปทานทุกๆ อย่างจะตกเป็นของรัฐ
แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 49 20:17:54

จากคุณ : ::Sholl::

การดำเนินการร่วมกันระหว่างภาครัฐกับเอกชนสามารถเป็นได้ตั้งแต่การให้สัมปทาน การให้เอกชนจัดการแล้วส่งมอบ อาทิ Build Operation andTransfer: BOT

สำหรับประเทศไทยได้เคยมีการให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในหลายรูปแบบ รูปแบบที่คุ้นเคยกันมากที่สุดได้แก่การให้สัมปทาน อาทิ สัมปทานทางด่วนพิเศษสายดอนเมืองโทลเวย์ ทางด่วนพิเศษเฉลิมรัชมงคลที่1 การทำสัญญาให้เอกชนรับเหมาก่อสร้าง เช่น การสร้างถนนสายเหนือ เอเชีย และสัญญาในรูป BOT อาทิ โครงการรถไฟฟ้า ( Bangkok Elevated Road and Train System: BTS) โดยมีสัญญาอายุ 30 ปี มูลค่า ประมาณ 3พันล้านดอลลาร์ สรอ นอกจากนี้ โครงการ Telecom Asia communication network อยู่ในรูป Build-Transfer-Operate : BTO อายุสัญญา 25 ปี มูลค่า ประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์
แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 49 20:22:52

จากคุณ : ::Sholl::

 

โดย: Sky 15 เมษายน 2549 1:13:03 น.  

 

"เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ สยามเทวาธิราชดลใจ)

ถึงคุณสนธิ (ตอน จอมบงการ)

ประเทศชาติกำลังล้มจม ... ทักษิณอาสามาแก้ ... คนไทยลืมตาอ้าปากได้ ... สนธิทำอะไร ...
นอนกลางดินทั่วไทย ... นายกไทย ... ต่อให้แสร้งทำก็ดีกว่า คนดีที่ไม่เคยทำอะไร ... สนธิทำอะไร ...
ยาเสพติดทั่วไทย ... พ่อแม่กลุ้มใจหมดปัญญาช่วยลูก ... ทักษิณมา ยาหมดไป ... สนธิทำอะไร ...
สนามบินสี่สิบชาติ ... ทักษิณไม่มา อีกกี่สิบชาติจะได้เห็นได้ภูมิใจสุวรรณภูมิ ... สนธิทำอะไร ...
การศึกษาคือคำตอบ ... ดีแต่พูด ... ทักษิณเปลี่ยนเงินหวยเป็นทุนให้ลูกหลานไทย ... สนธิทำอะไร ...
ปราบอิทธิพลมืดทั่วแผ่นดิน ช่วยคนจน ... สำเร็จหรือเปล่าไม่รู้ ... แต่ทักษิณตั้งใจ ... สนธิทำอะไร ...
ผู้ว่าซีอีโอ ... ดูเหมือนตลกเมื่อเริ่ม แต่ผลกระทบหยั่งรากลึกซึ้ง ... ทักษิณมุ่งมั่น ... สนธิทำอะไร ...
เขมรบุกเผาสถานทูต ... ซึนามิ ... พวกเราเสียขวัญ ... ทักษิณออกมาพวกเราอุ่นใจ ... สนธิทำอะไร ...
จากประเทศขอทาน ... ทักษิณไปเวทีไหน เรายืดคอภูมิใจว่านี้นายกประเทศไทยนะ ... สนธิทำอะไร ...
คนจนป่วย ไม่มีเงิน หมดปัญญารักษา ... ทักษิณให้โอกาสมีชีวิตแค่ 30 บาท ... สนธิทำอะไร ...
ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร ... ทักษิณเดินออกมาข้างหน้า คนไทยอุ่นใจ มั่นใจ ... สนธิทำอะไร ...

สนธิทำแค่ ... สร้างสถานการณ์ให้คนทั้งชาติหวั่นไหว เพื่อให้หุ้นที่กลุ่มผู้จัดการทำช๊อตเซลมีกำไร ...
คนนับล้านกำลังมีหวังมีอนาคต ... คุณแค่ต้องการเงินเข้ากลุ่ม กล้าทำลายความมั่นคงชาติเชียวหรือ ...
บีบทักษิณออก ... ถึงออกไป ทักษิณก็ไม่เดือดร้อนอะไร ... เศรษฐกิจพัง ... ใครเดือดร้อน ...
นักวิชาการก็ไม่เดือดร้อน ... มีงานทำ มีเงินใช้อยู่ดี ... ซุกหัวเงียบอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ...
พวกชนชั้นสูงอย่างคุณกรณ์ (จาติกวณิช) ... ก็ไม่เดือดร้อน ... ห่วงแต่อนาคตทางการเมืองของตัวเอง ...
คุณทุบหม้อข้าวประชาชน ... เพราะพวกคุณมีโกดังข้าวสารอยู่ในบ้าน ... อ้างนักหนาว่าเพื่อประชาชน ...
คนเดือดร้อนก็ประชาชนตาดำดำ ... ลูกหลานจบใหม่ไม่มีงานทำ ... ตอนนั้นไปหดหัวที่ไหนกันหมด ...

ทักษิณจะขายหุ้นก็ขายไป ... เงินของเขา เขาไม่ให้ ก็สิทธิของเขา ... เราคนไทยก็ไม่ใช่ขอทาน ...
ขอแรงทักษิณทำงานให้ชาติสุดกำลังก็พอแล้ว ... ยังต้องไปขอเงินเขาอีกหรือ ... ละอายใจกันบ้าง ...
พวกเราเสียภาษีก็ล้วนขอหักลดหย่อนกัน ... จะบาทเดียวหรือหมื่นล้านมันก็หลักการเดียวกัน ...

ผมเชื่อโดยสุจริตใจนะว่า ... ถ้าคุณทักษิณขอร้องให้คนออกไปยืนสนับสนุน ... จากลานพระรูปถึงสนามหลวงก็จะไม่มีที่ให้ยืน ... อย่าคุยนักเลย คุณสนธิ ... ด่าคนไม่ต้องหยาบคายหรอกครับ ... ยกเว้นคุณคิดพวกที่ไปฟังคุณเป็นพวกต้องการการปลุกเร้าอารมณ์ ต้องลากต้องจูง ... คุณยังเดินหน้าทำลายชาติต่อไป คุณจะรู้ว่าคนไทยนับล้านที่คุณบอกว่าไม่มีความหมายนั้น ไม่ได้โง่อย่างที่คุณคิด ... และถ้าจะโง่ ก็จะขอโง่ยืนข้างคนทำงานให้ชาติมากกว่าคนที่ใช้ปากทำลายความมั่นคงของประเทศตนเอง ...

คุณออกมาพูดตอนประเทศชาติล้มจม ... ผมไม่ว่าอะไร ... แต่คุณออกมาทุบหม้อข้าวคนทั้งชาติตอนที่เขาพอมีจะกินจะใช้ รู้สึกสุขและภูมิใจกับประเทศได้บ้าง ... มันเห็นแก่ตัวเกินไป ... ทักษิณถูกผิดผมไม่อยากจะสน ... ทำให้คนจนมีความสุข ... สร้างสิ่งที่จับต้องได้ ไม่ดีแต่ลมปากหลักการอย่างคุณ ... คุณรอไม่ได้หรือสามปี ... อ้างหลักการเล็ก (จริยธรรม) ทำลายหลักการใหญ่ (กฎหมายและความมั่นคงของชาติ) ... อย่าอ้างประชาชนเพื่อลิดรอนสิทธิประชาชน ...

ยุติอัตตาความเป็นจอมแบล๊กเมของคุณเถอะครับ คุณสนธิ ... ก่อนไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ... ผู้ใหญ่หลายคนก็คอยแต่ดูทิศทางลมก่อนแสดงความคิดเห็น ... คนตัวเล็กอย่างผม ทนปล่อยให้คนมุ่งมั่นทำงานเพื่อชาติเดินตามลำพังต่อไปไม่ได้แล้วครับ คุณสนธิ ...

ท้ายสุด ปีนี้เป็นปีของพระองค์ท่าน ... ทักษิณพยายามดันสุวรรณภูมิก็เพื่อให้มีสิ่งไว้อวดแขกบ้านแขกเมืองกับชาวบ้านเขาบ้าง ... คุณกล้าดีอย่างไร ... ไม่สนใจหน้าตาของพระองค์ท่าน ทำให้ประเทศดูหม่นหมอง ... ท่านจะยืนสู่หน้าแขกต่างเมืองอย่างไรถ้าบ้านเมืองมันพึ่งผ่านความวุ่นวายมา ... ใครก็เอาอำนาจพระองค์ท่านไปไม่ได้หรอกครับ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจดี ... อย่าเอาท่านมาอ้าง มันเกินไป ... คุณไม่คู่ควรเลยครับ ... "
(ยังมีต่อ)

(ข้อคิดเห็นของเจ้าของกระทู้: อ่านประโยคสุดท้าย ขอสารภาพว่าน้ำตาซึมครับ สงสารในหลวง ขนาดพระองค์ออกมาพูดวันที่ 3 ก.พ. ให้ปรองดองกัน แต่คนไทยกลับไม่ฟัง)

จากคุณ : ขนมต้ม

 

โดย: Sky 15 เมษายน 2549 1:17:06 น.  

 

ต่อนะครับ
"ถึง คุณทักษิณ (ตอน คบคนชั่วเป็นมิตร)

บทเรียนแรก คุณคงเรียนรู้แล้วว่าการตั้งใจทำดีอย่างจริงจังในประเทศนี้ทำได้ยากลำบากเลือดตากระเด็น ผมกำลังรอดูคุณเสรีย์อีกคน (ทำดีมากไป ประเทศนี้คนหมั่นไส้ ถูกดองไว้หลายปี ยังไม่เข็ด) ว่าประเทศนี้จะดูแลคนตั้งใจทำงานอย่างไร (คนชั่ว แต่นอบน้อม ไม่ซ่า เรียกทหารตำรวจว่า เจ้านาย ทุกคำ ประเทศนี้ดูแลดีครับ) (เจ้าของกระทู้: คุณเสรีย์ หมายถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวศ)

บทเรียนที่สอง คุณคงเรียนรู้แล้วว่าการกล้าไปคบคนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำลายประเทศไทยเป็นมิตรอย่างสิงคโปร์นั้นพระท่านก็เตือนไว้แล้ว สิงคโปร์ไม่เคยกลัวความเก่งของคนไทย แต่กลัวความมีเอกภาพเสถียรภาพของเราต่างหาก คุณสอนคนมากเรื่อง KPI คุณไม่รู้หรือครับ ความอ่อนแอของการเมืองไทยเป็น KPI (จริงๆ แล้ว KSF มากกว่า) ตัวหนึ่งในนโยบายเศรษฐกิจของสิงคโปร์ (เจ้าของกระทู้: ผมไม่แน่ใจว่า KPI คือ Key Persons Index หรือ Key Private Infrastructure ; KSF หมายถึง Knowledge & Skills Framework หรือเปล่า ต้องรอผู้รู้อธิบายอีกที)



สิงคโปร์รู้ดีว่าประเทศนี้ยึดถือหลักการแบบคนโง่ คนไทยอวดเก่งอวดรู้กันมาก ยึดหลักการจนบ่อยครั้งลืมหลักความมั่นคงของชาติ บ่อยครั้งก็แกล้งโง่เพื่ออำนาจผลประโยชน์ส่วนตน (โดยเฉพาะนักข่าว นักวิชาการ และนักการเมือง) เพราะฉะนั้นถ้าส่งข้อมูล (อย่าง Ample Rich ซึ่งบริษัทสิงคโปร์อย่าง DBS เป็นคนดูแล) มาให้นักการเมืองฝั่งตรงข้ามในประเทศไทย เดี๋ยวมันก็ซัดกันเองจนประเทศขาดเอกภาพล้มจมไปเอง เป็นนิทานเก่าที่สิงคโปร์เล่าให้ฟังใหม่มาหลายรอบแต่พวกเราก็ยังไม่รู้ตัวกันเสียที

ผู้ใหญ่บ้านเราไปสิงคโปร์บ่อยไม่เคยอ่าน นสพ. มันหรือครับ ... เราจะไม่ตกข่าวเลวๆร้ายๆ ของประเทศไทยเลย ... นักข่าวเขาขยันหาเรื่องเลวร้ายของเราไปเขียน ... แปลกก็ตรงนักข่าวไทยกลับไม่ทำอย่างนั้นบ้าง ... เราจ้องแต่ทำลายกันเอง ... นิทานเรื่องกลุ่มทุนจากไทยไปร่วมมือกับกองทุนฮ่องกงทำช๊อตหุ้นไทย ... โดยมีการ present ข้อมูลจนกองทุนเชื่อว่าคุณทักษิณต้องออกแน่ ... นักข่าวไทยกลับไม่ขุดค้นเหมือนนักข่าวสิงคโปร์ ... แมลงวันไม่ตอมแมลงวันหรืออย่างไร ... สงสารประเทศไทย ...

สิงคโปร์รู้ดีว่าการปล่อยให้ประเทศไทยมีเสถียรภาพสูงเป็นภัยต่อโครงสร้างทางธุรกิจของสิงคโปร์ (ตลาดยางพาราก็เป็นตัวอย่างที่ดี) ... ทักษิณ คุณอย่าหวังได้แตะ ธุรกิจพลังงาน หรือ ธุรกิจการบิน ... ต้องข้ามศพสิงคโปร์ไปก่อน ... คุณแค่คิดเขาก็หากลยุทธทำลายคุณแล้ว ... การยอมเสียเงินสักแสนล้านซื้อชินเพื่อทำลายโครงสร้างการเมืองไทย ดูเหมือนจะถูกเหลือเกิน (บทเรียนนี้คุณทักษิณซึ่งคิดว่าตัวเองฉลาดคงหน้าจะเริ่มตาสว่าง) สังเกตมั๊ยว่า มีข้อมูลค่อยๆ รั่วออกมาทีละหมัดสองหมัด ... ผมแปลกใจว่า ทำไมคุณทักษิณถึงไม่จำบทเรียน CTX ว่าข้อมูลมันทยอยมาจากไหน ... คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาดอยู่เรื่อยไปใช่มั๊ยครับ คุณทักษิณ ...

ไหนๆ จะพูดก็ขอพูดให้จบ ... บทเรียนที่สาม ... เป็นบทเรียนที่ไม่รู้ว่าคุณจะต้องจ่ายค่าวิชาเมื่อไรคือการดูแลลูกชายคุณ ... ถ้าคุณยังรักลูกเหมือนคุณเฉลิมรักต่อไป ... สักวันลูกคุณจะเข้าใจคำว่า พ่อแม่รักแกฉัน ... เชื่อสุภาษิตไทยๆ เถิดครับ ... เรามีวิธีแสดงความรักกันได้ดีกว่านี้ ... อย่าให้มันเป็นภาระสังคมเลย ... ส่วนญาติพี่น้องคุณก็หาวิธีให้ไปใช้ชีวิตสบายทำสวนทำไร่ทำรีสอร์ทกันเถิดครับ ... ทำธุรกิจไปไม่ว่าจะสุจริตใจหรือไม่ก็มีแต่เสียกับเสีย ... นี้เป็นจุดตายที่ผู้ใหญ่หลายท่านยังตะขิดตะขวงใจที่จะอุ้มคุณ ... คุณมีเงินมากพอที่จะแก้ปัญหานี้ได้ ถ้าไม่เผลอไปติดกับคำว่า หลักการ (โง่ๆ) อีกคน ... ผมรักหลักการครับ ... แต่ถ้าหลักการมันทำให้คนมากมายทนทุกข์ก็ลืมมันไปเสียบ้าง ... mean มันมีค่ากว่า end ครับ ... แต่บ่อยครั้ง end มันก็เป็นสิ่งที่เราต้องไปไม่ว่าจะด้วย mean อะไร ... ขอแถมให้อีกนิดเรื่องคนรอบข้างคุณ ... อำนาจเป็นสิ่งหน้าหลงใหลใช่มั๊ยครับ ... เรื่องนี้ขอให้ดูป๋าเป็นตัวอย่างครับ ... คุณเริ่มต้นจากมีคนดีหลายคนอยู่รอบตัว จึงมาถึงวันนี้ได้ ... อย่าให้คนอย่างคุณสมคิดและอีกหลายคนจากคุณไปนะครับ ... อย่าเหลือแต่ เนวิน สมศักดิ์ พวกนี้เป็นงาน แต่ไม่รู้ทำไม รักชาติไม่ค่อยจะเป็น ... บางทีอำนาจมันก็ทำเอาเราเป๋ไปได้เหมือนกัน ใช่มั๊ยครับ ... อย่าทำให้คนดีรังเกียจความเจ้าอารมณ์ของคุณ เหลือแต่คนสนองตอบดีพูดจาวาจาอ่อนหวานรอบตัว ... สัญญานอันตรายครับ ... น่าจะถือเป็นบทเรียนที่เก่าแก่ที่สุดของนักการปกครองทั้งหลายกระมังครับ ... อ๋อ ฝากถึงคุณพงษ์ศักดิ์ด้วยว่าอย่าเล่นทีเผลอนะครับ เรื่องรถเมล์สองหมื่นล้าน ... นี้ก็อีกคนเรื่องอย่างนี้เนียนกันเหลือเกิน ... กลุ้มใจแทนคุณทักษิณ ... จะใช้คนดีมันก็เรื่องมาก ไอ้พวกสนองตอบก็สันดานยากจะเปลี่ยน ...

ผมยังหวังอย่างลมๆแล้งๆ ว่าคุณจะสู้เขาได้ คุณต้องเข้มแข็งต่อไป คนเราไม่มีใครสมบูรณ์ ผมเชื่อว่าคุณตั้งใจดี อย่าตัดช่องน้อยแต่พอตัว ... ประเทศอับเฉาลงหลายคนเชื่อว่าเขาไม่เดือดร้อน คุณก็ไม่เดือดร้อน ผมก็ไม่เดือดร้อน ... ผมเองก็เป็นคนไม่สมบูรณ์อย่างคุณและก็อยากกลับใจ ... ถ้าผมคิดสั้นๆ อย่างคนบางคน ก็คงออกมาเชียร์ให้ล้มคุณ ผมจะได้ซื้อหุ้นได้ถูกลง ซื้อที่ดินได้ถูกลง อย่างที่หลายคนรอคอยการล้มของคุณอยู่ ... แต่ผมต้องตัดใจว่าเวรกรรมมันมีจริง ... เรามาไม่กี่ปีก็จากไป เอาอะไรไปก็ไม่ได้ ... ถ้าเราไม่ลุกออกมาช่วยคนดีบ้าง ... ลูกหลานเราคงไม่มีแผ่นดินที่เขาภูมิใจได้อยู่เหมือนบ้านอื่นเมืองอื่นเขา ... คนรวยก็ต้องส่งลูกไปเรียนไปอยู่ที่อื่น ... คนจนก็ขาดโอกาสต่อไป ...

(ยังมีต่อ)

จากคุณ : ขนมต้ม

 

โดย: Sky 15 เมษายน 2549 1:17:28 น.  

 

ถึง ปวงชนชาวไทย (ตอน กบเลือกนาย 2)

คนดีแบบสมบูรณ์แบบนั้นไม่มี และถ้ามี บ่อยครั้งก็มักเอามาใช้ประโยชน์อย่างจริงๆจังๆ ไม่ค่อยได้ ... แต่ละท่านก็มาแบบขอได้เป็นนายกสักครั้งในชีวิตเพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ... ฉะนั้น กรุณาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่จับต้องได้ ดีกว่าโลกอุดมคติที่โศกาอาดูรอดมื้อกินมื้อ ... จะพูดไปทำไมครับจริยธรรม ... คนพูดไม่น้อยก็ยังไม่แน่ใจเลยว่ามันแปลว่าอะไร ... นักการเมืองคอรัปชั่น ตำรวจอิทธิพล ทหารแสวงหาประโยชน์ นักธุรกิจโกงภาษี ฯลฯ เห็นอยู่เต็มเมือง ... ไม่มีใครทำอะไร ... ตอนนี้กระแดะออกมาพูดถึงจริยธรรมกันทำไม ... คนเลวมีเต็มเมืองพวกคุณองค์กรบ้าบออะไรไม่เคยคิดจะทำอะไร ... สิ่งเดียวที่พวกคุณทำได้เป็นรูปธรรมคือพาคนออกมาเดิน พอเขาตาย คุณก็คอยสร้างอนุสรณ์ให้ ... คุณอยากได้คนดีมีจริยธรรมอย่างคุณจำลองมาเป็นนายกฯ กันหรือครับ

เด็กติดเหล้าเมายากันเต็มเมือง ... คุณจำลองนอนหลับได้สบายดี ... ไม่มีปัญญาทำอะไร ... แต่บริษัทเหล้าจะเข้าตลาดหลักทรัยพ์ดันร้อนทุรนทุลายจะเป็นจะตายให้ได้ ... ผมไม่เข้าใจคุณจำลองมานาน ... ตอนนี้ยิ่งงงวิธีดูแลประเทศของคุณจำลองไปใหญ่ ... สิงคโปร์มันก็ห่วงเด็กติดเหล้าครับ ... มันไม่เคยห่วงบริษัทเหล้าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์หรอกครับเพราะมันเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ ... คุณเป็นนายพลแยกมหภาคกับจุลภาคไม่ออกหรือครับ ... ถ้าคนไทยคิดได้แค่นี้ ... คุณโง่คนเดียวไม่พอ ... เอาลูกหลานออกมาเป็นหมื่นนั่งเฝ้าหน้าตลาดหลักทรัพย์ด้วย ... สิงคโปร์มันก็คงหมดห่วง มันคงขำกลิ้งประเทศไทย ... เพราะมีผู้ใหญ่อย่างนี้ดูแลบ้านเมืองมันถึงมาได้แค่นี้ ...

ราษฎรอาวุโสหลายท่านบอกว่าไม่ต้องไปแข่งกับเขาหรอก เราอยู่ของเราอย่างนี้ ... ใช่ซิครับพวกท่านอยู่อีกไม่กี่ปี ... ท่านห่วงบ้างมั๊ยครับว่าลูกหลานจะอยู่กันอย่างไร ... ต่อไปพรมแดนไม่มี ... ความแข็งแรงภายในไม่มีเราจะรักษาสถาบันไว้ได้อย่างไร ... ทหารไม่ใช่คำตอบสุดท้ายนะครับ ... จะรักษาแบบพม่าเกาหลีเหนือหรือครับ ... อย่าได้ทำตลกไปนะครับ ... ถ้าคิดอย่างพวกท่านอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า ... เราอาจถูกมองเหมือนที่เรามองลาวกัมพูช่าทุกวันนี้ ... สถาบันจะอยู่รอดในระยะยาวก็ล้วนต้องอาศัยความมั่นคงและการพัฒนาทางเศรษฐกิจเป็นคำตอบสุดท้าย ... หันไปมองให้รอบโลกซิครับ ... ตัวอย่างมีให้เห็นทุกแบบ ... บทเรียนในอดีตมีให้เรียนรู้มากมายอยู่แล้ว ... ทุกคนมีความสุขทุกสิ่งก็อยู่ได้ ... มรดกของพวกท่านก็คือป่าไม้ที่หมดไป ... ออกไปดูโลกกว้างกันบ้าง ... ประเทศเล็กๆ อย่างสิงคโปร์สร้างตัวจากความไม่มีอะไรเลย ... แม้แต่มาเลย์ที่ไม่รังเกียจเผด็จการอย่างมหาเธร์ก็ยังสร้างบ่อนอย่างเก้นติ้งให้คนไทยไปผลาญเงิน สร้างตึกปิโตนัสพร้อมกับยังเหลือป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ไว้ให้ลูกหลานได้ภูมิใจได้ ... ปล่อยให้ประเทศที่ใหญ่กว่าอย่างไทยที่มีแต่ผู้ใหญ่เอาตัวรอด ชิงดีชิงเด่น แข่งกันสร้างฐานะ อิจฉาริษยากัน ยึดแต่อารมณ์ความรู้สึกของตนเป็นที่ตั้ง ยึดตัวหนังสือ ไม่ยึดเนื้อหาเป็นสรณะ ...

ผมเห็นสิ่งที่คุณทักษิณฝันจะสร้างสิ่งมากมาย ... ฝัน 20 สร้างได้ 3 ก็ดีกว่าคนไม่ฝันเลยครับ ... ถ้าคนจะคิดทำลายคุณก็จะเอาไอ้ที่คุณล้มเหลว 17 มาพูด ... แต่ผมมองเห็น 3 ที่คุณทำเสร็จแล้วก็ชื่นใจแล้วครับ เมื่อเทียบกับผมเห็นนักการเมืองรุ่นที่ผ่านมาทำทิ้งไว้ในช่วงชีวิตผม ... สิ่งปลูกสร้างทางวัตถุที่เป็นสาระอย่างที่มาเลเซียสร้างตึกปิโตรนัส ... หรือเกาะต้นปาล์มของดูไบ ... ผมก็เชื่อว่าคุณทักษิณฝันถึง ... เราจะคอยหากินกับของเก่าต่อไปไม่ได้ ... ชาติอื่นเขาสร้างขึ้นจากไม่มีอะไรเลย ... แม้ว่าไนท์ซาฟารีและสวนพฤกษชาติจะไม่ได้อย่างใจที่ผมคิด ... แต่ก็แสดงให้เห็นว่าคุณทักษิณไม่เพียงฝัน แต่สร้างจนเป็นรูปธรรมขึ้นมาได้ ... คุณทักษิณคงกลัวว่าลูกหลานจะนึกถึงคนรุ่นเราว่าขาดวิสัยทัศน์ เป็นรุ่นทำลายความอุดมสมบูรณ์ของชาติ โดยไม่เหลืออะไรไว้ให้เขาได้ภาคภูมิใจเลย ... ดูคนว่าเสแสร้งหรือมีเจตนาจริงนั้นดูไม่ยากหรอกครับ ... ดูรอยที่เขาทิ้งเอาไว้ ... ดีหรือเลวมันปิดไม่มิดหรอกครับ ถ้าดูกันยาวๆ ...

ผ่านไป 4 ปี คุณทักษิณคงพบสัจจธรรมแล้วว่าประเทศนี้ไม่มีอะไร ... นอกจากทรัพยากรที่ผลาญกันแทบหมด ... ก็เหลือไว้แต่สิ่งที่เราจนปัญญาจะทำลายกัน อย่างเช่น อาหารวัฒนธรรมประเพณี ... เราขาดทั้งเงิน ขาดฐานความรู้ และที่สำคัญขาดคนที่มีวิสัยทัศน์ ... เมื่อมองสิงคโปร์เราก็อ้างว่าประเทศเล็กบริหารง่าย คนน้อยมันไม่ยุ่งยาก ... หันไปมองประเทศใหญ่อย่างจีน ก้าวหน้ารุ่งเรืองในเวลาอันสั้น ... จากล้าหลังข้ามหัวเราไปชั่วพริบตา ... ผมก็เดาว่าพวกปัญญาอ่อนก็คงอ้างว่าประเทศจีนใหญ่ มีคนเยอะแยะ มีของเก่าเยอะกว่าเรา อะไรทำนองนั้น ... ไม่จริงหรอกครับ ถ้าประเทศใดก็ตามถ้ามีนักการเมืองนักการบริหารที่มีวิสัยทัศน์อย่างเราก็ไปไม่ถึงไหนเหมือนกัน ... ไม่ว่าประเทศจะใหญ่หรือเล็ก ... คอมมิวนิสหรือประชาธิปไตย ... ไม่ต้องมองไกลอย่างอเมริกาหรือยุโรป หันไปมองญี่ปุ่น สิงคโปร์ จีน หรือมาเลเซีย ... เราน่าจะยอมรับแนวทางที่จะเจริญและจะจมอยู่กับความล้มเหลวกันเสียที ... ผมเห็นความตั้งใจที่ถูกต้องของคุณทักษิณ ... ผมเห็นแนวทางที่ชาญฉลาด (จะว่าไปก็ไม่ได้ฉลาดอะไรถ้าหันไปดูทุกประเทศที่รุ่งเรืองก็ล้วนทำกัน) คือการเปิดรับความรู้และเงินลงทุนจากต่างประเทศ ... แต่พวกมือไม่พายก็มักเริ่มโจมตีว่าขายชาติ ... พวกคุณจะเก็บเอาไว้ทำเองเพื่อให้กลายเป็นโครงการสามสี่ชั่วโคตร แบบเวียนเทียนกันกินหรือลงแขกกันกิน ได้อย่างไม่รู้จบหรือครับ คุณสุเทพ คุณเสนาะ คุณสนั่น คุณบรรหาญ คุณวัฒนา ...

แม้ต่างชาติจะถือครองอะไรของประเทศเราก็ตาม ... ถ้าประเทศมีนักการเมืองที่ดีก็สามารถใช้ระบบนิติบัญญัติที่มีคุณภาพดูแลผลประโยชน์ของชาติและประชาชนได้อย่างไม่ต้องกลัวอะไร จริงมั๊ยครับ คุณชวน คุณอภิสิทธิ์ ... ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ต่างชาติ ปัญหาอยู่ที่คนของเราเองมาตลอด ... แต่ผู้ใหญ่หลายคนกลับมองไม่ออก ... ผมให้ตัวชี้วัดง่ายๆ เอาไว้สักเกต ถ้าพวกเราต้องการแยกว่ารัฐบาลนั้นดีหรือเลว ... ดูคุณภาพทางหลวงแผ่นดินว่ามันเป็นโครงการประเภทสร้าง 3 ปีใช้ได้ 2 ปีก็พัง แล้วต้องเริ่มซ่อมหรือทุบสร้างใหม่หรือเปล่า ... งบแทนที่จะเหลือเอาไปพัฒนาโครงการใหม่ๆ ... เราต้องตัดงบพัฒนาประเทศมาสร้างถนนสายเก่าๆ กันอย่างไม่รู้จักจบสิ้น ... แล้วเราก็รู้สึกว่าเราไม่มีเงินพัฒนาประเทศกัน ... ความจริงเงินเรามีเยอะแยะครับ ... ถ้าเราไม่เอาไปสร้างถนนพันธุ์อย่างว่า ... ไม่ต้องไปดูงบที่ท่านตั้งเอาไว้ซื้อของใช้ไม่ได้อย่างประปาหมู่บ้านหรืออีกสารพัดที่ท่านขยันคิดกันมาเหลือเกิน ... ซื้อติดตั้งไว้เป็นพันแห่ง แต่ใช้ได้จริงไม่ถึงร้อยแห่ง (เอาไว้โชว์ผู้ใหญ่ตาถั่วว่าโครงการนี้เวิคกนะจ๊ะ) ... หยุดบ่นดีกว่านะครับ มีเรื่องสนุกอีกสารพัดเรื่องครับถ้าเขียนคงเป็นนิยายเป็นเล่มๆ ... ยาวนานเหมือนถนนเส้นกรุงเทพสระบุรีโคราชนั้นหละครับ ... ใช่มั๊ยครับ คุณสุวัฒน์ ... ขอสรุปสั้นๆ ว่าประเทศจะอยู่อย่างหลบซ่อนต่อไปไม่ได้แล้วครับ ... ยิ่งหลบซ่อนจากความจริงลูกหลานก็จะยิ่งอ่อนแอลงไปทุกวัน ... ถ้าคุณทักษิณไม่ปรับระบบลอจิสติกให้มีต้นทุนที่แข่งขันได้ ... ไม่ว่าอุตสาหกรรมไหนเราก็สู้ใครเขาไม่ได้หรอกครับในอนาคตอันใกล้ ... จะพูดให้ลึกกว่านี้ก็คงมีอยู่คำเดียวครับโลกอนาคตที่เราจะอยู่รอด ... competitive transaction cost ... ซึ่งมันรวมคน เทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน และการเมือง เข้าไว้ด้วยกัน ... ถ้าไม่มีรัฐบาลที่เข้มแข็งยากที่เราจะผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้ ...

คำตอบสุดท้ายผมคิดว่าเราต้องใช้คนที่คิดได้และทำได้เป็นรูปธรรมอย่างคุณทักษิณ ... คุณทักษิณดูแลตัวเองได้อย่างฉลาด (ขาดจริยธรรมในบางเรื่องไปบ้างก็พอเข้าใจได้ว่าคุณทักษิณก็ยังมีเรื่องต้องเรียนรู้เหมือนกัน) ก็หวังว่าจะดูแลประเทศได้อย่างนั้น ... ประเทศดำรงความสมถะอย่างราษฎรบางท่านไม่ได้ ... คนอยู่ได้ แต่ประเทศอยู่ไม่ได้ในระยะยาว ... คุณทักษิณอาจกร่างไปบ้าง เมาอำนาจไปบ้าง แต่ถ้าไม่หลุดเนื้อหา ก็ต้องให้อภัยกัน ... การมีสมบัติมาก ก็หวงห่วงมาก ทุกข์มาก ... หลายคนที่ไม่เข้าใจก็ปล่อยเขากระเสือกกระสนกันไป ... มีหมื่นล้านกับมีแสนล้านมันไม่สร้างความแตกต่างกันแล้วครับ ความเป็นมนุษย์ ... ผมเชื่อว่าคุณทักษิณเข้าถึงและเข้าใจ ... จึงขายบริษัทออกไป ... มองอย่างบูรณาการจากสิ่งที่จับต้องได้ที่คุณทักษิณทำมา ผมเชื่อว่าคุณทักษิณอยากสร้างแผ่นดินไทยให้เป็นแผ่นดินทองจริงๆ ... คุณทักษิณต้องการเงินก็ขอเชื่อว่าเพื่อแผ่นดิน ... เพื่อเอากลับมาหล่อเลี้ยงโครงสร้างทางการเมืองให้มีเสถียรภาพ ... บางทีไม่มีทุน หลักการอุดมคติอย่างเดียวมันก็ไปไม่ถึงไหน ... มันต้องมีจุดด่างบ้าง (ลีกวนยู มหาเธร์ ก็ไม่ได้สร้างชาติมาด้วยอุดมการณ์อันบริสุทธิ์ผุดผ่อง) ...

คนอยู่อย่างพอเพียงแต่ประเทศอยู่อย่างพอเพียงวันนี้จะขาดอย่างมากวันข้างหน้า ... ต้องมีเพื่อความมั่นคงของชาติครับ ... แยกให้ออกระหว่างความเป็นปัจเจกบุคคลกับความเป็นประเทศ ... คนควรอยู่อย่างพอเพียง สมดุลยแก่สถานะ ... มีมากก็หนักมาก มีน้อยก็ไม่สบายตัว ... แต่ประเทศชาติจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่จะอยู่รอดอีกมากมาย ... ถ้าจะมองให้ลึกลงไปอีกก็คงต้องบอกว่าเราอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ... รัฐธรรมนูญใหม่สร้างระบบถ่วงดุลยแล้ว ... แต่ละหน่วยงานยังขาดคนที่มีประสบการณ์ขับเคลื่อนมัน (อาจต้องรอคนรุ่นต่อไป) ... ยกตัวอย่าง เราไม่มีวุฒิสมาชิกที่มีฝีมือ (ออกกฎหมายผิดๆถูกๆ ... ก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับของใหม่ ยิ่งใช้โดยคนมือไม่ถึงเข้าไปอีก ก็ยิ่งยุ่ง ... อยากรู้ว่าวุฒิสมาชิกมือถึงเป็นอย่างไรก็ลองไปนั่งฟังวุฒิสมาชิกอเมริกันเขาอภิปรายกันซิครับ ว่าหนึ่งนาทีเขาพูดเนื้อหาได้มากขนาดไหน ให้หนึ่งนาทเขาพูดหนึ่งนาที และเต็มไปด้วยเนื้อหา) ... แต่เราก็เดินมาถูกทางแล้ว ... อย่าใจร้อนหรือถูกรบกวนด้วยเรื่องในอุดมคติมากนัก ... หนทางยังอีกไกล ... อดทนและให้อภัยกับคนตั้งใจทำงาน ... ไม่อย่างนั้นเราจะได้แต่พวกพูดถูกใจ แต่ประเทศไม่เหลืออะไร ...

หลายปีก่อน พลเอกเปรมเคยเดินจากพวกกบเลือกนายอย่างเราไป ... ท่านสร้างผลงานให้เยอะแยะ ... ไม่พอใจ จะเอาโน้นจะเอานี้ ท่านต้องเป็นอย่างโน้นต้องเป็นอย่างนี้ ... ผลเป็นอย่างไรครับ ... ท่านไม่อดทนครับ ... ท่านตัดช่องน้อยแต่พอตัว ... ปฎิเสธพลเอกชาติชายที่ไปยืนตากฝนขอร้องท่านอยู่หน้าบ้าน ... ถ้าท่านอดทนสักนิดประเทศเราคงยังอยู่ข้างหน้ามาเลย์หลายสิบปี แทนที่จะแข่งกับอิเหนา วิ่งไล่ตามก้นมาเลย์อย่างทุกวันนี้ ... เราเคยแข่งกับญี่ปุ่นสมัย ร.5 ต่อมาแข่งกับเกาหลี ตอนนี้แข่งกับเวียดนาม อนาคตคงต้องแข่งกับลาว อีกไกลๆ คงได้เทียบชั้นพม่า (ดูฟุตบอลไทยเป็นตัวอย่างซิครับ)

ตอนนี้ เราเริ่มไม่จำบทเรียนของกบอย่างเราๆ ... ประเทศเราคนรวยไม่ดูแลชนชั้นกลาง ชนชั้นกลางไม่ดูแลชนชั้นล่าง (ความจริงตั้งหน้าตั้งตาเอาเปรียบกัน) ... เราปล่อยให้คนทำช๊อตเซลอ้างหลักการมาปั่นหัว รวมกับนักวิชาการขาดสติ นายพลนักเลง นายทุนอิทธิพล นักการเมืองโกงชาติรอการกลับมา พ่อค้าหวยใต้ดิน พ่อค้ายาเสพติดรอวันคืนชีพ ข้าราชการอกหัก ข้าราชการรัฐวิสาหกิจเห็นแก่ตัว และอีกสารพัดสารเพที่กำลังมีความหวัง ... ชนชั้นสูงไม่ดูแลกันเอง ไม่เลือกคนดี ไม่อุ้มคนตั้งใจทำดี ตัดช่องน้อยแต่พอตัว ... ผมมองย้อนไปเห็นประเทศอย่างคิวบาก่อนคนอย่างฟิเดลคาสโตรมา ... แล้วก็อดหดหู่ใจไม่ได้ ... ทำไมเราไม่ดูแลประเทศ ไม่ดูแลสถาบันให้ดีกว่านี้ ...

จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดประเทศไทย"

เจ้าของกระทู้: ช่วยกันโหวตด้วยครับ อย่าให้ข้อความดี ๆ อย่างนี้ตกไปเร็วเลย ใจผมอยากจะให้ "หนังสือพิมพ์" ที่คิดว่าตัวเองเป็นกลาง ช่วยนำข้อความนี้ไปลงในหนังสือพิมพ์ของท่านด้วยครับ

จากคุณ : ขนมต้ม

 

โดย: Sky 15 เมษายน 2549 1:17:59 น.  

 

Sky นี่มันบ๊องตื้นโดยแท้
ขนาดข้อเขียน บ้าๆบอๆ ของขนมต้มยังเอามาลง
เอาคนเป็นนายกไปเทียบ กับ คนทำหนังสือพิมพ์ มันคนละหน้าที่เลย อุตส่าห์ เขียน ซะเหยียดยาว
เพื่อบูชาทรราชทักษินเป็นเทพเจ้า ติงต๊องเจงๆ

ขบวนการวอร์รูมก็งี้แหละ เขียนเองแล้วเปลี่ยนล๊อกอินโหวตเอง
มีแต่กระทู้ไร้คุณภาพขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ

 

โดย: นิรนาม IP: 58.9.91.66 15 เมษายน 2549 1:52:20 น.  

 

จขกท ยอมรับแล้วสิ ว่าคนด่าหน้าเหลี่ยมก็โดนลบ ส่วนคนที่เลียหน้าเหลี่ยมมาตลอดเวลากลับไม่ถูกลบเลย แล้วกรุณารีบไปหาข้อมูลมาเร็วๆนะ เรื่องหนี้ภาคครัวเรือนน่ะ ว่าสมัยหน้าเหลี่ยมเจ้านายคุณน่ะ เพิ่มไปเท่าไรแล้ว อย่าตอแหลอีกล่ะ แล้วหนี้ต่างประเทศเพิ่มอีกเท่าไร รอฟังอยู่ ว่าจะแก้ตัวยังไง

 

โดย: สู้คนซึ่งหน้า IP: 203.107.160.202 15 เมษายน 2549 3:30:05 น.  

 

นายสู้คนซึ่งหน้า หนี้ในครัวเรือนนั่นมันเกิดขึ้นก่อนรัฐบาลทักษิณอีก ผมยกตัวอย่างอาชีพของผมรับราชการครูลำพังเงินเดือนอย่างเดียวเราไม่เงินซื้อบ้านอยู่หรอกถ้าไม่มีมรดกตกทอดจากพ่อแม่ ผมกู้ธนาคารยอมเสียดอกเป็นเท่าตัวแต่เมื่อปลดเกษียณเรามีบ้านอยู่และลูกจะได้ไม่ลำบาก จะให้เราเก็บเงิน20ปีเพื่อซื้อบ้านไม่มีทาง ผมซื้อบ้านเมื่อ 20 ปี 5 แสนบาทตามราคาจริง + ดอกเบี้ยธนาคารเมื่อผ่อนเสร็จก็ประมาณ 1.2ล้านบาทถ้าคุณเก็บเงินเองแล้วมาซื้อบ้านปัจจุบันนี้ก็ราคานี้ ผมกู้เงินรัฐบาลให้ลูกเรียน 4 แสนบาทส่ง 15 ปี สมมุติถ้าลูกได้เงินเดือน 7 พันบาทต่อเดือน 84000 ต่อปีถ้าทำงาน 30 ปี ก็ได้ 2,520,000 ก็ค้มนี่ยังไม่นับว่าได้เงินเดือนขึ้นแต่ละปี เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า นี่ขนาดผมมีลูกคนเดียว แต่เราไม่กู้ซื้อรถยนต์มาขี่เพราะกว่าจะผ่อนงวดสุดท้ายรถก็ใกล้จะพังพอดี ยิ่งกองทุนปัจจุบันผู้กู้จะส่งคืนเมื่อมีงานทำมันเป็นประโยชน์ต่อคนฐานล่างครับ .......ถ้าคุณอยู่ในชนชั้นที่ ตื่นเช้าก็แบมือขอเงินพ่อแม่ ขับรถยนต์ไปเรียนหนังสือ เย็นก็นัดกันไปเที่ยวคลับหรูๆ เสพอะไรที่ตรวจปัสสาวะจะเป็นสีม่วง หยุดภาคเรียนก็ไปเรียนภาษาอังกฤษเมืองนอก ฯลฯ .....คุณจะไม่เห็นปัญหาว่าทำไมเราต้องเป็นหนี้ในครัวเรือน นี่แค่เป็นเหตุผลเพียงคนเดียวเท่านั้น
ส่วนคุณนิรนาม คุณว่าความเห็นของคุณขนมต้มบ้าๆบอๆ ผมลองให้ดูสักความเห็น
ตอนนี้ เราเริ่มไม่จำบทเรียนของกบอย่างเราๆ ... ประเทศเราคนรวยไม่ดูแลชนชั้นกลาง ชนชั้นกลางไม่ดูแลชนชั้นล่าง (ความจริงตั้งหน้าตั้งตาเอาเปรียบกัน) ... เราปล่อยให้คนทำช๊อตเซลอ้างหลักการมาปั่นหัว รวมกับนักวิชาการขาดสติ นายพลนักเลง นายทุนอิทธิพล นักการเมืองโกงชาติรอการกลับมา พ่อค้าหวยใต้ดิน พ่อค้ายาเสพติดรอวันคืนชีพ ข้าราชการอกหัก ข้าราชการรัฐวิสาหกิจเห็นแก่ตัว และอีกสารพัดสารเพที่กำลังมีความหวัง ... ชนชั้นสูงไม่ดูแลกันเอง ไม่เลือกคนดี ไม่อุ้มคนตั้งใจทำดี ตัดช่องน้อยแต่พอตัว ... ผมมองย้อนไปเห็นประเทศอย่างคิวบาก่อนคนอย่างฟิเดลคาสโตรมา ... แล้วก็อดหดหู่ใจไม่ได้ ... ทำไมเราไม่ดูแลประเทศ ไม่ดูแลสถาบันให้ดีกว่านี้ ...
ถ้าคุณคิดว่าข้อความที่ผมคัดมาไม่จริง บอกเหตุผลมาด้วยซิครับ ที่ผมเห็นด้วยเพราะผมเกิดก่อนที่ในหลวงจะครองราชย์และเห็นนัการเมืองมาหลายๆสมัย พร้อมโต้กันด้วยเหตุด้วยผล
อีกข้อถ้าคุณไม่เอาระบบทักษิณ ช่วยบอกด้วยว่าคุณจะพาประเทศไทยไปในทิศทางใด ถ้าดีกว่าจริงๆผมพร้อมจะสนับสนุน
คุณ Sky เห็นด้วยกับคุณขอโทษที่ใข้ blog คุณอธิบาย ว่างๆจะแวะมาอีก

 

โดย: นาย ผ่านมา IP: 58.147.100.176 15 เมษายน 2549 7:22:30 น.  

 

 

โดย: เกลียดไอ้คนแซ่ลิ้ม IP: 221.128.90.203 15 เมษายน 2549 8:25:50 น.  

 

 

โดย: ม๊อบกุ๊ยๆอย่างนี้ก็มีด้วย IP: 221.128.90.203 15 เมษายน 2549 8:32:00 น.  

 

 

โดย: Sky 15 เมษายน 2549 13:48:05 น.  

 

ประเด็นขายชาตินี้ พูดกันร่ำไป ดิฉันขอเล่า เป็น เรื่องเปรัยบเทีนบ เพื่อให้เข้าใจง่ายแก่ผู้อื่นที่เข้ามาอ่านค่ะ

ธุรกิจของทักษิณ เป็น การได้สัมปทาน เหมือนกับที่ คนได้สัมปทานทำเหมืองแร่ ทำป่าไม้ สำรวจหาน้ำมัน สัมปทานเดินรถขนส่ง กท ไป หาดใหญ่ กท ไป เชียงใหม่ ...ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวได้สัมปทานเช่าที่การรถไฟ

ในแต่ละประเภทของสัมปทาน จะ มี พรบ รองรับ และ ควบคุม ผลประโยชน์ของรัฐ

ยกตัวอย่าง นางสมดี เช่าที่ธนารักษ์ (การเช่าที่ เป็นการได้สัมปทาน เหมือนที่ นาย ก ได้ สัมปทาน) เปิดร้านขายเสื้อผ้า ขายดีมาก จึงไปจดทะเบียนจัดตั้ง เป็น บริษัทสมดี เวลาไปจดตั้งบริษัท ต้องระบุว่า บริษัท มีหุ้นเท่าไร ราคาหุ้นละเท่าไร (ต้องขอบคุณ รัฐบาลนี้ ที่ทำให้การจดทะเบียนจัดตั้ง สามารถทำได้ในวันเดียว)

เมื่อกิจการดี นางสมดีจึงนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ หุ้นมีราคาหุ้นละ 10 บาท เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ นางสมดี ไม่ใช่ เจ้าของกิจการแต่ผู้เดียว ยังมี คนอื่นที่ถือหุ้น ร่วมเป็นเจ้าของด้วย แต่ นางสมดี ถือหุ้นมากที่สุด จึงเป็นผู้บริหารธุรกิจ นางสมดีต้องจัดประชุม แถลงผลงานทุกปีให้ผู้ถือหุ้นทุกคนทราบ เหมือนกัน นาย ก ต้อง บริหารธุรกิจ ให้มีกำไร ไม่ขาดทุน

นางสมดีทำการค้าขายมีกำไร และจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นทุกปี ทำให้ราคาหุ้นขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง จนราคาหุ้นเป็น 30 บาท ราคาหุ้นขึ้นได้ยั่งยืนเพราะปันดี

ต่อมานางสมดีเบื่อและเนื่องจากมีอายุมาก จึงต้องการยกกิจการให้ลูกชาย ที่เรียนจบแล้ว แต่ไปหลงระเริงทำงานบริษัทแต่ได้เงินเดือนน้อย แม่จึงทำหนังสือขายหุ้นทั้งหมดของตนให้นายสมโชค (ถ้าคุณเป็นแม่ คุณจะขาย เท่าไร และ ไม่ว่าจะขายเท่าไร คุณก็ต้องออกตังแทนลูก ภาษีของระบบซื้อขายหุ้น หรือ โอนหุ้น จะเก็บ เฉพาะส่วนต่างที่มีกำไร ระหว่าง คนซื้อกับคนขาย) นางสมดีขายให้ลูกชายในราคาต้นทุนคือ 10 บาทต่อหุ้น (จำไว้ด้วยว่า ตอนนี้ หุ้น ราคา 30 บาท)

หลังจากนายสมโชคบริหารบริษัทในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่สักพัก เริ่มเบื่อหน่าย เพราะไม่ชอบ จึงต้องการขายหุ้นทั้งหมด เพื่อจะไปทำธุรกิจที่ตนชอบ นายสมโชค ขายหุ้นทั้งหมดของตน ในตลาดหลักทรัพย์ ปรากฎว่า ผู้ซื้อ คือ เจ็กทิ เจ็กทิ จึงกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ มีสิทธิ์บริหารธุรกิจต่อไป

ส่วนธุรกรรมที่เช่าที่ธนารักษ์ เพื่อเป็นที่ตั้งห้างก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอันใด ถ้าเทียบกับธุรกิจชิน ก็คือ การขายหุ้น ไม่ได้ขายดาวเทียม ไม่ได้ขายสัมปทาน

เขาขายหุ้นที่เขาสร้างมันขึ้นมาเอง มันเป็นหุ้น หรือก็คือ สิทธิ์ที่จะได้รับเงินปันผลจากการค้า เท่านั้นเอง แม้บริษัทสมดีเจ๊งไป ที่ดินก็ยังเหมือนเดิม ความเป็นสัมปทานยังเหมือนเดิม เช่น บริษัทเดินรถ ถ้าเจ๊ง รัฐก็หาคนใหม่มาทำแทน

ถามว่า ทำไมรัฐไม่ทำเอง ดิฉันตอบแทนรํฐใน พศ ที่ให้สัมปทาน คือ รัฐไม่มีตังทำธุรกิจ ก็เลยพอใจ ที่ได้เงินกินเปล่ารายปี เป็นค่าสัมปทาน

ยังมีคนเปรียบเทียบกับการที่สรรพากร นับชามก้วยเตี๋ยว เพื่อเก็บภาษี อันนี้ คือ ภาษีการค้า ที่ตัวบริษัท เสียอยู่ทุกปี ถ้าเป็นคนทำงานกินเงินเดือน ก็คือ ภาษีที่เสียตอนปลายปี

ยังมีคนโกรธว่า ทำไม ได้หุ้นจากบริษัท (ตามสิทธิ์ซื้อหุ้นสามัญ)แล้วต้องเสียภาษี ทีลูกนายก ได้หุ้น ไม่ต้องเสียภาษี สิทธิ์ที่พนักงานได้หุ้น เป็นการออกหุ้นเพิ่ม เพื่อให้พนักงานเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน หุ้นจำนวนนี้ ต้องไปขออนุญาตจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ ไปขออนุญาตเจ้าของบริษัท (เจ้าของหุ้น) เพราะ หุ้นเพิ่ม ตัวหารกำไรจะเพิ่ม ปันผลจะลดลง

ในตัวพนักงาน การได้หุ้นแบบนี้ เหมือนกับการได้โบนัส การเสียภาษี คิดเอาเฉพาะส่วนที่กำไร มาคำนวณภาษี

หวังว่า ผู้อ่านจะเห็นประเด็นแตกต่าง ระหว่าง นายกขายหุ้นส่วนตัวให้ลูก กับ พนักงาน ได้หุ้นขากเจ้าของหุ้นรวมของทั้งบริษัท เป็นหุ้นที่ออกเพิ่ม

ดิฉันหวังว่า ผู้อ่านที่เห็นด้วยจะช่วยชี้แจงต่อไป เพื่อความเจริญของส่วนรวม

ความเข้าใจผิดในช่วงเริ่มต้น เหมือนการติดกระดุมผิด เมื่อเม็ดแรกผิด สิ่งที่ตามมาก็ต้องผิดหมด

อีกเรื่องหนึ่ง ทำไมต้องมี แอมเพิลริช ที่เกาะ บริติชเวอร์จิน

ดิฉันเห็นว่า เรื่องที่ ชิน ไปตั้งบริษัทที่ แอมเพิลริช เป็น การทำธุรกิจที่ไม่เป็นตามทึ่คาด ทั้งที่เป็นความล้มเหลว ยังกลับกลายเป็นประเด็นที่ถูกใช้เป็นข้อกล่าวหา ได้ แปลกใจจริงๆ

เริ่มต้นที่ บริษัท ชิน ต้องการ ไปจดทะเบียน ที่ตลาดหลักทรัพย์ อเมริกา ท่านลองคิดตามนะ ถ้าเข้าตลาดได้ปั๊บ มีการซื้อขายหุ้นขึ้น หุ้นชิน อยู่ในประเทศไทย จะทำได้ไหม วันหนึ่งมีคำสั้งซื้อขาย เป็น หลายร้อยล้านบาท การโอนเงินค่าซื้อหุ้นจากอเมริกา เข้าประเทศไทย หรือ โอนเงินค่าหุ้นที่เขาขายให้ไปให้เขาที่อเมริกา ทางอินเตอร์เน็ต ทำได้ไหม คนที่ซื้อขายหุ้นโดยอินเตร์เนคในประเทศไทย จะรู้ดี ว่า เมื่อสั่งซื้อปุ๊บ เงินในบัญชีของเราจะถูกตัดออกในวันที่สามของวันทำการ เช่นเดียวกัน เมื่อขายปุ๊บ เงินจะเข้าบัญชีเราในวันที่สาม เช่นกัน โดยที่เรา ไม่ต้องทำอะไรเลย

ดังนั้น การเข้าตลาดอเมริกา โดยที่มีบริษัทอยู่เมืองไทยทำไม่ได้ เพราะ เรายังไม่เสรีทางการเงิน แบงค์ชาติต้องตรวจเงินว่ามีที่มาจากไหน เป็นเงินซื้อขายจากยาบ้าหรือไม่ เป็นต้น

ดังนั้น จึงต้องไปตั้งบริษัทที่ ที่มีเสรีภาพทางการเงิน

ในที่สุด สภาพการเมืองโลก และ อะไร ต่อมิอะไร หุ้น ชิน ไม่ได้ เข้าตลาดที่อเมริกา ซึ่งดิฉันมองว่า เป็นความล้มเหลว เสียด้วยซ้ำ ทีนี้ หุ้น ก็เลย ค้างเติ่ง ไม่ได้ทำอะไรอยู่ตั้ง นาน จนแน่ใจว่า ไม่ไปอเริกา จึงต้อง กลับบ้าน ก็เท่านั้น

ย้ำอีกครั้ง ว่า ขายหุ้น ที่ใช้ดำเนินการทางธุรกิจ เท่านั้น ไม่ได้ขายชาติ

อันที่จริง ดิฉัน เสียดายพรรคที่มีรอง หน ทำธุรกิจในตลาดหุ้น น่าที่จะช่วยแก้ความเข้าใจผิดของประชาชน แต่เพราะ อวิชชา ทำให้ร่วมถล่มแบบ น้ำท่วมปาก ไม่กล้าด่ามาก ดิฉันจึงเสียดาย เพราะ คนดีย่อมไม่ใช้วิธีนี้ นี่คือ ความคิดของดิฉันเอง เดี๋ยวนี้ พอเห็นหน้าคนพรรคนี้ออกทีวี ดิฉันปิดทีวีเลย

จากคุณ : ใบโหระพา - [ วันเถลิงศก (15) 08:52:21 ]

 

โดย: Sky 15 เมษายน 2549 13:57:59 น.  

 

ว่าแล้วเชียว sky เนี่ยช่างไม่แฟร์เลย นึกแล้วเชียว บทความที่ผมเขียนตอบโต้ข้อกล่าวหาคุณน่ะ ไปลบทิ้งทำไม แน่จริงก็ปล่อยให้คนอ่านเค้าตัดสินใจเองสิ ว่าเหตุผลใครดีกว่า ถูกต้องกว่า คุณมันก็นิสัยเหมือนเจ้านายคุณน่ะแหละ ที่คอยปิดกั้นคนที่คิดต่างตลอดเวลา ดีแต่คอยลบของผมและคนเห็นต่างๆ แย่มากๆ

 

โดย: สู้คนซึ่งหน้า IP: 203.107.214.169 15 เมษายน 2549 14:57:01 น.  

 

คห15 ครับ ผมไม่ได้ถามว่าหนี้ภาคครัวเรือนเกิดแต่เมื่อใด ผมถามว่าหนี้ภาคครัวเรือนสมัยทักษิณเนี่ย มันเพิ่มมากขึ้นอีกเท่าใด กรุณาอ่านซะให้เข้าใจ ก่อนจะตอบดีกว่า

 

โดย: สู้คนซึ่งหน้า IP: 203.107.214.169 15 เมษายน 2549 15:06:47 น.  

 

ผมไม่มีตัวเลขเหมือนทุกท่านที่ว่ามา แต่ว่ามีข้อมูลภาคสนามพอได้มัียครับ
ก่อนเลือกตั้ง 2 เมย.ผมขึ้นแท็กซี่ 2-3 คัน ถามว่าจะเลือกใคร คำตอบเดียวที่ได้คือทักษิณ ถามว่า ทำไม เค้าว่าตั้งทักษิณเป็นนายก คนขึ้นแท็กซี่มากขึ้น ผมก็อนุมานง่ายๆว่า เศรษฐกิจดีขึ้น มีคนมีเงินจ่ายค่าแท็กซี่มากขึ้น
ไม่รู้ว่าจะเป็นประโยชน์มั๊ยครับ

 

โดย: ผ่านมาอีกคน IP: 61.47.99.180 15 เมษายน 2549 17:28:33 น.  

 

คุณสู้คนซึ่งหน้า ผมไม่ได้ปฏิเสธว่าหนี้สินในครัวเรือนในสมัยทักษินเพิ่มขึ้นแต่คุณต้องดูที่เจตนาของรัฐบาลว่านโยบายที่ให้คนจนและคนที่ต้องการเงินเข้าถึงแหล่งเงินกู้นั้นเพื่ออะไร... ไม่ใช่ให้ไปซื้อมือถือให้ลูก ซื้อรถ ผ่อนรถ ฯลฯ ซึ่งก็ได้เกิดขึ้นจริงๆด้วย...แต่ต้องการให้มีทุนทั้งเรื่องการศึกษา การลงทุนการทำมาหากิน ซึ่งรัฐบาลในสมัยก่อนๆไม่เคยคิด อย่างผมก็กู้ในสมัยทักษิน 1 ซึ่งมันคุ้มกับการลงทุน ถ้าไม่มีเงินทุนนี้ลูกผมไม่ได้เรียนแน่นอนคุณไม่ให้โอกาศคนอื่นบ้างหรือครับ พ่อค้าแม่ค้าพอจะมีทุนค้าขายไม่ต้องไปก็นอกระบบดอกเบี้ยมหาโหด คุณลองไปดูคนที่เขาได้ประโยชน์บ้างซิครับ อย่ามองแต่ด้านเดียวว่าคนเป็นหนี้ในครัวเรือนมากบ้านเมืองจะพัง เขาเพียงเพื่อพอเอาตัวรอดได้ ถามจริงๆพวกคนรวยบางตระกูลเคยคิดจะช่วยคนจนบ้างไหม... การที่มีความคิดว่าจะให้ความยากจนหมดไปให้ได้ ..ผมว่าแค่คิดก็ใช้ได้แล้วครับ หรือคุณคิดว่าไม่ควรแก้ไขให้มีคนจนอยู่ตลอดไป???? ถ้าคุณเห็นว่าหนี้ในครัวเรือนไม่ดีบอกเหตุและข้อเสนอแนะด้วย ผมว่าจะดีกว่า เรามาช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองไม่ดีกว่าหรือ ผมเห็นด้วยถ้าทักษินไม่ดีถ้าพิสูจน์ทางกฎหมายหรือโดยองค์กรอิสระแล้วผมก็ไม่เอาด้วย ในทำนองเดียวกันถ้าฝ่ายค้านหรือฝ่ายที่คุณสนับสนุนก็ไม่โปร่งใสโกงกินเช่นเดียวกันผมก็ไม่สนับสนุน ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายครับ ข้อมูลต่างๆที่คุณว่าถูกลบไปนั้นความคิดอย่างเดียวกันหาอ่านได้ทั่วไปครับ คุณ ZZZ โพสต์ไปเกือบทุกblogแล้วแต่ก็มีคู่ประกบตามไปโพสต์ภาพทุกครั้งเหมือนกันคนอ่านจะตัดสินเองครับ ผมลองแสดงความคิดเห็นไปในblog ของคนที่มีความคิดอย่างคุณเขาก็ไม่ให้เข้าบอกว่าข้อความของคุณหยาบคาย ผมจำได้ว่ามีคำว่า"โง่" เท่านั้นจริงๆ อีกครั้งครับคุณไม่เชื่อข้อมูลของคนอื่นอย่างคุณใบโหระพาหรือคุณ Sky คนอื่นก็มีสิทธิที่จะไม่เชื่อคุณเช่นกัน เวลาและข้อเท็จจริงเป็นเครื่องพิสูจน์ ถ้าผมเขื่อผิดๆกรรมก็ตามทันผมแน่นอนครับ
ขอโทษคุณ Sky ที่ใช้เนื้อที่ตอบข้อสงสัย ตอบผมได้หรือยังคุณสู้ซึ่งหน้า ว่าถ้าคุณไม่เอาระบบทักษิณคุณจะเอาระบอบอะไร คุณตั้งกระทู้เองก็ได้จะได้เขียนบอกได้ยาวๆ ผมบอกอีกครั้งถ้าดีกว่าจริงๆผมจะสนับสนุนเป็นคนแรกครับ

 

โดย: นาย ผ่านมา IP: 58.147.104.164 15 เมษายน 2549 18:17:07 น.  

 

ไม่เอาระบอบทักษิณ ก็เป็นระบอบประชาธิปไตยสิครับ ประชาธิปไตยที่แท้จริงสมบูรณ์ องค์กรอิสระต้องอิสระอย่างแท้จริง ผู้นำต้องมีจริ้ยธรรม คุณธรรม ไม่เอาสมบัติของชาติไปขาย ไม่เอาเงินภาษีของส่วนรวมไปหาเสียง ช่วยคนต้องช่วยทุกชนชั้น ไม่งั้นมีปัญหาเรื่องการเสียภาษีแน่ ไม่จ้างพรรคเล็กลงสมัครเพื่อหวังหนี20เปอร์เซนต์ ไม่เลือกปฎิบัติโดยพัฒนาจังหวัดที่เลือกตัวเองก่อน นี่ละครับระบอบที่ตรงกันข้ามกับระบอบทักษิณนี่ละครับระบอบที่ตรงกันข้ามกับระบอบทักษิณ

 

โดย: สู้คนซึ่งหน้า IP: 203.107.214.212 16 เมษายน 2549 0:51:31 น.  

 

เสียใจครับ นี่คือ ระบอบ ปชต. ที่ใช้เสียงส่วนมากปกครองประเทศ และ รับฟังเสียงที่เหลือ แล้วคุณมีข้อสงสัยใน กม.ก็ต้องรวมตัวกัน อย่ามาอ้างคนทั้งประเทศ หรือ คน มีความรู้ เพราะใครๆก็รู้ว่า เราปกครองแบบนี้ และ ปกครองมานานแล้ว คุณอ้างว่าพวกเยอะ ก็รวมตัวเข้าชื่อ แก้ กม. แก้รัฐธรรมนูญ ว่าจะเอาอย่างไร ก็น่าจะทำได้ ไม่ไช่อ้างข้างๆคูๆ ว่ามีสิทธิเดินขบวนขวางคนอื่นๆ ไม่ผิด กม.
อ้างว่า คนส่วนใหญ่ ที่เลือก ไม่รู้ ความรู้ต่ำ กติกาคืออะไร ไม่รู้ไม่เอา ก็ไปสร้างประเทศเอง หรือไปกู้ชาติของคุณอย่ามาทำร้าย คนอื่นเขาก็แล้วกัน เวรกรรม จริงๆ

 

โดย: โอ่ง IP: 203.188.46.84 16 เมษายน 2549 16:04:34 น.  

 

ดิฉันยอมรับว่าความแตกต่างในเรื่องการศึกษาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงปัจจัยเดียวที่ทำให้คนเราแตกต่างในด้านความประพฤติ แต่ถ้าจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ดิฉันไม่ขอ perfected man ขอเพียงให้เค้ามีนโยบายเอื้อประโยชน์ให้แก่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้มีโอกาส ลืมตาอ้าปาก และมีโอกาสทั้งทางด้านสาธารณสุข โอกาสทางการศึกษา แก่คนส่วนใหญ่ ที่ด้อยโอกาสของสังคม เพื่อช่องว่างทางสังคมจะได้แคบลงเรื่อยๆ จะได้ไม่มีใครคิดว่าหนึ่งเสียงของตนมีค่ามากกว่าหนึ่งเสียงของคนอื่น ๆ

 

โดย: แก้วเปล่า? IP: 58.8.157.220 17 เมษายน 2549 1:12:32 น.  

 

 

โดย: อีกไม่นานเกินรอ IP: 221.128.89.162 17 เมษายน 2549 10:49:03 น.  

 

 

โดย: 5 ทรพี IP: 221.128.89.162 17 เมษายน 2549 10:54:16 น.  

 


Laughing
....พวกท๊ากกกก
สิน ออกก ไป...แน่ะ...
ยังดื้อนั่งเฉยอีก....แกนี่..นายแกหอบเงินหนีไปต่างประเทศแล้วนะ






ดูสายสัมพันธ์พรรคการเมืองใหญ่ในผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา 2549 ที่

//www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9490000049348


ดูแล้วอย่าไปเลือกคนพวกนี้

เราต้องทำให้มันเปิดสภาไม่ได้
 เพื่อที่จะหานายก ฯ
คนกลาง ไม่ใช่คนของพรรคใด
โดยเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ครั้งใหม่นี้
ต้องอาศัยน้ำใจคนใต้อีกครั้ง

    
- ฉีกบัตรทุกเขต ( ทำทุกคนเป็นแสน ๆ
เป็นล้านคน )

    
- กาไม่เลือกใคร

    
- หากหัวคะแนนมายืนคุมหน้าคูหาและจ้องมอง
ให้กาแล้วทำให้บัตรเสีย ( เขียนว่าเกลียดคนโกงลงไปในบัตร )

ถ้ารู้ว่า ผู้สมัคร ส.ว.คนไหนเป็นสายพรรคนรกนี่ ให้ประชาชนสั่งสอนในวันที่ 19
เม.ย.49 อย่าไปเลือกพวกมัน เอาให้เข็ดเลย กำจัดพวกนรกนี่ต้องกำจัดให้ถึงรากถึงโคน
...

หลังเลือกตั้งช่วยกันร้องเรียนและฟ้องร้องผู้สมัคร ส.ส.และ ส.ว.
สายพรรคไทย"รก"ไทย เช่น โกงการเลือกตั้ง
,
ซื้อเสียง  ปิดป้ายในที่ห้าม ,
หาเสียงในงานศพ ฯลฯ ให้เกิดคดีความเลือกตั้งจำนวนมาก เพื่อให้เกิดใบเหลืองใบแดงอีก


  ดูซิว่าไอ้พรรคนรกนี่มันจะเปิดสภาเลือกนายก " นอมินี " ได้ยังไง  
และถ้ามันดันทุรังตีความกฎหมายเข้าข้างเพื่อจะเปิดสภาทั้งที่เสียงไม่ครบ
ส.ส.500+ส.ว. 200 คน ขอเรียกร้องให้ชุมนุมใหญ่ทันที

-----------------------------------------------------------------------


ผมมีนิทานและคำถามเล่น ๆ
.....อาจยาวหน่อยแต่ช่วยอ่านจนจบนะครับ




1.
มีกำนันคนหนึ่งที่เบื้องหน้าชอบทำบุญ
แต่เบื้องหลังใจโฉดชอบอมเงินทำบุญจากชาวบ้านที่บริจาคให้วัด โดยรวมหัวกับมักทายก
4 คน ทำให้ร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็วใน 5
ปี และได้ทำการสั่งสมอิทธิพลจากเงินที่เยอะขึ้นตลอดเวลา
สั่งกำจัดทุกคนที่ขัดขวางผลประโยชน์ตัวเอง

 แล้วให้พวกของตัวเองเข้ามาเป็นกรรมการบริหารของตำบล


2.
วันหนึ่งกำนันคนนี้ย่ามใจหนักขโมยเอาพระประธานของวัดไปขายได้เงิน
73,300 บาท มีพยานแอบเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก
พอญาติโยมไปแจ้งความตำรวจแต่ด้วยความเส้นใหญ่ทำให้ตำรวจไม่กล้าทำอะไร ดองคดีไว้
มีแกนนำชาวบ้านใจกล้า
5 คน
ได้รวมตัวชาวบ้านไปประท้วงป่าวประกาศให้ชาวบ้านในตำบลรู้



3.
กำนันทนแรงกดดันไม่ไหว จึงประกาศว่าจะขอเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน (
ทอดได้ปีละครั้ง )  เพื่อหาเงินมาสร้างพระประธานองค์ใหม่แทนองค์เดิม ภายใน 30 วัน  
ขอแรงชาวบ้านทุกคนในตำบลมาทำบุญใหญ่ด้วยกัน
หากชาวบ้านคนไหนไม่มาร่วมด้วยแสดงว่าไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา



4.
มีผู้ใหญ่บ้าน 3
หมู่ไม่เห็นด้วยเนื่องจากเห็นว่าที่ถูกต้องกำนันต้องนำพระที่ขโมยไปมาคืนจึงจะถูก
มิใช่การทอดกฐินหาพระองค์ใหม่ จึงไม่ยอมลงขันร่วมทำบุญใหญ่ทอดกฐินในครั้งนี้
และไปแจ้งให้ชาวบ้านในหมู่ของตนทราบถึงพฤติกรรมของกำนัน



5.
แกนนำชาวบ้านใจกล้า 5
คนได้ทำการป่าวประกาศปลุกใจชาวบ้านทั้งตำบลให้เห็นความผิดของกำนัน
และท้าทายกำนันให้ชี้แจงความจริงกับประชาคมตำบล แต่กำนันไม่กล้า
ได้แต่ส่งลูกน้องให้ไปพูดจาโจมตีแกนนำชาวบ้านว่ากู้เงินแล้วไม่ใช้บ้าง
,
เลี้ยงหมาไม่รอดบ้าง ชาวบ้านหลายคนเริ่มลังเล
และมีหลายคนลืมเรื่องการขโมยเอาพระประธานและอมเงินของวัดไปเสียสนิท
และมองว่าเป็นการทะเลาะกันของกำนันกับลูกบ้าน



6.
แกนนำชาวบ้านใจกล้า 5 คนกดดันอย่างไร
กำนันก็ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง ดื้อด้านเพราะรู้ว่าวันใดลาออกจากตำแหน่ง
วันนั้นเขาโดนข้อหาหนักแน่ อำนาจก็หมด ลูกเมียคงเดือดร้อน และต้องติดคุกแน่นอน
จึงวิ่งไปหาชาวบ้านหลังโน้นหลังนี้โดยสัญญาว่าจะให้วัวบ้าง  เงินกู้บ้าง
จนชาวบ้านหลายคนเริ่มใจอ่อนและสงสาร
  กระแสกำนันขโมยพระวัดไปขายและอมเงินของวัดค่อย ๆ จางไปในที่สุด
คนส่วนใหญ่ในตำบลกลับไปเตรียมตัวทอดกฐินกันเป็นที่ครื้นเครง



7.
ในวันทอดผ้าป่าปรากฎว่าชาวบ้านทั้งตำบลมี 45
ร้อยคน มีชาวบ้านมาทอดกฐินแต่ไม่บริจาคเงินจำนวน 10 
ร้อยคน บริจาคแบ๊งค์กงเต็ก 20 ร้อยคน (
ทำให้ใช้ไม่ได้ )  และไม่ยอมร่วมงานทอดกฐินกับกำนันอีก
17
ร้อยคน  รวมเป็นผู้ไม่บริจาคเงินให้องค์กฐินของกำนันจำนวน
29
ร้อยคน ( หรือ 65 % )
แต่กำนันกลับป่าวประกาศไปทั่วว่ามีคนให้เงินทอดกฐินกำนัน
16
ร้อยคน ซึ่งเกินครึ่งของผู้ร่วมงานที่แกและมักทายก 4 คนร่วมกันจัด.......จะบ้าตาย


8.
และกลับปรากฏว่าชาวบ้านใน 3
หมู่บ้านทางท้ายล่างของตำบลร่วมทอดกฐินด้วยน้อยมาก จนทำให้กองกฐินมีปัญหา
ได้เงินไม่พอจะหาพระประทานองค์ใหม่ ภายใน 30 วัน 
ชาวบ้านเริ่มเครียดและกดดันกำนันอีกครั้ง


9.
หลังจากกลับจากการหารือกับเจ้าอาวาสวัดแล้ว
กำนันถูกร้องขอบางอย่างได้เรียกประชุมคนทั้งตำบลทันที
กำนันประกาศว่า.....จะขอถอยโดยบวชพระสักระยะ
และจะให้ลูกน้องสนิทขึ้นมาเป็นกำนันแทน........สิ้นคำประกาศทันใดชาวบ้านค่อนตำบลส่งเสียงอนุโมทนาสาธุ
ยกย่อง กำนันเป็นวีระบุรุษ ผู้เฒ่าผู้แก่น้ำตานองไหลทั่วทั้งตำบล



10.

วันนี้ชาวบ้านไม่มีใครพูดเรื่องกำนันขโมยพระและอมเงินของวัดอีกแล้ว.....มักทายก
4 คน
กำลังจะบอกชาวบ้านให้ทอดผ่าป่าซ่อมปัจจัยที่ขาดจากการทอดกฐินอีกครั้งก็ได้เงินครบแล้ว
  เอามาแทนพระประธานองค์ใหม่แทนองค์เก่าก็ได้ไม่เห็นจะเสียหาย
.....กำนันกำลังจะเสียสละเป็นพระให้ชาวบ้านกราบไหว้......ลูกน้องกำนันกำลังจะขึ้นมาเป็นกำนันแทน 
 และอันธพาลลูกน้องกำนันกำลังคุกคามแกนนำชาวบ้าน

 5  คนหาว่าทำให้ประชาคมตำบลแตกแยก

11.
แกนนำชาวบ้านใจกล้า 5 คน
และผู้ใหญ่บ้านใจกล้า
3 หมู่
ออกมาบอกว่าต้องลงโทษกำนันและนำพระประธานและเงินของวัดที่กำนันอมไปคืนมาก่อน
เพราะความผิดยังไม่ได้ชำระ
แต่ชาวบ้านหลายคนบอกว่ากำนันถอยแล้วทำไมฝ่ายอื่นไม่ถอยบ้าง......แกนนำชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านกำลังถูกโดดเดี่ยว.......อนิจจา


12. 
วันนี้กำนันกำลังนำเงินที่ได้จากขโมยพระประธานไปขายและเงินของวัดที่อมไป 
ไปทัวร์ต่างตำบลอย่างสนุกสนานพร้อมติดต่อนำเงินนี้ไปฝากเพื่อนกำนันต่างตำบลไว้ 
เมื่อยามต้องระเห็จจากตำบาลของตนจะได้มีเงินไว้จับจ่าย.....แสบจริง ๆ




13.
นิทานเรื่องนี้ถามว่า......การจะขอบวชของกำนันทำให้พ้นความผิดข้อหาขโมยพระประธานและอมเงินของวัดได้อย่างนั้นหรือ
  หรือว่าต้องการแค่เพียงให้คนเขาลืมอดีตของกำนันเท่านั้น
????
หลังจากสึกหนนี้ ไอ้ทิดกำนันจะกลับมาเป็นกำนันอีกแสนนานใช่ไหม...???....ต้องถามชาวบ้านตำบลนี้แล้ว
???



14.
จะมีการทอดผ่าป่าซ่อมอีกครั้ง.......ชาวบ้านท้ายตำบลจะยอมบริจาคเงินหรือไม่ วันที่
19  , 23 หรืออาจจะ 30  เม.ย.49
รู้กัน ???

15
ขอเป็นกำนันคนกลางโดยการแต่งตั้งจากของท่านเจ้าอาวาสไม่ดีหรือ
??? 
จะได้มาสะสางความผิดของกำนันก่อน   คนผิดไม่ควรลอยนวลไม่ใช่หรือ
???
ชาวบ้านจะยอมให้ลูกน้องกำนันมาเป็นตัวแทนข่มเหงชาวบ้านอีกหรือ
?? ลืมเรื่องกำนันขโมยพระประธานและอมเงินของวัดไปแล้วหรือไร
??? ……อย่าต้องปล่อยให้แกนนำชาวบ้าน  5  คนและผู้ใหญ่บ้าน 3
หมู่โดดเดี่ยวเลยครับ.....ร่วมเป็นกำลังให้เขาต่อสู้เรียกหาความยุติธรรมเถอะ
.......




 


 

โดย: zzz IP: 61.19.54.238 18 เมษายน 2549 17:10:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Sky
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






ข่าวประชาสัมพันธิ์




สถานีวิทยุ 1
สถานีวิทยุ 2
สถานีวิทยุ 3
สถานีวิทยุ 4
สถานีวิทยุ 5
สถานีวิทยุ 6
สถานีวิทยุ 7
สถานีวิทยุ 8
สถานีวิทยุ 9
สถานีวิทยุ 10


Google

Friends' blogs
[Add Sky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.