ผู้ชายธรรมดา ที่อาจไม่ธรรมดา
บ่นไปทั่ว
สอนคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต
รวมเรื่องสุขภาพ และ การกิน
เปลี่ยนความคิด ทุกอย่างก็เปลี่ยน
รู้เรื่อง โทรศัพท์มือถือ
<<
กันยายน 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
25 กันยายน 2550
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่6
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่5
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่4
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่3
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่2
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่1
พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
วิจารณ์แซด! ว.วชิรเมธี สอนอย่างมงายในวิทยาศาสตร์
มนุษย์บางอาชีพจะทำงานได้ทั่วโลก
การศึกษาไทย ล่มสลายแล้วหรือ?
จำเป็นแค่ไหนที่ให้เด็กป.1ใช้แท็ปเล็ต
เมืองไทยวันนี้
วิธีถ่ายรูปให้ดูดี
การป้องกันตัว เบื้องต้น
เคล็ดลับแม่บ้าน - วิธีการกำจัดแมลงต่าง ๆ
ขับรถให้ปลอดภัย ตอนที่2
ขับรถให้ปลอดภัย ตอนที่1
ปี2008คนไทยหาอะไร ในGoogleมากที่สุด
ระวัง! เว็บปลอม
ประเทศไทย ของเรา
บ้านเรา
หมายเลขโทรศัพท์ 4หลัก ที่คุณต้องใช้
ตุ้ย X-ray คนเห็นวิญญาณ
ครูบัวไข คนระลึกชาติ
ปาท่องโก๋ยิ่งเจริญ
ถาม-ตอบ ปัญหาคาใจ
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่6
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่5
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่4
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่3
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่2
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่1
ในตอนจบวัน
ทำงานแผนกใหม่ หน้าเก่า วันที่3 (5/7/7)
เริ่มงานใหม่ (แผนกเก่า) (3/7/7)
แผนกใหม่ แผนกเก่า ทำงานวันที่2 (4/7/7)
บาป? กรรม?
ทำดีได้ดีมีที่ไหน? ทำชั่วได้ดีมีถมไป
ศาสนาพุทธ ตอน2 เสื่อมเพราะ?
ศาสนาพุทธ ตอน1 ทำไม?
ความเห็นแก่ตัว และ พฤติกรรมแปลกๆ
ไม่ปลื้ม พยายามเข้าใจด้วย
แค่รักไม่พอ
ขั้นสูงคืนสู่สามัญ
ประวัติการทำงาน ตอนที่4
ประวัติการทำงาน ตอนที่3
ประวัติการทำงาน ตอนที่2
ประวัติการทำงาน ตอนที่1
ปฐมบท
" บั้งไฟพญานาค " ตอนที่4
3.นักวิทยาศาสตร์ นพ.มนัส กนกศิลป์ เข้าไปพิสูจน์ นำเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์
เข้าไปทำวิจัยหาสาเหตุของการเกิดลูกไฟในช่วงวันออกพรรษา ผลออกมาว่าใน
แม่น้ำโขง"น่าจะเป็นก๊าซมีเทน และ ไฮโดรเจน ซึ่งเกิดจากการหมักตัวของบัคเตรี
จากมูลสัตว์ซากพืชและซากสัตว์ที่ตายแล้ว ถูกชะล้าง หรือนำพาโดยน้ำลงสู่หลุมใหญ่
ใต้ลำน้ำโขง จะเก็บมูลสัตว์และอินทรียวัตถุเหล่านี้ไว้ ไม่ให้ไหลไปตามแรงน้ำ
จะมีปริมาตรพอที่จะพลิก หรือเผยอตัวเอง จนได้ก๊าซเป็นลูกๆ แต่ละลูกมีขนาด
10cc.และมีแรงลมทำให้ลูกไฟขึ้นไปบนอากาศ โดยที่กลางน้ำจะมีแรงส่งมาก
ทำให้ขึ้นแรงและเร็วกว่าริมฝั่ง
รศ.มนตรี บุญเนอ กล่าวว่า ขณะที่น้ำขึ้นสูงสุด การไหลของแม่น้ำโขง
จะไหลแบบวุ่นวาย ซึ่งไหลโดยความเร็วเฉลี่ยประมาณ 1.75เมตรต่อวินาที
การไหลของกระแสน้ำแบบนี้เป็นการแสดงลักษณะของท้องน้ำที่ไม่สม่ำเสมอ
แต่ไม่ใช่เป็นโพรงหลุมก๊าซอย่างที่ว่าแน่ โอกาสที่ซากอินทรียวัตถุ หรือมูลสัตว์
ทั้งหลายที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขงจะไหลมารวมกัน มีความเป็นไปได้น้อยมาก
และหากจะอ้างว่า กระบวนการดังกล่าวเกิดจากการหมักตัวของก๊าซมีเทนใต้น้ำ
ก็จำเป็นต้องอาศัยปริมาณสารอินทรีย์ที่จะถูกย่อยสลาย และใช้เวลาในการสะสม
ถึง 5วัน นั่นหมายถึงรอบๆบริเวณนั้น จะต้องเป็นภาวะที่หยุดนิ่ง หรือเคลื่อนไหว
น้อยมาก สถานการณ์ที่ว่านี้ ไม่มีเกิดขึ้นในบริเวณที่น้ำไหลแรงอย่างเช่นแม่น้ำโขง
คำถามตามมาจึงมีอีกว่า เป็นฝีมือการรังสรรค์ของกระบวนการเกิดก๊าซ
ธรรมชาติใต้น้ำจริงหรือไม่ ประเด็นนั้นอาจารย์มนตรีบอกว่า เป็นไปไม่ได้เช่นกัน
เพราะโดยปกติปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเองโดนธรรมชาติ ส่วนใหญ่ไม่สามารถบอก
ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ทั้งนี้ เมื่อคำนึงถึงคุณสมบัติ หรือคุณภาพของน้ำในแม่น้ำโขง
แต่ละปีเปลี่ยนแปลงไม่เหมือนกันเลย เพราะน้ำจะไหลตลอดเวลา ซากอินทรีย์
และบัคเตรีที่สามารถสร้างก๊าซมีเทนจะต้องถูกพัดพาให้เคลื่อนที่ในกระแสน้ำตลอดเวลา
เช่นเดียวกับอุณหภูมิของน้ำ และสภาพความเป็นกรด-ด่างในน้ำ ที่เปลี่ยนแปลง
อาจารย์มนตรียังมีข้อสังเกตจากประสบการณ์ที่เคยไปเฝ้าชม “บั้งไฟพญานาค”
ริมโขง มาแล้วหลายครั้ง บางครั้งมีผู้ประกาศว่า “อีกครึ่งชั่วโมงจะมีบั้งไฟพญานาค”
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ตรงตามเวลา ก็มีบั้งไฟพญานาคโผล่ขึ้นมาจริง ๆ เมื่อเปิดประเด็น
ด้วยเหตุผลความไม่เชื่อตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วอาจารย์มนตรีก็ให้ข้อสมมติฐานใหม่
อาจารย์สมมติว่า มีคนนำบั้งไฟที่มีลักษณะคล้ายกับบั้งไฟลูกหนู(บั้งไฟชนิดนี้จะวิ่งใน
แนวราบพุ่งไปชนกับปราสาทกลางทุ่งนา ประเพณีดังกล่าว จะเห็นได้ตามงานศพของ
พระที่มีเชื้อสายมอญ แถวปทุมธานี และนนทบุรี) แต่แทนที่จะใช้กระบอกไม้ เหมือน
บั้งไฟลูกหนูตามงานศพพระเชื้อสายมอญเปลี่ยนเป็นใช้กระบอกเหล็ก เพื่อรองรับการ
อัดดินปืนให้แน่นมากๆ มากพอที่จะส่งแรงขับชนวนไปได้ไกล บั้งไฟแบบนี้ จะต้องหุ้ม
ด้วยฉนวนกันน้ำ เพื่อให้สายชนวนติดไฟได้ตลอดเวลาที่อยู่ใต้น้ำ และมีราวลวดขึงไว้
ใต้น้ำให้ลึกพอ ประกอบกับใช้ความมืดกลางแม่น้ำที่มองอะไรไม่เห็นเป็นตัวอำพราง
และจึงลงมือจุดสายชนวนมาจากฝั่ง
อาจารย์มนตรีเชื่อมั่นว่า ด้วยหลักการนี้ เมื่อบั้งไฟเคลื่อนมาตามราวลวดใต้น้ำ
ซึ่งถูกหุ้มด้วยฉนวนกันน้ำ แล้วมากระทบกับเบ้าโลหะ ที่วางไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ
ให้เกิดประกายไฟ การกระแทกกันระหว่างเบ้าโลหะ กับบั้งไฟใต้น้ำ สามารถทำให้
เห็นประกายไฟพวยพุ่งขึ้นมา กลายเป็นบั้งไฟพญานาค จากฝีมือมนุษย์ได้ไม่ยากทำ
ให้เห็นประกายไฟพวยพุ่งขึ้นมา กลายเป็นบั้งไฟพญานาค จากฝีมือมนุษย์ได้ไม่ยาก
Create Date : 25 กันยายน 2550
Last Update : 25 กันยายน 2550 23:00:35 น.
0 comments
Counter : 547 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
soponkub
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
ไม่ต้องการคนรัก แต่ต้องการคนเข้าใจ
ถึงไม่หล่อแต่กำเนิด แต่เน้นสุขภาพดีกินอาหารดีๆ
Webmaster - BlogGang
[Add soponkub's blog to your web]
สอนใช้คอม+เน็ต neteasy2u
เรื่องสุขภาพและการกิน
บล็อกของผม
ร้านปาท่องโก๋ เดิม
internet-easy
ร้านปาท่องโก๋ของผม
หอพักของผม
Bloggang.com