Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
21 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
Review Daily Skincare part I ค่ะ*

วันนี้เคลียร์งานม.6 ครบหมดแล้วค่ะเลยว่าง
อยากจะรีวิวส่งท้ายม.ปลายจ้า......5555+
อามิตย์หน้าสอบโอเน็ตค่ะกลัวเครียดเลยมารีวิวค่ะ
อันนี้เป็นของที่เราใช้มาสัก 2-3 อาทิตย์แล้วนะค่ะ
ไม่แพ้ ไม่แย่ ดีขึ้นนิดหน่อยค่ะ

สภาพผิวหน้า : จากผิวมันเป็นผิวผสมเพราะแอคโนตินของหมอค่ะ
บางครั้งมีแห้งบ้างตามพวกมุมปาก ข้างจมูกค่ะ
มีรอยสิวจางๆอยู่ 3-4 จุนแก้มขวาค่ะ
สภาพก่อนแอคโนติน : มีสิว มีรอยสิว+หน้ามันขั้นเทพค่ะ
สกินแคร์ที่ใช้ : ราคาไม่แพงมากไม่งั้นไม่มีเงนซื้อค่ะ 55+
ใช้ของที่หมอสั่งควบคุมไปด้วยค่ะ
ไม่เน้นหน้าขาวค่ะเพระขาวอยู่แล้วจ้า

step 1 : ก่อนล้างหน้าเช้า-เย็นค่ะ



Benzac 5% 60 g 230 บาทค่ะ
อันนี้ตามหมอสั่งแล้วก็ดัดแปลงเอาเองค่ะ
ตามจริงหมอสั่ง Panoxyl 2.5 แต่เราว่าเฉยๆเลยเปลี่ยนเป็น Panoxyl 5 ค่ะ
ฟลังจากนั้นอยากลอง Benzac เพราะเป้น water-base เลยซ์อมาแทนกันค่ะ
เราใช้เช้าเย็นก่อนล้างหน้า 15 นาทีค่ะ
มีพักนึงเราขี้เกียจมากๆโรงเรียนก็ตื่นไปแทบไม่ทันอยู่ละต้องมานังนี่ 15 นาที
เราเลยหยุดใช้ค่ะสิวนูนแดงไม่มีหัวขึ้นเป้นผดเลยค่ะเยอะมาก.....เครียดเลยค่ะ
เลยต้องกลับไปหาเจ้า Benzac ค่ะ ใช้ไป 4 วันหยุบหมดค่ะ.......รักมาก
ให้ 9/10 ละกันค่ะเพราะตอนเช้าแอบเสียเวลานอนมากๆค่ะ

Step 2 : Cleanser เช้า-กลับบ้าน-เย็นค่ะ

เราใช้ล้างหน้า 2 ตัวค่ะ
หลังจากทา BP แล้วเราจะใช้ Effaclar H ก่อนค่ะหน้าจะได้เปียกๆแล้วใช้
สบู่ก้อน sebamed ต่อค่ะเพื่อจะได้ฟองเยอะๆหนุกๆค่ะ



La Roche-Posay Effaclar H
150 ml 800 บาทค่ะ
ก่อนเราจะซื้อตัวนี้เราได้ลองโทเลเรียนของ LRp ไม่ปลื้มอย่างสุดๆ
หน้าแห้งตึงยังกับจะระเบิดล้างเสร็จหน้างี้แห้งสุดๆ
ก่อนจะลองตัวนี้เราได้เทสเตอร์เป็นขวดเล็กๆมันมา 2 ขวดๆละ 50 มิล
เราใช้แล้วสนุกสุดๆ มันกดออกมาแล้วเป็นมูสๆพอ 2 ขวดหมด
เราหาซื้อม่ได้ค่ะเพราะตอนนั้นมันไม่มีขายเราเลยต้องกัลบไปใช้ cetaphil
เบื่อสุดๆเพราะหมอสั่งเราใช้อีเซตาฟิลไปหลายลิตรมาก
พอเรารู้เว่ามันมีขายแล้วเรานี่รีบปรี่ไปซื้อมาเลยค่ะ
ชอบมากๆค่ะหลังจากกลับจากโรงเรียนเราจะล้างเมคอัพออกด้วยตัวนี้ค่ะแล้ว
หลังล้างหน้าไม่แห้งเลยค่ะสบายสุดๆ แถมเวลากดสนุกๆมากๆค่ะเป็นมูสๆ
แถมสะดวกไม่ต้องปั้นฟองให้เมื่อยตุ้มกดแล้วล้างเลย
อันนี้เราให้ 9.5/10 ค่ะ หมดเร็วไปหน่อยค่ะแถมแพงกว่าที่คิดไว้ตอนแรกค่ะ



ต่อมาสบู่ก้อน sebamed 100 g/240 บาทค่ะ
อันนี้บังเอิญค่ะวันนี้เราไปศิริราชแล้วอยากหาเรื่องเสียตังค์
เลยเข้าไปร้านขายยาบอกเค้าว่าอยากได้สบู่ของ sebamed ค่ะ
เห็นกล่องดูน่ารักเรียบๆดีค่ะแล้วเคยเห็นพี่ลิลลี่รีวิวไว้ด้วย
ได้มาถึงวันแรกเราลองกับหน้าเลยค่ะแต่ครั้งแรกเราปั้นฟองไม่เป็นเลยเซงๆไปค่ะ
วันต่อมาเราไปเซนทรัลแถวบ้านไปไดโซเลยค่ะหาที่ปั้นฟองได้มาเสร็จกลับบ้าน
เราปั้นเลยค่ะวันนั้นสนุกๆสุดๆล้างไป 3 รอบค่ะ 555555+
แต่ต้องล้างเวลาหน้าหมาดๆค่ะไม่งั้นฟองหายไปไหนก็ไม่รู้
ตัวนี้เราว่าดีเลยค่ะใช้แล้วหน้าไม่แห้งกลิ่นหอมอ่อนๆล้างสนุก
ป้องกันสิวล้างเสด็จบีบจมูกสิวเสี้ยนหลุดด้วยค่ะ
ให้ 9/10 ค่ะ เพราะตอนเช้าขี้เกียจปั้นฟองมากๆค่ะเสียเวลานอน 55+
ไหนจะต้องรอ Bp ไหนจะปั้นฟองเสียเวลานอนไปเกิน 20 นาทีค่ะ

Step 3 : Toner

โทนเนอร์อันนี้เราว่าสำคัญสุดๆค่ะ
คือไม่ใช้แล้วรู้สึกไม่สะอาดเลยค่ะ
ก่อนหน้านี้เราใช้ Freshel ของ kanebo ขวดเขียว
ดีมากๆค่ะใช้ไป 2 ขวดเบื่อสุดๆ มันเดิมๆค่ะ สิวไม่ขึ้นเฉยๆ
แล้วเราก็หันเหไปใช้น้ำแร่หลังล้างหน้า
เราใฃ้ Avene' เป็นอันแรกเลยค่ะเห็นที่ญี่ปุ่น ฮิตสุดๆ
ใช้แล้วเฉยสุดๆๆๆๆๆๆๆค่ะมไมไรเกิดขึ้นแค่สดชื่นเฉยๆ
ต่อมายังอยากอื่นก็ไปถอยของ LRP มาค่ะอันนี้ก็เหมือนเดิมสดชื่นเฉยๆค่ะ
มช้หมดไปทั้ง 2 ขวดแล้วคิดว่าควรเลิกค่ะเลยไปได้เจ้านี้มาค่ะ



LRP : EFFACLAR TONER
200 ml 700 บาทค่ะ
ตอนแรกลังเลระหว่างตัวฮีดราเฟสกับตัวนี้ค่ะ
แต่พอไปลองฮีดราเฟสถอบเลยค่ะน้ำหอมแรงสุดๆกลัวแพ้ค่ะ
เลยเอาตัวนี้มาแถมถูกกว่าค่ะ
เราหยดใส่มือแล้วแปะหน้าค่ะสักพักลูบพวกสิ่งสกปรกติดมือมาเลยค่ะปลื้มมากๆ
แถมหน้าไม่มันแล้วกลิ่นหอมน่ารักดีค่ะไม่แรงไม่ฉุน
แต่มันผสมแป้งนิดหน่อยค่ะแต่ใช้แล้วไม่รู้สึกค่ะ 55+
อันนี้ให้ 9.5/10 ค่ะ เราใช้มา 2 อาทิตย์สิวไม่ขึ้นเลยค่ะแถมรูขุมขนเล็กลงจริงๆค่ะ

Step 4 : treatment and essence

อันนี้เราว่าสำคัญค่ะขาดไม่ได้ไม่ใช้แล้วรู้สึกแย่
ตัวแรกอันนี้เราใช้มาเยอะสุดเท่าที่เราใช้สกินแคร์มาค่ะ
ใช้มาอันนี้เป็นหลอดที่ 4 แล้วค่ะ
นั่นคือ LRP Effaclar K ค่ะ



30 ml 700 บาท
เราเคยหยุดไปใช้ avene cleanance K สู้ไม่ได้เลยค่ะ
LRP ดีกว่ามากมายใน mua ให้คะแนนสุงด้วยค่ะ
เราใช้ทาทั้งหน้าสิวไม่ขึ้นอุดตันไม่มีเลยค่ะ
กลิ่นตอนแรกเราว่าเหม็นปัจจุบันขาดไม่ได้ 555+
หลอดนึงเราใช้เดือนครึ่งก็หมดแล้วค่ะ
ใช้แล้วผิวเนียนดีค่ะ........ปลื้ม
แถมหลอดเป็นอลูมิเนียมอากาศเข้าไม่ได้ปลื้มสุดๆ
อันนี้ให้ 10/10 ค่ะ
ช่วงนี้เรามีรอยสิว 3-4 รอบเลยใช้เทสเตอร์
LRP mela-d ดวยค่ะอันนี้กลิ่นหอมสุดๆ
ไม่แพ้แถมรอยจางเร็วมากๆค่ะเราใช้มา 3 วันรอยจางไป 70 แล้วค่ะ
เราใช้เฉพาะจุดนะค่ะไม่ได้ใช้ทั้งหน้า
ราคาจริง 30 ml 1700 ค่ะถ้าหมดคงไม่ซื้อค่ะแพง 55+
อันนี้ให้ 8.5/10 ค่ะ เพราะแพงงงงเกินสำหรับนักเรียนอย่างเราค่ะ
หน้าตาเทสเตอร์นะค่ะ



ครั้งนี้ขอจบแค่นี้ก่อนนะค่ะ
เดี๋ยววันหลังมาต่อพวกบำรุงค่ะ
ติชม-สอบถามได้นะค่ะ

ปล.ไม่ใช้หน้าม้ายี่ห้อใดๆทั้งสิ้นค่ะ

^^


Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2551 19:24:36 น. 10 comments
Counter : 1845 Pageviews.

 
ขอเข้ามาเก็บข้อมูลหน่อยนะคะ


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:32:54 น.  

 
LRP Effaclar K

อันนี้ไวต่อแสงมั๊ยอะคะ
แล้วทาเวลาไหนอ่ะ


โดย: รบกวนค่า IP: 125.27.36.198 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:03:22 น.  

 
อยากได้ benzac บ้าง
แต่ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหนดี


โดย: ฟองนม IP: 118.172.25.34 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:04:24 น.  

 
อยากได้ LRP ขึ้นมาเลย ๕๕๕

กินโรแอคอยู่เหมือนกัน ยาวิเศษเปลี่ยนหน้ามันให้กลายเป้นหน้าแห้ง แต่ชอบนะ หน้าแห้งแล้วรูขุมขนก็เล็กลง แต่พอหยุดยา คงกลับไปสภาพเดิม หน้ามันและรูขุมขนที่กว้างกว่าห้องนอน T__T


โดย: เผือกหางหงอก วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:21:26 น.  

 
ที่ปั้นฟองเป็นยังไงอ่ะคะ
แล้วใช้มือถูล้างธรรมดาไม่ได้หรอคะ
Sebamed อ่ะค่ะ


โดย: pinoui IP: 125.26.73.27 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:52:38 น.  

 
เเวะมาบอกราคา กระเป๋า munchu's นะคะ

น่าจะ สองร้อยกว่าบาทนะคะ
พี่ซื้อจากเอมโพเรียม ตอนนี้มี SALE ด้วย

total น่าจะประมาณ 265 บาทนะคะ ถ้าจำไม่ผิด


โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:21:46:25 น.  

 
เราลองใช้Benzac แล้วดีขึ้นจริงๆ
ตอนนี้ก็เริ่มใช้ sebamed ใช้แล้วรู้สึกหน้าสะอาดจริงๆ
ขอบคุณนะที่แบ่งความลับหน้าใส


ดีใจจังไม่ต้องไปหาหมอแล้ว เปลืองตังค์มากมาย....


โดย: N0name IP: 58.8.152.150 วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:7:46:47 น.  

 
เนื้อลิปแมคมี Amplified cream, frost, lustre, matte, glaze, satin ค่ะ
แล้วก็มี slim shine เพิ่มมาค่ะ
อันแรกเนื้อจะออกครีมๆหน่อยค่ะชุ่มชื้นสุด
ตัวฟรอสจะออกวาวๆค่ะสีค่อนข้างชัดเจน
ตัวลูเตอร์จะออกแนวกึ่งครีมๆหน่อยค่ะอันนี้เราชอบปากไม่แห้งมากค่ะ
เมทจะให้สีสันชัดเจนสุดๆค่ะแต่แห้งสุดๆๆๆๆๆๆค่ะ
ตัวเกลสสีอ่อนสุดค่ะทาแล้วจะมีพวกวิ้งๆเคลือบปากเฉยๆค่ะ
ซษตอนนี่จะออกไม่วาวมากเท่าลูสเตอร์ค่ะจะให้เม็ดสีชัดเจน
ส่วนสลิมไชน์นี่วาวๆแนวกลอสเลยค่ะชุ่มๆ
ยังไงไปลองที่เคาเตอร์ดูนะค่ะ

^^


โดย: love IP: 58.9.20.43 วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:17:52:52 น.  

 
พอดีอยากทราบอ่ะคะว่าจะไปซื้อไดที่ไหนบ้างอ่ะคะ
ช่วยบอกทีนะคะ


โดย: ฟาง IP: 222.123.214.70 วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:13:14:33 น.  

 
สวัสดีจ๊ะ เรากำลังตามหาเพื่อนเก่าอยู่ เขาชื่อก้อย (รู้จักตอนไปเข้าค่าย) มีที่อยู่ที่เขาเขียนให้แค่นี้เอง เพราะแผนที่ที่ก้อยเขียนให้ขาดเหลือเพียงบางส่วนซึ่งเขียนข้อความไว้แค่นี้เอง

บ้านก้อยเข้าไปในซอยโรงหอมแล้วก็จะเห็นบ้าน 2 หลังอยู่ในรั้วเดียวกัน
เป็นบ้านไม้อยู่ด้านหน้าและบ้านปูนอยู่ด้านหลัง
มีประตูรั้วเป็นเหล็กสีน้ำตาลอยู่ติดกับที่ว่าง ๆ เอาไว้กลับรถได้

มีใครรู้จักบ้างค่ะ


โดย: จุ๊บแจง IP: 125.26.46.20 วันที่: 25 ตุลาคม 2551 เวลา:16:18:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

SLY
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add SLY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.