ผู้ประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงหลายพันคน ได้รวมกันปิดทางเข้าสำนักงานของนายเหลียง ชุน-อิง ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ในความพยายามที่จะบีบให้เขายอมเจรจา ขณะที่เสียงเรียกร้องให้เขาลาออกกำลังดังขึ้นเรื่อยๆ ผู้ประท้วงกว่า 3 พันคน ได้ชุมนุมกันอยู่ที่ด้านนอกสำนักงานของนายเหลียงตั้งแต่เช้าตรู่ และร้องตะโกนให้นายเหลียงที่ถูกนักวิจารณ์เรียกว่าเป็นหุ่นเชิดของรัฐบาลปักกิ่งลาออก ขณะที่ตำรวจพร้อมหมวกและโล่ที่ได้รับมือกับเหตุจลาจล ปักหลักอยู่ด้านหลังแนวเครื่องกีดขวาง
ผู้ประท้วงคนหนึ่งบอกว่า พวกเราพยายามปิดล้อมอาคารรัฐบาล และรอนายเหลียงกลับมาทำงานในวันศุกร์ เพราะอยากเจรจากับเขาแบบเผชิญหน้า การประท้วงอย่างสงบที่ดำเนินมานาน 4 วัน เป็นภาพของประชาชนหลายหมื่นคน ยึดถนน,ย่านการค้าและการเงินที่สำคัญในฮ่องกง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งยอมให้พวกเขามีเสรีภาพในการเลือกตั้ง เมื่อคืนวันพุธ แอ็คเนส โจว จากกลุ่มสกอลาริซึ่ม หนึ่งในแกนนำนักศึกษาที่จัดการชุมนุมประท้วง ได้ขู่ว่าจะยกระดับการประท้วง ที่รวมถึงความเป็นไปได้ที่บุกเข้ายึดอาคารรัฐบาล ถ้านายเหลียงยังไม่ยอมลาออกภายในวันนี้
การประท้วงครั้งนี้มีนักเรียนและนักศึกษาเป็นแนวหน้า แต่ต่อมาได้มีคนจากหลากหลายสาขาอาชีพเข้าร่วม นับตั้งแต่ตำรวจปราบจลาจลใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมเมื่อคืนวันอาทิตย์ กลายเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งกระตุ้นให้คนออกไปสนับสนุนกันมากขึ้น วันพุธและวันพฤหัสบดียังคงเป็นวันหยุดแห่งชาติของฮ่องกง เนื่องจากตรงกับวันชาติจีนทำให้มีคนหลั่งไหลไปร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก สิ่งที่บ่งชี้ถึงความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นในจีน ก็คือการที่นายโจเซฟ ต่ง ผู้อำนวยการบริหารของสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฮ่องกงระบุว่า เขาได้ยินมาจากพวกบริษัทท่องเที่ยวในจีนว่า กรุ๊ปทัวร์จากจีนที่เดินทางมาฮ่องกงถูกระงับ ทั้งที่ระหว่างวันที่ 1-7 ตุลาคม เป็นวันหยุดยาวที่เรียกว่า "โกลเด้น วี้ค" ที่ปกตินักท่องเที่ยวจากจีน จะหลั่งไหลไปจับจ่ายใช้สอยกันย่านช็อปปิ้งของฮ่องกง
แม้ว่าจะมีคนออกไปร่วมการชุมนุมเป็นจำนวนมาก แต่ความคิดของแต่ละคนไม่ได้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน โดยนักศึกษาคนหนึ่ง บอกว่า จำเป็นต้องยกระดับการเคลื่อนไหว เพราะมีคนเข้ารวมการชุมนุมมากขึ้นทุกวัน แต่รัฐบาลก็ยังไม่ตอบสนอง ถ้าไม่ทำอะไรให้มากขึ้น การเคลื่อนไหวก็จะเปล่าประโยชน์ ส่วนอีกหลายคน ยังไม่เต็มใจที่จะให้ยกระดับการชุมนุมไปมากกว่านี้ เนื่องจากเกรงว่าอาจต้องปะทะกับตำรวจอีก และชาวฮ่องกงอาจไม่สนับสนุน ถ้าทำอะไรที่รุนแรงไปกว่านี้
จีนเตือนสหรัฐไม่ให้ยุ่งเรื่องฮ่องกง
สหรัฐและจีนได้ปะทะคารมกันอย่างเปิดเผยเมื่อวันพุธ ในประเด็นการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง โดยจีนได้เตือนสหรัฐไม่ให้ยุ่งเรื่องฮ่องกง และบอกด้วยว่า จะไม่อดทนต่อการกระทำที่ผิดกฎหมาย
นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ที่กรุงวอชิงตันของสหรัฐว่า เขาหวังว่าจีนจะอดกลั้นต่อการประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง และหวังว่า ทางคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงจะเคารพต่อสิทธิในการแสดงออกทางความคิดของผู้ประท้วงด้วย
แต่นายหวัง ได้บอกกับนายแคร์รี่ว่า รัฐบาลจีนมีจุดยืนที่หนักแน่นและชัดเจน กิจการภายในของฮ่องกงเป็นกิจการภายในของจีน ทุกประเทศควรเคารพอำนาจอธิปไตยและหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเขาเชื่อว่า ไม่มีประเทศใด สังคมใด ที่จะยอมให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายที่ละเมิดต่อความสงบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ในสหรัฐหรือสถานการณ์ในฮ่องกง
สหรัฐต้องการจะปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจกับจีน ที่ได้ชื่อว่ามีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก ไปพร้อมๆ กับความพยายามกดดันเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งนายแคร์รี่ ได้ย้ำข้อเรียกร้องให้ตำรวจฮ่องกงใช้ความอดกลั้นในการรับมือกับผู้ประท้วงโดยบอกว่า ดังที่จีนทราบ เราสนับสนุนสิทธิในการเลือกตั้งอย่างเป็นสากลในฮ่องกง ที่สอดคล้องกับกฎหมายพื้นฐาน เราเชื่อในสังคมเปิดที่มีความเป็นไปได้ของการปกครองตนเองและบริหารโดยหลักนิติธรรมขั้นสูงสุด ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของฮ่องกง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทางการฮ่องกงจะอดกลั้นและให้ความเคารพต่อผู้ประท้วง
การประท้วงในฮ่องกงมีชนวนเหตุมาจากรัฐบาลจีน วางข้อจำกัดว่าใครจะสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษ หรือ ผู้นำของฮ่องกงได้ เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า หลังการแถลงข่าวร่วมกันแล้ว นายแคร์รี่และนายหวัง มีกำหนดพบกันอีกเป็นรอบที่สองที่กระทรวงต่างประเทศในวันนี้ ตามคำร้องขอจากฝ่ายจีน ด้านเจน ซากี้ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ยังคงยืนยันในจุดยืนว่า เป็นที่ชัดเจนว่า เราต้องการให้ประชาชนในฮ่องกง มีทางเลือกตัวผู้สมัครเอง
เมื่อถูกถามในประเด็นที่นายหวังบอกว่า ฮ่องกงเป็นกิจการภายในของจีน ซากี้ ตอบว่า เราเชื่อในเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงออก ที่เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ใช่สำหรับจีนเท่านั้น แต่ยังสำคัญต่อทุกประเทศทั่วโลกด้วย เรายังเรียกร้องให้มีการเจรจาระหว่างทางการกับผู้ประท้วงต่อไป