|
มาร์ค ร่ายมนตร์สะกดลงทุนยุ่น ไม่ยอมให้ชุมนุมเขย่าขวัญอีก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนา ทิศทางเศรษฐกิจ การค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวของประเทศ ไทย จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กรมส่งเสริมการส่งออกและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วานนี้ (6 ก.พ.) ในระหว่างการเดินทางโรดโชว์สร้างความเชื่อมั่นของไทยในประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 6-7 ก.พ. 52 โดยมีนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นเข้าร่วมประ-มาณ 1,200 คนว่า ขณะนี้สถานการณ์ต่างๆในไทยเข้าสู่ภาวะปกติแล้วและไทยจะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวการค้า และการลงทุนต่อไป หลังจากที่ในช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองซึ่งมีทั้งการยึดทำเนียบรัฐบาล และการปิดสนามบินถึง 2 แห่ง
ปีที่ผ่านมาเป็นปีแห่งความยุ่งยากของเราเพราะความวุ่นวายทางการเมืองมีทั้งการยึดทำเนียบรัฐบาลและปิดสนามบินถึง 2 แห่ง ผมเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ขณะนี้เหตุการณ์เหล่านั้นได้ผ่านพ้นไปแล้วและจะไม่เกิดขึ้นอีก ขอยืนยันว่าประเทศเข้าสู่ภาวะปกติและมีความสงบแล้ว ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการปาฐกถาครั้งนี้จะทำให้พวกท่านมั่นใจและเชื่อมั่นในประ-เทศไทยต่อไป นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้การค้าของ 2 ประเทศแข็งแกร่ง โดยในปี 2551 ญี่ปุ่นเป็นตลาดสินค้าส่งออกอันดับ 2 ของไทยรองจาก สหรัฐฯมีมูลค่า 20,090 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ ไทยนำเข้าจากญี่ปุ่น 33,402 ล้านเหรียญฯและเมื่อความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (เจเทปา) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2550 ก็ยิ่งทำให้การค้าระหว่างกันเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับในด้านการลงทุนนั้น นักลงทุนญี่ปุ่นมีการลงทุนในไทยมากถึง 40% ของมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศในไทย ปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นในไทยมากกว่า 7,000 แห่ง โดยจุดแข็งของไทยคือมีทรัพยากรและสาธารณูปโภคครบ ครัน มีแรงงานที่คุ้มค่า คนไทยมีจิตใจที่รักบริการและไทยได้เร่งหาแนวทางใหม่ๆ พัฒนาคุณภาพบุคคล พัฒนาทักษะแรงงาน สร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนให้เป็นโอกาสที่สดใสของนักลงทุน
ขณะที่ด้านการท่องเที่ยวนั้นไทยแม้ช่วงที่ผ่านมาการปิดสนามบินอาจทำให้นักท่องเที่ยวไม่สะดวกในการเดินทาง แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลได้ผ่านร่างกฎหมายปกป้องสนามบินจากการถูกบุกรุกแล้ว นอกจากนี้ ไทยได้เตรียมสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ อีกเช่น แอร์พอร์ตลิงก์ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปีนี้รวมถึงยังมีแรงจูงใจในการท่องเที่ยวอีก เช่นไม่เสียค่าธรรมเนียมการทำวีซ่าเข้าประเทศ ลดค่าธรรมเนียมการจอดเครื่องบิน เป็นต้น เหตุการณ์การเมืองในไทยช่วงที่ผ่านมาทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและนักลงทุนมาไทยลดลง ไทยต้องเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลของผมจะทำงานอย่างหนักเพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นสยามเมืองยิ้มและเป็นดินแดนแห่งโอกาสต่อไป นายอภิสิทธิ์กล่าว
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ในการพบปะกับนักลงทุนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีรับปากนักลงทุนจะไม่แก้ไขกฎหมายที่กระทบต่อนักลงทุน โดยประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติสนใจคือกฎหมายต่างด้าว ซึ่งนายกฯได้รับปากจะไม่มีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวให้เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สุนทรพจน์ของนายก- รัฐมนตรีสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนชาวญี่ปุ่นได้ เพราะพูดในสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นต้องการจะฟังหลังจากที่ไทยเกิดปัญหาทางการเมือง ส่งผลให้นักลงทุนญี่ปุ่นเกิดความสับสนและขาดความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม การโรดโชว์ครั้งนี้ แม้จะยังไม่สามารถทำให้เกิดการลงทุนได้ในทันทีเพราะขณะนี้เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังซบเซาแต่เมื่อไรที่มีความพร้อมเชื่อว่านักลงทุนญี่ปุ่นจะกลับมาลงทุนแน่นอน
นายยาซูโอะ ฮายาชิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นเชื่อมั่นประเทศไทยมากขึ้นและนักลงทุนญี่ปุ่นน่าจะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นด้วย เพราะขณะนี้ประเทศไทยมีทิศทางที่ชัดเจนการเมืองเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น.
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2552 16:18:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 441 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|