อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
2 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

พระราชวังเนปาลกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สาธารณะ


ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ ซึ่งอดีตเคยเป็นพระราชวัง (ที่มารูป AP/Binod Joshi)

ที่มา ประชาไท
2 มีนาคม 2552


มีรายงานว่า พระราชวังซึ่งเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์เนปาล ถูกเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 52 ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมวิถีชีวิตของอดีตประมุข ที่มีทั้งด้านหรูหราฟุ่มเฟือย รวมถึงด้านที่โหดร้ายของเขาได้

ราชวงศ์ชาห์ ปกครองเนปาลมากว่า 240 ปีแล้ว แต่ได้ถูกล้มล้างไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมาโดยพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (เหมาอิสต์) ก่อนมีการลงนามข้อตกลงสันติภาพจากพรรคการเมืองเสียงข้างมาก และร่วมกันต่อต้านกษัตริย์คยาเนนทราผู้ฉาวโฉ่ ซึ่งในตอนนี้อดีตกษัตริย์ได้อาศัยอยู่ในเขตชานเมืองของกาฐมานฑุ

สิ่งดึงดูดลำดับต้นๆ ของพิพิธภัณฑ์นารายันฮิติคือพระราชบัลลังค์ที่สร้างขึ้นด้วยเงินและทองคำ ห้องโถงเลี้ยงรับรอง รวมถึงห้องนอนของอดีตกษัตริย์ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงมงกุฎประดับเพชร มรกต ไม้คทา รวมถึงรถเบนซ์ที่อดอลฟ์ ฮิตเลอร์ มอบให้ปู่ของกษัตริย์คยาเนนทราอีกด้วย

นันดา คิยอร์ ปัน อดีตกบฏลัทธิเหมาที่เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ให้ความเห็นว่า มันแสดงให้เห็นถึงความห่างชั้นกันอย่างมากระหว่างชีวิตของชาวเนปาลทั่วไปกับชีวิตของกษัตริย์ วิถีชีวิตของพวกในวังทำให้ประชาชนมีความชอบธรรมที่จะลุกฮือขึ้นสู้

ขณะที่ นิลัม สุเบดี ผู้ที่เข้าชมพระราชวังมาได้เจ็ดชั่วโมง ให้ความเห็นว่าการได้เห็นความแตกต่างในเรื่องความร่ำรวยระหว่างประชาชนทั่วไปกับอดีตกษัตริย์ทำให้เขารู้สึกเศร้า และบอกอีกว่า "มันดีแล้วที่เราไม่ต้องมีกษัตริย์อีก"

ประจันดา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของเนปาลและอดีตผู้นำกบฏลัทธิเหมา พูดเปิดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เอาไว้ว่าเป็น "อีกหนึ่งก้าว ที่จะนำไปสู่การสร้างสถาบันแบบสาธารณรัฐ" นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีเนปาลยังบอกอีกว่า มันเป็นชัยชนะของประชาชนที่มีต่อระบอบศักดินา

ลานที่มีการสังหารหมู่ในพระราชวังเมื่อปี 2544(ที่มารูป Reuters Picture)

สถานที่ที่ดึงดูดผู้คนอีกที่หนึ่งคือห้องที่กษัตริย์พิเรนทรา กษัตริย์พระองค์ก่อนหน้ากษัตริย์คยาเนนทราและเชื้อพระวงศ์จำนวนมากถูกสังหารหมู่ในปี 2001 โดย เจ้าชายดิเพนทรา ผู้ที่กำลังเมายาและต่อมาก็ปลงพระชนม์พระองค์เอง มีข่าวลือว่าการสังหารหมู่ในราชวงศ์ครั้งนี้มาจากการสมคบคิดของกษัตริย์คยาเนนทรา ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อเป็นหนทางให้พระองค์สืบทอดราชบัลลังก์

นายกรัฐมนตรี ประจันดา ให้คำมั่นว่าจะนำคดีนี้ขึ้นมาไต่สวนอีกครั้งเพื่อ "นำความจริงเรื่องการสังหารหมู่มาสู่ในที่แจ้ง"

"ประชาชนสมควรจะได้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในคืนนั้น ผมได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไต่สวนเหตุการณ์นี้ และลงโทษผู้กระทำผิด" นายกรัฐมนตรีกล่าว

พระราชวังนารายันฮิติสร้างขึ้นโดยราชวงศ์ชาห์ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 และเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2550 รัฐบาลเนปาลได้ตั้งให้พระราชวังแห่งนี้เป็นสมบัติของชาติ แต่ยังอนุญาตให้กษัตริย์ประทับอยู่ได้จนกว่าจะมีมติจากสภาร่างรัฐธรรมนูญ กษัตริย์คยาเนนทราออกจากพระราชวังนารายันฮิติไปที่พระราชวังนากาจันหนึ่งวันหลังจากการลงมติให้เนปาลเป็นสาธารณรัฐ ก่อนที่จะกลับมาที่พระราชวังเดิมอีกครั้ง

ในปี 2551 พระราชวังนารายันฮิติเป็นหนี้รัฐถึงราวหนึ่งล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งมาจากค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์ พระราชวังหยุดจ่ายค่าไฟมาตั้งแต่ปี 2548 ปีที่กษัตริย์มีอำนาจโดยเบ็ดเสร็จ

ในวันที่ 28 พ.ย. 2551 ที่มีการเปิดสภาฯ กษัตริย์คยาเนนทรามีเวลา 15 วัน ในการย้ายออกจากพระราชวัง อีกวันถัดจากนั้น ธงรูปสิงโตบนพื้นแดงสัญลักษณ์ของกษัตริย์เนปาลก็ถูกลดลงและนำธงรูปสามเหลี่ยมคู่ที่เป็นธงชาติของเนปาลขึ้นแทนที่ สภาฯ ของเนปาลในช่วงเวลานั้นยังกล่าวด้วยว่าจะปรับปรุงให้พระราชวังเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์หรือนำมาใช้สอยในทางด้านอื่นที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ตามแต่รัฐบาลจะเห็นควร

อดีตกษัตริย์ยอมออกจากพระราชวังนารายันฮิติในวันที่ 11 มิ.ย. 2551 หลังการแถลงข่าว โดยมอบมงกุฏให้กับรัฐบาลของเนปาล ทั้งยังทิ้งเฟอร์นิเจอร์และทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ได้มาในตอนที่ยังปกครองประเทศไว้ด้วย

อดีตกษัตริย์ คยาเนนทราขณะเยือนอินเดีย ซึ่งถือเป็นการเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกในฐานะสามัญชน (ที่มารูป Reuters/Raj Patidar)


ขณะเดียวกันคยาเนนทรา-อดีตกษัตริย์เนปาล ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวขณะเยือนประเทศอินเดีย บอกว่าเขาอยากใช้ชีวิตอยู่ต่อที่เนปาล ตราบใดที่ประชาชนของเนปาลยังต้องการให้เขาอยู่ เขาบอกว่าไม่อยากไปอยู่ในสถานที่อื่น

อดีตกษัตริย์คยาเนนทรา กับภรรยาและน้องสาวผู้เป็นอดีตภรรยาและอดีตเจ้าหญิงตามลำดับ มาเยือนที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดียตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่อดีตกษัตริย์ออกนอกประเทศเนปาล นับตั้งแต่แผนการอาศัยกองทัพเป็นเครื่องมือในการปกครองประเทศล้มเหลวในปี 2548 เป็นชนวนให้เขาค่อยๆ เสื่อมอำนาจลง


ที่มา: แปลและเรียงเรียงจาก

Former king Gyanendra wants to continue to live in Nepal , 27 Feb. 2009 , New Kerala

//www.newkerala.com/topstory-fullnews-101824.html


Nepal's former royal palace opened to the public , 27 Feb. 2009 , AFP

//news.yahoo.com/s/afp/20090227/wl_sthasia_afp/nepalpoliticsroyalsmuseum_20090227081516


Public gets first view of royal palace in Nepal , 28 Feb 2009 , AFP/The Times

//www.timesonline.co.uk/tol/news/world/asia/article5818181.ece

ข้อมูลประกอบการเขียน

//en.wikipedia.org/wiki/Narayanhity_Royal_Palace





 

Create Date : 02 มีนาคม 2552
6 comments
Last Update : 2 มีนาคม 2552 23:24:13 น.
Counter : 5126 Pageviews.

 

นมัสเต

 

โดย: บี๋ (Yushi ) 6 มิถุนายน 2552 17:58:54 น.  

 

เสียดายที่ถูกโค่นล้มไปอีกหนึ่งราชวงศ์

 

โดย: j IP: 192.168.134.136, 192.168.128.30, 122.154.33.117 26 มิถุนายน 2552 20:47:17 น.  

 

คนเนปาลเค้ายินดีกันนะ ไทยไมมาเสียดายแทนสิ่งที่เค้า(คนเนปาล)มองว่าไร้ค่า
ทราบมาจากปากคนเนปาลว่า ราชวงนี้ไม่ใช่เนปาลดั่งเดมิ หากแต่เป็นพวกวรรณะสูงในอินเดียที่เข้ามาจ้างกองทหารกูรข่ารบรากับเผ่าต่างๆ ในเนปาล จนกระทั้งชนะแล้วสถาปนาราชวงตัวเองขึ้นมา

 

โดย: 666 IP: 58.9.140.232 27 กันยายน 2553 10:59:44 น.  

 

เสียดายมาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: 111 IP: 223.207.159.167 18 ธันวาคม 2553 12:53:39 น.  

 

เมื่อไรคนไทยจะตาสว่าง นะเฮ้อได้แต่ฝัน

 

โดย: อีวา IP: 180.183.27.164 26 มกราคม 2555 21:05:37 น.  

 

ถ้าดีจริง คงไม่มีใครล้ม น้ำลดตอผุดไง ใครคิดร้ายต่อประชาชน ไม่รักประชาชน เอาเปรียบประชาชน เขาเป็นคนชาติอื่น เมื่อเร็วๆนี้เองนี่นะรัฐเนปาลใจดีนะไม่ประหารแต่ชาติอื่นเขาไม่เอาไว้เป็นเสี้ยนหนามแน่ๆ ร้ายกาจแบบนั้น

 

โดย: อีวา IP: 180.183.27.164 26 มกราคม 2555 21:42:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.