เติมสีสันบนเส้นผม แบบพ้นภัย
หากเอ่ยชื่อ ฝรั่งสีชมพู หรือ ฝรั่งขี้นก คนสมัยก่อนคงจะรู้จักกันดีว่า เป็นผลไม้ทรงกลม ขนาดปานกลาง ที่มีเนื้อทั้งสีขาว เหลือง ชมพู กลิ่นหอม แต่ส่วนมากแล้วผู้คนไม่ค่อยนิยมนำมารับประทานเพราะเนื้อค่อนข้างเละและไม่กรอบเหมือนฝรั่งลูกโตๆ ในปัจจุบัน ซึ่งหาไม่รู้ว่าฝรั่งผลเล็กเหล่านี้มีสารอาหารมากมายที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ
สารสำคัญที่มีอยู่ในฝรั่งสีชมพูนั้น ไม่เพียงแต่มีวิตามิน A ที่ช่วยบำรุงร่างกายในเรื่องการมองเห็น การเจริญเติบโตของกระดูก และการสร้างเซลล์ และควบคุมอุณหภูมิคุ้มกันของร่างกาย ยังมีวิตามิน C ที่มีมากกว่าส้มถึง 5 เท่าในปริมาณที่เท่ากัน
วิตามิน C มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอและป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ที่มักเกิดจากความเครียด การดื่มแอลกอฮอล์ ฝุ่น และควันบุหรี่ และแสงแดด เสริมสร้างและรักษาสภาพของเนื้อเยี่อคอลลาเจน ทำให้ผิวสมบูรณ์แข็งแรง ช่วยสมานแผลและยังดีต่อเนื้อเยื่อของกระดูกและฟัน ดูดซึมธาตุเหล็ก เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็ง ทั้งยังมีใยอาหารที่ช่วยขับเคลื่อนอาหาร ลดอาการท้องผูก ริดสีดวงทวาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ อีกทั้งมีแนวโน้มทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดต่ำ และยังช่วยป้องกันโรคหัวใจอีกด้วย
แต่คุณสมบัติที่โดดเด่นของฝรั่งสีชมพู คือ สารไลโคปีน ซึ่งมีมากรองจากมะเขือเทศ แต่มากกว่ามะละกอถึง 2 เท่า ว่ากันว่า ไลโคปีนประกอบด้วยการ Antioxidant ที่เรียกว่า แคโรทีนอยด์ ที่พบมากในผักและผลไม้ที่มีสีแดง ชมพู เช่น มะเขือเทศ ฝรั่งสีชมพู แตงโม มะละกอ มีสรรคุณต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะแสงแดดไลโคปีนยังช่วยกระตุ้นการเพิ่มขึ้นของเคราติโนไซต์ อันจะช่วยทำให้เซลล์ผิวชั้นนอกแข็งแรงขึ้น แต่ไลโคปีนก็ยังเก็บยากคล้ายวิตามิน C
ในยุคแรกๆ ไลโคปีนอยู่ในรูปสารสกัดจะแปรปรวนและตกผลึกง่าย ไม่สามารถดูดซึมสู่ผิว แต่เทคโนโลยีใหม่สามารถคงสภาพไลโคปีนด้วยการย่อขนาดโมเลกุลให้อยู่ในรูปของนาโนแคปซูล ไลโคปีนตามธรรมชาติมีหน้าที่ในการจับรังสียูวี แล้วแปลงให้อยู่ในรูปของพลักงานให้กับคลอโรพลาสต์ (คลอโรฟิลล์ในเซลล์ของพืช) เพื่อปกป้องพืชจากไฟโต-ออกซิเดชั่น เมื่อมีประสิทธิภาพเช่นนี้แล้ว นักวิทยาศาสตร์จึงผันไลโคปีนเข้าสู่วงการเสริมความงาม ซึ่งไลโคปีนจะช่วยกระตุ้นระบบการฟื้นฟูผิว
เมื่อเห็นประโยชน์มากมายของฝรั่งขี้นก หรือฝรั่งสีชมพูแล้ว ถ้าเจอะเจอ ก็หามารับประทานกันได้แล้ว ถือได้ว่าเป็นทางเลือกในการเสริมความงามอีกทางนึงเลยทีเดียว | ""ที่มาข้อมูล :
Create Date : 20 เมษายน 2553 |
Last Update : 20 เมษายน 2553 16:51:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 226 Pageviews. |
|
|
| |