Group Blog |
องค์พีระ เจ้าชายดาราทอง เรื่อง : จากเกิดวังปารุสก์ เล่ม ๒ สมัยประชาธิปไตย ภาพ : จากอินเตอร์เน็ต เพิ่งเริ่มอ่านไปเรื่อยๆ ดีใจที่ได้ยืมอ่าน ณ ช่วงเวลานี้ .. ไม่งั้นปล่อยไว้อีกนานหน่อยก็คงจะโดนปลวกขึ้น หรือหนังสือถูกส่งเข้าไปอยู่ชั้น 6 จำพวก rare book ที่การจะเข้าไปแสวงหามาดูนั้นออกจะดูยุ่งยากกว่าธรรมดานิสหนึ่ง อ่านๆๆ ไป ยังไม่พ้นบทแรก พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ทรงกล่าวถึงเจ้านายองค์หนึ่ง เรียกว่า พระองค์พีระ .. แรกๆประมาณว่า ทางรัชกาลที่ 7 นั้น ทรงมีจดหมายมาหาพระองค์จุลฯ อยู่เนืองๆ สมัยเป็นนักเรียนอยู่ต่างประเทศ ไม่อยากให้คบหากัน กลัวพระองค์จุลฯพาเสียคน เพราะเคยมีเรื่องมีราวว่าทรงใช้เงินฟุ่มเฟือยในการแต่งตัว ใช้เงินเกินงบ กับพระองค์เจ้าอาภัส ...พี่ชายขององค์พีระ ตอน พระองค์พีระ 15-16 ก็ได้ถูกส่งไปเรียนอีกที่หนึ่ง เลยไม่ค่อยได้เจอกับพระองค์จุลฯ แต่หลังๆ ทางประเทศมีปัญหามากขึ้น ประกอบกับรัชกาลที่ 7 ทรงพระประชวร เลยไม่ทรงห้ามให้เจอกันแล้ว .. ทั้งสองพระองค์เลยได้สนิทกันมากขึ้น องค์อาภัสที่เป็นพี่ชายขององค์พีระก็ทรงสอนขับรถ องค์พีระแม้จะเรียนไม่เป็นที่โดดเด่นแต่ว่าเรื่องกีฬาก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน ในอีตัน (ทรงเรียนที่โรงเรียนประจำอีตัน...ที่เดียวกับนายกอภิสิทธิ์อ่า) องค์พีระก็มีพรสวรรค์ในการขับรถมาก.. อ่านมาถึงแถวๆนี้ก็สงสัย เพราะพระองค์จุลฯเขียนว่า "ผลของการชอบขับรถของพีระจะเป็นอย่างไรต่อไป ผู้อ่านส่วนมากก็คงจะทราบอยู่แล้ว" เราก็เลยลองเซิร์สดู พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ทรงแข่งรถชนะหลายรายการ สร้างชื่อเสียง จนได้รับฉายาว่า ดาราทอง เพราะแข่งชนะติดกัน 3 ปี ทางนั้นเลยยกย่อง (อันนี้เราคิดว่าคนสมัยนั้นคงแปลมากจาก golden star.... แปลซะเชยเลย) พระองค์ทรงแข่งรถเรื่อยๆ แต่งงานกับผู้หญิงต่างชาติคนหนึ่งที่สวย มีชาติตระกูล แต่ก็ต้องเลิกกันเพราะมีสาวๆเข้าหาองค์พีระมาก เพราะพระองค์ทรงดังและมีเสน่ห์ รวย มีชีวิตแบบเศรษฐี เลยมีผู้หญิงเข้าหามาก ทรงแต่งงานสี่ครั้ง หม่อมแต่ละคนก็สวยๆทั้งนั้น มีลูกสองสามคน ลูกชายคนแรกนั้นเสียชีวิตตอนอายุ 17 ด้วยโรคมะเร็งตับ ทรงซื้อบ้านอยู่ที่อ่อนนุช ปัจจุบันคือซอยอ่อนนุช 12 ทรงเสียชีวิตตอนอายุประมาณ 71 ที่สถานีรถไฟ ดังจะกอบข้อความมาวางให้ดูดังนี้ "เวลาผ่านไปจนถึงทศวรรษ ๑๙๗๐ ความโอ่อ่ารุ่งเรืองในอดีตกลายเป็นเรื่องที่ถูกเก็บลง...บ หมดสิ้นไปกับกาลเวลา พระองค์พีระมีพระชนม์หกสิบเศษ อาจจะเสด็จปะปนไปกับฝูงชนริมถนนในกรุงเทพมหานครโดยไม่มีใครรู้จักว่าชายชราผู้นี้คือใคร ในบั้นปลายพระชนม์ชีพ เท่าที่ทราบคือทรงดำเนินชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ฐานะความเป็นอยู่ก็ไม่อำนวยให้ทรงอยู่ได้อย่างชั้นหนึ่งเหมือนเมื่อก่อนอีก เมื่อพ.ศ. ๒๕๒๖ เสด็จกลับไปอังกฤษอีกครั้ง เก็บพระองค์อย่างชายชราที่ไม่มีใครรู้จัก ทรงแวะเยี่ยมหม่อมซีริลเป็นครั้งสุดท้าย สองวันก่อนคริสต์มาส ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ ผู้คนในลอนดอนกำลังชุลมุนวุ่นวายจับจ่ายซื้อข้าวของต้อนรับเทศกาลสำคัญที่สุดของชาวคริสต์ ชายชราคนหนึ่งล้มลงที่สถานีรถไฟบารอนส์คอร์ต สิ้นลมหายใจก่อนแก้ไขทัน ไม่มีใครทราบว่าชายชาวเอเชียคนนี้เป็นใคร ไม่มีหลักฐานชื่อที่อยู่ในตัวเขา นอกจากจดหมายเขียนเป็นภาษาที่ตำรวจอ่านไม่ออก สก๊อตแลนด์ยาร์ดส่งจดหมายไปสอบถามผู้เชียวชาญทางภาษาที่มหาวิทยาลัยลอนดอน กินเวลาถึง ๗ วันก่อนจะรู้และแจ้งสถานเอกอัครราชทูตไทย ในลอนดอนว่า พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช เจ้าดาราทองผู้โด่งดังที่สุดเมื่อ ๕๐ ปีก่อนสิ้นพระชนม์เสียแล้ว พระชนม์ ๗๑ พรรษา BBC ออกข่าวโทรทัศน์ทั่วประเทศทั้งเช้า กลางวัน เย็น ถือเป็นข่าวใหญ่ ITV ออกข่าวไปทั่วโลก ข่าวสิ้นพระชนม์ลงข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ไทยทุกฉบับ รวมทั้งนสพ.อังกฤษและประเทศอื่นๆที่เคยทรงทำชื่อเสียงไว้ สถานทูตจัดพิธีสวดพระอภิธรรมถวายอย่างสมพระเกียรติ บรรดาเชื้อพระวงศ์ที่อยู่ในอังกฤษได้รับแจ้งข่าวนี้ทั้งหมด เมื่อพระศพถูกเคลื่อนย้ายไปที่สุสานเพื่อถวายพระเพลิง นักแข่งรถดังๆสมัยเดียวกันรวมตัวกันทั่วยุโรป บินมาร่วมแสดงความคารวะ หม่อมราชวงศ์ นริศรา จักรพงษ์ ธิดาในพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์เป็นผู้อัญเชิญธูปเทียนพระราชทานมาร่วมงาน ข้าราชการไทยในสถานทูตไปร่วมงานกันทั้งหมด หม่อมราชวงศ์ มาลินี จักรพันธุ์ ผู้รวบรวมประวัติของท่าน ส่งท้ายไว้อย่างงดงามว่า " ดวงพระวิญญาณลอยละล่องขึ้นสู่สรวงสวรรค์ พระองค์สิ้นพระชนม์อย่างโดดเดี่ยว เพียงแค่จดหมายภาษาไทยหนึ่งฉบับที่ทรงทิ้งไว้เพื่อส่งท้ายให้ได้ทราบว่าพระองค์คือใคร เทพส่งพระองค์ท่านลงมาจุติอย่างงามสง่า พระนามขจรขจายก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไปทั่วโลก และเทพได้นำพระองค์ท่าน " เจ้าดาราทอง" เสด็จกลับขึ้นไปอย่างเดียวดาย เหมือนสวรรค์แกล้งให้โลกลืม"" จาก //www.rubsub.com/forums/index.php?topic=4167.0 ลองเซิร์สหารูปพระองค์พีระ แล้วเจอรูปลูกชายเขาอีกคนหนึ่ง หน้าเหมือนกันมาก... ดูแล้วโคตรตกใจ //topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/03/K6455651/K6455651.html จากการได้อ่านชีวประวัติของท่านแล้วเห็นว่า สมัยก่อนนั้น ราชวงศ์ถูกคาดหวังให้เรียนด้านทหารกันเป็นส่วนใหญ่ เพื่อรักษาความมั่นคงของราชวงศ์ แต่คนในราชวงศ์ ก็เป็นคน คนหนึ่ง .. มีหัวใจ มีอิสระทางความคิด นี่ถ้าพระองค์ทรงไม่ได้ถูกส่งไปเรียนต่างประเทศ ก็จะไม่ได้เห็นว่า ความเป็นมนุษย์นั้นมันมีอะไรอีกหลายอย่างที่ให้ทำ ทรงแข่งรถ ด้วยความสนับสนุนของพระองค์จุล ตอนแรกก็ได้รางวัลมาแต่คนไทยเองก็เพิ่งรู้ทีหลัง .. พระองค์ทรงไปเรียนต่อด้านศิลปกรรมศาสตร์ ทางรูปจากลิงค์ข้างบนนั้นมีรูปที่พระองค์ทรงปั้นแมวน้ำคาบปลาอยู่ - - ที่ปัจจุบันตั้งอยู่ที่วังจักรพงษ์ ... แสดงให้เห็นว่าทรงได้คบหากับพระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ เยี่ยงพี่น้อง .. เพื่อนแท้... จนชีวิตต้องพรากจากกันไป (พระองค์จุลสิ้นพระชนม์ก่อน ด้วยโรคมะเร็ง) และเมื่อพระองค์พีระสิ้น ลูกสาวของพระองค์จุลก็ไปงานศพแทน |
อากาศมันร้อนขอนอนแปบนึง
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] สวัสดีค่ะ ดีใจที่เข้ามาแวะดูโปรไฟล์นะคะ อยากเป็นเพื่อนกันหรือต้องการทักทาย ทิ้ง comment ไว้ได้นะคะ
|