คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่า การล้าง
แอร์บ้าน เป็นประจำตามกำหนดเวลา อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อ 6 เดือน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นของ
แอร์บ้าน ให้เย็นมากขึ้นถึง 10-15% เลยทีเดียว แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟได้อีก 10%
ภาพจาก Groupon
นอกจากเรื่องของการประหยัดไฟแล้ว การล้างแอร์อย่างเป็นประจำ จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับแอร์ที่บ้าน ใช้งานได้อย่างยาวนานและมีประสิทธิภาพอีกด้วย แหมมม
มีแต่ประโยชน์เน้นๆแบบนี้ ก็ควรล้างสิคะ จะรออะไร !
แล้วถ้าไม่ล้างแอร์บ้านล่ะ ?
หลายคนถามว่า ถ้าเกิดไม่ล้าง
แอร์บ้านเลย หรือล้างแค่ปีละครั้ง จะมีผลอะไรไหม? อันนี้บอกเลยว่า มีผลแน่นอน ทั้ง
แอร์บ้านทำงานหนักมากกว่าปกติ
แอร์บ้านไม่เย็นตามที่ตั้งค่าอุณภูมิเอาไว้แล้ว ยังส่งผลต่อเรื่องของสุขภาพร่างกายอีกด้วย !
เพราะ
แอร์บ้านที่เราใช้งานอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะที่ทำงาน หรือที่บ้าน หากไม่ทำความสะอาดเลยแล้วล่ะก็ อาจจะส่งผลให้เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจได้เลยทีเดียว เพราะ
แอร์บ้านมีความชื่นอยู่ภายใน ก่อให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคและแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา
เมื่อเราสูดหายใจเข้าไ พวกสิ่งสกปรก เชื้อโรค เชื้อรา ก็จะเข้าสู่ร่างกาย ส่งผลให้คุณมีอาการไอ มีไข้ หรือปอดอักเสบแบบรุนแรงได้เลยทีเดียว เรียกได้ว่า อันตรายมาก ดังนั้นล้าง
แอร์บ้านกันเถอะนะ เพื่อสุขภาพของคุณและคนในครอบครัว
ควรล้างแอร์ตอนไหนล่ะ ?
หลายคนก็อยากจะล้างแอร์อยู่เหมือนกันแหละ แต่ว่าก็ไม่รู้ว่าจะต้องล้างตอนไหน ช่วงเวลาใด ถึงจะเหมาะสมมากที่สุด วันนี้เลยแวะเอาข้อสังเกตุแบบง๊ายง่าย ที่คุณจะทราบเลยว่า เมื่อไหร่คุณจะต้องเรียกช่างมาล้าง
แอร์บ้านได้แล้ว !
ภาพจาก Canstar Blue
เมื่อเปิด
แอร์บ้านควรสังเกตุว่าอากาศที่ออกมาจาก
แอร์บ้าน มีกลิ่นเหม็นอับหรือไม่ อารมณ์แบบว่า เปิด
แอร์บ้านปุ๊ป ลมที่พ่นออกมาใส่หน้า กลิ่นพุ่งเข้าจมูกปั๊ป แทบจะเป็นลม เบื้องต้นควรล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศที่อยู่ใน
แอร์บ้านด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคก่อน แต่หากไม่หาย ควรเรียกช่างมาทำความสะอาดแบบจัดเต็มค่ะ
แอร์บ้านเริ่มไม่เย็น หรือเปิดแล้วมีแต่ลมแห้งๆออกมา เป็นอีกสัญญาณที่บ่งบอกว่า ควรทำความสะอาด
แอร์บ้านได้แล้วแบบด่วนๆค่ะ !
ติดต่อใช้บริการล้าง
แอร์บ้าน Home Service จากช่างแอร์ในตำนาน และเชี่ยวชาญทางด้านการซ่อมบำรุงได้ที่ Homepro โทร 1284 ค่ะ