สำหรับใครที่สนใจอยากมาลองดืมชามะรุมซึ่งค้นพบแล้วว่ามีประโยชน์มากมายทางกลุ่มสมุนไพรไทยป่าแขมได้จำหน่ายชาใบมะรุม ชาชงสมุนไพร สูตรลดไขมัน ลดความอ้วน ลดความดัน ล้างสารพิษตกค้างในร่างการ บำรุงสายตาสนใจสอบถาม ทักมาได้ค่ะ สั่งซื้อ สอบถาม ไลน์ ID : @kommyshop (ใส่ @ จ้า) เปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศด้วยค่ะ
บรรจุ : 20 ซอง/ถุง : 1.5 กรัม/ซอง วิธีการเก็บรักษา : เก็บในที่แห้งและหลีกเลี่ยงแสงแดด วิธีชง : ใส่ถุงชาลงถ้วยชา>>เติมน้ำร้อนเดือด>>ทิ้งไว้ 3-5 นาที>>พร้อมดื่ม
ซื้อ 3 ซอง แถม 1 ซอง ด่วนมีจำนวนจำกัด ส่งทั่วประเทศ
มะรุมถือว่าเป็นสมุนไพรไทยสารพัสประโยชน์ มีสรรพคุณทางยามากมาย น้ำมันมะรุมยังเหมาะกับผู้หญิงที่ต้องการให้หน้าดูอ่อนกว่าวัย ผิวอ่อนนุ่ม ไม่หยาบกร้าน สามารถฆ่าเชื้อราและแบคที่เรียบางชนิดได้ จึงเหมาะกับผู้ที่มีอาการเป็นเชื้อราที่หนังศรีษะ มีอาการคันศีรษะ และลดอาการผมร่วง นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการปวดตามข้อ หรือผู้ที่เป็นโรคเก๊าได้ ข้อมูลทั่วไป มะรุม เป็นผัก สมุนไพรพื้นบ้านของเรา มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร, ยา และด้านอุตสาหกรรม โดยธรรมชาติแล้วมะรุมเป็นไม้ยืนต้นที่เติบโตได้เร็ว ทนความแห้งแล้ง สามารถปลูกได้ในเขตร้อน เนื่องจากการเจริญเติบโตจะดีในแถบเอเชียซึ่งมีอาการร้อน การเติบโตอาจสูงได้ถึง 4 m. และสามารถออกดอกในระยะเวลาปีแรกหลังจากที่ปลูก มะรุมในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Moringa และมะรุม ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Moringa oleifera Lam มะรุมจะมีการเรียกต่างกันตามแต่ภูมิภาค เช่น ชาวอีสานเรียกกันอยู่สองอย่างคือ ผักอีฮุม และ บักฮุ้ม ชาวเหนือเรียกกันว่า บะค้อนก้อม ถิ่นกำเนิด มะรุมมีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียบางประเทศ เช่น ศรีลังกา และอินเดีย นอกจากนี้ยังมีในทวีปแอฟริกา สามารถปลูกได้ง่าย เจริญเติบโตดี ได้ในดินทุกๆประเภท มีความต้องการน้ำ ความชื้นปานกลาง เราสามารถขยายพันธุ์มะรุมด้วยวิธีเพาะการเมล็ด และวิธีการปักชำ เวลาประมาณ 2 สัปดาห์หลังการปลูก ต้นมะรุมจะมีความสูงประมาณ 10-20 cm. รูปแบบใบ ผล ดอก และเมล็ดของมะรุม ลักษณะต่างๆของมะรุม ที่เว็บไซต์ SiamHerbs สรุปได้มีดังนี้ - ใบมะรุมนั้นจะเป็นใบประกอบเหมือนขนนก ลักษณะใบจะแตกใบย่อยเป็น 3
ชั้น มีความยาว 20 40 cm. เรียงกันแบบสลับ ใบย่อยมีความยาวประมาณ 1 3 cm. ลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายและฐานของใบ มีลักษณะมน ผิวใบบริเวณด้านล่าง จะมีสีอ่อนกว่าด้านบน ขณะที่ใบยังอ่อน จะมีขนเล็กน้อย รสชาติใบจะมีรสหวานและมัน - ผลมีลักษณะเป็นฝักยาว มีเปลือกเป็นสีเขียว และมีส่วนคอด
ส่วนมนเป็นช่วงๆ ตามความยาวฝัก ฝักปกติจะยาวประมาณ 20 50 ซม. ฝักจะมีรสชาติหวาน - ดอกจะออกในช่วงฤดูหนาว บางพันธุ์จะมีลักษณะเด่นคือ
สามารถออกดอกได้หลายๆครั้งต่อรอบปี ดอกมีลักษณะเป็นช่อขาว มีกลีบเรียงกันทั้งหมด 5 กลีบแยกกัน รสชาติดอกมีความขม มันเล็กน้อย และความหวาน - เมล็ดเป็นรูปเรขาคณิต 3 เหลี่ยม มีปีกซึ่งมีความบางหุ้มอยู่ 3 ปีก เส้นผ่านศูนย์กลางเมล็ด มีความยาวประมาณ 1 cm.
มะรุม สรรพคุณทางยาจากตำรา เนื่องจากสรรพคุณที่มีมากมายและหลากหลายของมะรุม ดังนั้น SiamHerbs จึงได้จัดหมวดหมู่สรรพคุณให้ดูง่ายขึ้นดังนี้ - การฆ่าเชื้อ
- สารสกัดเอทานอลจากมะรุม สามารถฆ่าเชื้อราบางชนิดได้ เช่น
- Trichophyton rubrum
- Trichophyton mentagrophytes
- Epidermophyton floccosum
- Microsporum canis
- สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้
- สามารถฆ่าเชื้อจุลลินทรีย์ได้
- การรักษาโรคและบรรเทาอาการ
- โรคขาดสารอาหารในเด็กที่มีอายุระหว่าง แรกเกิดถึง 10 ขวบ
- ช่วยลดระดับน้ำตาลได้ จึงช่วยบรรเทาอาการผู้เป็นโรคเบาหวาน
- เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ทำให้ความเข้มข้นของเลือดลดลง
จึงมีส่วนช่วยให้ความดันเลือดลดลงเช่นกัน ดังนั้นจึงช่วยรักษาโรคความดันได้ - ช่วยรักษาโรคหวัด แก้ไอ และบรรเทาอาการไอเรื้อรัง
- ช่วยรักษาโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น
- โรคภูมิแพ้
- โรคหอบหืด
- โรคโพรงจมูกอักเสบ
- ใช้บรรเทาโรคตาได้ทุกโรค
- น้ำมันมะรุมสามารถฆ่าเชื้อราบนหนังศีรษะ ลดอาการคันหนังศีรษะ และลดอาการผมร่วงได้
- ช่วยบรรเทาโรคไขข้อ ปวดตามข้อ และกระดูกอักเสบ
- การบำรุง
- บำรุงผิวบรรณให้อ่อนนุ่ม ผิวไม่กร้าน เนื่องจากมะรุมมีสารต้านอนุมูลอิสระ
ผลการวิจัยมะรุมโดยมหาวิทยาลัยมหิดล ผลการวิจัยนี้มาจาก คณาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะทดลองระดับเซลล์และสัตว์ พบว่า มะรุม(Moringa)นั้นมีฤทธิ์ ที่น่าสนใจซึ่งออกฤทธิ์ในทางบวกกับร่างกายของสิ่งมีชีวิต เช่น ลดความดันเลือด ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ลดคอเลสเตอรอล ต้านการอักเสบ ป้องกันตับอักเสบ ลดระดับน้ำตาล ต้านออกซิเดชัน ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการเกิดเนื้องอก และต้านมะเร็ง ฤทธิ์ของมะรุมจากผลการวิจัยในสัตว์ทดลอง สรรพคุณมะรุมที่ได้จากการทดลองกับหนู 9 อย่าง มีดังนี้ - ลดความดันเลือด จากการทดลองสามารถลดความดันเลือดของหนูแรทและสุนัข
- ต้านการเกิดเนื้องอกและมะเร็ง สารสกัดจากมะรุมสามารถลดจำนวนหนูที่เป็นมะเร็งผิวหนังได้
- ลดระดับคอเลสเตอรอล สามารถลดระดับคอเลสเตอร์รรอลในหลอดเลือดได้ หลังจากป้อนอาหารที่มีไขมันสูงแก่หนูทดลอง
- ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร หลังจากให้ยาแอสไพรินแก่หนูทดลองเพื่อกระตุ้นให้เกิดแผลภายในกระเพาะอาหาร
พบว่าสารสกัดจากมะรุมสามารถต้านและป้องกันการเกิดแผลกระเพาะอาหารได้ - ป้องกันการอักเสบของตับ หลังจากให้ยาพาราเซตามอล
และยาไรแฟมพิซินแก่หนูทดลองเพื่อกระตุ้นการอักเสบของตับ พบว่าหลังจากป้อนสารสะกัดจากใบ และดอก สามารถยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ - ต้านออกซิเดชัน สารสะกัดจากใบ ดอก และราก สามารถต้านอนุมูลอิสระและสามารถกำจัดอนุมูลอิสระได้
- ต้านเชื้อแบคทีเรีย จากการทดลอง สารสกัดจากใบ ดอก เมล็ด เปลือกต้น และเปลือกราก สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้หลายชนิด
- ลดระดับน้ำตาล สารสกัดจากใบและเปลือกลำต้นสามารถลดระดับน้ำตาลในหนูที่เป็นโรคเบาหวานได้
- ต้านการอักเสบ ผลการวิจัยพบว่า การอักเสบภายในทางเดินหายใจของหนูตะเภาลดลง เพื่อได้รับสารสกัดจากมะรุม
นอกจากมะรุมจะมีผลดีกับร่างกายแล้ว ยังมีผลการทดลองที่แสดงถึงผลค้างเคียงของมะรุมอีกด้วย ผลค้างเคียงของมะรุม มะรุมมีผลค้างเคียงเป็นพิษระดับเซลล์และสัตว์ทดลองดังนี้ - เมื่อป้อนสารสกัดจากเมล็ดให้กนูทดลองที่มีการผสมพันธุ์แล้ว พบว่าทำให้หนูทดลองเกิดอาการแท้งได้
- เมื่อป้อนสารสกัดจากรากมะรุมให้หนูทดลอง จะมีผลทำให้ทารกฝ่อ ในช่วงเวลาตั้งครรภ์ระยะสุดท้าย
- เมื่อป้อนสารสกัดจากเมล็ดให้กระต่าย มีผลให้เม็ดเลือดแดงของกระต่ายทดลองเกิดการรวมตัวกัน
- เมื่อป้อนมะรุมดิบให้แก่หนูทดลองเป็นเวลาทั้งหมด 5 วัน พบว่า
มีผลทำให้ความอยากอาหาร การใช้โปรตีน และการเจริญเติบโตของหนูลดลง ต่อมไทมัส และม้ามฝ่อลง แต่กระเพาะอาหาร หัวใจ ไต ลำไส้ ปอด ตับอ่อน และตับมีขนาดใหญ่มากขึ้น ทั้งนี้การรับประทานมะรุม นอกจากจะได้ประโยชน์จากมะรุมแล้ว ยังต้องระวังเรื่องการแท้งลูกในสตรีที่มีครรภ์ด้วย จากการทดลองที่พบการแท้งลูกของหนูทดลอง มะรุม คุณค่าทางโชนาการและคุณค่าทางอาหาร สำหรับคุณค่าของมะรุม เราจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ คุณค่าทางโภชนาการ และคุณค่าทางอาหาร ซึ่งสาเหตุที่ต้องแบ่งออกเป็นสองประเภทเนื่องจาก การแบ่งประเภททางอาหารเราจะนำคุณค่าทางอาหารของมะรุมมาเทียบกับคุณค่าทางอาหารของนมและผักผลไม้ชนิดอื่นที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ส่วนการแบ่งตามคุณค่าทางโภชนาการนั้น เราจะแจกแจงรายละเอียดของมะรุมว่า มีส่วนประกอบของโปรตีน ไขมัน ใยอาหาร วิตามิน เท่าไหร่บ้าง ดังรายการด้านล่างครับ คุณค่าทางโภชนาการ สำหรับคุณค่าทางโภชนาการของใบมะรุมปริมาณ 100 g. ซึ่งสำรวจโดยอินเดียในปีพ.ศ.๒๕๓๗ มีดังนี้ - พลังงาน(Energy) 26 cal.
- โปรตีน(Protein) 6.7 g.
- ใยอาหาร(Dietary Fiber) 0.1 g.
- ไขมัน(Lipids) 4.8 g.
- คาร์โบไฮเดรต(Carbohydrate) 3.7 g.
- วิตามินเอ(Vitamin A) 6,780 μg.
- วิตามินซี(Vitamin C) 220 mg.
- แคโรทีน(Carotene) 110 μg.
- แคลเซียม(Calcium) 400 mg
- ฟอสฟอรัส(Phosphorus) 110 mg.
- เหล็ก(Ferrum) 0.18 mg
- แมกนีเซียม(Magnesium) 28 mg.
- โพแทสเซียม(Potassium) 259 mg.
คุณค่าทางอาหาร - วิตามินเอ(Vitamin A)ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตามากกว่าแครอตถึง 4 เท่า
- วิตามินซี(Vitamin C)ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันโรคหวัด มากกว่าส้มถึง 7 เท่า
- แคลเซียม(Calcium)ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและฟัน มากกว่านมสด 4 เท่า
- โพแทสเซียม(Potassium)ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทมากกว่ากล้วยถึง 3 เท่า
- โปรตีน(Protein) ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย มากกว่าโยเกิร์ต 2 เท่า
สนใจสอบถามได้นะค่ะ ใบชามะรุม
Create Date : 21 เมษายน 2561 |
Last Update : 21 เมษายน 2561 16:40:00 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1209 Pageviews. |
|
|