[เที่ยวนอกหนังสือ] เมื่อโอตาคุสาวไปบ้านเกิดอาจารย์เท็ตซึกะ โอซามุ
ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาตั้งแต่ มิุุถุนายนปีที่แล้ว แต่ดองไดมาจนบัดนี้ ขั้นเลวร้ายนะนี่ ..... เข้าเรื่องไดอารี่ดีกว่า เที่ยวในเกียวโตมาทั้งวัน ขณะที่กำลังจะกลับ เงยหน้าขึ้นไปเห็น
มีพิพิธภัณฑ์ อาจารย์เท็ตซึกะ โอซามุ อยู่ที่สถานีรถไฟเกียวโตด้วย
เราจึงเดินตามอะตอมไป (จริงๆ มีสิงโตน้อยเลโอด้วย แต่ลืมถ่าย ขึ้นบันไดเลื่อนมาถึง จะเห็นป้ายนี้ สถานีเกียวโตเป็นสถานีรถไฟใหญ่ เป็นทั้งโรงแรม โรงละครเวที และอาคารเช่าพื้นที่ ร้านอาหารหรูๆ เพียบ แต่เนื่องจากไปถึงตอนนั้นหกโมงเย็น มันปิดไปแล้ว เลยถ่ายรูปเล่นแทน ด้านนอก
โพสเป็นท่าเดียว
ตอนถ่ายก็ทั้งขำ ทั้งเขิน ถ่ายคนเดียว วางขาตั้งกล้อง (อย่างเวอร์) แต่ไหนๆ ไปญี่ปุ่น ไม่มีใครรู้จัก ลืมอายไปละ ช่างมัน ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่เกียวโตจะมีขนมรูปนก ฮิโนโทริด้วย แต่ถ้าไปที่ิพิพิธภัณฑ์จะไม่มีขาย ใครอยากกินขนมนกอมตะ ซื้อที่สาขาสถานีเกียวโตนะคะ (ส่วนของเราอด เพราะคิดว่าจะไปซื้อที่ทาคาระซึกะ แต่มันไม่มี)
------------------------------------------------------------ วันรุ่งขึ้น เลยเพิ่มแพลน ไปพิพิธภัณฑ์ที่บ้านเกิดอาจารย์เท็ตซึกะด้วยเลย (ไปเองแบบแบ๊คแพ๊ค ไม่มีทัวร์ ไม่มีไกด์ นำเที่ยวด้วยตัวเอง เปลี่ยนแพลนตามสะดวก)
Tetsuka Osamu Manga Museum @ Takarazuka ทาคาระซึกะ เป็นเมืองหนึ่งในจังหวะโกเบ ในหนังสือนำเที่ยวถ้ามาโกเบ ส่วนใหญ่จะไปที่อ่าวโกเบ ไม่มีเล่มไหนนำทางมาที่นี่ แต่ถ้าไปที่ศูนย์ส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ตึกโรงแรมแพนแปซิฟิก แผ่นของโกเบจะมีที่นี่อยู่ด้วย เพียงแต่แผนที่ จะไม่ได้บอกว่าเดินทางมาได้ด้วยเจอาร์ ในแผนที่มีแต่สถานีฮันคิว (ทำไมไม่มีบอกก็ไม่รู้เหมือนกัน) ี่ทาคาระซึกะ ดังในเรื่องละครเวที ที่มีแต่ผู้หญิงแสดง
(ถ้าใครเคยอ่านโคนัน ตอนที่พวกโคนันไปเที่ยวโอซาก้า ฮัตโตริจะพาไปโคชิเอ็ง แต่คาซึฮะไปได้ตั๋วฟรีละครเวทีมาเลยจะพาไปดู ก็คือคาซึฮะจะพามาที่นี่นั่นเอง) เดินทางมาที่นี่ด้วย JR pass ได้ ลงสถานี JR Takarazuka แต่ถ้าใครไม่ได้ซื้อไว้ ใช้ Kansai Thru pass ก็เดินทางมาได้เหมือนกัน นั่งสายฮันคิว มาจากสถานี Umeda ลงสถานี Hankyu Takarazuka (สถานี ฮันคิว กับ เจอาร์ เมื่อมาถึงทาคาระซึกะ ห่างกันนิดหน่อย แค่ระยะทางม้าลายข้ามสั้นๆ) เราเดินทางด้วยรถเจอาร์ เมื่อมาึถึง ก็คือเดินออกจากสถานี ไปทางสถานีฮันคิว แล้วก็เดินออกจากสถานีฮันคิว จนไปถึงถนนเดินไล่ไปเรื่อยๆ บรรยากาศในเมือง จะเหมือนประหนึ่งเราเดินอยู่ในสวนหลวงร.9 ถนนสองข้างทางมีแต่สีเขียว กับ ดอกไม้ ตอนเดินเราหลบแดดมาเดินฝั่งโรงละครทาคาระซึกะ มีคนมาขายตั๋วหน้าโรงละครพอดี ไปยืนดูเค้าขายตั๋วกัน เป็นราคาที่ใช้ได้ (จนเข้าใจเลยว่าทำไมคาซึฮะถึงได้ชวนมาดู เมื่อมีคนยกตั๋วให้ บัตรต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือนๆ ราคาแถวหน้าประมาณใบละ สามหมื่นเยนถึงห้าหมื่นเยนได้ ) เดินต่อไปจนถึงสุดบล็อกโรงละคร จะมองเห็นตึกรูปทรงสวยๆ อยู่ไกลๆ มาถึงพิพิธภัณฑ์แล้ว ด้านหน้าพอดี จะมีฮิโนโทริ เป็นสัญลักษณ์อยู่ด้วย ท่าโพสประจำตัว
มาถึงทางเข้าแล้วจ้า ที่พื้นจะมีรูปเป็นเหมือนรูปพิมพ์มือของดารา แต่จริงๆ แล้วเป็นรูปรอยพิมพ์ว่า คาแรคเตอร์ของอาจารย์ล้มหน้าหงายเราจะเห็นอะไร อะตอม หมอแบล็คแจ๊ค กับ พิโนโกะ (ถ้าก้มไปดูใกล้ๆ จะเห็นว่ามุมซ้าย เป็นรูปหน้าคาแรคเตอร์นั้นจ้า) เมื่อเข้าไปถึง ที่ขายบัตรเข้าชมจะเป็นเครื่อง ให้เอาเงินหยอด มีช่องเป็นผู้ใหญ่ 1-4 คน เด็กเล็ก 1-4 คน นักเรียนในเครื่องแบบ 1-4 คน จะเป็นคนชาติไหนก็ใช้กฎเดียวกัน ราคาเท่ากันคะ แล้วก็จะมีพนักงานที่ดูแลส่งสูจิบัตรให้ ตอนแรกเค้าก็ส่งของภาษาญี่ปุ่นมาให้นะ แต่เค้าเห็นว่าเราแลดูจะไม่เข้าในภาษาญี่ปุ่น (ก็ไม่เข้าใจจริงๆ เพราะพูดไม่ได้อยู่แล้ว ) เลยถามว่า Where you come from? พอตอบว่าไทยแลนด์ หน้าพนักงานแลดูอเมซิ่งมาก เลยหยิบสูจิบัตรขึ้นมา 4 แผ่น ภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน ภาษาเกาหลี ภาษาอังกฤษ ยื่นมาให้เลือก พอเราหยิบภาษาอังกฤษ ก็ิยิ้มๆ ตอบอิงกลิช ก่อนจะอิรัชชัยมาเสะ ยินดีต้อนรับให้เข้าชมคะ เงยหน้าตรงโถงต้อนรับ จะพบกับ ก้มหน้าไปก็จะเห็น น่ารักกกก (ขออภัย ถ่ายไม่สวยเลย ) พิพิธภัณฑ์มีสามชั้น ชั้น 1 จะเป็นส่วนของประวัติตัวอาจารย์เอง อยู่ในแคปซูลแก้ว มีรูปสมัยเด็ก ผลงานที่เคยวาด ประวัติการศึกษา
แล้วก็จะมีบอร์ดแสดงลำดับการวาดผลงาน ถ้าอ่านออก สงสัยคงอยู่ตรงนี้เป็นสามสี่ชม. เพราะขนาดอ่านไม่ออก ยังวนเวียนอยู่เกือบ ชม. ด้านในเป็นโรงหนัง ฉายการ์ตูนให้ดู แต่ตอนที่ไปถึง รอบเก่าที่ฉายเพิ่งเริ่ม เลยอดดู
อันนี้เป็นผนังด้านนอกของโรงหนัง
ชั้นใต้ดิน เป็นโรงงานสร้างอะตอม เป็นที่แสดงความคิดของอาจารย์ กับ ห้องเวิร์คช็อป สอนวาดการ์ตูน (มีคนกำลังเรียน เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา) ไม่รู้จักตัวนี้ ใครรู้มั้ยคะ ว่าชื่ออะไร (ลืมถ่ายยูนิคอนด้วย ) เดินกลับขึ้นไปชั้น 2 บันได ทำเป็นรูปใยแมงมุม (ต้องเป็นฉากเรื่องไหนสักเรื่องแน่ แต่ไม่รู้จักอีกแล้ว)
โถงตรงชั้น 1 ถ้าเดินจากใต้ดินจะโผล่มาทางนี้ เป็นห้องโชว์ฟิกเกอร์ กับของสะสม ที่ไม่มีขายแล้ว ปูกระเบื้องรูปการ์ตูน ตัวอาจารย์เอง ไม่ทราบว่าใครวาดให้ แต่เป็นรูปอาจารย์กับเหล่าคาแรคเตอร์ ตลอดผนังบันไดสองข้าง จนทั่วผนังชั้น 3 เป็นการแสดงผลงานในการ์ตูน จากเล่มจริงที่อาจารย์เขียน ทุกเรื่อง เยอะมาก เราไปมาเมื่อปีที่แล้ว เป็นช่วงที่พิพิธภัณฑ์เพิ่งจัดงานครบรอบ 80 ปี ผลงานของอาจารย์ไปพอดี เลยมีเค้กที่ระลึก
รูปสมัยหนุ่มๆ (นักศึกษาแพทย์ ที่เปลี่ยนตัวเองมาเขียนการ์ูตูน) วันนั้นที่ไป เด็กนักเรียนมาทัศนศึกษาด้วย แต่ขนาดเด็กมาทัศนศึกษา ยังเป็นระเบียบมาก ชั้น 3 มีที่จัดให้เด็กวาดรูปเล่น ไม่ไปเขียนให้เลอะเทอะ แต่จะแย่งเด็กเล่นก็กระไรอยู่นะ
ห้องสมุดการ์ตูน ให้อ่านฟรี
รูปวาดอาจารย์ กับการ์ตูนที่อาจารย์รัก เด็กอ่านกันเป็นระเบียบมาก ไม่ฉีก ไม่ขยำ ผิดกับห้องสมุดเมืองไทยชนิดฟ้ากับเหว แม้ว่าเด็กจะวิ่งซนกันไป ตลอดก็เถอะ (ซนแบบเงียบๆ ทำกันได้ไง) มีเกมส์ให้เด็กเล่นด้วย ด้านซ้าย เป็นที่ขายของที่ระลึก ชวนดูดเงินในกระเป๋าออกไปจริงๆ
ตู้ถ่ายสติกเกอร์ กรอบน่ารักมาก แต่ค่าถ่ายไม่น่ารักเอาซะเลย (จำไม่ได้แล้ว แต่แพงอะ) ซื้อขนมไส้ถั่วแดง รูปอะตอมกับสิงห์น้อยเลโอไป แล้วตอนจ่ายตังค์ ก็เจอของที่น่ารักสุดๆ (อยากได้เลย) ถาดรับเงิน ทอนเงิน เป็นรูปอะตอม น่ารัก (อยากได้!!!!!!!!!!~) และก็ได้เวลากลับ หลังจากเดินไปจนทั่ว ใช้เวลาไปประมาณ 3 ชั่วโมงได้ (ขนาดว่าอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ได้นะ ถ้าอ่านได้จะเหลืออะไร) กลับแล้วคะ (ตอนเดินออกมา เด็กๆ ก็กำลังจะกลับ แดดก็ร้อน เราเลยกางร่มที่เอาจากเมืองไทยไป เป็นรูปอุลตร้าแมน เด็กๆ ชี้แล้วก็เสียงดังกันใหญ่ ร่มคาแรคเตอร์จากเมืองไทย ไม่มีขายที่โน่นละ เพิ่งรู้ ร่มเราเลยเด่นมาก) ขากลับ แวะๆ ละครเวทีกำัลังจะเริ่มเล่น คนวิ่งเข้าไปกันเต็ม มีแต่ผู้หญิง หวังว่าจะมีคนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์อาจารย์เท็ตซึกะมากขึ้นนะคะ เพราะเราอ่านหนังสือเล่มไหนมาก็ไม่มีใครไปเลย ไปกันเถอะนะ บายคะ
Free TextEditor
Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
7 comments |
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2552 20:58:37 น. |
Counter : 1855 Pageviews. |
|
|
|
ถาดรับเงินน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกก
ทาคาระซึกะดูร่มรื่น (ฮา)