แวะชมวัดเล็กๆ อีกเสี้ยวส่วนของบุโรพุทโธ
 | |  |
|
ในละแวกบุโรพุทโธมีวัดพุทธอีก 2 แห่ง คือ Candi Mendut และ Candi Pawon ซึ่งในระหว่างการบูรณะบุโรพุทโธ นักโบราณคดีก็พากันประหลาดใจที่พบว่า วัดทั้ง 3 แห่งนี้
ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เป็นเส้นตรงเดียวกัน... ทำให้นักโบราณคดีส่วนหนึ่งเชื่อว่า...
ทั้ง Candi Mendut และ Candi Pawon คือ ส่วนหนึ่งของบุโรพุทโธ
ทุกวันนี้...ทุกวันวิสาขบูชา ศาสนนิกชนชาวพุทธก็ยังพากันเดินจากวัด Mendut ไปยังวัด Pawon ก่อนจะมาสิ้นสุดการเดินทางและทำพิธีเวียนเทียนที่บุโรพุทโธค่ะ
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินชมบุโรพุทโธ เพราะอากาศร้อนเป็นอย่างมาก มีดีคนขับรถก็มารับเรา และพาไปวัดปะวนเป็นแห่งแรก
ที่นี่เสียค่าเข้าชม 3,300 Rp. ซึ่งบัตรเดียวกันนี้สามารถเข้าชม Candi Mendut ได้ด้วยค่ะ แต่อิชั้นมิได้อ่านค่ะ ก็เลยเสียซ้ำไปอีก แต่มะเป็นไร... ช่วยสมทบทุนทำบุญก็แล้วกันค่ะ
Candi Pawon พูดถึงวัดในความรู้สึกของเราจะคิดถึงที่ที่มีบริเวณใหญ่โต มีโบสถ์ วิหาร
แต่ที่วัดปะวน มีเท่านี้จริงๆ ค่ะ พลิกล็อคผิดคาดมากเลยค่ะ
วัดปะวนอยู่ห่างจากบุโรพุทโธราว 1 ก.ม. เชื่อกันว่า คำว่า Pawon มาจากคำว่า "Vraja nala" (มันเชื่อมกันตรงไหนยังงงๆ อยู่ค่ะ) ซึ่งแปลว่า "สถานที่ชำระล้างจิตใจ"
จึงเชื่อกันว่าวัดปะวนน่าจะเป็นสถานที่เก็บน้ำศักดิ์สิทธิ์ก่อนเข้าไปทำพิธีที่บุโรพุทโธค่ะ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันหลักฐานต่างๆ หลงเหลืออยู่น้อยมากค่ะ โดยภายในวัดตอนนี้ว่างเปล่าหมดแล้ว... เศร้าาาา...
รูปสลักด้านนอกวัดปะวน เป็นรูปคนครึ่งนก ซึ่งน่าจะเป็นกินรีในบ้านเรานะคะ
มีรูปนางอัปราด้วย แต่ไม่ค่อยสวยค่ะ สู้นางอัปราที่กัมพูชาไม่ได้ค่ะ
ที่นี่.. อิชั้นได้บูชาพระพุทธรูปสลักจากหินสูงประมาณ 1 คืบ คือ เป็นพระพุทธรูปที่ทำเลียนแบบพระพุทธรูป ที่บุโรพุทโธ สวยดีค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นหินจริงหรือเปล่านะคะ เพราะราคาถูกมาก 2 องค์ ราคา 100,000 Rp. หรือประมาณองค์ละ 200 บาทเท่านั้นเองค่ะ... แต่กว่าจะได้ราคานี้ก็ต่อกันแทบขาดใจ.. ประมาณว่า ขึ้นมานั่งบนรถเตรียมเดินทางไปที่อื่นแล้ว คือ ถ้าไม่ให้ ชั้นก็ไปแล้วนะ...น่ะ
จากวัดปะวน เราต่อไปที่ Candi Mendut ซึ่งอยู่ห่างจากบุโรพุทโธราว 3 ก.ม. เชื่อกันว่า ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับทำพิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ..
วัดเมนดุดใหญ่กว่าวัดปะวนเล็กน้อยค่ะ
เมื่อขึ้นบันไดไปบนวัดเมนดุด จะมีระเบียงภาพเล็กๆ แกะสลักจากหิน ฝั่งซ้ายเป็นรูปของเทพเจ้า Hariti เทพแห่งความโชคดี อยู่ท่ามกลางเด็กๆ ขณะที่ทางด้านขวาเป็นภาพสลักของเทพเจ้า Kuwera อยู่ท่ามกลางเด็กๆ และกระสอบที่เต็มไปด้วยทรัพย์สิน ไม่ต้องบอกก็น่าจะเดาได้นะคะว่า... ท่านคือเทพแห่งความรุ่งเรืองค่ะ
เทพเจ้า Hariti เทพแห่งความโชคดี
เทพเจ้า Kuwera เทพแห่งความรุ่งเรือง
และยังมีผู้มากราบไหว้ด้วยค่ะ...
ภายในวัดเมนดุด... พระศากยมุนี.. ไม่เหมือนพระพุทธรูปที่บ้านเราเลย
ดูเผินๆ ยังคิดว่า เป็นพระศิวะซะอีก...
ภายนอกวัดเมนดุด แกะสลักเป็นเรื่องราวของนิทานชาดก
ต้นไทรที่นี่ใหญ่มากค่ะ อินโดนีเซียต้นไม้ยังเยอะอยู่มาก
ดังนั้น แม้ว่ากลางวันจะร้อนแค่ไหน กลางคืนอากาศก็ยังเย็นสบายค่ะ
ที่วัดเมนดุดนี่ ปัจจุบันยังมีวัดไทยที่มีพระจำพรรษาอยู่ด้านหลังด้วยนะคะ ใครที่แวะไปเยี่ยมชมที่นั่น จะแวะไปนมัสการพระที่นั่นด้วยก็ได้ค่ะ
จบทัวร์ที่บุโรพุทโธโดยสมบูรณ์แล้วนะคะ......
>>>>> จากที่นี่เรามุ่งหน้าไปสถานีรถไฟที่ย็อคยา ที่ได้ลุ้นระทึกจองตั๋วไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อมุ่งหน้าไปเมืองสุราบายา.... ไปสัมผัสลมหายใจแห่งภูเขาไฟโบรโมค่ะ
และแล้ว.... การผจญภัยครั้งใหม่ที่ดุเด็ดเผ็ดมันก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้เอง...
| |
 | |  |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed 
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
รอโอกาศ และหาโอกาศ ต้องไปแน่ๆ ค่ะ