Group Blog All Blog
|
Abraham Lincoln: Vampire Hunter – “ประธานาธิบดีขวานพิฆาตล้างพันธุ์แวมไพร์ !” ระดับความน่าสนใจ : B+ หนังสร้างมาจากนิยายขายดีของ Seth Grahame-Smith ที่นำเรื่องราวชีวิตของประธานาธิบดีคนที่ 16 แห่งสหรัฐอเมริกานาม Abraham Lincoln มาผสมเข้ากับเรื่องราวของแวมไพร์ที่ว่าด้วยการที่ Lincoln นอกจากจะมีด้านการเป็นผู้นำที่น่ายกย่องแล้ว ในอีกมุมหนึ่งเขาคือผู้ที่มีแค้นฝังลึกกับเหล่าแวมไพร์ พร้อมทั้งยังเป็นนักล่าแวมไพร์ฝีมือเยี่ยมอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือสงครามกลางเมืองที่กำลังอุบัติขึ้นเวลานี้นอกจากเป็นสงครามแห่งอิสรภาพแล้วยังเป็นสงครามระหว่างมนุษย์และเผ่าพันธุ์แวมไพร์ที่สุดท้ายจะมีเพียงเผ่าพันธุ์เดียวเท่านั้นที่อยู่รอดในผืนแผ่นดินนี้ ! “Abraham Lincoln: Vampire Hunter” เป็นผลงานการกำกับของ Timur Bekmambetov (เจ้าของผลงานดังอาทิ Wanted , Day Watch และ Night Watch) ที่ยังคงลายเส้นการนำเสนอผลงานด้วยการออกแบบมุมมองด้านภาพได้อย่างน่าตื่นตาเช่นเคย และก็เป็นงานด้านฉากแอกชั่นนี่เองที่เป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะ 3 ฉากใหญ่ของเรื่องที่ถือว่าชวนตื่นตาตื่นใจทีเดียว เริ่มจากฉากการต่อสู้ท่ามกลางฝูงม้าที่กำลังวิ่งระหว่าง Lincoln และ Jack Barts ภาพ Barts กระโดดไปมาในฝูงม้าก่อนที่จะจับม้าตัวหนึ่งฟาดใส่ Lincoln จนกระเด็นไปไกล ก่อนที่ Lincoln จะตั้งหลักขี่ม้าตัวนั้นมาไล่ตาม Barts ต่อไป ตามด้วยภาพการวิ่งไล่ล่าของทั้งสองบนหลังฝูงม้าที่กำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่ง , ฉาก Lincoln บุกไปช่วย Will ที่ถูก Adam ผู้นำแวมไพร์จับตัวไป ซึ่งเป็นฉากที่ตัวละรเอกของเรื่องได้โชว์ความสามารถด้านลีลาการควงขวานโหดคู่ใจสังหารหมู่แวมไพร์แบบ NonStop ชนิดเลือดสาดกระจายที่ถือเป็นการนำเสนอคิวบู๊ที่ดุดันและมีสไตล์น่าดูชมสุดๆปิดท้ายกับฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายบนรถไฟที่จบลงด้วยความถล่มสะพานไม้ขนาดใหญ่ ทั้งหมดนี้ถือเป็นฉากที่หนังทำออกมาได้ดีและน่าพอใจยิ่ง  แต่นอกจากนั้นข้อเสียที่เด่นชัดของ “Abraham Lincoln: Vampire Hunter” คือการเดินเรื่องที่เร็วจนเกินไปทำให้อารมณ์ผู้ชมต้องสะดุดอยู่แทบจะตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ Lincoln ต้องเลือกระหว่างการจับขวานสู้กับเหล่าแวมไพร์หรือการยืดหยัดในพื้นที่การเมืองเพื่อปลดปล่อยผู้คนในประเทศสู่อิสรภาพซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องราวในครึ่งเรื่องหลัง แต่หนังก็นำเสนออย่างรวบรัดตัดตอนมากเสียจนแทบไม่รู้สึกถึงความมุ่งมั่นในการตัดสินใจของตัวละครนี้เลย ซึ่งว่ากันตามตรงก็คือหนังเลือกเดินเรื่องไวจนผู้ชมแทบไม่ได้อินตามเนื้อหาหรือตัวละครใดๆเลย ยิ่งไปกว่านั้นบทสรุปของตัวละครร้ายก็ออกจะดูง่ายเกินไปจนชวนขัดใจเล็กน้อยอีกด้วย ด้านนักแสดง Benjamin Walker ในบท Abraham Lincoln ถือว่าสอบผ่านทั้งในแง่ของสีหน้าท่าทาง และ คิวบู๊ต่างๆที่น่าพอใจทั้งสิ้น โดยเฉพาะเมื่อ Walker ในมาด Lincoln ควงขวานไปมาใส่แวมไพร์ในเรื่องจนหัวขาดเลือดสาดกระจายถือเป็นภาพที่ดูดุดันและชวนเชื่อจริงๆว่าชายคนนี้สามารถฆ่าแวมไพร์ได้ด้วยการขยับร่างกายไม่กี่ครั้ง ส่วนอีกรายอย่าง Dominic Cooper ในบทอาจารย์ผู้สอน Lincoln ฆ่าแวมไพร์ก็ถือว่าไม่ต้องทำอะไรมากมายนอกจากตีหน้าเคลียดแทบตลอดทั้งเรื่อง ไม่ต่างไปจาก Rufus Sewell ในบทหัวหน้าแวมไพร์ ส่วน Mary Elizabeth Winstead ในบทภรรยาของ Lincoln ก็ดูสวยใสมีเสน่ห์ในเครื่องแต่งกายโบราณนี้สุดๆครับ (เว้นแต่เพียงการเมคอัพตัวละครของเธอในวัยที่มีลูกแล้วที่ดูซีดเซียวเหมือนคนป่วยอดนอนมากกว่าจะจะดูแก่ไปตามช่วงอายุ)  แม้ “Abraham Lincoln: Vampire Hunter” จะมาพร้อมการนำเสนอที่ขาดความต่อเนื่องไปหน่อย แต่หนังก็ยังมีส่วนของฉากแอกชั่นชั้นดีที่ไว้ใจได้ของ Bekmambetov มาช่วยพยุงหนังเอาไว้ได้เยอะพอสมควร หรือ ถ้าจะมองว่านี่เป็นหนังเกี่ยวกับ Abraham Lincoln ประธานาธิบดีนักล่าแวมไพร์ที่มาพร้อมอารมณ์แปลกใหม่ ก็ถือว่านี่ยังคงเป็นความบันเทิงที่น่าลิ้มลองอยู่ดี ขอบคุณข้อมูล 
|
อร่อยได้ ไม่อ้วน Enjoy Baking
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] |
|||||||||||||
Thank you for enjoy with my Blog
