Bloggang.com : Scooterella : Review // Tanda Skincare System

Review // Tanda Skincare System

มีหลายคนหลังไมค์มาถามเรื่องเจ้าเครื่อง Tanda วันนี้ก็เลยมารีิวิวกันดีกว่า บางคนอาจจะยังงงๆ ว่าอะไรคือเจ้า Tanda ถ้าว่ากันง่ายๆ ก็คือ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้แสงเป็นตัวกระตุ้นผิวคะ ใช้รักษาสิว และริ้วรอยบนใบหน้าหรือตามร่างกายก็ได้

จริงๆ ตอนนี้ในตลาดเจ้า Tanda มีอยู่ 2 รุ่นด้วยกัน คือ รุ่นที่วางขายตามร้านหมอผิวหนัง เรียกกันว่ารุ่นธรรมดาแล้วกันนะคะ กับอีกรุ่นคือ รุ่นที่ขายที่ร้าน Sephora

มาดูรูปกันก่อน เทียบกันระหว่าง 2 รุ่น

อันนี้เป็นรุ่นธรรมดา มีหัวเปลี่ยนได้ 2 หัว สีฟ้าสำหรับรักษาสิว ฆ่าเชื้อ P. Acne ส่วนหัวสีแดง ไว้สำหรับลดริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจนคะ อุปกรณ์ก็จะมาตามแบบในรูปเลยคือ มีถุงใส่ ปลั๊กเสียบเอาไว้ชาร์ทแบต แว่นตาป้องกัน ราคา $395

ส่วนอันนี้เป็นรุ่นที่ขายที่ Sephora คะ ลักษณะจะแตกต่างกันเล็กน้อย คือมีแต่หัวแสงสีแดง มาพร้อม cleanser กับ anti-aging serum ราคา $275

สำหรับรุ่นที่เราใช้อยู่เป็นรุ่นธรรมดาคะ ที่มาพร้อมหัว LED 2 สีคือ ฟ้าและแดง หลังจากใช้มาประมาณ 1 เดือน ช่วงแรกๆ นี่ใช้ทุกวันคะ ตามวิธีที่เค้าบอกมา ประมาณ 2 อาทิตย์ คือ หัวสีฟ้า จะสามารถใช้ได้วันละ ไม่เกิน 18 นาที แต่ละจุดไม่ควรเกินจุดละ 6 นาที ส่วนหัวสีแดง สามารถใช้ได้วันละไม่เกิน 18 นาทีเช่นกัน แต่สามารถวนๆ ได้ทั่วใบหน้า

สภาพผิวโดยทั่วไป
เราเป็นคนที่ชอบมีสิวอุดตัน และนานๆจะมีสิวอักเสบโผล่มา มีรอยสิวหลงเหลือบ้าง ไม่ค่อยมีริ้วรอยมากนัก มากที่สุดจะเป็นร่องแก้มจากการยิ้ม

ผลลัพธ์ที่ได้คือ สิวอุดตันไม่ได้น้อยลง หรือมากขึ้น แต่สิวอักเสบหายเร็วกว่าปกติ จากเดิม ถ้าเป็นสิวอักเสบจะใช้เวลา 1-1.5 สัปดาห์กว่าจะหาย แต่ใช้ Tanda แล้วสิวสามารถหายได้ภายใน 2-3 วันคะ รอยจากสิวก็หายเร็วขึ้นด้วยนิดหน่อย

ส่วนริ้วรอย อันนี้ไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นคนไม่ค่อยมีริ้วรอยอยู่แล้ว รู้สึกได้ว่า ร่องแก้มมีสภาพดีขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากนัก ถ้าคนมีริ้วรอยเยอะๆ อาจจะสังเกตได้ดีกว่านี้

สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อดีหรือเปล่า ลองคิดดูดีๆ นะคะ เพราะราคาไม่ใช่ถูกๆ ถ้าคิดว่าซื้อมาแล้วหวังผลแบบเฉียบพลัน อันนี้คิดว่าผิดหวังแน่นอน เพราะมันไม่ได้ให้ผลที่เฉียบพลันขนาดนั้น ซึ่งจริงๆ ก็แล้วแต่ว่าผิวของแต่ละคนตอบสนองได้ดีแค่ไหนด้วย

สอง ต้องมีเวลาและขยันพอสมควร คือควรจะทำทุกวัน เป็นประจำ เพื่อรักษาและป้องกัน อย่างน้อยก็ต้องเจียดเวลาประมาณ 30 นาทีทุกวันเพื่อมานั่งทำพิธีกรรมนี้แหละคะ อีกอย่างคือไม่ใช่หวังพึ่งเจ้าเครื่องนี้อย่างเดียว ก็ยังคงต้องทาครีมช่วยด้วย

สำหรับเรา ไม่แน่ใจว่า รุ่นที่ Sephora ขายสามารถช่วยเรื่องสิวได้มากน้อยแค่ไหน เพราะมันมากับแค่หัวสีแดงสีเดียว ไม่มีหัวสีฟ้าสำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรียมาด้วย ตอนแรกเราก็ลังเล แต่ก็ตัดสินใจซื้อรุ่นธรรมดาดีกว่า เพราะจุดประสงค์หลักของเราคือช่วยเรื่องสิวมากกว่าริ้วรอยคะ

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2551

Last Update : 7 พฤศจิกายน 2551 12:49:46 น.

11 comments

Counter : 2543 Pageviews.

ถ้าราคาไม่แพงจะเอามาลองสักอัน แต่พอเห็นราคาขนาดนี้ไม่เอาดีกว่า สู้ราคาไม่แพง แถมหาซื้อยากในไทยด้วย

โดย: wannee2w

วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:40:18 น.

เอามาจ่อที่หน้าหยอคับ

โดย: ป้าจะอิ๊บ (jipnaja

) วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:13:20 น.

น่าสนุกนะคะ... แต่แพงจัง

โดย: pook_sb

วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:52:57 น.

อ๊ะ เกือบซื้อ ที่มีในซีโฟราแล้วเชียววว

ไหนๆจะซื้อ ก็อยากได้ทั้งสองหัวอ่ะนะ

อืมๆๆๆๆ

โดย: makeup IP: 220.255.7.178 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:54:07 น.

กิเลสพุ่งปรี๊ด ... ยังไม่ได้ซื้อตัว Clarisonic เลยค่ะ แถมตัวนี้ก็น่าสน อยากได้ อยากได้

โดย: Molly_Nanny

วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:19:50 น.

น่าสนุกจริงๆด้วย

โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ

วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:24:43 น.

น่าสนุกดีนะ แต่คงเสียเวลาน่าดู
ทำหน้าเว้าวอนมาก อิอิ

โดย: LibbyAndPortia IP: 78.101.180.133 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:11:37 น.

เห็นใน sephora อยู่เหมือนกัน แล้วก็แอบสงสัยว่าแสงสีฟ้า (ถ้าใช้นานๆ) อาจจะทำลายผิวบ้างเหมือนกัน (รึเปล่า?)

ความรุนแรงของแสง จากแรงไปอ่อน ... เหนือม่วง (UV), ม่วง, คราม, น้ำเงิน, เขียว, เหลือง, แสด, แดง, ใต้แดง (infrared) ... แล้วก็แอบสงสัยเหมือนกัน ว่า แสงสีแดง มันจะช่วยเรื่องริ้วรอยได้ยัง

จริงๆ แสงพวกนี้ ถ้าถูกใช้ด้วยความแรงที่เหมาะสมและถูกจุด ก็น่าจะช่วยได้ แต่ถ้าเอามาใช้เอง (แบบฉายส่องทั้งหน้า) ก็แอบสงสัยว่า
(1) ถ้าไม่ทำลายผิว ก็ไม่แรงมากพอ
(2) ถ้าแรงมากพอ ก็อาจจะทำลายผิวในส่วนที่ไม่มีปัญหา

คุณปุ๊กคิดว่าไง ?

โดย: Phoebe Buffay

วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:34:04 น.

น่าสนุก

โดย: yoko

วันที่: 9 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:41:55 น.

อืม เรื่องแสงนี่ไม่มีคอมเม้นอะคะ เพราะเราไม่ได้มีความรู้เชี่ยวชาญโดยตรง แต่เราตัดสินใจซื้อ เพราะเห็นว่ามันผ่าน FDA ด้วย เพราะเครื่องมันก็เหมือนที่หมอใช้ แต่เค้าก็มีข้อบ่งใช้นะ ไม่ใช่ว่า ใช้ตามสบายอะจ้า

อย่างเค้าบอกไว้เลยว่า แสงสีฟ้าเนี่ย ใช้ได้วันละไม่เกิน 18 นาที ต่อวัน แล้วทำแต่ละจุด ก็ไม่ควรเกินจุดละ 6 นาที

ส่วนแสงสีแดงก็เหมือนกัน สามารถวนได้รอบๆใบหน้า แต่ไม่ควรเกินวันละ 18 นาที

เรา คิดว่ามันค่อนข้างเห็นผลนะ ในเรื่องของสิว รู้เลยว่าสิวหายเร็วขึ้น รอยจางเร็วขึ้นด้วย แล้วตอนนี้มันก็ไม่ได้แค่มียี่ห้อนี้ มันมีหลายยี่ห้อมาก ขนาดหมอผิวหนังก็ทำออกมาขายเหมือนกัน

อย่าง แสงสีฟ้าเนี่ยต้องมีคลื่นความถี่ในระยะเท่านี้ ถึงเท่านี้ ถึงจะเกิดผลด้วย ไม่ใช่ว่าแสงขนาดไหนก็ฆ่้าเชื้อได้ แสงสีแดงก็เช่นกันคะ

//en.wikipedia.org/wiki/Light_therapy

มีข้อมูลใน wiki ลองอ่านดูก็ได้นะ

//www.nasa.gov/centers/marshall/news/news/releases/2003/03-199.html

อันนี้จาก NASA เกี่ยวกับ Red Light ช่วยในเรื่องของ Healing Process

โดย: Scooterella

วันที่: 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา:6:33:50 น.

อยากเอามาใช้กับร่องแก้มมั่งจัง เดี๋ยวรอดูก่อนเผื่อมันลดราคา 555

โดย: Golf IP: 12.11.157.254 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:5:03:32 น.