มิถุนายน 2560

 
 
 
 
1
2
3
4
5
8
9
10
11
13
15
17
18
21
23
24
25
 
 
All Blog
ข้อแตกต่างระหว่าง LG OLED TV กับ LG SUPER UHD TV




หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ OLED TV นวัตกรรมใหม่จาก LG กันมาบ้างแล้ว ความโดดเด่นของ OLED TV ก็จะเป็นในเรื่องของความคมชัดของภาพแสงสี และดีไซน์บางเฉียบสวยงาม

แต่เชื่อว่าหลายคนก็ยังคงมีความสงสัยกันอยู่ว่า OLED TV จะมีความแตกต่างกับ LG SUPER UHD TV อย่างไร ? แบบไหนดีกว่ากัน ? ทุกคำตอบอยู่ที่นี่แล้วล่ะค่ะ !

ขอบคุณภาพจาก LG

LG OLED TV vs LG SUPER UHD TV


สำหรับบทความนี้ เรามาหาคำตอบกันค่ะว่า OLED TV กับ LG SUPER UHD TV มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันอย่างไร ฟีเจอร์และคุณภาพของแสงสี ความคมชัด แบบไหนโดดเด่นมากกว่ากัน เพื่อช่วยให้เพื่อนๆได้เลือกสมาร์ททีวี LG ได้อย่างตอบโทย์ ตรงกับไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้นค่ะ


Design


อันที่จริงแล้วทั้ง OLED TV และ LG SUPER UHD TV ก็มีความโดดเด่นในเรื่องของภาพแสงสีเหมือนกัน แต่แตกต่างกันตรงที่แหล่งกำเนิดของแสงของ LG OLED TV สามารถกำเนิดแสงได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้ดีไซน์ของ OLED TV มีความบางเฉียบมากกว่า LG SUPER UHD TV ที่ยังคงเป็น LCD Panel จึงทำให้หน้าจอมีความนูนมากกว่านิดหน่อย


Color


หากจะเปรียบเทียบกันที่สีสันและความสดของหน้าจอ ต้องขอบอกว่ามีความแตกต่างกันน้อยมาก เรียกได้ว่า เกือบจะทัดเทียมกัน เพราะหน้าจอ LG SUPER UHD TV มีการอัพเกรดในเรื่องของสีสันด้วยเทคโนโลยี Nano Cell ™

ที่ทำให้สีมีความสดทุกองศา ไม่ว่าจะนั่งมองจากมุมไหนของบ้าน คุณภาพและความสมจริงของสีสันถือว่าดีเยี่ยม แต่จะให้เทียกับ OLED TV ก็อาจจะมีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อยค่ะ


Black Color


OLED TV ยังขึ้นชื่อนเรื่องของสีดำ ที่สามารถแสดงผลออกมาได้ดำสนิท ชนิดที่ว่าองค์การนาซ่าออกมาประกาศว่า OLED TV เหมาะมากที่สุด ที่จะรับชมภาพบรรยากาศของอวกาศได้อย่างสมจริง เรียกได้ว่าเรื่องนี้ OLED TV เป็นผู้นำในวงการทีวีปี 2017 เลยทีเดียว


แต่สำหรับ LG SUPER UHD TV ก็ได้มีการอัพเกรดในเรื่องของสีดำเช่นกัน ด้วยการใช้เทคโนโลยี SUPER Black (Local Dimming) โดย Local Dimming นั้นจะช่วยให้การแสดงสีดำนั้นทำได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงการแสดงสีสันและการแสดงรายละเอียดของภาพก็จะทำได้ดีขึ้นมากกว่ารุ่นก่อน ๆ แต่ก็ยังคงไม่เทียบเท่า OLED TV ได้ 100% ค่ะ

Sound


หากพูดกันในเรื่องของคุณภาพเสียง อันนี้ต้องยกความดีเยี่ยมให้กับ OLED TV กันไปเลยค่ะ เพราะว่า OLED TV มีการนำระบบเสียง Dolby ATMOS ที่เป็น 4.2 Ch. จำลองเสียงแบบมีมิติรอบทิศทาง ซ้าย ขวา หน้า หลัง และด้านบน เวลาเรานั่งรับชมภาพยนต์ หากได้ยินเสียงเครื่องบิน หรือนกบิน จะอยู่เหนือศรีษะของเรา เหมือนมีลำโพงติดไว้บนเพดานเลยค่ะ


สำหรับในส่วนของ LG Super UHD TV นั้นได้ใช้ระบบเสียง Sound Designed by Harman/Kardon ซึ่งเป็นระแบบเสียงแบบ 7.1 Ch. ทำให้มีเสียงรอบทิศทางเช่นกันค่ะ โดยจะเน้นเสียงที่ให้ความรู้สึกนุ่มลึกเพราะน่าฟัง

webOS 3.5 Smart TV


ทั้ง LG OLED TV และ LG SUPER UHD TV นั้นจะใช้ระบบ webOS 3.5 Smart TV เหมือนกัน ในส่วนของฟีเจอร์ของระบบปฏิบัติการ webOS 3.5 สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทความ สมาร์ททีวี LG ระบบปฏิบัติการ webOS 3.5 รุ่นใหม่ไฉไลกว่าเดิม


อ่านมาจนถึงจุดนี้ ต้องบอกเลยว่า OLED TV ยังคงครองตำแน่งสุดยอดนวัตกรรมทีวีแห่งปี 2017 จริงๆค่ะ ถึงแม้ว่า LG SUPER UHD TV จะถูกอัพเกรดขึ้นจากเดิมให้เทียบเท่า OLED TV มากที่สุด แต่ก็ยังคงมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนอยู่ดี ดังนั้นหากใครที่ชื่นชอบการรับชมภาพยนต์แบบคมชัด เสมือนจริง และมีทุนเยอะพอสมควร แนะนำให้จัด OLED TV ไปเลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน


LG OLED TV 4K OLED55B6T รุ่นแนะนำ



Key Features


  • OLED HDR : แสดงภาพได้อย่างมีมิติสมจริง แม้ในฉากที่มืด
  • 4K ULTRA HD : ความละเอียดหน้าจอระดับ
  • Ultra HD 8 ล้านพิกเซล (3,840 x 2,160)
  • Perfect Black : แสดงค่าความดำได้สูงที่สุด
  • Perfect Color : สร้างมิติของสีสันให้ภาพสมจริง เป็นธรรมชาติ
  • Smart TV webOS 3.0 : ระบบปฏิบัติการสมาร์ททีวีใหม่ล่าสุด ใช้งานง่าย สนุกกันทั้งครอบครัว
  • Sound design by Harman/ Kardon การปรับแต่งเสียงทีวีดุจเครื่องเสียง Hi-end


ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.homepro.co.th/product/1081510


ขอบคุณข้อมูลจาก : lgblogger



Create Date : 29 มิถุนายน 2560
Last Update : 4 กรกฎาคม 2560 9:18:24 น.
Counter : 1785 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 2786135
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]